ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The silver fox ตำนานจิ้งจอกเงิน

    ลำดับตอนที่ #3 : เปิดตำนาน 100%

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 54


    ตอนที่ 1

    เปิดตำนาน

                นานมาแล้วในสมัยที่ทุกเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกันเผ่าเทพผู้มีพลังในการรักษาสูงส่ง  เหล่ามนุษย์อันมีทั้งผู้ที่มีพลังวิเศษอันถูกเรียกขานว่าเป็นพ่อมดแม่มดไปจนถึงเผ่าพันธุ์ปีศาจอันชื่นชอบการต่อสู้ทุกเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งวันหนึ่งที่พวกมนุษย์หันมาแก่งแย่งดินแดนและประกาศความเป็นใหญ่ของตนเองจนทำให้เหล่าเผ่าเทพ  พ่อมดและแม่มดรวมไปจนถึงเผ่าปีศาจเกินความเบื่อหน่ายสงครามที่เหล่าพวกมนุษย์ผู้ซึ่งไม่มีพลังเวทมนต์ใด ๆ ก่อขึ้น  แม้ตอนแรกสุดเหล่าปีศาจที่ชื่นชอบการต่อสู้และฆ่าฟันเป็นนิตชื่นชอบไม่น้อยแต่พอนานวันเข้าก็สามารถทำให้เบื่อหน่ายได้เช่นกันจึงได้ตัดสินใจร่วมมือสร้างโลกใบใหม่ขึ้นเพื่อแยกตัวออกจากเหล่ามนุษย์ที่ไม่มีพลังเวทมนต์  เมื่อนานวันเข้าผ่านเวลานับพันนับหมื่นปีเรื่องราวของเวทมนต์เผ่าเทพและเผ่าปีศาจก็ได้ถูกวันเวลาดังกล่าวถับทมจนหลงเหลืองแต่เพียงเรื่องเล่าและกลายเป็นนิทานกล่มเด็กเท่านั้น..........

                หลังจากที่ต้องทนนั่งหลังขดหลังแข็งเรียนอย่างเอาเป็นเอาตายในช่วงเวลาสามปีของชั้นม.ปลายผ่านพ้นไปได้ด้วยดีช่วงเวลาของการหยุดพักและการสอบเข้ามหาลัยเพื่อศึกษาตาในระดับต่อไปก็ได้มาถึง สำหรับอายะและเพื่อนสาวอีกสองคนอย่างไอและคูมิโกะที่สามารถหาที่เรียนต่อได้ตั้งแต่ยังเรียนม.ปลายไม่จบนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาของการหยุดพักโดยแท้จริง วันนี้อายะนัดไอและคูมิโกะมาที่บ้านถ้าจะให้พูดจริง ๆ คือทั้งสองคนมาที่บ้านของอายะทุกวันแต่สำหรับวันนี้อายะให้ทั้งสองคนมาที่บ้านให้เร็วกว่าปกตินั้นเพราะวันนี้เป็นวันพิเศษ

                “อายะจังเป็นอะไรไปหรอจ้ะ ปกติจะต้องเป็น  อะแฮ่ม ไม่มีอะไรทำรึไงมาบ้านชั้นทุกวันหรือว่าที่บ้านไม่มีข้าวให้กิน อย่างงี้สิ”คูมิโกะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบแฝงแววเบื่อหน่ายล้อเรียนอายะ

                “แล้วมันไม่ดีหรือไงคูมิโกะ”ไอเอ่ยถึงแม้ตัวของเด็กสาวจะสงสัยไม่น้อยเช่นกัน

                “นั้นสินะ   คงเพราะวันนี้มีเรื่องพิเศษละมั่ง”อายะเอ่ยด้วยน้ำเสียงปิดแววซุกซนไม่มิด และถึงแม้ทั้งไอและคูมิโกะจะเอ่ยถามอีกกี่ครั้งอายะก็เพียงแต่ยิ้มและใช้ความเงียบแทนคำตอบอย่างหนักแน่

                เด็กสาวทั่งสามปักหลักกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นของบ้านหรือจริง ๆ หน้าจะเรียกว่า

