ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Twin's love of prince มายารักคว้าหัวใจยัยจอมห้าว

    ลำดับตอนที่ #13 : เยี่ยมไข้สุดระทึก

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 57


    เมื่อวานฉันอยู่ส่งพี่เพนากลับบ้านเป็นเรียบร้อยแล้วก็จริง แต่ก็คิดว่าจะไปเยี่ยมอยู่ดี

    จริงสิ! ในเมื่อพี่เพนาอยู่แถวๆ ร้านฟาก็ไปหาฟาด้วยเลยล่ะกัน จะได้ไปพิสูจน์เลยว่าฉันยังไม่เบี่ยงเบนแน่นอน ใจลึกๆ ฉันว่าฉันยังปกติดีอยู่นะไม่คิดจะหันไปชอบผู้หญิงด้วยกันเพียงเพราะอยู่โรงเรียนหญิงล้วนด้วย จะว่าไปที่โรงเรียนก็มีคนสวยๆ อยู่ตั้งหลายคน ฉันไม่เห็นจะสนใจสักคน - -

    เอาว่ะ! ยังไงมันก็ต้องเอาให้แน่ๆ ไปเลยจะได้ไม่ต้องมาตามกังวลที่หลังด้วย

    ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจได้สักที มือก็จัดอาหารที่จะเอาไปเยี่ยมไข้พี่เพนาแล้วก็ของฝากของฟาไปด้วย อ้อ! ฉันคงยังไม่ได้บอกสินะ ว่าตอนนี้เวลาประมาณ 6 โมงเช้าแล้ว ฉันถึงได้ลุกขึ้นมาทำอาหารแล้วก็จัดใส่กล่องอย่างสวยงามเพื่อเอาไปให้พี่เพนากับฟาโดยเฉพาะ ส่วนโนมันก็กำลังนั่งกินข้าวอยู่ข้างๆ ฉันเนี่ยแหละ

    "สรุปวันนี้แกจะโดด?" โนถามในขณะที่มือมันก็ยังจับช้อนโกยข้าวใส่ปากอยู่

    "อือ ฝากแกเรียนแทนด้วยล่ะกัน" ฉันตอบไปแบบไม่ได้หันไปมอง

    "อื้ออออ~ จะว่าไปช่วงนี้ก็ไม่ค่อยเห็นฟาเลยเนอะ" อยู่ๆ มันก็เปลี่ยนหัวข้อการสทนาเพราะไม่มีอะไรจะพูดต่อ ส่วนฉันก็หย่อนตัวลงมานั่งเก้าอี้ข้างๆ มันหลังจากที่เพิ่งจะจัดเสร็จไปไม่ถึงนาที

    "จะไปว่าก็ใช่แฮะ" คิดๆ ดูช่วง 2-3 วันนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าฟาจริงๆ แหละ ขากลับผ่านร้านก็ไม่เห็น

    "ไหนๆ แกจะไปหาพี่เพนาแล้วก็ไปหาฟาด้วยเลยดิ" มันช่างเกิดมาสมกับเป็นฝาแฝดกับฉันอะไรเยี่ยงนี้ คิดแบบเดียวกับฉันเป๊ะเลยอ่ะ OoO!

    "ไอ้โน! แกคิดเหมือนฉันเลยว่ะ"

    "แล้วมันแปลกตรงไหน ไอ้เรื่องแบบนี้ใครมันก็คิดได้ -_- "

    มันขัดฉันอีกแหละ -3-

    " :( "

    "เฮ้อแกนี่มันปัญญาอ่อนขึ้นทุกวันจริงๆ นะ" มันด่าฉันด้วยสีหน้าเอือมๆ อย่างสมจริงสมจังมากกกกกกกก

    "อาจจะเป็นเพราะฉันได้แกเป็นต้นแบบหุๆ" ฉันแอบสวนกลับไปด้วยความสะใจ

    "วันนี้แกเลิกหวังเรื่องที่ฉันจะเก็บชีทหรืออะไรก็ตามไว้ให้แกได้เลย" โนโต้กลับมาแบบเรียบๆแต่น่ากลัวมากกกกกกก เพราะฉันรู้ว่ามันเอาจริง T^T

