คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ปฐมบท 100%
ปฐมบท
����������� อีกด้านทางปลายสายหลังจากที่เด็กสาวที่ตนโทรไปหาได้วางสายลงไปแล้วบนใบหน้าหล่อเหลายังไม่คลายความตะลึงไปซ้ำยังจะมีแววว่าจะตกตะลึงมากขึ้นไปอีก
����������� เป็นไปไม่ได้....เธอไม่น่าที่จะรู้จักเรามาก่อนพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะจมสู่ภวังค์ความคิดของตนอีกครั้ง
**************************************************************************
����������� “คูมิโกะ ไอ เดียวพรุ่งนี้ตอนบ่ายโมงตรงเจอกันที่เดิมนะ" ทันทีที่ร่างเล็กบอกบางของเด็กสาวก้าวเข้ามาภายในห้องคาราโอเกะที่พวกของตนปาร์ตี้กันอยู่ร่างเล็กก็กล่าวกันเพื่อนสาวสองคนเสียงเบาโดยที่ไม่ต้องการให้เพื่อนสาวอีกสามคนของตนได้ยิน เด็กสาวคนแรกมีผมและนัยตาสีรัตติกาลนัยตาทอประกายเย็นชาดวงหน้าสายหวานเพียงพยักหน้าเป็นเชิงตกลงให้กลับเด็กสาวร่างเล็กที่เป็นผู้เอ่ย
����������� “มีอะไรหรอ อายะจัง”เด็กสาวผู้เอ่ยถามเด็กสาวผู้ที่พึ่งเข้ามาใหม่เธอมีผมและนัยตาสีรัตติกาลเช่นเดี่ยวกับเด็กสาวอีกคนหากแต่นัยตากลมโตกลับทอประกายสดใสร่าเริงดวงหน้าอ่อนหวานหากแต่แฝงไวด้วยแววซุกซน
����������� “เดียวพรุ่งนี้ก็รู้เองละน่า” ไอเด็กสาวผู้แลดูเย็นชาเอ่ยบอกอีกคนอย่างรำคาญ
����������� “ก็ฉันอยากรู้นี่นา� ไอจังละก็”คูมิโกะผู้ร่าเริงเอ่ยตอบ
����������� “ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอกคูมิโกะ”เด็กสาวร่างเล็กผู้ถูกเรียกว่าอายะจังเอ่ยตอบเพื่อเป็นการยุติการโต้เถียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ตรงหน้านี้ก่อนที่บอกให้ทั้งคู่กลับไปสนุกกับปาร์ตี้เล็ก ๆ ในการฉลองการเรียนจบของพวกตน
************************************************************************
��������������� เช้าวันอาทิตย์อากาศสดใสร่างเล็กบอกบางของเด็กสาวยังคงหลับอย่างมีความสุขภายใต้ผ้าห่มผืนหนานุ่มแต่กลับมีอันต้องตื่นจากนิทราอันแสนสุขเนื่องจากรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจองมองมาที่ตนจนทำให้ร่างเล็กของอายะอดคิดอย่างรำคาญไม่ได้ ไอ้บ้าหน้าไหนว่างมากขนาดมานั่งมองเหล่าจืออยู่ได้น่ารำคาญโว้ยยย �ในที่สุดร่างเล็กก็ต้องจำใจตื่นเพราะไม่อาจทนกับการจ้องอย่างกับจะทะลุถึงตับไตไส้ม้ามของผู้ที่จ้องมองตนอยู่ได้อีกต่อไป ร่างเล็กของอายะเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวพร้อมทั้งแกะรอยสาเหตุที่มาของสายตาจ้องมองมาที่ตนอย่างค้นหานั้นพร้อม ๆ ทั้งชำระร่างกายของตนไปด้วย ให้ตายสิ� เป็นเจ้าหมอวัชพืชนั้นจริง ๆ ด้วยสินะช่างเป็นผู้ชายที่ไร้มารยาทเสียจริงเหล่าจือคงต้องสอนให้รู้จักมารยาทเสียหน่อยแล้วสิ� อายะยิ้มเจ้าเล่ห์หากแต่รอยยิ้มที่ปรากฏออกมานั้นกลับแลดูน่ารักไร้เดียงสาจนคนที่จ้องมองต้องหวั่นไหวไปตาม ๆ กัน
�
����������� ร่างเล็กชำระร่างกายของตนอย่างไม่รีบร้อนพร้อมทั้งจัดตารางเวลาของตนเองไปพร้อม ๆ กัน วันนี้อายะเลือกแต่งตัวด้วยกางเกงยีนขายาวสีซีดโตโคลงพร้อมทั้งเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินเข้มตัวใหญ่เพื่อปกปิดรูปร่างที่แท้จริงผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ถูกมัดรวบไว้ด้านหลับ �ผมด้านหน้าถูกจัดเป็นทรงดูราวกับหลุดออกมาจากนิตายสารดาราอย่างไงอย่างนั้นดวงตาสีเดียวกันเส้นผมถูกอายะสวมคอนแทคเลนส์สีแดงเพลิงปิดทับอีกทั้งยังสวมแว่นตาไร้กรอกเป็นเครื่องประดับบนใบหน้าจนทำให้ดวงหน้าที่แลดูน่ารักก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นหล่อเหลาได้ไม่ยากเย็น �อายะตรวจดูความเรียบร้อยพร้อมทั้งเอ่ยชมตนเองหน้ากระจกจนพอใจร่างเล็กที่กลายเป็นเด็กหนุ่มวัยกำลังโตได้เดินทางออกจากบ้านของตนพร้อมด้วยแมวสีขาวดวงตาข้างหนึ่งสีฟ้าอีกข้างมีสีทองออกติดตามไปด้วยและแน่นอนจุดหมายของอายะก็คือมหาลัยอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นมหาลัยโตเกียว รถ BMW สีดำที่ขับเข้ามาภายในมหาลัยไม่ได้เป็นที่สนใจสักเท่าไรนักหากเทียบกับเด็กหนุ่มร่างเล็กที่เดินลงมาจากรถ �ทุกสายตาได้จับจ้องไปที่เด็กหนุ่มร่างเล็กนั้นไม่ว่าจะเป็นหญิงแท้ชายแท้หรือกระทั้งหญิงไม่แท้และชายเทียน� อายะยิ้มพอใจให้กับสายตาที่จับจ้องมาที่ตนก่อนออกเดินทำราวกับไม่รับรู้ถึงสายตาของนักศึกษาที่มองมาที่ตนอย่างชื่นชม
เด็กหนุ่มร่างเล็กเดินไปบนตามทางเล็ก ๆ ที่นำทางไปสู่ตึกตะวันออก �เดินตามทางบนตึกไปจนถึงหน้าห้อง ๆ หนึ่ง
����������� “อยู่ในนี้สินะ”พึมพำเบา ๆ กับตัวเองก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป� สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของร่างเล็กคือห้องไม่เล็กไม่ใหญ่สีขาวสะอาดเตียงเดียวตั้งเรียงอย่างเป็นระเบียบพร้องทั้งมีผ้าม่านสีฟ้าแลดูสบายตาขวางกั้นแต่ละเตียงออกจากกัน กลิ่นยาและน้ำยาฆ่าเชื่อโชยมาตามสายลมอ่อนที่พัดเข้ามาทางหน้าต่าง โต๊ะทำงานขนาดไม่ใหญ่มากตั้งอยู่ตรงหน้าต่างบนเก้าอี้มีร่างร่างหนึ่งจมอยู่ในภวังค์ความคิดไม่มีท่าทีจะรู้ว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในห้อง ร่างเล็กยืนพิงประตูห้องก่อนที่จะลงมือเคาะประตูเบา ๆ แต่กลับทำให้ร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สะดุ้งด้วยความตกใจ
����������� “ใคร!!!”ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตะโกนออกมาด้วยสัญชาตญาณทันที
����������� “ไม่เห็นจะต้องตะโกนขนาดนั้นเลยนิครับ”ร่างเล็กที่ยืนพิงประตูอยู่ยกมือขึ้นปิดหูราวกับจะบอกร่างตรงหน้าว่า หนวกหู!!� ด้วยท่าที่ทีเล่นทีจริงพร้อมทั้งส่งยิ้มน่ารักให้ร่างตรงหน้าแถมให้อีก