    คฤหาสน์หน้าจะถูกต้องกว่านั้นเป็นเพราะขนาดของบ้านที่ทั้งใหญ่และหรู โดยที่อายะนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ บนโซฟา ไอกำลังนั่งกินขนมที่คุณแม่บ้านนำมาให้  ส่วนคูมิโกะนั้นเด็กสาวกำลังเมามันส์อยู่กับซีรี่ย์เกาหลีสุดโปรดของตัวเองจนเวลาล้วงเข้าสู่ยามบ่าย

                “กลับมาแล้วค่ะ”น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยเมื่อหญิงสาวกลับมาบ้าน

                “สิ่งที่พวกเรารอคอยมาถึงแล้วไงละ”อายะเอ่ยอย่างซุกซนริมฝีปากเล็ก ๆ เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างไม่สามารถกลั้นได้  เด็กสาวอีกสองคนมองหน้าอายะก่อนที่จะหันไปตามเสียงที่หน้าบ้าน

                “ยินดีต้อนรับค่า”สามเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมเพียงอีกทั้งรอยยิ้มน่ารักสดใสเฉพาะเมื่อพวกเธออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่หรือแขกเท่านั้นออกมา  เช่นเดียวกันบนดวงหน้าน่ารักอ่อนหวานของอายะตอนนี้ไม่ปรากฏรอยยิ้มร้ายกาจจอมเจ้าเล่ห์หลงเหลืออยู่เลยจะมีก็แต่รอยยิ้มน่ารักชวนให้คนมองหลงใหลเช่นเพื่อนสาวทั้งสองของตนเท่านั้น

                “อายะจังอยู่พอดีเลย  พี่มีคนจะแนะนำให้รู้จักนี่คุณหมอฮายะโตะจ้าเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยของพี่เอง”หญิงสาวผู้เข้ามาใหม่ที่เรียกตนเองว่าพี่เอ่ยแนะนำชายหนุ่มผู้เป็นรุ่นพี่ของตน  เธอมีเส้นผมสีรัตติกาลยาวจรดหลังนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มผิวขาวดวงหน้าสวยหวานแววตาฉายแววอบอุ่นท่าทางของเธอดูเรียบร้อย  หญิงสาวเป็นพี่แท้ ๆ ของอายะแต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันอย่างสุดขั่วระหว่างหญิงสาวและน้องสาวของเธอ  ตัวของฮานะนั้นเป็นคนเรียบร้อยจนบางครั้งก็ดูเหมือนจะเรือนหายไปกลับบรรยากาศแต่นั้นไม่ใช้กันอายะน้องสาวของเธอ ฮานะรู้ดีอายะแม้จะไม่ได้เอ่ยอะไรหรือแม้แต่ตอนที่เด็กสาวนั่งเงียบ ๆ อายะก็ยังคงดูดึงดูดและโดดเด่นเสมอแล้วยิ่งเวลาที่ยิ้มหรือหัวเราะก็มักจะทำให้คนที่ได้พบเห็นนั้นหัวเราะตามเธอไปด้วย

                “ยินดีที่ได้รู้จักผม ชิซึเนะ  ฮายะโตะ  ชิซึเนะ”ชายหนุ่มชื่อฮายะโตะเอ่ยตอบหลับจากที่คลายความตกใจ  ชายหนุ่มตรงหน้าอายะจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากภูตพฤกษาหนุ่มนามเธีนร์ที่อายะเคยเจอที่มหาลัยโตเกียวนั้นเอง

                “ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะค่ะ ฉันชื่ออายะ  อินุยาฉะ อายะยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันค่ะ”อายะเอ่ยทั้งที่ยังคงรอยยิ้มน่ารักไร้เดียนสาไว้บนดวงหน้าอย่างเหนียวแน่

                “และก็ฮายาชิ เคียวยะคุงจ้ะ สนิท ๆ กันไว้นะจ้ะ”เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับพวกอายะ   นัยน์ตาสีฟ้าสดใสราวกับท้องฟ้ายามเช้าหากแต่กลับฉายแววเย็นเยือกไร้ความรู้สึกเส้นผมสีทองสว่างใบหน้าหล่อเหลาไม่เผยความรู้สึกใด ๆ รูปร่างสูงโปร่งจากที่อายะคาดเด็กหนุ่มตรงหน้าอายะคงสูงไม่ต่ำกว่า 185 เป็นแน่

