ตอนที่ 52 : เรื่องของเจ้าคือเรื่องของข้า
คาร์มินัสเลิกคิ้วก่อนจะมองกระจกก็พบว่าหน้าเธอยังเป็นคาร์มินัสไม่ใช่เฟริต้า หญิงโง่ในความรัก
เธอมองดูรูปภาพเฟริต้าที่ขึ้นกรอบรูปหลายรูป
ในนี้ยังเหมือนเดิม
เธอเชิดหน้าขึ้นก่อนจะเดินออกจากตรงนี้เพราะถ้าพ้นห้องนี้ก็เป็นทางออกแห่งอิสระ
ตุบๆๆๆๆๆ
พวกขุนนางต่างคุกเข่าด้วยความสั่นเทากลัวไปหมด
คาร์มินัสไม่แม้จะปรายตามองแต่กลับเดินออกไป
ถ้าเป็นคนเก่าคงยิ้มอ่อนโยนแล้วบอกว่าไม่เป็นไรแต่ไม่ใช่กับเธอ
เพราะเธอไม่ใช่แม่พระ
"เฟียร์ จะไปไหน?"ไดม่อนถามขณะเดินลงจากบัลลังก์
จากที่ดู
ตอนนี้ไดม่อนเป็นคนเย็นชาขึ้นแล้ว ต่างจากแต่ก่อนที่อารมณ์ร้อน
"หม่อมฉันชื่อว่าคาร์มินัส เซลินโด ไม่ใช่เฟียร์ที่ท่านกล่าวมา องค์ราชาคงจำผิดแล้ว"เธอเน้นย้ำให้ทุกคนเข้าใจก่อนมองหน้าไดม่อนที่ตอนนี้มองเธออย่างเจ็บปวด
เธอมองไดม่อนอย่างเย็นชาก่อนจะย่อตัวลง
"ทูลลาเพคะ"เธอบอกเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากที่ตรงนี้
หมับ
ไดม่อนเมื่อเห็นว่าคาร์มินัสจะจากไปก็ร้อนรนก่อนจะคว้าเข้าที่ข้อมือ
"ข้าไม่ให้ไป"ไดม่อนพูดขณะส่งสายตาไปให้พวกขุนนางให้ถอยออกไปติดกำแพง
ซึ่งพวกขุนนางทำตามอย่างดีพร้อมกับก้มหน้า
คาร์มินัสหันหน้ามาประจันหน้ากับไดม่อนก่อนจะสะบัดมือหนีจากการกอบกุมของไดม่อน
ไดม่อนหน้าเสียเมื่อมองดูมือที่ตนจับหลุดออกไปก่อนจะมองคาร์มินัสที่ตอนนี้มองเขาอย่างเย็นชาจนใจกระตุกไปหมด
"ได้โปรด อย่าทำแบบนี้"ไดม่อนพูดเสียงเบาแต่มีหรือคาร์มินัสจะไม่ได้ยิน
เธอแสร้งเมินก่อนจะถอยออกมา3ก้าว
"หากหมดธุระแล้วหม่อมฉันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่แล้ว"เธอพูดจบก็หันหลังเดินออกไป
"เฟียอย่าไป"ไดม่อนตะโกนลั่น
คาร์มินัสชะงักก่อนจะเดินต่อไป
ปังๆ
เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้เห็นปีแอร์และอีเมอร์สันที่วิ่งมาด้วยความเร็วเท่าที่จะมีได้
ปีแอร์รีบวิ่งก่อนจะซัดธาตุแสงใส่ไดม่อนแต่ไดม่อนก็หลบได้
หมับ
อีเมอร์สันเข้ากอดคาร์มินัสอย่างโล่งใจที่คาร์มินัสไม่ได้เป็นอะไรไป
แต่ไม่ใช่กับไดม่อนที่มองดูภาพนั้นด้วยความปวดใจ
ที่ตรงนั้น
เคยเป็นของเขา....
เมื่อนานมาแล้ว....
