คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : เจ้าชาย
"โน…" ฉันพึมพำชื่อที่นึกขึ้นได้ แต่ไม่เข้าใจว่ามันจะไปค้นห้องทะเบียบทำไม แถมยังไม่เคยบอกฉันเรื่องนี้อีก
"ไนท์ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ" ฟาซึ่งอยู่ข้างๆ คงจะได้ยินแต่ไม่ชัดจนต้องถามย้ำ
"บางทีคนที่เพื่อนฟาเจออาจจะเป็นโนก็ได้นะ แต่เขาคนจะจำผิดมาเป็นฉัน"
"นั้นสินะ เรฉันว่าแกจำคนผิดแล้วล่ะ" ฟาหันไปพูดกับเรลี่
"แกจะบ้าเหรอ ฉันเนี่ยนะจำผิด" เรลี่ทำหน้าค้านหัวชนฝา
"ไนท์มีฝาแฝด ชื่อโน เรียนอยู่ห้องเดียวกัน บางทีแกอาจจำไนท์กับโนสลับกันก็ได้นะ" ฟาอธิบาย
"ฝาแฝด!? นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย?" เรลี่ที่เพิ่งรู้ว่าฉันมีแฝดถึงกับผงักถอยไปหลายก้าว
"ไว้กลับไปฉันจะไปถามโนให้แน่ใจเอง ทีหลังก็จำไว้ด้วยว่าฉันใส่นาฬิกาสีดำ ส่วนโนใส่สีขาว"
"สรุปเธอไม่ได้เข้าไปในห้องทะเบียบ ขอโทษด้วยล่ะกัน ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าคนที่ฉันเจอจะมีแฝดอีกคนที่เหมือนกันขนาดนี้อยู่ด้วย"
"ฉันจะถือว่านายจำผิด ครั้งหน้านายคงไม่ทักผิดคนอีกหรอกนะ"
"ครั้งหน้าไม่ผิดตัวอีกแน่ ฉันขอโทษเธอด้วยล่ะกัน" เรลี่เดินเข้ามาขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริงๆ ฟังจากน้ำเสียงแล้วอ่ะนะ
"ไนท์แล้วโนไปทำอะไรในห้องทะเบียบน่ะ?" คราวนี้ฟาเกิดสงสัยขึ้นมาบ้าง
"ไม่รู้สิ ช่วงนี้ฉันอยู่กับรุ่นพี่คนหนึ่งที่โรงเรียนมากกว่า คอยไปช่วยงานน่ะ ช่วงเย็นเลยไม่ค่อยไม่อยู่กับโนเท่าไร" ฉันตอบไปตามจริง
"อ้อ :)" ฟายิ้มเหมือนกับชอบใจในคำตอบของฉันอะไรแบบนั้น หมายความว่าไงน่ะ เขาจะถูกใจทำไม
"ฟายิ้มอะไรน่ะ?" ฉันถาม
"เปล่า แค่นึกเรื่องสนุกออกน่ะ"
"พิษไข้มันตีขึ้นไปที่สมองรึไง?" เรลี่ที่เงียบมานานพูดขึ้นบ้าง
"เปล่า สมองฉันยังปกติดีอยู่ แกไม่ต้องห่วง" ฟาเดินไปยิ้มไปแล้วก็นั่งลงบนเตียงของตัวเอง
"…" ทั้งฉันทั้งเรลี่ต่างมองไปที่ฟาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจฉันไปให้เดินไปหาฟาทันที
"แค่กๆ"
"ฟายังไม่หาย เอาแต่พูดเจ็บคออีกจนได้" ฉันเข้าไปประคองให้ฟานอนลงอีกครั้ง
"เป็นห่วงฟามันจังเลยนะ" เสียงเรลี่ที่เดินตามมาดังขึ้น มันช่วงเป็นประโยคที่ชวนหาเรื่องดีจัง
"ฉันเป็นเพื่อนฟา ไม่ให้ห่วงฟาแล้วห่วงใคร หรือว่านายไม่ห่วงฟา"
"เพื่อนฉัน ฉันห่วงอยู่แล้ว แต่คงไม่เท่าเธอหรอกไนท์" ขนาดเรื่องเข้าใจผิดนั่นมันจบไปแล้ว แต่ดูเหมือนเขาก็ยังจะตั้งตัวเป็นศัรตูหาเรื่องฉันอยู่ดีสินะ
"นายหมายความว่าไง?"