                “ยินดีที่ได้รู้จัก”ฮายาชิเอ่ยตอบเสียงเรียบ

                “ฮายะโตะซัง ฮายาชิคุง นี่ไอจังและก็คูมิโกะจังจ้ะ”ฮานะเอ่ยแนะนำอีกครั้ง

                “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ไอ  คาราซึ  ไอค่ะ”ไอเอ่ยแม้ดวงหน้าจะยังคงยิ้มแย้มหากแต่น้ำเสียงกลับยังคงแฝงกระแสเย็นชาอยู่เป็นนิตอีกทั้งยังลอบสังเกตุชายหนุ่มทั้งสองที่พี่สาวของอายะพามาอย่างละเอียดอย่างเงียบ ๆ 

                “คูมิโกะค่ะ คาเงะ  คูมิโกะค่ะยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”แม้ว่าท่าทางที่คูมิโกะแสดงออกมานั้นจะยังเป็นรอยยิ้มน่ารักและท่าทางสดใสอยู่เป็นนิตนั้นเช่นเดียวแต่ทั้งอายะและไอก็สามารถรับรู้ได้ในทันทีว่าเด็กสาวที่ร่าเริงเสมอกำลังเดินเครื่องเพื่อตรวจสอบชายหนุ่มตรงหน้าทั้งสองเติมกำลัง

                “เป็นชื่อที่แปลกนะครับ คาเงะมีความหมายว่าเงา  ส่วนคาราซึ หมายถึงสีดำ  ส่วนอินุยาฉะ  อินุแปลว่า สุนัข  ยาฉะ คือ ยักษาแต่ถ้าเอามารวมกันจะหมายถึง จิ้งจอก......”ฮายะโตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สูงไม่ต่ำหากแต่แฝงแววท้าทายในน้ำเสียงอยู่มาก ฮายะโตะหวังเหลือเกินที่จะได้เห็นดวงหน้าสวยหวานของเด็กสาวทั้งสามฉายแววตกตะลึงหรือไม่ก็ซีดเผือกหากแต่เด็กสาวทั้งสามกลับทำให้ฮายะโตะฝันสะลายโดยไม่รู้ตัวหรืออาจรู้แต่จงใจเพราะดวงหน้าของทั้งสามนั้นกลับฉายความรู้สึกที่แตกต่างกันโดยที่ไอนั้นดวงหน้าสวยหวานได้กลับมาเรียบเฉยเช่นปกติอีกครั้งนัยน์ตาสีรัตติกาลไม่สามารถอ่านได้ สาวน้อยผู้ร่าเริงอย่างคูมิโกะนั้นแสดงท่าทีคิดตามคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้าหากแต่ในใจกลับไม่อาจมีผู้ใดรู้ได้  อายะนั้นยิ่งแล้วใหญ่เด็กสาวเพียงแต่ยิ้มรับพร้อมด้วยพยักหน้าเห็นด้วยกับชายหนุ่มโดยไม่ออกความเห็นต่อทั้งยังแสร้งเปลี่ยนเรื่องคุย จนทำให้อายะโตะเกินอาการค้างไปชั่วอึกใจ ชายหนุ่มมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าท่าทางของตนนั้นคงทำให้เด็กสาวทั้งสามหัวเราะเค้าในใจเป็นแน่แท้ซึ้งสิ่งนั้นก็ไม่ผิดแม้ดวงหน้าทั้งสามจะยังคงรักษาหน้ากากของตนได้อย่างเหนียวแน่ก็ตามทีหากแต่ในใจนั้นกลับลอบขำกับอาการของฮายะโตะแม้กระทั่งเด็กหนุ่มที่ตนเองพามาด้วยนั้นก็ไม่เป็นข้อยกเว้น ฮานะที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่นั้นถึงแม้เธอจะไม่เข้าใจความหามยของคำพูดที่ทั้งสองฝ่ายคุยกันเท่าไรนักก็ตาม  แต่จากที่ดูสถานการณ์ในตอนนี้เธอก็ได้ทำให้สิ่งที่ถูกต้องที่สุดและควรที่จะต้องทำไปตั้งนาน  และถึงแม้จะช้าไปเสียหน่อยแต่ก็ยังดีหว่าที่จะปล่อยให้สถานการณ์มาคุอย่างนี้ดำเนินต่อไป ฮาระคิดอย่างนั้นจากใจจริง