����������� “ธะ...เธอเป็นใคร”ชายหนุ่มตรงหน้าร่างเล็กมีดวงตาเรียวคมฉายแววฉลาดทันคนหากแต่ตอนนี้กลับเบิกโพนอย่างตกตะลึงเป็นที่น่าขำของอายะเป็นอย่างยิ่งนัยตาสีมรกตเข้ม คิวหนาเส้นผมสีน้ำตาลเข้มอยู่ในชุดกราวด์สีขาวทำให้รู้ได้ในทันทีว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเป็นอาจารย์ประจำห้องพยาบาลแห่งนี้
“แหมทำไมพูดอย่างนั้นละครับฮายะโตะซังทั้งที่ตอนเช้าคุณยังจ้องผมขนาดนั้นแท้ ๆ เลยเธียนร์ละก็”เด็กหนุ่มร่างเล็กเอ่ยทีเล่นทีจริงหากแต่แฝงไอสังหารจนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเย็นเยือกอย่างห้ามไม่ได้
����������� “เธอ...หรือว่าเธอคือเด็กคนนั้น”ชายหนุ่มพูดด้วยความตกตะลึงไม่หายจนทำให้ร่างเล็กตรงประตูมองที่ชายหนุ่มอย่างเซ็ง ๆ �ให้ตายสิเหล่าจื่อไม่ใช่ผีสักหน่อยจะตื่นเต้นทำไมนักหนา
����������� “ก็ใช่นะสิว่าแต่นายเถอะจะตื่นเต้นอีกนานไหม...น่ารำคาญจริง”เด็กหนุ่มร่างเล็กเอ่ยตอบอย่างเซ็งสุดขีดจนทำให้ฮายะโตะถึงกับหน้าแดงจัดก่อนที่จะเรียกสติกลับคืนมา
����������� “มีอะไรกับฉันรึเปล่า”คำถามของชายหนุ่มเรียกสีหน้าไม่พอใจให้ปรากฏออกมาได้ไม่ยาก
����������� “คำถามนั้นผมน่าจะเป็นคนถามคุณมากกว่านะเธียนร์”ร่างเล็กเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกร่างตรงหน้ารบกวนเวลานอนช่วงเช้าของตนแต่ท่าทางสงสัยงงงวงของฮายะโตะที่ชายหนุ่มแสดงออกมานั้นยิ่งทำให้อายะไม่สบอารมณ์มากขึ้นไปอีก
����������� “ให้ตายสิ� สงสัยข่าวที่ว่าภูตพฤกษาเป็นภูตที่มีความรอบรู้ในทุกเรื่องจะเป็นแค่ข่าวโคมลอซะมะมั่ง เฮ้ยยยยยย”เอ่ยพร้อมแววตาสงสารจับจิตให้กับฮายะโตะหากแต่มันคงจะหน้าเชื่อถือมากกว่านี้หากที่ติดที่กลีบปากเล็ก ๆ นั้นไม่ได้ยกยิ้มราวกับเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่จนทำให้ชายหนุ่มเลือดขึ้นหน้าแต่ก่อนที่ฮายะโตะจะได้โวยวายอะไรเด็กหนุ่มร่างเล็กขัดขึ้นก่อน
����������� “ฮายะโตะซังอย่าพยายามสืบหาความจริงในตัวผมอีกเลย�� เพราะตอนนี้สิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือศึกษาเรื่องนั้นให้มากที่สุด....ไม่สินายจะต้องศึกษาเรื่องนั้นทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนและจะต้องจดจำมันให้ได้ทั้งหมดและอีกไม่นานเราจะได้พบกันอีกครั้งอย่างแน่นอน”เด็กหนุ่มร่างเล็กพูดแค่นั้นก่อนที่ร่างเล็กบอกบางนั้นจะเรือนหายไปพร้อม ๆ กับแสงสีทองอ่อน เพื่อเป็นการปฏิเสธคำถามต่าง ๆ ที่ทำท่าจะถูกเอ่ยออกมาจนทำให้ร่างสูงของฮายะโตะหรือที่ถูกร่างเล็กเรียกเธียนร์ทำได้เพียนอ้าปากพะงาบพะงาบเท่านั้น
***************************************************************************
����������� แสงไฟหลากสีในย่างรื่นรมขับไล่ความมืดในย่างราตรีจนหมดสิ้น �ปรากฏแต่เพียงความสับสนวุ่นวายในสายตาของเด็กหนุ่มร่างเล็กภายใต้เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินตัวใหญ่ �แว่นไร้กรองบนใบหน้าไม่อาจบดบังดวงหน้าอ่อนหวานได้� ร่างเล็กเดินทอดนองผ่านผู้คนมากมายที่เดินขวักไขว่ผ่านผับ บาร์มากมายแต่กลับไม่อยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มร่างบอกบางเลย �แต่สิ่งที่ดึงดูดร่างบางได้นั้นกลับเป็นซอยมืดแลดูเปลี่ยมร้างผู้คน อายะเดินตามถนนเข้าไปในซอยที่ขาดแคลนแสงสว่าง ท่ามกลางความมืดที่ปรกคลุมภายในซอย �บาร์ขนาดเล็กแลดูรกร้างได้ปรากฎต่อสายตาอายะ