"เธอก็รู้ว่าฟาเป็นใคร อย่ามาแอ๊บหน่อยเลยน่า มีใครไม่อยากได้ฟาบ้าง" เส้นความอดทนของฉันขาดลงในที่สุด เขามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกฉันแบบนี้ คิดว่าฉันจะจับฟารึไง!? ตลก!
พรึบ!
"นายจำไว้นะ ว่านายหาเรื่องฉันก่อน เรื่องที่เข้าใจผิดเมื่อกี้ถือว่าจบไป แต่ถ้านายยังยืนยันจะหาเรื่องฉันต่อฉันก็ไม่ว่าหรอกนะ แค่จะเตือนว่ามันคงจบไม่สวยแน่ๆ" ฉันลุกขึ้นจ้องหน้าเขาอย่างท้าทาย
"ใช่ ฉันอาจจะหาเรื่องเธอก่อน แต่ก็เพราะเธออาจจะเข้ามาหาเพื่อนฉันด้วยเจตนาไม่ดีก่อนนะ" เขาจ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
"เร พอได้แล้ว ไนท์ยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับฉันทั้งนั้นแหละ" คนป่วยต้องลุกขึ้นมาเคลียร์ปัญหาอีกครั้งเมื่อเห็นท่าไม่ดีจริงๆ
"จริง!?" เรลี่หันไปมองฟาอย่างไม่เชื่อในหูของตัวเอง
"เออ แกก็ช่วยเล่าให้ไนท์ฟังหน่อยแล้วกัน ไหนๆ ไนท์ก็มาถึงนี่แล้ว อีกอย่างไนท์ไว้ใจได้" หลังจากที่โบยภาระที่ต้องอธิบายเรื่องต่างๆ มาให้เรลี่เรียบร้อย ฟาก็หลับสนิทไปเลย
"นี่เธอเข้ามาโดยที่ไม่รู้อะไรได้ยังไง พวกองครักษ์ด้านล่างไม่น่าปล่อยให้เธอมาหาฟาด้วยซ้ำ" ตอนนี้ทั้งฉันและเรลี่ต่างก็พากันมานั่งคุยดีๆ ที่โซฟาไม่ห่างจากเตียงนัก
"ฉันแอบเข้ามาเอง"
"โอ้โห งั้นเธอก็เก่งมากนะเนี่ย ที่ไม่โดนจับได้เสียก่อน" เรลี่มองฉันอย่างทึ่งๆ
"ไม่เห็นว่ามันจะยากตรงไหนนี่ :)" ความภูมิใจที่แอบเข้ามาได้เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ในใจฉันเมื่อมีคนชม
"คราวหน้าฉันจะบอกให้พวกนั้นจัดการรักษาความปรอดภัยให้ดีกว่านี้ แค่ผู้หญิงคนเดียวยังปล่อยให้รอดมาได้" เรลี่พูดไปเหมือนคิดไปพลางปลายตามองฉันอย่างวิเคราะห์ไปด้วย
"ทำไมที่นี่จะต้องเข้มงวดขนาดนั้น ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรน่ากลัวเลยนะ" ฉันถามอย่างข้องใจเมื่อเรลี่บอกว่าจะสั่งให้รักษาความปลอดภัยเพิ่ม
"สำหรับเธอไม่จำเป็นต้องรู้มากหรอก รู้แค่ว่าฟาจริงๆ แล้วคือองค์ชายลำดับที่ 1 ฟาไฮท์ลาห์ โดเฟเลีย หรือถ้าที่เธอเรียกมันก็คือชื่อ ฟา นั่นแหละ ฟาเป็นเชื้อสายตรง ตอนนี้ที่ประเทศการ์คาห์กำลังเกิดเรื่องวุ่นวายซึ่งส่งผลต่อฟาโดยตรง ฟาจึงจำเป็นต้องมาอยู่ที่นี่ชั่วคราวจนกว่าเรื่องจะสงบ ส่วนเรื่องอื่นๆ เธอไม่ต้องเข้ามายุ่งน่ะแหละดีที่สุด แต่ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มจริงๆ ก็ไปถามฟาเอาล่ะกัน" เรลี่อธิบายด้วยสีหน้านิ่งๆ ท่าทางไม่น่าเชื่อถือเท่าไร
"นายคงไม่ได้แต่งเรื่องมาหลอกฉันเล่นหรอกนะ ที่นายเล่ามาฉันเชื่อไม่ลงจริงๆ เรื่องแบบนี้มีแต่ในนิยายเท่านั้นแหละ"