                “อายะจ้าช่วยเอาเค้กที่อยู่ในตู้เย็นมาให้แขกหน่อยสิจ้า”อายะพยักหน้ารับก่อนทำท่าจะเดินออกไปแต่กลับถูกไอเอ่ยขัดขึ้นก่อน

                “อายะจังทำเองรึเปล่าอะ”

                “หือ....ฉันทำอะไรเองหรอ”เด็กสาวที่ถูกถามเอ่ยงง ๆ

                “ก็เค้กไงเล่าอายะจัง”คูมิโกะเอ่ยอีกครั้งอย่างขัดใจกับท่าทางงง ๆ ของอีกฝ่าย

                “อืม...ใช่ทำไม”แม้ว่าอายะจะรู้สิ่งที่ร่างบางของเพื่อนทั้งสองตรงหน้าว่าต้องการอะไรแต่ก็ยังเอ่ยถามออกไปทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจดี

                “ทำไมไม่ยอมบอกกันเล่า! อายะจังบ้าที่สุดเลย!!!  คูมิโกะงอนจริง  ด้วย”เด็กสาวผู้ร่าเริงเอ่ยด้วยน้ำเสียงขัดใจหากแต่อายะกลับไม่มีทีท่าจะง้อแต่อย่างใด

                “เดียวฉันไปช่วยยกมานะ”ไอเอ่ยหลังจามที่เงียบมานานหากสังเกตดูดี ๆ นั้นดวงตาที่เคยฉายแววเย็นชาเสมอมานั้นกลับฉายแววระริกระรี่ทันทีที่ได้ยินว่ามีเค้กที่อายะเพื่อนสาวของตนเป็นคนทำไว้

                “ถ้าไม่มาช่วยกันฉันจะไม่ให้เธอกินเค้ก”เพียงแค่ประโยคเดียวกลับทำให้คูมิโกะจากที่รอให้อายะง้อตนอยู่กลับต้องเป็นฝ่ายตามง้ออายะซะเองเพราะกลัวว่าเพื่อนสาวที่พูดประโยคนั้นจะไม่ให้ตนได้กินเค้กแสนอร่อยนั้นจริง ๆ การกระทำของเด็กสาวทั้งสามถูกจ้องมองด้วยหนึ่งหญิงสาวผู้เป็นพี่สาวที่จ้องมองด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและสองชายที่มองดูด้วยแววสงสัย

    ***************************************************************************

               

    ภายในห้องนั่งเล่นของบ้านตระกูลอินุยาฉะที่ตกแต่งตามสไตล์ญี่ปุ่น ยังไม่ทันที่อายะจะได้วางถาดบนโต๊ะเค้กที่ถูกจัดไว้เป็นของวางกลับหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ แต่เมื่อมองดูที่มือของทุกคนภายในห้องกลับพบจานเค้กนอนแน่นิ่งอยู่บนมือของแต่ละคนแทน

                “ไม่เห็นจะต้องรีบขนาดนั้นเลยนี่นะ    ในครัวก็ยังเหลือ”อายะกล่าวปลง ๆ ชายหนุ่มทั้งคู่หน้าแดงเรื่อ และกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาราบเรียบของอายะไปได้ เรียกรอยยิ้มเล็ก ๆ บนดวงหน้าหวานอย่างพอใจเงียบ ๆ

                “จริงหรอ!!!”ไอและคูมิโกะกล่าวเสียงดังลั่นห้องรับแขกดวงหน้าสวยหวานของทั้งสองสาวได้ได้ปรากฏแววขัดเขินแม้แต่น้อยอีกทั้งยังฉายแววพออกพอใจเป็นที่สุด  อายะเมื่อเห็นท่าทางระริกระรี่ของเพื่อนสาวก็ทำเพียงแต่พยักหน้าตอบเบา ๆ ก่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างฮานะผู้เป็นพี่สาว

