"องค์หญิงเพคะเกี้ยวมาแล้วเพคะ"ว่านว่านบอกนายตน
"เข้าใจแล้ว"นางพยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นเกี้ยว
นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้วที่ข้าอยู่ในวังไม่ได้ออกไปไหน วันๆเอาแต่ถักผ้าพันคอกับพวกเสื้อถักไหมพรมไปแบบนั้น
แต่พอเมื่อวานกลับมีคนมาบอกว่าวันนี้จะรวมตัวพี่น้องทุกคนเพราะเสด็จพ่อมีเรื่องคุยด้วย
ส่วนเสวี่ยฉุนที่ถูกพิษก็รักษาหายแล้วยิ้มร่าเริงมีความสุขมาหาข้าทุกวันแต่ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าสักนิดเลยปฏิเสธอย่างเดียว
ส่วนพวกคนอื่นๆก็มีสิ่งที่ทำเป็นของตนเองเลยไม่ค่อยเห็นกันมากที่ควรส่วนเจ้าเก้าก็กลับสำนักไปแล้วและไม่ได้ไปดูการแข่งแย่งแกนอสูรกันเลยตั้งแต่วันนั้น
แต่ที่ออกเช้าขนาดนี้คือทานข้าวพร้อมกันต่างหากถึงจะได้เข้าหัวข้อเรื่องที่รวมตัว ต้องกินก่อนค่อยพูดนั่นแหละ
ราชวงศ์นี้ไม่เหมือนใครเพราะเสด็จพ่อบอกว่าต้องมาทานอาหารด้วยกันทุกเช้าและทุกคน
แต่ข้าเลือกที่จะไม่ทำ
แต่ก็นะเสด็จพ่อเคยพูดไว้ว่าขนาดขุนนางยังทานหน้าพร้อมกันได้เหตุใดตนจะทานไม่ได้ เป็นถึงนายเหนือหัว
ข้าไม่เข้าใจตรรกะของคนเป็นพ่อแต่ละโลกของข้าเลย
ชั่งน่าเบื่อหน่าย
ล่าสุดพวกเพ่นซานโทรมาบอกว่าต้องการจะอยู่สัก5ปี เพราะมีเรื่องทำสนุกๆหลายที่ซึ่งทุกคนกลับเห็นพ้องจาก3ปีเป็น5ปีกันหมด
"ถึงแล้วพะยะค่ะ"หัวหน้านำเกี้ยวบอกอย่างนอบน้อม
ข้าลงจากเกี้ยวก่อนจะเดินไปที่ห้องอาหารที่ตอนนี้มีคนมาเกือบครบแล้ว
"ถวายบังคมเพคะเสด็จพ่อเสด็จแม่"ข้าย่อตัวทำความเคารพก่อนจะเดินไปนั่งที่ประจำของตน
สนมในวังนี้มีอยู่1000คน รักใคร่กันดีเพราะการทำพันธะสัญญากัน
หากคิดจะทรยศก็จะตายหากคิดจะทำร้ายใครก็ตายทำให้พวกแม่ๆทั้งหลายรักใคร่กัน
แต่มันใช้ไม่ได้กับลูกที่มีทั้งอิจฉาริษยากันถ้วนหน้า
แต่พวกนั้นก็ตายกันหมดเพราะฝีมือของบุคคลที่คุมวังหลังทั้ง3รวมเสด็จแม่ข้าด้วย
แต่ไม่เคยมีใครรับรู้ทั้งนั้น สาเหตุคงมาจากพวกนั้นทำร้ายข้านั่นแหละ
ไม่นานทุกคนก็มาครบรวมถึงเจ้าเก้าที่กลับสำนักไปแล้วยังต้องมา
ทุกคนเริ่มทานอาหารกันอย่างเงียบๆจนเสร็จบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินก็พูดขึ้น