ตั้งแต่ที่เรลี่เล่าจบฉันก็คิดว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงหรอกมั้ง ฉันยังไม่เห็นข่าวอะไรเกี่ยวกับที่ฟามาไทยเลยนะ ถ้าฟาเป็นเจ้าชายจริงๆ ก็น่าจะมีการรองรับที่มันหรูกว่านี้สิ อีกอย่างถ้าเป็นเจ้าชายก็น่าจะรวยอยู่แล้ว จะมาลงทุนเปิดร้านให้เสียเวลาทำไม แล้วก็ไอ้ประเทศการ์คาห์อะไรนั่นอีก ฉันไม่เคยได้ยินเลยนะ มันจะเป็นเรื่องจริงไปได้ยังไง แต่เรลี่ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหกฉันนี่ เอ๊ะ! หรือว่ามีแต่ฉันไม่รู้
"ก็แล้วแต่เธอนะ ฉันก็แต่เล่าตามที่ฟาขอก็เท่านั้น" เรลี่ทำหน้าเหมือนไม่สนใจว่าฉันจะเชื่อหรือไม่ ตอนนี้ฉันแถบจะไม่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องที่เรลี่เล่าให้ฟังเลยสักนิด
"เอาเถอะ ฉันก็ไม่คิดจะค้านอะไรอยู่แล้ว จะจริงหรือไม่จริงนานไปเดียวฉันก็รู้เองแหละ" ฉันตอบอย่างเป็นกลาง ตามความคิดของตัวเอง
"งั้นเรื่องฟาก็ถือว่าจบไป" เรลี่พูดเหมือนจะมีเรื่องที่สองอะไรงี้งั้นแหละ
"อาฮะ"
"ไหนๆ ฉันก็เล่าเรื่องของเพื่อนฉันให้เธอฟังแล้ว เธอก็ควรที่จะเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังบ้างนะ" เรลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตร ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาทียังตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉันอยู่เลย ฉันเริ่มจะรู้สึกแล้วสิว่าเรลี่น่ะมีอะไรแปลกๆ ฉันตามอารมณ์เขาไม่ทันจริงๆ
"นายจะรู้ไปทำไม?" ฉันถามอย่างงี้ก็เพื่อเป็นการดักทางไว้เท่านั้น ยังไงซะกันไว้ก็ดีกว่าแก้ล่ะนะ
"เราจะได้รู้จักกันมากขึ้นไง" คำตอบแบบนี้ฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ดูยังไงเขาก็ไม่ได้อยากรู้จักฉันจริงๆ ซะหน่อย
"ฉันไม่ได้อยากให้นายรู้จัก แล้วฉันก็คิดว่านายเองก็ไม่ได้อยากรู้จักฉันเหมือนกัน"
"ฉลาด ที่เธอพูดมันก็ถูก งั้นฉันจะบอกจุดประสงค์จริงๆ เลยล่ะกัน" เรลี่ไม่ได้ทำหน้าแปลกใจกับคำตอบของฉันสักนิด
"…"
"ที่ฉันอยากรู้จริงๆ คือเรื่องของแฝดเธอต่างหาก :)"
"นายรู้จักโนไม่ใช่เหรอ ไปถามโนเองดีกว่านะ :)" ฉันไม่ใช่คนที่ชอบเผาคนในครอบครัวหรอกนะ อีกอย่างฉันคิดว่าเรลี่คงไม่ได้รู้จักโนจริงๆ ไม่งั้นก็คงไปถามโนเองแล้ว
"เราก็แค่เคยเจอกันในสถานการณ์ที่ไม่มีบทสทนาใดๆ เกิดขึ้น ฉันถึงต้องมาถามเธอไง"
"ฮึ ฉันไม่จำเป็นต้องบอกนาย นายรู้แค่ที่ฟาบอกก็พอแล้วนี่ หรือนายจะทำอะไรโน?" ฉันส่งสายตาอำมหิตให้เรลี่ ถ้าเขาคิดจะทำอะไรโนจริงๆ ฉันไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นแน่
"เธอคิดว่าไงล่ะ?" เรลี่ยิ้มกวนประสาทกลับมาอย่างไม่สะทกสะท้านกับสายตาอำมหิตที่ฉันส่งให้