                “ว่าแต่ทำไมอายะจังถึงได้ทำของว่างไว้มากขนาดนี้ละจ้ะ”ฮานะกล่าวด้วยความฉงน

                “ไม่ดีหรอค่ะพี่”อายะตอบกลับพร้อมรอยยิ้มแต่ไม่รู้ทำไมฮานะดันเกิดรู้สึกเย็นวาบอย่างควบคุมไม่ได้

                “แล้วอายะจังไม่ทานของว่างด้วยกันหรอจ้ะ”ฮานะรีบเปลี่ยนเรื่องด้วยคิดว่าอาจจะทำให้ลืมความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาได้บ้าง

                “นั้นสิครับ”นับเป็นครั้งแรกเลยจริง ๆ ที่ฮายะโตะพูดดี ๆ กับเด็กสาวที่ตนเรียกว่าจอมปีศาจ แม้เค้าจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเด็กสาวที่ชื่ออายะตรงหน้าของตนเป็นใครไปรู้เรื่องของโลกตนมาจากไหนมากน้อยเพียงได และฮายะโตะเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงกลิ่นไอปีศาจจากตัวของเด็กสาวร่างเล็กรวมทั้งเพื่อน ๆ และผู้เป็นพี่สาวของเด็กสาวตรงหน้าแม้เพียงนิดเดียวแต่ทำไมเด็กสาวที่บอกว่าตนเองชื่ออายะกลับสามารถใช้เวทเคลื่อนย้ายได้อย่างคลองแคล้ว ฮายะโตะลอบสังเกตอายะเงียบ ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าการกระทำทุกอย่างของตนก็ได้อยู่ในสายตาของเด็กสาวที่มักจะร่าเริงเสมอตลอดเวลา

                “ยัยเตี้ย....”เด็กหนุ่มร่างสูงที่เงียบมาโดยตลอดกล่าว  ทำให้เกินความเงียบภายในห้องนั่งเล่นทันทีทันใด

                “ผมเรียกเธอนั้นละยัยเตี้ย”ฮายาชิ  เคียวกล่าวอีกครั้งพร้อมจ้องมองที่อายะด้วยแววตาเรียบเฉยเช่นเดียวกันที่อายะมองตอบ

                “ใครเตี้ยมิทราบ”อายะกล่าวตอบเสียงเรียบดวงตากลมโตสีน้ำตาลเปลือกไม้คู่สวยจ้องตอบอย่างเอาเรื่อง

                “เธอไงยัยเตี้ย” เคียวยังกล่าวอีกครั้ง

                “ว่าไงนะไอ้ตอไม้เคลือบน้ำแข็ง”อายะกล่าวอย่างไม่ยอมแพ้  เรียกปลายคิวของอีกฝ่ายกระตุกถี่

                “ว่าไงนะยัยเตี้ย ฝันผุบ่อยจนจมูกเป็นไซนัสรึไงกลิ่นเหม็นเน่าขนาดนี้ยังไม่ได้กลิ่งอีก”เคียวเอ่ยเสียงไม่สูงไม่ต่ำแสดงอาการดูถูกอย่างปิดไม่มิด   เสียงสะอึกที่เจ้าตัวพยายามเก็บไว้ในลำคอตามมาด้วยหยดน้ำใสที่ไหลอาบดวงหน้าหวานของอายะกลับทำให้เคียวทำอะไรไม่ถูกไปช่วงขณะ เด็กหนุ่มทะหลาเข้าหาร่างเล็กของอายะใบหน้าที่เคยราบเรียบบัดนี้ฉาบด้วยความเป็นห่วงร่างเล็กตรงหน้าของตนอย่างสุดหัวใจ  ยิ่งเคียวพยายามปลอบก็เหมือนเสียงสะอึกเบา ๆ ตอนแรกจะดังขึ้นเลื้อย ๆ ยิ่งทำให้เคียวทำอะไรไม่ถูกเ ช่นเดียวกับฮานะและฮายะโตะที่ได้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือการคาดเดาจนทำให้ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร จึงไม่มีใครสังเกตุเห็นประกายของมีดสั้นในมือของไอและคูมิโกะในตอนที่เคียวพุ่งตัวเข้าหาอายะอย่างกระทันหันนอกจากตัวของอายะ 

                "แกกำลังทำอะไรอายะจังห๊า!!!

     

     

    ตัดฉับ!!!!!!!!

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×