"ที่เรียกพวกเจ้ามาครั้งนี้พ่ออยากให้พวกเจ้าเข้าสำนักมังกรเหิน"ฮ่องเต้พูดก่อนจะมองกิริยาทุกคน
"หม่อมฉันไปไม่ได้หรอกเพคะเสด็จพ่อ หม่อมฉันนั้นไร้พลังเพคะ ท่านลืมแล้วหรือ"ข้าถามก่อนจะมองผู้เป็นพ่อ
"พ่อรู้ แต่ว่าพ่ออยากให้พวกเจ้าเข้าไปในสำนักศึกษาที่นั่นเพราะอีก5เดือนจะมีการแข่งของราชวงศ์ของแต่ละที่ด้วยเช่นกัน"ฮ่องเต้มองลูกสาวตนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวะด้วยแววตาอ่อนโยน
ข้ามองก็ขนลุกซู่ก่อนจะหันหน้าหนี
"และหวังว่าพวกเจ้าจะจบจากสำนักศึกษาทุกคนนะ"ฮ่องเต้พูดอย่างมีความหวัง
"หม่อมฉันไม่ไปเพคะ"ข้าลุกขึ้นก่อนจะมองผู้เป็นพ่อด้วยความไม่เข้าใจ
ถ้าหากว่าคนตรงนี้ไม่ใช่ข้าเฮคาทีแต่เป็นเสวี่ยเหมย นั่นมันไม่เท่ากับว่าส่งลูกไปตายหรือ
"แต่เหมยเอ๋อร์ พ่ออยากให้เจ้าไปเรียนที่นั้นจนจบนะ อยากได้อะไรพ่อก็จะให้"ฮ่องเต้รีบกล่อมร่างบาง
"หม่อมฉันไม่มีอะไรที่ปรารถนาหรอกเพคะ อีกอย่างท่านอยากให้หม่อมฉันเป็นตัวตลกในสำนักหรือ?"ข้าถามกลับ
"ไม่ใช่นะเหมยเอ๋อร์ พ่ออยากให้พวกเจ้าไปศึกษาที่นั่นทุกคน และไม่อยากให้พวกเจ้าเรียนรู้เพียงศาสตร์ศิลป์ในห้องหอ"ฮ่องเต้บอก
"ไม่ใช่ว่าเสวี่ยฉุนอยากไปหรือ แล้วขอร้องท่านให้พวไปด้วยหรือ ท่านถึงทำตาม"ข้าถามเสียงเรียบ
"ท่านพี่พวกข้าก็อยากไป ท่านไปเถอะนะ"เสวี่ยม่านรีบบอกเพราะคนรักตนก็อยู่ที่นี่
"ใช่ ไม่ใช่ข้าหรอกนะที่อยากไป ทุกคนก็อยากไป"เสวี่ยจิงบอก
ข้ามองดูทุกคนที่อยากไปจนตัวสั่น
"แต่ข้าไม่อยากไป พวกเจ้าอยากจะทำอะไรก็ทำ แต่ข้าไม่ทำ"ข้ายืนกลาง
"ไม่ได้ เจ้าต้องไป เจิ้นขอสั่งให้เจ้าไป"จินหลงฮ่องเต้กลั้นใจบังคับลูกตน
"มันมีอะไรดี เหตุใดจึงอยากให้ไปทั้งหมดกัน"ข้าถามเสียงเรียบ
"เหมยเอ๋อร์ อย่าก้าวร้าวสิลูก แม่รู้ว่าเจ้าไม่อยากไป แต่แม่เห็นด้วยนะถ้าลูกไป หรือจะให้แม่พูดเรื่องนั้น?"ฮองเฮาบอกแกมบังคับ
ข้ามองดูทุกคนที่มองข้าอย่างมีความหวัง
ความลับน่ะอยากเเพร่งพรายก็ทำไปเลยข้าไม่แคร์
เรื่องพลังอยากบอกก็บอกไป
แต่ข้าไม่เข้าใจทำไมถึงคะยั้นคะยอข้านัก?
"ย่าทวดเห็นด้วยนะเหมยเอ๋อร์"ไทฮองไทเฮาเดินเข้ามา
"ย่าก็เห็นด้วย"ฮองไทเฮาพยักหน้า
"เพคะ"ข้ารับคำเสียงเรียบก่อนจะเดินออกไป
ชอบกันนักบังคับกูเนี่ย!!
หึ!กฏอะไร่่นกูจะแหกให้หมดไม่ให้เหลือ!!