สกายวิ่งเข้ามาหยุดดูภาพตรงหน้าหลังจากที่กระอักเลือด
สกายมองเจ้านายตนเองด้วยแววตาสงสารก่อนจะมองคาร์มินัสด้วยแววตาอยากขอโทษปนรู้สึกผิด
"มิมิ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า"อีเมอร์สันผละออกก่อนจะสำรวจคาร์มินัสอย่างไว
"ไม่เป็นไร"คาร์มินัสส่ายหน้าก่อนจะมองปีแอร์ที่เข้ามากอดเธอชั่วครู่
"โรสเซ่ อย่าไปนะ"ปีแอร์พูดเสียงอู้อี้อแต่เธอกลับรู้ว่าคนตรงหน้าต้องการสื่ออะไร
"อือ"เธอได้แต่พยักหน้าเพราะอนาคตมันไม่แน่นอนหรอกนะ
"โรสเซ่ อย่าคิดแบบนั้น"ปีแอร์พูดอู้อี้ขณะยังซุกที่ซอกคอเธอ
รู้สึกจักจี้แหะ
"ฉันว่าเรากลับกันเถอะ ฉันมีงานต่อ"เธอบอกก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดของปีแอร์
"จะ..เจ้า"เลล่าเดินเข้ามาวิ่งหน้าตาตื่นเมื่อพบกับคาร์มินัสก็พูดเสียงสั่นเครือ
"หึ"คาร์มินัสเหยียมยิ้มมุมปาก
อย่างน้อยๆก็คงต้องมีคนรับความหมั่นไส้ไปจากเธอก่อนละก่อนจะเริ่มการแก้แค้นตามระดับ
"มิมิ กลับกันเถอะ"อีเมอร์สันพูดกับเธออย่างอ่อนโยนแต่ดวงตาจ้องเลล่าอย่างกับจะกินเลือดจะกินเนื้อ
"อือ"เธอพยักหน้า
วิ้ง
วงเวทย์เกิดใต้เท้าทั้ง3ก่อนจะเทเลพอทกลับมาที่โรงเรียนไวท์ซิดนีย์
"ฉันกลับก่อนนะ"ปีแอร์บอกก่อนจะหายไป
"ผมไปก่อนนะ"อีเมอร์สันก็ตามไปติดๆ
เธอมองดูคนที่หายไปก่อนจะกลับหอแทนที่จะไปพักที่ของดาร์เรน
"นัสจังเธอกลับมาแล้ว"ฟูยุกระโดดเข้ากอดคาร์มินัสอย่างแรงแต่เจ้าตัวก็ทรงตัวไว้ได้
ฟูยุก็คือฟูยุยังชอบถูไถกับหน้าอกเธอเสมอจนเธอเอือมเต็มทน
"พอแล้วฟูยุ เดี๋ยวคามิจะไปหาอาจารย์คิมิสึช้านะ"เมอร์มิ้นท์เข้ามาปราม
"ชิชิ รู้แล้วน่า"ฟูยุผละออกจากหน้าอกคาร์มินัสอย่างเสียดาย
"งั้นฉันไปหาอาจารย์ก่อนละกัน"เธอส่งยิ้มให้ทุกคนบางๆก่อนจะเทเลพอทไปที่ห้องเดิม
ก๊อกๆๆๆ
"เข้ามา"
แอ็ด
เธอเดินเข้าไปก่อนจะทักทายอาจารย์ในห้อง
"อาจารย์ นี่ค่ะคริสตัลปกป้อง"เธอยื่นไปให้อาจารย์คิมิสึก้อนเดียว
"ขอบใจนะคาร์มินัส ไปพักผ่อนเถอะ พวกเราเลื่อนมาเป็น2วันข้างหน้าเตรียมตัวให้พร้อมละ"คิมิสึบอกเสียงอ่อนโยน
"ค่ะ"
เธอเดินออกจากห้องนั้นก่อนจะกลับไปที่หอพักแล้วอาบน้ำแต่งตัวใหม่ทันที
"แง๊วววว"เสียงซีโน่ดังขึ้นเมื่อเจ้าตัวสะดุ้งตกใจกับการมาของคาร์มินัส
"ซีโน่ เตรียมตัวไว้เลยมีความหมั่นไส้แล้ว"
"หืม มีคนแก้ขัดแล้วหรอโรส"ซีโน่ถาม
"อือ มากกว่าแก้ขัดอีก แก้แค้นไงล่ะ"คาร์มินัสยิ้มเหี้ยม
"หึหึ ว่างมานานแล้วนะ อีก6เดือนยัยแคริน่าจะกลับมาเป็นปกติแล้วด้วย"ซีโน่รายงาน
"หึ มันคงอยากได้ระดับต่อไปจนตัวสั่นละสิ หึ ฉันให้แน่"คาร์มินัสยิ้มมุมปากก่อนจะล้มตัวนอน
.........