    "เฮ้ย! เมื่อกี้ฉันบอกว่าฉันอย่างจะดูมาจากการ์ตูนมากไป ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแกเลยสักนิดจริงๆ นะ *O* " มันซึ่งทำท่าจะลุกไปหยิบกระเป๋าก็ถูกหยุดด้วยการที่ฉันเอาตัวเข้าไปขวางไว้ก่อนพร้อมกับส่งสายตาระยิบระยับเพื่อเป็นการยืนยันความจริงใจไปด้วย

    "เหรอ~ งั้นกลับมาก็ขอไอติมรสชาเขียวสักถ้วยล่ะกันนะ ^^ "

    ได้ทีเอาใหญ่เลยนะไอ้โน -*-

    "เออๆ แกจะไปเรียนก็ไปเลยไป๊!" ฉันหมดอารมณ์ที่จะต่อรองกับมันเรื่องนี้ไปแถบจะทันที

    "ไปล่ะ >_O"

    ปัง!

    มันขยิบตาได้น่าหมั่นไส้มาก~ แล้วมันก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วพร้อมปิดประตูให้อย่างเสร็จสับ ทำเอาฉันโต้กลับไปไม่ทันเลย ชิ!

     

    หลัวจากที่โนออกไปได้สักพักฉันก็ก้าวออกมาจากห้องสักที โดยไม่ลืมที่จะหิ้วของเยี่ยมต่างๆ ออกมาด้วย ก่อนจะใช้มอเตอร์ไซค์อีกคันขับไปร้านฟา

    เอี๊อดดดด!

    ฉันเบรกจอดในที่จอดรถของร้านฟาอย่างมือโปร ก่อนจะลงจากรถพร้อมกับของเยี่ยม พอเดินมาที่หน้าร้านปุ๊บก็เจอปัญหาปั๊บ

    ร้านปิด!

    แล้วจะเข้าไปยังไงล่ะทีนี้ เวลาปกติก็แถบจะโดยพนังงานของที่นี้ถีบกระเด็นออกมาเพราะจะเข้าไปหาฟาอยู่แล้ว นี่เล่นปิดร้านเลยฉันจะเข้าไปได้ยังไงฟ่ะ!?

    ลองโทรหาฟาก่อนล่ะกัน

    ตู๊ดตู๊ดกรุณาฝากข้อความ บลาๆๆๆ

    ไม่ติด -*-

    เจริญล่ะทีนี้ ถ้าจะเข้าไปก็คงต้องแอบเข้าทางประตูหลังหรือไม่ก็ปีกขึ้นไปทางหน้าต่างแล้วล่ะ

    สายตาของฉันกวาดมองไปรอบๆ ร้านเผื่อจะมีประตูหลังหรือหน้าต่างเปิดอยู่พอจะให้ปีนขึ้นไปได้ ถ้าเป็นคนปกติเขาก็ต้องกลับไปแล้วล่ะ ถึงจะบอกว่ามาหาก็เหอะ เล่นปิดซะหมดแบบนี้คงไม่มีใครคิดจะปีนเข้าไปเพี่อไปเยี่ยมให้ได้แน่ๆ คิดไปคิดมารู้สึกเหมือนด่าตัวเองยังไงก็ไม่รู้แฮะ

    - -;;;

    เฮ้ย! ยังเหลือหน้าต่างอีกบานยังไม่ได้ปิด ถึงมันจะอยู่สูงไปหน่อยแต่ก็น่าจะไหวอยู่

    ฉันวางของพร้อมกับเดินไปที่รถอีกครั้งเพื่อจะเอาเชือกที่อยู่ใต้เบาะนั่งมาผูกของแล้วค่อยดึงขึ้นไปหลังจะที่ขึ้นไปได้แล้วอ่ะนะ ถ้าจะให้เอาของไปด้วยมีหวังเละหมดกันพอดี ส่วนเชือกฉันมีอยู่ใต้เบาะตลอดนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเอาไปปีนขึ้นบ้านใครต่อใครบ่อยๆ สักหน่อย แค่ใส่ไว้เมื่อนานมาแล้วแต่ดันลืมเอาออกเท่านั้นเอง

    เมื่อเตรียมการพร้อมฉันก็ลงมือผูกเชือกไว้กับเอวของตัวเองก่อนจะเอาปลายอีกด้านไปผูกไว้กับของเยี่ยมอีกทีเป็นอันเรียบร้อย สายตาเริ่มไล่มองความสูงและหาเส้นทางที่จะปีนขึ้นไปก็พบส่วนต่างๆ ที่ยื่นออกมาจากผนังเรียบๆ พอให้เป็นทางปีนขึ้นไปได้อย่างพอดิบพอดี

    "ฮึบ!"