"ถ้านายคิดจะทำอะไรโน ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่"
"รักกันจริงนะ เพิ่งจะรู้ว่าเป็นแฝดกันรักกันขนาดนี้"
"แสดงว่านายคงไม่มีพี่น้องถึงได้ไม่รู้"
"ถูก ฉันไม่มีพี่น้อง แต่ฉันก็รักคนในครอบครัวเหมือนกัน เอาเป็นว่าฉันจะไม่ตื้อถามต่อล่ะกัน เพราะยังไงท่าทางเธอก็คงไม่บอก แต่ไม่ต้องห่วงเพราะฉันสืบเองได้" เรลี่ยิ่มอย่างไม่สนเลยว่าฉันจะบอกหรือไม่
"นายจะทำอะไรโน?" ฉันถามเสียงเข้ม
"เรื่องนี้เธอไม่เกี่ยว ถ้าเธอรู้เธอก็คงเอาไปบอกยัยนั่น มันก็ไม่สนุกสิ" ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรโน แต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ นี่โนไปทำอะไรไว้ล่ะเนี่ย ทั้งๆ ที่ปกติโนไม่ใช่คนชอบหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
"ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับโน ฉันจะคิดว่านายเป็นคนทำ และฉันจะไม่ยอมให้มันจบง่ายๆ แน่" ฉันขู่เสียงจริงจังบ่งบอกว่ามันไม่ใช่การล้อเล่น
"เธอไปถามยัยนั่นดีกว่านะ ว่าทำอะไรไว้กับฉัน" น้ำเสียงกับหน้าตาของเรลี่ดูคับแค้นใจมาก กลับไปคราวนี้ฉันต้องไปถามโนให้รู้เรื่อง
"…"
"…"
เมื่อไม่รู้จะต่อบทสทนานี้ยังไงความเงียบก็เริ่มเข้ามาครอบงำ กลายเป็นสงครามทางสายตาแทน เพราะทั้งฉันและเรลี่ก็ต่างจ้องกันไปจ้องกันมาอย่างหาเรื่อง แต่ไม่มีใครลุกขึ้นมาตีกันจริงๆ เท่านั้นเอง
จะว่าไปนี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย?
11.30 น. !
เฮ้ย! จะเที่ยงแล้วนี่หว่า!?
ตายล่ะ ฉันต้องไปหาพี่เพนาต่อนี่นา ทั้งๆ ที่วันนี้กะว่าจะไปเฝ้าไข้พี่เพนาแท้ๆ ดันเกิดเรื่องวุ่นๆ ก่อนซะได้ นี่ก็จะเที่ยงแล้วด้วย คงต้องรีบไปก่อนที่พี่เพนาจะกินข้าวเที่ยงล่ะนะ
"นี่นายน่ะ ฉันฝากบอกลาฟาด้วยล่ะ ฉันจะไปที่อื่นต่อ" จะให้ฉันเดินไปบอกฟาก็ไม่ได้ไม่อยากรบกวนคนป่วย เลยจำใจต้องบอกเรลี่แทน
"จะไปไหน?"
"ไม่เกี่ยวกับนายนี่"
"ฉันลืม จะไปไหนก็ไป" เรลี่ทำหน้าเหมือนจะไล่ให้ฉันไปจริงๆ อย่างที่เขาพูดมา
หมับ!
"เดียวสิ ไนท์จะไปไหน?" มือของฉันถูกมือร้อนของฟาคว้าไว้ ก่อนจะได้เดินออกไปจากห้อง แต่ฟาน่าจะหลับไปแล้วนี่
"ฉันทำให้ฟาตื่นเหรอ?"
"เปล่า พอดีฉันรู้สึกร้อนเลยตื่นน่ะ แล้วไนท์จะไปไหนเหรอ?" ฟาถามโดยที่ตัวเขาก็ยังไม่ลุกขึ้นมาจากเตียง
"ฉันจะไปเยี่ยมพี่เพนาต่อน่ะ จะว่าไปฟาอยู่แถวนี้น่าจะรู้จักพี่เพนานะ" ฉันแกล้งถามไปเผื่อจะได้รู้ว่าพี่เพนาอยู่ที่ไหน
"…!!!" สีหน้าฟาดูเหมือนจะตกใจไม่น้อยกับคำถามที่ฉันถามไป
"เธอจะไปหาเพนาทำไม?" เรลี่พูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน จนฉันคิดว่าไม่มีเขาอยู่ในห้องนี้แล้วด้วยซ้ำ
"นายรู้จักพี่เพนา?"