เด็กสาวในร่างของเด็กหนุ่มก้าวเดินเข้าไปภายในอย่างช้า ๆ ด้วยท่าทางคุ้นเคย� โต๊ะเก้าอี้วางเรียงกระจัดกระจาย เคาเตาร์สีดำหากเป็นในสมัยที่ร้านกำลังรุ่งเรืองมันคงมันวาวสวยแต่ในตอนนี้ทั่วทั้งบริเวณภายในร้านเต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่�� อายะเพียงใช้เท้าสะกิดเบา ๆ ที่พื้นพลันร่างเล็กบอกบางก็ได้หายไปหลงเหลือเพียงความว่างเปล่าและความมืดมิดในย่ามราตรีอีกครั้ง�� และตอนนี้สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าร่างเล็กของอายะกลับเป็นร่างของไอและคูมิโกะสองเพื่อนสาวของตนอยู่ตรงหน้าแทนที่บาร์รกร้างไร่ผู้คน
�����������
“อายะจางงงงงงงงงงงงงงงงงง เมื่อไรจะเลิกใช้ไอ้บาร์ร้าง ๆ นั้นเป็นทางเข้าที่นี่สักทีละ รู้ไหมคูมิโกะกลั้วววกลัวมากเลยละ”ทันทีทีร่างเล็กบอกบางภายใต้เสื้อสีน้ำเงินตัวโตของอายะปรากฏขึ้นคูมิโกะก็เอ่ยประท้วงขึ้นทันทีราวกับว่าเฝ้ารอการมาถึงของร่างเล็กตรงหน้าอย่าใจจดใจจ่อหากแต่ร่างเล็กของอายะกลับหันมายิ้มให้โดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา �เด็กสาวทั้งสามอยู่เป็นห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่สีขาวแลดูสบายตาเฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นสีขาวและดำทั้งสิ้น อายะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวโตสีขาวนุ่มกลางห้อง แมวสีขาวตัวน้อย ๆ ที่น่าสงสารที่ถูกอายะลืมมาทั้งวันกระโดดขึ้นมานอนบนตักของอายะทันทีที่ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งนัยน์ตาสองสีหลับพริ้มคางเล็ก ๆ ของลูกแมวสีขาวถูข้อมือเล็กด้วยท่าทางออดอ้อนอันแสนน่ารัก
����������� “ไปทำอะไรมาหรอถึงได้มาช้าจัง”ไอเด็กสาวผู้มีแววตาเย็นชาเป็นนิตย์เอ่ยถามขึ้นเพราะมีไม่กี่ครั้งที่ร่างเล็กบอกบางตรงหน้าเธอจะปล่อยให้ผู้อื่นรอ
����������� “ไม่มีอะไรหรอก� อย่าใส่ใจเลย”อายะเอ่ยเสียงราบเรียบ แต่ไอกลับทำท่าทางราวกันมันต้องมีอะไรมากกว่านั้น คิดได้ดังนั้นเด็กสาวผู้เย็นชาก็มีท่าทีจะเอ่ยถามต่อหากแต่อายะกลับขัดขึ้นก่อน
����������� “ฉันว่าเรื่องนั้นพักเอาไว้ก่อนเถอะ� มาเข้าเรื่องกันก่อนดีกว่า....”ร่างเล็กของอายะจงใจเว้นช่องว่างก่อนที่จะเอ่ยต่อ
����������� “ที่ฉันเรียกพวกเธอมาในวันนี้ก็เพราะเรื่องนี้นี่ละ�� รู้สึกใช่ไหมระยะนี้โลกทางฝั่งโน้นมีการเคลื่อนไว้แปลก ๆ”อายะเอ่ยถามเพื่อนสาวทั้งสองคนตรงหน้า
����������� “ฉันก็รู้สึกบรรยากาศโดยรอบถูกปรกคลุมด้วยพลังมหาศาล”ไอเอ่ยเสริม