    ฉันค่อยๆ สาวเท้าก้าวไปอย่างระมัดระวัง เพราะตอนนี้ฉันไม่มีอุปกรณ์ความเซฟความปลอดภัยใดๆ ทันสิ้น สิ่งเดียวที่ห้อยติดตัวฉันมาก็คือเชือกที่ผูกติดกับกระเป๋าของเยี่ยมนั่นแหละ

    "ฟู่~ เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ"

    พอปีนขึ้นมาได้ระดับหนึ่งมันก็เริ่มเหนื่อยขึ้นมาหน่อยๆ แล้วเหมือนกัน สายตาฉันกวาดมองไปด้านล่าง เห็นแล้วก็เสียวว่าจะตกลงไปจริงๆ ถ้าตกไปนี่ศพไม่สวยเลยนะนั่น - -;;;

    สักพักขาฉันก็ได้มายืนบนพื้นเรียบๆ เสียที อ่าใช่ เกือบลืมดึงของเยี่ยมขึ้นมาเลยนะเนี่ย เมื่อสาวของขึ้นมาเรียบร้อยฉันถึงจะเห็นว่าภายในโซนที่ฟาอยู่เป็นยังไง ไม่อยากเชื่อนี่ฉันหลงมาผิดที่รึเปล่าเนี่ย!?

    อลังการสุดๆ ! ระยิบระยับจนแสบตาไปหมดเลยอ่ะ OoO~

    หันซ้ายก็เจอแจกันขนาดใหญ่สีเงินเงาวิบวับประดับไปด้วยดอกไม้สดซึ่งถูกจัดวางอย่างสวยงามจนฉันไม่กล้าที่จะเข้าไปแตะต้อง (กลัวมันจะพังแล้วไม่มีเงินจ่ายคืน) แต่มันไม่ได้มีเพียงอันเดียวเมื่อไล่สายตาไปตามทางเดินก็ปะทะเข้ากับแจกันอีกหลากหลายรูปแบบพร้อมกับวิธีการจัดดอกไม้ที่แตกต่างกันไป โอ้! พระเจ้า! ฉันว่าตัวเองรวยแล้วนะ แต่นี่มันหรูกว่าที่ไหนๆ ที่ฉันเคยเจออีกนะ แต่ฉันยังไม่ทันได้เป็นลมกับความอลังการของมัน ก็ต้องหันมาทางขวาเพื่อดูให้ครบ!

    วะว้าวววววววววววววว *O*

    ทางด้านขวาคือหน้าตาสุดหรูที่ฉันปีนขึ้นมาเมื่อกี้! แม้ภายนอกจะดูธรรมดา แต่พอเข้ามาข้างในมันไม่ธรรมดาเลยสักนิด! สรุปว่านี่คือบ้านสามัญชนใช่มั้ย? นี่คงไม่ใช่บ้านเจ้าชายจากประเทศไหนสักที่แห่งหลบมาหลีกภัยที่ไทยหรอกนะ OoO!?

    สองขาเริ่มพาตัวฉันเคลื่อนไปเรื่อยๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นในความอลังการภายในบ้านหลังนี้ ก่อนจะชะงักไปด้วยเสียงฝีเท้าของคนหลายคนซึ่งมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ฟังๆ ดูแล้วเดินได้เป็นระเบียบและก็พร้อมเพรียงกันมากราวกันถูกฝึกมาเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาพิจารณาเสียงฝีเท้านี่หว่าไม่หลบ = ถูกเจอ = โดนโยนออกไป

    เฮ้ย!!! ทางโล่งๆ แบบนี้จะหลบที่ไหนทันวะ -[]-!!!

    อ๊ากกกกกกกกกกกกก~

    ฉันหันซ้ายหันขวาหาทางรอดสุดชีวิต ในเมื่อไม่มีที่ให้หลบก็ต้องวิ่งไปก่อนล่ะวะ แต่ถ้าวิ่งดังคนก็รู้อีก ถ้าย่องไปก็ตายอยู่ดี! โอ๊ย! มันจะมีทางรอดเหลือไว้ให้บ้างมั้ยเนี่ย

    ควับ! ควับ!