2วันผ่านไป ทางมาคาเรียส
ไดม่อนยังคงทำงานต่อไปในห้องถึงแม้ว่าใจจะร้อนรนอยากจะเข้าไปกระชากคนรักกลับมาไว้ในอ้อมอก
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น
วันที่เฟริต้าตายไปทุกคนเริ่มโดนสาปเป็นหินกันหมด
เขาก็ถูกโรงใบหนึ่งปิดผนึกไว้
เขาคิดเพียงอย่างเดียวว่าตนผิดอย่างมาก ผิดมากที่ไม่ยอมเชื่อใจคนรักจนนาทีที่นางสิ้นใจ
เขายังไม่ได้บอกคำนั้นเลย
และไม่เคยบอกสักครั้ง
คือเขารักนางมาก
ไม่ว่าจะเดินไปส่วนไหนของปราสาทก็พบแต่ภาพเก่าๆความทรงจำเมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา
ก๊อกๆๆๆ
"เข้ามา"ไดม่อนอนุญาติ
"ถวายบังคมพะยะค่ะ"ออนซ์เข้ามาคุกเข่าตรงหน้า
"รายงาน"
"ระหว่างเราหลับไป เผ่ามนุษย์และพวกเทพวิวัฒนาการไปไกลโขและมีสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยีที่สะดวกสบายในขณะที่เรามีรถม้า........."
2ชม.ผ่านไป
หลังจากที่ไดม่อนฟังรายงานจนหมดก็เริ่มส่งให้ทุกคนพัฒนาเมืองให้ตามให้ถึงเผ่ามนุษย์ให้ทัน
"มีอีกอย่างพะยะค่ะ องค์ราชินีหรือคาร์มินัส เซลินโด คือท่านหญิงปัจจุบัน เรียนโรงเรียนไวท์ซิดนีย์ แล้วตอนนี้เป็นนักร้องที่กำลังดังอยู่ขณะนี่"
ตุบ
ออนซ์วางของทั้งหมดลงไม่ว่าจะเป็นอัลบั้ม ลายเซ็น ภาพถ่ายตามนิตยสาร และอื่นๆอีกมากมาย3ลังใหญ่ด้วยกัน
"นี่คือเครื่องเล่นล่าสุดพะยะค่ะกระหม่อมติดตั้งให้เรียบร้อย ขอให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญพะยะค่ะ"ออนซ์พูดจบก็เดินออกไป
ใครก็ไม่เคยรู้ว่าราชาผู้อารมณ์ร้อนจะบ้าภรรยาตนตั้งแต่ไหนตั้งแต่ไรนอกจากพวกเขาทั้ง5
องค์ราชาเพียงแค่ไม่แสดงเท่านั้นเอง
หลังจากออนซ์ออกไปไดม่อนก็ลุกขึ้นก่อนจะเปิดดูของทุกอย่างด้วยความสุนทรีย์
แควก!!
เสียงฉีกกระดาษดังขึ้นเมื่อเห็นว่าคนรักตนถ่ายรูปคู่กับชายอื่นที่ไม่เคยเห็น!!