����������� “อืม ช่วงนี้มีข่าวว่าพวกปีศาจที่เคยซ่อนตัวเริ่มออกมาปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ”คำกล่าวของคูมิโกะทำให้ทั้งอายะและไอนิ่งเงียบไปตาม ๆ กันข่าวที่ได้จากคูมิโกะนั้นสามารถเชื่อถือได้ถึง 95% และหากเป็นเช่นนั้นจริงแล้วละก็เส้นทางที่อายะจะก้าวเดินไปนั้นก็อันตรายเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน เพราะโดยปรกติแล้วปีศาจเป็นพวกที่ไม่ชอบสุงสิงกับใครถึงแม้จะเป็นปีศาจด้วยกันก็ยังน้อยนักที่จะมีดังนั้นเหตุการณ์ในครั้งนี้จะต้องมีลับลมคมนัยน์แอบแฝงอย่างแน่นอน
�����������
����������� “ฉันอยากให้พวกเธอหาข้อมูลต่าง ๆ พร้อมทั้งการเคลื่อนไหวทุกการเคลื่อนไหวของโลกโน้นอย่างละเอียด และก็ศึกษารูปแบบของพลังงานที่กระจายทั้งในโลกปีศาจรวมไปถึงของทางเรา”อายะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างน้อยครั้งนักจะได้เห็น
����������� “แล้วอีกเรื่องหนึ่ง....จงลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคุยกันที่นี่ให้หมดและอย่าให้ใครรู้หรือสงสัยระเคาะระคายเรื่องของเราเด็จขาด”อายะเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความจริงจังในน้ำเสียงอย่างที่น้อยนักจะได้พบเห็น
����������� “เรื่องนี้เธอเก่งนักละ”ไอเอ่ยประชดเสียงเรียบ
����������� “พวกเธอก็ด้วยไม่ใช่รึไงกัน”ประโยคต่อมาของร่างเล็กกลับทำให้ทั้งคูมิโกะและตัวของไอเองถึงกับจุกไปตาม ๆ กัน
��������������� “เอาละ...วันนี้ดึกมากแล้วพวกเธอกลับไปพักกันก่อนเถอะ”อายะเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นปกติหากแต่ฟังดี ๆ มันได้แฝงแววเหนื่อยอ่อนในน้ำเสียงไม่น้อยทีเดียว
����������� “แล้วเธอละไม่กลับด้วยกันกับพวกเราหรอ”ไอเอ่ยถามน้ำเสียงที่ปกติมักจะแฝงแววเย็นชาหากในตอนนี้กลับแฝงกระแสความเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด
����������� “ฉันหรอ...ไม่ละขอบใจ”อายะเอ่ยปฏิเสธไอเบา ๆ ก่อนดวงตากลมโตจะถูกซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกตาบาง �มือเล็กบางลูบขนสีขาวอ่อนนุ่มของแมวบนตักของตนอย่างเงียบ ๆ
����������� “งั้นพวกเรากลับก่อนนะอายะจัง”คูมิโกะเอ่ยเบา ๆ ราวกับไม่อยากรบกวนเด็กสาวตรงหน้า �ก่อนที่ร่างของเด็กสาวทั้งสองจะถูกแสงสีทองโอบลอมและจางหายไปในที่สุด
����������� หลังจากเด็กสาวทั้งสองได้จากไป �ภายในห้องสีขาวก็ได้ถูกความเงียบปกคลุมอย่างหนาแน่แต่ผู้ที่อยู่ในห้องกลับไม่คิดจะทำอะไรกับความเงียบนั่นสักนิดอีกทั้งยังจงใจปล่อยให้บรรยากาศนั้นปกคลุมมากขึ้นไปอีก