    ฉันหันซ้ายหันขวาหาทางรอด มีประตูบานหนึ่งอยู่ที่สุดทางเดินเอาวะ งานนี้ไม่วิ่งท่าทางจะไม่รอดวิ่งให้เบาที่สุดล่ะกัน

    จึ๋ง จึ๋ง จึ๋ง

    ไม่ต้องสงสัยไปว่าไอ้เสียงข้างบนน่ะมันคืออะไร มันคือเสียงวิ่งที่เบาที่สุดของฉันเองแหละ พอวิ่งมาถึงหน้าประตูฉันก็ไม่รอช้าที่จะเปิดเข้าไปซ่อนตัวทันที

    คลิก!

    เฮ้อรอดแล้วมั้ง ฉันปิดประตูก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ยังไม่ทันไรก็ต้องกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดังลอดผ่านออกมาจากห้องข้างๆ

    "ยาสำหรับเช้านี้เพคะ รับประทานหลังทานอาหารเช้าเสร็จเพคะ" เสียงผู้หญิง น้ำเสียงฟังดูเคารพนับถือคู่สนทนาน่าดู แถมยังมีเพคะอีก มันเป็นการพูดสุภาพแบบใหม่เหรอ -0-;;;

    "ขอบใจ ออกไปได้แล้ว" คราวนี้เป็นเสียงผู้ชาย ฟังดูมีอำนาจเด็ดขาด แต่ฉันกลับรู้สึกคุ้นหูแปลกๆ

    "ปวดหัวชะมัด" น่าจะเป็นเสียงผู้ชายคนเดิมแต่ฟังดูอ่อนกว่าเมื้อกี้เยอะ

    เงียบ

    รู้สึกว่าคนห้องข้างๆ ฉันจะหลับไปแล้วมั้ง ได้ยินว่าต้องกินยาคงกำลังไม่สบายอยู่ว่าแต่ว่านั้นเสียงใครกัน ทำไมฉันถึงได้คุ้นหูแบบนี้นะ จะว่าไปเสียงพี่เพนาตอนเพ้อที่ห้องประธานก็คุ้นเหมือนกัน แต่ก็นึกไม่ออกทั้งคู่ - -

    บางทีฉันอาจต้องไปหาอะไรมาดื่มบำรุงสมองซะบ้างแล้วสิ จะได้นึกอะไรๆ ออกง่ายกว่านี้ นึกไม่ออกแบบนี้มันให้ความรู้สึกค้างๆ ยังไงไม่รู้

    "ใช่ๆ เห็นว่าอยู่ๆ เจ้าชายก็ป่วยขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเย็นวานน่ะ ตอนกลับมาถึงพวกองครักษ์ถึงกับปิดร้านชั้นล่างอย่างกะทันหันเลยนะ" อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงดังลอดออกมาจากทางประตู เล่นเอาฉันสะดุ้งโหยงมุดหาทีหลบแถบไม่ทัน

    "แน่ล่ะ ยังไงพวกองครักษ์ก็มีหน้าที่ต้องดูแลเจ้าชายให้ดีที่สุดนี่"

    "จะว่าไปถ้าเจ้าชายทรงล้มป่วยไปแบบนี้ พวกต่อต้านก็จะยิ่งมีโอกาสทำร้ายได้ง่ายขึ้นน่ะสิ"

    "ตายแล้ว! เธอพูดอะไรแบบนั้น"

    "ก็มันจริงนี่! ฉันก็กลัวเหมือนกันนะ"

    "เจ้าชายทรงมีเมตตากับพวกเรามากนะ เธอจะทิ้งเจ้าชายไปแล้วเอาตัวรอดคนเดียวงั้นเหรอ?"

    "…โธ่ อย่าจริงจังสิ ฉันก็พูดไปงั้นแหละ เจ้าชายทรงดีกับเรามากมายแบบนี้จะให้ฉันไปไหนได้"

    "เธอจำคำพูดของตัวเองให้ดีนะ อย่ามากลับคำทีหลังแล้วกัน"

    "ฉันภักดีต่อเจ้าชายเพียงคนเดียวเท่านั้น"

    อาเป็นบทสนทนาที่น่าสนใจไม่น้อย น่าเสียดายที่ฉันไม่เห็นหน้าของสองคนนี้ไม่งั้นฉันคงได้เห็นสีหน้าตอนพวกเธอพูดกันด้วย มันคงสนุกกว่านี้

    คลิก!