ไม่นานร่างสูงก็หยิบอัลบั้มไปดูต่อไป
"องค์ราชาเรื่องใหญ่แล้วพะยะค่ะ"สกายเข้ามารายงาน
"อะไร"
"นักเรียนโรงเรียนไวท์ซิดนีย์จะมาใช้เกาะแอมแซมเราพะยะค่ะ"
ไดม่อนชะงักก่อนจะพยักหน้า
"เราไปจะไปเกาะแอมแซมกัน"ไดม่อนพูดจบก็ปิดอัลบั้มไว้ก่อนจะเดินออกจากห้อง
ดูตอนไหนก็ได้แต่ง้อคนรักเรื่องใหญ่กว่า
..........
ทางคาร์มินัส
ปั้งๆๆๆๆ
เสียงจุดพลุดังต่อเนื่องนักเรียนทุกคนในไวท์ซิดนีย์ต่างเตรียมของที่จำเป็นที่สุดแต่มีคนหนึ่งที่ยืนอยู่เฉยไม่มีสัมภาระอะไรเลยเพราะของทั้งหมดอยู่ในมิติหมดแล้ว
คนนั้นคือคาร์มินัสนั่นเอง
"เอาละ กฎที่นี่มีเพียง2อย่างคือฆ่าให้ครบ5คนแต่ใครอยู่สายไหนก็ต้องเอาอาวุธของที่เรียนสายนั้นมา เช่นสายนักร้องก็ต้องเอาดนตรีออกมาฆ่าคนห้ามแหกกฎ
ข้อต่อมาคือหากฆ่าคนครบ5คน หากยังไม่พอใจก็ฆ่าต่อไป แต่ไม่สามารถช่วยคนนั้นฆ่าได้ เวลามีให้5วัน เราจะพาทุกคนไปปล่อยไว้ที่เกาะแอมแซม เกาะของปีศาจ"
ฮือฮา
พอผอ.พูดจบทุกคนกลับซุบซิบกันเนื่องจากพึ่งได้ข่าวว่าราชาปีศาจตื่นจากการหลับไหลแล้วเช่นกันแต่ก็ไม่ได้ผวาเพราะทุกคนเป็นพันธมิตรกันหมดแล้ว
แต่ว่าก็ยังคงเป็นปริศนาว่าใครเป็นคนปลดผนึกเมืองต้องสาป
ทางนักประดิษฐ์ก็เข้าออกเมืองนั้นเป็นว่าเล่นเพราะต้องพัฒนาเมืองให้ก้าวไกลทันพวกเรา
แต่พอคิดถึงตรงนั้นแล้วใจเธอพลันเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อนึกถึงบุคคลหนึ่ง
"คามิ คามิ"เสียงลีโอแว่วมา ทำให้เธอโดนที่สะกิด
"อือ ว่าไงลีโอ"
"ผอ.บอกว่าให้ทุกคนขึ้นเครื่องได้แล้ว"
"อ้อ"เธอพยักหน้าก่อนจะขึ้นเครื่องบินของกรรมการนักเรียน
ส่วนซีโน่ เธอให้ไปดูยัยเลล่าอะไรนั้นเพื่อหาทางทำอะไรสักอย่างในการล้างแค้น
ไม่สิ..
มีความสุขบนความทุกข์ของพวกมัน!!
ทุกคนมองคาร์มินัสเป็นตาเดียวที่แสยะยิ้มจนน่ากลัว
"กุหลาบน้อย คุณเป็นอะไรหรอ"เมสันถาม
"เอ่อ..เปล่าหรอกค่ะ"เธอส่ายหน้าก่อนจะมองไปทางอื่น
เมสันมองอย่างไม่เชื่อแต่ในเมื่อถามแล้วเจ้าตัวไม่บอกไปสืบเอาก็ได้!
ไม่นานทุกคนก็มาถึงเกาะแอมแซมกัน
คาร์มินัสลงจากเครื่องบินก่อนจะเดินไปโดยไม่รอใคร
เธอเดินเข้ามาในป่าลึกเรื่อยๆจนเจอกับ....
ต้นไม้
เออ!!ต้นไม้นั่นแหละไม่เจออะไรสักอย่างหรอก!!