ทุกคนมองดูร่างบางที่เดินจากไปที่เรียบนิ่งดั่งไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
"ข้าว่าเหมยเอ๋อร์คงไม่อยากไปจริงๆ"ฮองเฮาเปรยขึ้น
"ข้าเห็นด้วยพะยะค่ะ ดูก็รู้ว่าไม่อยากไป แต่ทำไมเสวี่ยเหมยถึงไม่อยากไปนั่นล่ะ เหตุผลที่ต้องหา"ฮุ่ยฟูไท่จื่อออกความคิด
"แม่รู้ แต่ว่าแม่ไม่อยากให้เหมยเอ๋อร์ทำตัวแบบนี้ ไม่อยาก แม่อยากให้เหมยเอ๋อร์แสดงพลังของตัวเองออกมา"ฮองเฮาพูดอย่างเหนื่อยหน่าย
นางแค่ไม่อยากให้ลูกนางทำตัวแบบนี้ต่อไปเท่านั้น ทำตัวเป็นคนโง่ในสายตาทุกคน
"จะเป็นไปได้อย่างไรพะยะค่ะในเมื่อเสวี่ยเหมยนั้นมีธาตุไฟตามเดิมและระดับ1นางจะเข้าได้หรือ?"ฮุ่ยฟูยังคงถามด้วยความใคร่รู้
"เจ้าอย่าดูถูกน้องเจ้าเชียวที่ย่าทวดมีชีวิตอยู่ได้เพราะน้องเจ้า แต่ข้าบอกได้แค่นี้ละ ข้าไปก่อนเพราะข้าจะไปหาอะไรทำเล่น"ไทฮองไทเฮาพูดจบก็เดินจากไปตามด้วยฮองเฮาและฮองไทเฮา
ทิ้งไว้เพียงสงสัยใคร่รู้ของแต่ละคน
เสวี่ยเหมยเดินออกมาจากห้องทานอาหารก่อนจะเดินกลับตำหนักแทนใช้เกี้ยว
ทางถิงถิงและว่านว่านก็เดินตามนายตนรู้ได้ทันทีว่านายตนไม่พอใจอะไรสักอย่างตั้งแต่ออกจากห้องอาหาร
ข้าเดินมาเรื่อยๆว่าจะเดินกลับตำหนักแต่ก็เจอเข้ากับขบวนแม่ทัพหยางหลงเซิงก่อน
สงสัยมาจากชายแดนแล้ว?
ทหารทุกนางต่างทำความเคารพข้าไม่เว้นแม้แต่คนอยู่หลังอาชา
นางเงยหน้ามองคนบนหลังอาชาที่มองนางกลับ
ข้าสำรวจจนเสร็จก็เดินต่อไปเพราะพวกทหารแปลแถวให้ข้าเดิน
ข้าเดินออกมาอย่างนางพญาต่อไปโดยไม่สนคนข้างหลัง
จะสนทำไมในเมื่อหล่อได้ไม่เท่าสามีนางสักนิด
หยางหลงเซิงมองร่างบางที่เดินจากไปด้วยแววตายากจะคาดเดาก่อนจะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ต่อ
ร่างบางเดินมาจนถึงตำหนักตนก่อนจะนั่งที่ศาลาแล้วถักไหมพรมที่ค้างไว้
"องค์หญิงเพคะ กงกงของฮ่องเต้มาบอกว่าให้องค์หญิงเตรียมของเพคะ เพราะจะออกเดินทางพรุ่งนี้"ถิงถิงเจ้ามาบอก
"ว่าไงนะ?พรุ่งนี้ จะรีบไปไหนกัน"นางพูดอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเรียกพวกนางกำนับมาเก็บของ
หลังจากเก็บเสร็จกงกงก็มามอบแหวนมิติให้ในการเก็บของ
หึ!!มิติข้าก็มีแต่ก็เอาเถอะเอาแหวนมิติระดับต่ำมาให้ข้าก็ดีกว่าไม่ได้
มือเรียวจัดการเก็บทุกอย่างในมิติทันทีก่อนจะนั่งลง
"สำนักมังกรเหินใครเป็นเจ้าสำนัก"ข้าเปรยขึ้นก่อนจะมีเงาของซานเย่เข้ามารายงาน