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นใกล้ๆ บ่งบอกว่าพวกเธอได้เข้ามาในห้องนี้แล้วหลังจากที่ยืนคุยกันหน้าประตูเสร็จ มือของฉันดึงเศษผ้ามาบังตัวให้มิดยิ่งขึ้นเพื่อความไม่ประมาทแต่ก็ยังคงมีช่องเล็กๆ ให้ฉันได้ส่องดูว่าพวกเธอทำอะไรกัน

    ทั้งคู่แต่งตัวเหมือนกันคล้ายจะเป็นเครื่องแบบทำงานอะไรยังงี้มากกว่าจะเป็นชุดใส่เล่น ดูจากที่พวกเธอกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่ตะกร้าน่าจะเอาไปซัก (ลืมบอกไปว่าห้องที่ฉันอยู่น่าจะเป็นห้องที่ไว้ใช้เก็บเสื้อผ้าที่จะเอาไปเตรียมซัก) หรือว่าพวกเธอจะเป็นแม่บ้านกันแต่ดูจากหน้าตาแล้วยังสาวอยู่เลยนะนั่น แล้วเจ้าชายนั่นอีกสรุปนั้นคือชื่อคนป่ะ คงไม่ใช่เจ้าชายจริงๆ หรอกมั้ง มีแต่เรื่องที่ชวนงงวุ้ย! =*=

    เวณล่ะ! ไหงสาวใช้หนึ่งในนั้นถึงได้เดินตรงมาทางนี้ล่ะเนี่ย OoO!

    เฮ้ยๆๆ ! ผะ ผ้า! ผ้าๆ สาวใช้คนนั้นกำลังดึงผ้าที่ปิดร่างฉันออก!!!

    พรึบ!

    "กรี๊ดดดดด!!!" สาวใช้คนที่เปิดเจอฉันร้อง

    "กรี๊ดดดดด!!!" ฉันก็ร้อง -[]-

    ราวกับทั้งฉันและเธอเห็นผี! ต่างฝ่ายต่างกระโดดแยกออกจากกันไปคนล่ะทาง สาวใช้กระโดดไปเกาะเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันด้านหลัง ส่วนฉันกระโดดไปทางหน้าต่าง

    หน้าต่าง!?

    กรี๊ดดดดดดดด~

    โอ๊ย! ทำไมทางที่เราจะหนีมันไม่มีพื้นให้ยืนเรียบๆ ว่ะ ไหงมันเป็นอากาศว่ะเนี่ย TOT

    ตอนนี้ไม่ว่าอะไรที่มือฉันควานจับได้ มันจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวเดียวของฉัน ให้ตายก็ไม่ปล่อย!

    ฮึบ! ตอนนี้สภาพฉันไม่ต่างกับลิงที่เกาะต้นไม้ไว้แน่น แค่เปลี่ยนจากต้นไม้มาเป็นขอบผนังเท่านั้นเอง ฉันใช้ความสามารถในการปีนต้นไม้บ่อยๆ เอามาใช้ปีนผนังแทน อย่างน้อยฉันก็ไม่ตกลงไปศพไม่สวยอยู่ข้างล่างอ่ะนะ ฟู่

    เพียงไม่นานมือฉันก็เอื้อมมาถึงขอบหน้าต่างคาดว่าน่าจะเป็นห้องข้างๆ ที่ฉันตกลงมาเนี่ยแหละ ฉันรู้ว่ามีคนอยู่แถมน่าจะแจ็กพอตแตกเป็นเจ้าชายอะไรนั่นอีกด้วย หลังจากที่ฉันได้ยินพวกนั้นแล้วก็พวกนู่นคุยกันมันก็สามารถวิเคราะห์ออกมาได้อย่างงี้แหละ (พูดเหมือนตัวเองฉลาด =_=) แต่จะให้ทำไงได้ ถ้าให้เลือกระหว่างตกลงไปข้างล่างกับไปตายเอาดาบหน้าข้างบน อย่างน้อยๆ ถ้าขึ้นไปแล้วตายศพก็อาจจะดูดีกว่าลงไปเละอยู่ข้างล่างอ่ะนะ