ร่างบางปีนขึ้นต้นไม้ก่อนจะนำแขนวางไว้ที่ท้ายทอยก่อนจะเอนตัวนอนขาห้อยลงอย่างเบื่อหน่าย
ก็ถ้าใครโยนมีดหรืออาวุธใส่เธอ เธอก็จะฆ่ามัน!!ด้วยอาวุธอีกอย่าง อันที่3ที่ทุกคนยังไม่รู้
"หึหึ"ไดม่อนหัวเราะแผ่วเบากับท่าทีเกียจคร้านของคาร์มินัสโดยเจ้าตัวไม่รู้สึกตัวสักนิด
ส่วนชายทั้ง5ก็ยืนกันคนละที่เพื่ออารักขาคาร์มินัส
แต่ดูเหมือนบทจะพลิกมากกว่าเพราะพวกเขาจะไม่ได้ออกมาจัดการเลยด้วยซ้ำแม้แต่ในอนาคตก็ตาม....
คาร์มินัสหลับตาพริ้มหายใจเข้าออกสม่ำเสมอเป็นสัญญาณบอกว่าเธอหลับแล้ว
ตุบ
อยู่ๆก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะง้างธนูยิงไปที่คาร์มินัส
ฟิ้ว
เสียงผ่าอากาศดังขึ้นแต่คาร์มินัสยังหลับเฉยเมยทำให้ไดม่อนร้อนใจก่อนขาจะก้าวออกสู่ด้านนอก
หมับ
ฟิ้ว อัก
จู่ๆคาร์มินัสก็ลืมตาขึ้นก่อนจะจับลูกธนูทั้งที่ไม่บาดเจ็บก่อนจะเขวี้ยงกับทำให้ถูกตรงหัวไหล่
คาร์มินัสแสยะยิ้มขึ้นก่อนจะหยิบไวโอลีนขึ้นมา
"มาฟังเพลงกันเถอะ"คาร์มินัสแสยะยิ้มก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงอย่างสนุกสนานแต่คนฟังกับดิ้นอย่างทรมาณ
ไดม่อนเมื่อเห็นว่าคาร์มินัสป้องกันตนได้แล้วไดม่อนก็เข้าไปหลบมุมที่เดิม
อ้ากกกกกกกกกก
เสียงร้องโหยหวนของชายหนุ่มดังไปก้องบริเวณอย่าทรมาน
ตู้ม!!
เสียงระเบิดดังขึ้น
กระโหลกแหลกละเอียด สมองเละไปหมด ดวงตาอาบด้วยเลือด ปากบิดเบี้ยว
คาร์มินัสลงจากต้นไม้ก่อนจะขยี้ลูกตาให้แหลกกับผืนดินและมองสมองที่ไหลออกมาจากกระโหลก
"หึ ผลของการหันอาวุธใส่ฉัน มันเป็นแบบนี้ทุกคน"เธอแสยะยิ้มก่อนจะใช้ไฟนรกเผ่าไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก
พวกไดม่อนต่างเงียบกริบตั้งแต่พบกับไวโอลีนต้องสาปแล้ว
อาวุธที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยและเป็นอาวุธต้องห้ามในการครอบครองเพราะมันจะกลืนกินเจ้าของไปทีละนิดหากคนนั้นใจไม่แข็งพอ
คาร์มินัสหันหลังแล้วเดินต่อไปหาลำธารต่อ
เมื่อพบ เธอก็หยุดก่อนจะนั่งมองปลาเล่น
1ชม.
"ออกมาได้แล้วมั้ง"คาร์มินัสเอ่ยเสียงเรียบ
ทางไดม่อนก็มองหน้ากันก่อนจะเดินออกมา
"ตามหม่อมฉันมาตั้งนาน พระองค์มีอะไรกับหม่อมฉันเพคะ"เธอถาม
ไดม่อนพยักหน้านิดหน่อยพวกสกายก็หายไปทันที
หมับ
"เฟียร์ เจ้าอย่าพูดคำราชาศัพท์ ข้าไม่ชอบ"ไดม่อนขมวดคิ้วไม่ชอบใจ
"นั่นมันก็เรื่องของพระองค์ ไม่ใช่เรื่องของหม่อม อื้อ!!"คาร์มินัสที่ไม่ได้ตั้งตัวก็ถูกไดม่อนเข้าจู่โจม
ด้วยริมฝีปาก...