หัวสีเงินๆ แบบนี้…อ้อ! ฉันจำได้แหละคนที่ฉันเคยเห็นเดินมากับพี่เพเนาแถวๆ ร้านฟานี่!?
"อืม ประมาณนั้น" เรลี่ตอบ ดูเหมือนจะเลี่ยงๆ ยังไงชอบกล
"แล้วฉันจะไปหาพี่เพนาไม่ได้รึไง?" ถึงแม้ว่าเขาจะรู้จักแล้วก็สนิทกับพี่เพนาแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถมาห้ามไม่ให้ฉันไปหาพี่เพนาได้นี่
"เธอไปก็ไปรบกวนเพนาเปล่าๆ ฉันว่าเธอรีบกลับบ้านไปน่าจะดีกว่านะ" เรลี่ไม่พูดเปล่ายังแสยะยิ้มราวกับผู้มีชัยมาข่มฉันอีกต่างหาก ฮึ่ม! อย่างหมอนี่มันน่าจับไปโยนลงเขียงแล้วก็สับให้เป็นชิ้นๆ จริงๆ เลย กวนประสาทชะมัด!
"นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน?"
"หลายสิทธิ์เลยล่ะ ฮึ" เรลี่ทำหน้ามั่นใจมากจนน่าหมั่นไส้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่เพนาคบหมอนี่เป็นเพื่อนได้ เอ๊ะ! หรือว่า…
"นายเป็นแฟนพี่เพนารึไง?"
"ลองไปถามพี่เพนาของเธอเอาเองสิ :)" ทำไมเรลี่ถึงตอบแบบนี้อย่าบอกนะว่าหมอนี่เป็นแฟนพี่เพนาจริงๆ น่ะ!? OoO
"ไนท์อย่าไปฟังที่เรมันพูดเลย มันก็พูดไปอย่างงั้นแหละ เพนาไม่ได้อยู่บ้านหรอก เธอไปนอนบ้านญาติน่ะ เพราะถ้าอยู่บ้านไม่มีใครช่วยดูแล" ฟาพูดขึ้นพร้อมกับจ้องไปยังเรลี่อย่างคาดโทษ สองคนนนี้เหมือนจะมีอะไรปกปิดไม่ให้ฉันรู้อย่างนั่นแหละ
"แสดงว่าฟาก็รู้จักพี่เพนาด้วยเหรอ?" ฉันถามทั้งๆ ที่ก็เดาได้อยู่แล้ว่าทั้งคู่ต้องรู้จักกันแน่ แต่ที่ถามเพราะอยากจะฟังจากปากของฟาให้แน่ใจก็เท่านั้น
"อือ ก็ไม่เชิงรู้จักหรอก"
"หืม? หมายความว่าไงน่ะ?" ฉันถามอย่าไงเข้าใจ ไอ้คำว่า ‘ไม่เชิง’ นี่คืออะไร
"ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่าก็รู้จักนั่นแหละ"
"…อืม" เพราะเป็นฟาตอบหรอกนะ ฉันถึงได้ยอมง่ายๆ ถ้าเป็นเรลี่ตอบ ฉันจะไล่ต้อนให้จนมุมเลย
"แล้วไนท์จะไปหาเพนาทำไมเหรอ?"
"เมื่อวานฉันเห็นพี่เพนาไม่สบายน่ะ อาการไม่ดีจนถึงขั้นล้มไปเลยนะ วันนี้ก็เลยว่าจะไปอยู่เฝ้าน่ะแล้วก็เอาของเยี่ยมไปฝาก ^^" ฉันพูดไปภาพที่ฉันจิตนาการว่าได้ไปอยู่เฝ้าไข้พี่เพนาก็ลอยขึ้นมาให้หัวอย่างไม่หยุดหยอน บางทีตอนนี้ฉันอาจจะกำลังยิ้มอยู่ก็ได้ เพราะฉันไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าจะปิดได้มิด :)
"…เหรอ" ฟาตอบพร้อมกับทำหน้าเหมือนคนอมยิ้ม ทั้งๆ ที่คนที่ควรจะยิ้มน่าจะเป็นฉันมากกว่าไหงฟายิ้มแทนเสียอย่างนั่นล่ะ?