    เมื่อสิ้นสุดการวิเคราะห์หาทางรอดในสมองฉันจึงตัดสินใจเข้าไปในห้องนั้นอย่างไม่ลังเล(เพราะกลัวตายศพไม่สวย) ทันทีที่เท้าฉันได้สัมผัสพื้นเรียบอีกครั้ง สายตาก็กวาดมองสำรวจห้องที่ตัวเองอยู่ทันที น่าแปลกที่ห้องนี้ไม่มีใครอยู่เยอะแยะเหมือนพวกข้างนอกทั้งๆ ที่ห้องก็ออกจะใหญ่แท้ๆ พลันฉันก้มมองร่างที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ฉันถึงกับช็อคตกใจไป 3 วิเลยทีเดียว -[]-;;;

    ฟะฟา!?

    ทำไมฟาถึงมานอนในห้องนี้อ่ะ!? ฉันอุตส่าห์คิดว่าคนที่อยู่น่าจะเป็นเจ้าชายอะไรนั่นซะอีก ไหงกลายเป็นฟามานอนซะได้ งั้นก็หมายความว่าฟาไม่สบาย?

    ฉันลองเอามือไปทาบที่หน้าผาเพื่อพิสูจน์ว่าไม่สบายจริงรึเปล่า สัมผัสที่รับรู้ได้คือ ร้อน หน้าผากฟาร้อนมาก แม้จะดูเหมือนไม่น่าเป็นห่วงเพราะมีคนคอยดูแลเยอะก็เถอะ แต่ดูจากเหงื่อที่ไหลออกมาขนาดนี้มันก็อดห่วงไม่ได้แฮะ ทั้งๆ ที่คนก็อยู่กันตั้งเยอะ ทำไมไม่มีใครมาเช็ดตัวให้ฟาสักคน -*-

    ก๊อกๆๆ

    "ขออนุญาตเพคะ"

    …!!!

    ผลุบ!

    ทันทีที่ฉันได้ยินเสียงจากประตูสัญชาตญาณการเอาตัวรอดในตัวมันก็บอกให้หาที่หลบด่วน ดังนั้นฉันจึงมุดหายไปในผ้าห่มซึ่งเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยสักนิด

    เฮือก!

    ร่างที่ฉันเข้าไปเบียดเบียนพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตมีการกระตุ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง เตียงนี่ก็ไม่ได้เล็กอะไรนะ แต่ลองคิดดูสิถ้าฉันไปเป็นก้อนอะไรก็ไม่รู้อยู่บนส่วนที่เรียบๆ ของเตียงก็คงไม่วายโดนจับได้นั่นแหละ เพราะฉะนั้นฉันเลยต้องไปมุดอยู่ใกล้ร่างของฟาเพื่อจะได้ไม่เป็นที่ผิดสังเกตจนเกินไป แต่สงสัยใกล้ไปหน่อยมั้ง อิๆ เล่นเอาคนป่วยที่นอนอยู่สะดุ้งเฮือกเลยนี่ :)

    "คะใคร?" เสียงของฟาแหบลงไปมากทีเดียว แต่ก็ฟังดูเท่ไปอีกแบบเหมือนกัน

    เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ ฉันไม่ได้มีความหมายอะไรลึกซึ้งนะ แค่ชมไปตามจริงเท่านั้นอ่ะ -///-

    "ฉันถามว่าใคร?" เสียงของฟาแม้จะแหบแต่ครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกกดดัน ฟังดูเหมือนเสียงที่ฉันได้ยินตอนแอบอยู่ในห้องข้างๆ แต่ก็รู้ว่ายังไงนั่นก็คือเสียงฟาถึงจะฟังดูน่ากลัวแค่ไหนก็กลัวไม่ลงอยู่ดี

    แต่เดียวนะเมื่อกี้เสียงฟาเหมือนที่ฉันแอบได้ยินตอนอยู่ห้องข้างๆ ก็หมายความว่า...คนที่โดนเรียกว่าเจ้าชายอะไรนั่นก็คือฟาอ่ะดิ -[]-

    ฟานายเป็นใครกันแน่?