เธอเม้มปากแน่นไม่ให้ลิ้นร้อนของไดม่อนเข้ามาทำให้ไดม่อนกัดริมฝีปากคาร์มินัสจนเลือดออกทำให้เจ้าตัวเผลออ้าปาก
นั่นเป็นโอกาสที่ไดม่อนได้ใช้ลิ้นตนควานสำรวจทั่วทุกมุมของโพลงปาก
ลิ้นหนากระหวัดรัดเกี่ยวลิ้นบางที่ถดถ่อยหนีทำให้ไดม่อนไม่พอใจอย่างแรงจนกดศีรษะคาร์มินัสเข้ามาก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากอย่างเอาแต่ใจ
คาร์มินัสทรุดฮวบลงกับจูบอย่างช้ำชองของคนตรงหน้าแต่ดีที่ไดม่อนจับเอวบางไว้ก่อนจะพยุงแล้วบดขยี้ริมฝีปากต่อ
นานเข้าคาร์มินัสก็เริ่มตอบรับจูบของไดม่อนตามความเคลิ้มก่อนไดม่อนจะผละออกมองดูผลงานของตนที่ปากปวมเจ่อก่อนไดม่อนจะจุ๊บเข้าไปที่ริมฝีปากอย่างไม่รุกล้ำใดๆก่อนจะผละออก
"อย่าพูดแบบนั้นอีก อย่าพูด เรื่องของข้าคือเรื่องของเจ้า"ไดม่อนพูดเสียงเบาขณะที่วางศีรษะไว้ที่ไหลคาร์มินัส
"ออกไป"คาร์มินัสดันอกแกร่งออกแต่เจ้าตัวก็กระชับอ้อมกอดนี้มากขึ้น
"เฟียร์ ข้าขอโทษ แต่อย่าทำห่างเหินแบบนี้กับข้าเลย ข้าขอโทษ"ไดม่อนพูดเสียงสั่นคล้ายคนสูญเสียทุกอย่าง
อึก
คาร์มินัสเม้มปากแน่นก่อนจะผลักไดม่อนด้วยแรงที่เหลือทั้งหมด
"ข้าเกลียดท่าน ถ้าข้าจำอดีตชาติได้ก่อนหน้านี้ ข้าคงไม่ไปที่แห่งนั้น"คาร์มินัสกล่าวอย่างเย็นชาก่อนจะเดินหายออกไป
ทางไดม่อนยืนยิ้มข่มขืนอยู่ในใจ
รู้สึกว่าคำนี้มันคุ้นหู เพราะตนเคยบอกเกลียดกับคาร์มินัส
รู้สึกว่ามันเจ็บจี๊ดไปหมดทั้งขั้วหัวใจ รู้สึกว่า......มันสมแล้ว
สมแล้วแหละถ้าตนจะถูกเกลียด
เหมาะแล้วแหละที่โดนโกรธ
สมควรแล้ว.....
........
คาร์มินัสเดินไปพลางขยี้ปากไปด้วยความชัง
แต่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ
ร่างบางเดินไปเรื่อยๆก่อนจะเข้าสู่ป่าลึกสุด
เธอวิ่งเข้าไปในป่าอย่างเร็วเพื่อจะได้ไม่ฟุ้งซ่านก่อนจะหยุดวิ่งแล้วปีนขึ้นต้นไม้แล้วนอนพัก
แต่ขณะที่หลับน้ำตากลับไหลออกมา
'มาขอคืนดีอะไรตอนนี้?'
เธอได้เพียงคิดไม่ได้ถามออกไป
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

《สนุกมากก》
#ฮาเร็ม เท่านั้นนน
#ฮาเร็ม เท่านั้นนน
ล่มเรือ! ล่มเรือ!//ถือคบไฟ