"…?" ฉัน
"เฮ้ย ออกอาการมากไปมั้งฟา" คราวนี้เป็นเรลี่ที่เดินเข้ามาพูดกับฟาพร้อมกับวางมือไปบนไหล่ฟาทำเอารอยยิ้มที่มีอยู่เมื่อกี้ถึงกับมลายหายไปทันที ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขายังเอาแต่นั่งไม่สนใจว่าฉันจะทำอะไรอยู่เลยแท้ๆ
"ออกอาการอะไรของแก?" ดูเหมือนสติของฟาจะโดนเรียกเข้าร่างด้วยฝีมือเรลี่เรียบร้อยแล้วแฮะ
"แกน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะ" เรลี่พูดเรื่องอะไรบางอย่างที่ฉันไม่เข้าใจ แม้จะอยากรู้แต่ก็ไม่อยากถามให้เสียหน้า ดังนั้นด้วยความที่ฉันกลัวเสียหน้ามากกว่าจึงไม่ได้ถามออกไป
"ฉันเปล่าซักหน่อย" ฟาทำท่าเหมือนไปยอมรับสิ่งที่เรลี่กล่าวหา ก่อนจะหันมาทางฉันอีกครั้ง "ไหนๆ เพนาไม่อยู่ ไนท์ก็อยู่กินมื้อกลางวันก่อนสิ" ฟาออกปากชวน
"อืม ขอบใจนะ" เพิ่งจะได้กินข้าวที่บ้านฟาเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย ให้เดาว่ามันต้องอร่อยมากแน่ >_<
"หวานกันจริงนะ เฮอะๆ" ฉันเริ่มจะไม่เข้าใจจริงๆ แล้วนะ ว่าเรลี่ต้องการอะไรกันแน่ถึงได้มาขัดฉันกับฟาทุกทีแบบนี้ -*-
"แกอย่ามาหาเรื่องน่าเร" ฟา
"ใครว่าฉันหาเรื่อง ฉันแค่พูดลอยๆ"
"แกก็รู้มันไม่มีทางเป็นแบบนั้น -*-" ฟาเริ่มไม่พอใจ ถ้าเป็นฉันมีเพื่อนแบบนี้อาจจะตัดเพื่อนไปนานแล้วก็ได้ เฮอะๆ
"ไม่แน่ๆ" เรลี่ยังยิ้มกวนประสาทไม่เลิก
"เร" ฟากดเสียงต่ำ
"โอเคๆ ฉันไม่ยุ่งแล้วก็ได้" เรลี่บอกปัดพร้อมกับเดินไปนั่งโซฟาที่เดิม
หลังจากที่สงบศึกกับไป ฟาก็นอนพักต่อ ส่วนฉันกับเรลี่ก็นั่งอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิม โดยที่เรลี่เป็นฝ่ายชวนคุยก่อน ซึ่งฉันก็ไม่ได้อยากเล่าไอ้บทสทนากวนประสาทไม่เลิกนั่นหรอกนะ เชื่อเถอะถ้าใครได้ไอ้หมอนี่ไปเป็นแฟนอนาคต คนนั้นต้องได้เป็นจิตแพทย์แน่ ไม่งั้นคงไม่มีทางทนความกวนของหมอนี่ได้หรอก ถึงแม้จะกวนประสาทไปซะหน่อยแต่พอได้คุยไปสักพักถึงรู้ว่าเขาเป็นลูกชายผู้อำนวยการโรงเรียนที่ฉันเรียนอยู่ ไม่นึกเลยว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ แต่พอรู้แบบนี้ทำให้ฉันเริ่มจะเดาออกว่าใครคือคนที่พี่เพนาคุยโทรศัพท์ด้วยบ่อยๆ ถ้าอย่างนั้นเขาคงรู้ความลับของพี่เพนาด้วยแน่ๆ ความลับที่ฉันพยายามจะรู้อยู่ ตอนนี้คนที่ให้คำตอบได้คงไม่พ้นเรลี่ แต่ฉันจะไปลวงเอาคำตอบนั่นมาได้ยังไงเนี่ยสิปัญหา ยังไงซะเขาก็เป็นเพื่อนฟาคงหาโอกาสเจอได้ไม่ยาก ถึงจะไม่ได้อยากเจอก็เถอะ แต่การจะลวงเอาความลับมา มันก็คงเลี่ยงได้ เฮ้อ…ให้โนมาแทนได้มั้ยน้า มันจะยอมมารึเปล่าเนี่ยสิ U_U
ความคิดเห็น