"เรียนว่าที่ฮูหยิน สำนักนี้ผู้เป็นเจ้าของคือประมุขขอรับ แต่คนดูแลเป็นเจ้าสำนักคือผู้อาวุโสหลิ่งจูขอรับ"
"ทำไมถึงเปิดสำนักล่ะ"ข้าถาม
"เพราะว่าต้องการหาผู้มีความสามารถเข้าพรรคขอรับ แถมวิชาที่ให้ฝึกไปก็เป็นวิชาที่ท่านประมุขไปฆ่าพวกนั้น และเอาวิชาพวกนั้นให้พวกข้าน้อยฝึกก่อนจะให้พวกเด็กในสำนักมังกรเหินฝึกกันขอรับ"เงารายงานตามความต้องการ
"เข้าใจละ บอกผู้อาวุโสหลิ่งจูด้วยข้าจะไปอยู่ที่นั้น และบอกเลยข้าแหกกฏทุกอย่างในนั้นหากข้าต้องการ ส่วนการการลงโทษเอาเบาๆก็พอนะ"ข้ายิ้มร่าแต่เงาปาดเหงื่อ
ใครจะกล้าลงโทษว่าที่ฮูหยินกัน?หากมีมันผู้นั้นต้องตายตกเป็นแน่แท้
"ขอรับ"เงารีบไปรายงานทันที
ข้ามองดูเงาที่ลอบปาดเหงื่อแล้วสนุกใจ
"จริงสิแล้วสำนักนี้ติดอันดับที่เท่าไหร่"ข้าถาม
เงาอีกคนรีบปรากฏตัว
"ติด1ใน5สำนักที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดขอรับ"เงาอีกคนเข้ามารายงาน
"แล้วจะผ่านต้องมีอะไรบ้างพลังเท่าไหร่?"ข้าถาม
"การทดสอบนั้นเป็นการวัดพลัง สติปัญญา และอื่นๆขอรับ หากพลังก็ต้องเป็นปราณระดับ3ขึ้นไปขอรับ อายุที่จะเข้าได้สูงสุดคือ18หนาวขอรับ"เงารายงาน
"เข้าใจละ แล้วที่พักล่ะ?"ข้าถาม
"ที่พักจะมีหอให้พักขอรับ มีชั้นนอก ชั้นใน และสายหลัก ที่นั้นหากไปเป็นศิษย์จะไม่มีฐานะอะไรขอรับ เป็นเพียงศิษย์เท่าเทียมกัน แต่การเป็นใหญ่ก็มีเช่นกันถ้าทำให้ทุกคนเกรงกลัว หากใครตายทางสำนักไม่รับผิดชอบขอรับ"เงาบอก
"มีห้องเดี่ยวหรืออะไรหรือเปล่า"ข้าถาม
"มีขอรับถ้ามีคนหนุนหลังหรือพลังเยอะ ก็จะได้อยู่ห้องเดี่ยวแต่จะอยู่ที่ไหนก็จะถูกพิจารณาอีกทีขอรับแต่ถ้าว่าที่ฮูหยินไปไม่มีใครกล้าขัดหรอกขอรับ"
"ดี ไปได้แล้ว"ข้าไล่
ส่วนที่บอกว่ามีคนหนุนหลังก็เป็นพวกมีอิทธิพล ถึงบอกว่าเป็นศิษย์อย่างเดียว ฐานะเท่ากันแต่ก็ยังมีพวกที่ข่มเหงและรังแกคนอื่นอยู่ดี
แล้วก็มีพวกสนับสนุนพวกกระเป๋าหนักที่จะให้พวกยาพวกเงินของมีค่าทุ่มให้คนนั้น คนที่มีพรสวรรค์ แต่พอจบจากสำนักแล้วก็ต้องตอบแทนตระกูลนั้นด้วย
หึ!!หากดีขนาดนี้ข้าค่อยทำอะไรถนัดๆหน่อย แต่ว่านะ พวกลมปราณข้ามีแต่วิชาต้องห้ามไม่มีวิชาเบสิคเลย ไม่ได้การหากข้าไปที่นั้นต้องหาวิชาเบสิคไว้ทำคนพิการ เพราะหากฆ่าคนเยอะไปมันไม่ดี......
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
รอจร้าาา
(สำนักเนี่ยแหละจะพัง~)รอออน้าาา~~
หาเรื่องป่วนอีกแล้ว
ไหว้หน้าหลังหลอก
ใช้อำนาจบังคับตน
ไม่มีใจยุติธรรม