������������ เมียววววววว~~~~จนในที่สุดผู้ที่ไม่อาจจะทนต่อบรรยากาศดังกล่าวนั้น �ก็ได้ทำลายความเงียบที่ปกคลุมด้วยเสียงแหลมเล็กอักเป็นเอกลักษณ์เปลือกตาบางค่อย ๆ เปิดออกเผยให้เห็นนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเปลือกไม้� อายะก้มมองแมวตัวเล็กขนสีขาวกระโดดลงไปยืนบนพื้นห้องด้วยท่าที่ตัวมันคิดว่าสง่างามที่สุดก่อนที่ตัวมันจะถูกแสงสี่ขาวโอบล้อมทั่วทั้งตัวเงาร่างสีขาวค่อย ๆ แปลงเปลี่ยนและกลายเป็นรูปร่างของมนุษย์ร่างสูงโปร่ง รอจนแสงสีขาวนั้นจางหายไปจึงได้ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผู้มีเส้นผมสีขาวยาวปะบ่านัยน์ตาข้างหนึ่งมีสีฟ้าอีกข้างมีสีทองสว่างหน้าตาหล่อเหลา เสื้อผ้าที่สวมบนร่างของชายหนุ่มล้วงแต่เป็นสีขาว สร้อยเส้นเล็กห้อยจี้ลักษณะเป็นไม้กางเขนมีปีกเล็ก ๆ ทั้งสองข้างของไม้กางเขนทั้งสร้อยและจี้ที่ห้อยบนคอของชายหนุ่มตรงหน้าอายะล้วนทำมาจากแร่หายากของแดนปีศาจอันมีคุณสมบัติพิเศษในการเสริมพลังให้แก่ผู้สวมใส่หากแต่เด็กสาวกลับทำขึ้นมาให้ชายหนุ่มตรงหน้าใส่เป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งเท่านั้น� นัยน์ตาสองสีของชายหนุ่มตรงหน้าจ้องมองมายังร่างเล็งของอายะด้วยแววตาเอือมระอา
����������� “คิดจะนั่งเงียบอยู่อย่างนี้อีกนานไหมหา!!!”ชายหนุ่มตรงหน้าอายะเอ่ยถามเสียงดัง
����������� “อัซจังจะตะโกนทำไมอยู่ใกล้กันแค่นี้เองนะ”อายะเอ่ยน้ำเสียงเรียบอย่างไม่สนใจท่าทีของชายหนุ่มตรงหน้าที่ตนเรียกว่า �“อัซจัง” �ชื่อจริงของชายหนุ่มตรงหน้าคือ อาซาโตะ เป็นชื่อที่อายะตั้งให้กับเค้าตั้งแต่วันที่ชายหนุ่มลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก อายะเป็นผู้สร้างชายหนุ่มขึ้นมาด้วยพลังเวทมนต์ของตนมันเป็นพิธีของเผ่าพันธุ์ที่จะต้องสร้างทาสรับใช้อันซื่อสัตย์ของตนเพื่อรับใช้แต่ผู้เป็นนายเพียงผู้เดียวทุกคนในเผ่าจะต้องสร้างทาสรับใช่ของตนเมื่ออายุครบสิบขวบปีในการสร้างทาสรับใช้นั้นจะต้องใช้พลังเวทจำนวนมากทั้งยังใช้เวลานานในการสร้างทาสรับใช้ �บางคนใช้เวลาร่วมเดือนหรืออาจเป็นปีหากแต่สำหรับอายะเด็กสาวกลับใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งวันในการสร้างทาสรับใช้ที่สามารถยอมตายเพื่อนายของตนและทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายไม่ว่าผู้เป็นนายจะสั่งให้อยู่หรือตาย!! ชาวเผ่านั้นสร้างทาสรับใช้ขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเองหรือมีไว้เพื่อช่วยงานหากแต่อายะกลับสร้างขึ้นเพียงเพื่อให้มาเป็นเพื่อนของตนเองโดยที่ไม่ยอมให้ชายหนุ่มตรงหน้าเรียกตนว่านายท่านหรือเจ้านายแต่อย่างใด นั้นเป็นเรื่องที่อาซาโตะรับรู้ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก
����������� “เรื่องของวันนี้เธอเอาจริงใช่ไหม”อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังเอ่ยถามอายะด้วยความเป็นห่วงอย่างไม่ปิดบัง
����������� “ท่าทางคงจะมีแต่เรื่องยุ่งยากซะแล้วละอัซจัง”อายะเอ่ยเสียงเรียบอีกทั้งยังแฝงแววซุกซนไว้ถึง 8-9 ใน 10 ส่วน �ว่าจบร่างบอกบางของอายะก็ได้เรือนรางหายไปทิ้งไว้เพียงอาซาโตะที่ยังคงนั่งทอดถอนหายใจในความซุกซนของเจ้านายของตนก่อนที่จะหายตัวตามผู้เป็นนายไป
����������
ความคิดเห็น