    มันเป็นคำถามแรกที่เกิดขึ้นในใจฉันเมื่อรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่ขัดแย้งกัน จะว่าไปตั้งแต่รู้จักฟามาฉันก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฟาเลยนี่นา อยู่ๆ ฉันก็เหมือนรู้สึกเศร้าไปอย่างกะทันหันเหมือนความรู้สึกมันฮวบลงไปเฉยๆ อย่างไม่มีสาเหตุ

    แปลกชะมัด ทำไมฉันต้องรู้สึกแย่แบบนี้เนี่ย

    ไม่สิ! นี่มันไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องแบบนี้นี่ ตอนนี้เราต้องหลบให้มิดก่อน!

    ผับผ่าสิ! ดันคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องจนเกือบจะซวยโดนจับได้แบบจังๆ ซะได้ ฉันอยากจะทึกหัวตัวเองแรงๆ ก่อนจะชะงักไป

    ปิ๊ง!

    อยู่ๆ ความคิดอันสร้างสรรค์ก็แล่นเข้ามาให้หัวฉันอย่างทันท่วงที รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉันทันที

    "หึๆ เจ้าถามข้างั้นรึ?" ฉันดัดเสียงให้ฟังดูหลอนที่สุดเท่าที่ทำได้ พร้อมกับมือที่โอบไปบนตัวของฟาอย่างช้าๆ ความคิดแผลงๆ ทำงานในหัวฉันอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งคำสั่งให้ร่างกายทำตามอีกต่างหาก มันทำให้ฉันลืมเรื่องน่าปวดหัวก่อนหน้านั้นไปเลยทีเดียว

    "เฮ้!" เมื่อได้ฟังที่ฉันเข้าไปกระซิบข้างๆ หูตบท้ายด้วยการเป่าลมอ่อนๆ ให้มันขนลุกเล่น ฟาก็แถบจะกระโดดลงจากเตียงเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ

    "หึๆๆ" ฉันหัวเราะแบบสยองอีกครั้ง ฉันสัมผัสได้เลยว่าตอนนี้หัวใจฟากำลังเต้นรัวอยู่เพราะฉันกำลังกอดฟาไม่ให้ดิ้นหลุดออกจากเตียงไปซะก่อนน่ะสิ แต่ไอ้ความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่าหัวใจของฟากำลังเต้นอยู่ในจังหวะไหนมันกลับให้ความรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าฟาส่งความตื่นเต้นมาให้หัวใจฉันเต้นรัวไปด้วย รอบๆ ตัวเริ่มรู้สึกถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนน่าอึดอัด แต่แทนที่ร่างกายฉันจะปล่อยฟาเพื่อคลายความอึดอัดนี้กลับยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีกราวกับฉันกำลังหลบอยู่ยังไงอย่างงั้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ฉันยังรู้สึกแย่ๆ อยู่เลย -///-

    "ปะปล่อย!" น้ำเสียงสั่นน้อยๆ ราวกับกำลังพยายามขู่ฉันด้วยน้ำเสียงเข้มๆ นั่น

    "…" ฉันเงียบไม่รู้จะตอบอะไรดี แม้จะรู้ว่าควรจะขู่ฟากลับไป แต่เหมือนสติที่ควบคุมร่างกายจะกระเจิงหายไปตอนไหนไม่รู้

    "เจ้าชายเพคะ" เสียงเรียกดังจากประตูอีกครั้ง ช่วยดึงเอาสติที่หายไปของฉันกลับมาก่อนจะสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าอยู่ในสถานการณ์แบบไหน

    "เข้ามา! " อยู่ๆ เสียงของร่างข้างๆ ก็ดังขึ้นเรียกความซวยมาให้ฉันอย่างไม่บอกไม่กล่าว O[]O!!!

    คลิ!

    "สั่งให้คนของเจ้าออกไปเดียวนี้!" ฉันบอกร่างที่อยู่ในอ้อมกอดเสียงเข้ม

    "…ทำไม?" ฟาถามกลับมาอย่างยียวนเหมือนจะคิดยั่วให้ฉันร้อนรนเล่น

    "ไม่งั้นข้าจะหักคอเจ้าซะ"

    "…คุณเป็นผี?"

    "ใช่ ข้าตามมาเอาคืนเจ้ายังไงล่ะ" ฉันเล่นไปตามน้ำอย่างสมบทบาท

    "…"

    "ข้าเป็นผีที่มีคุณธรรมพอ แต่เจ้าก็อย่าริอาจเรียกใครเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย!"

    "…ก็ได้ ผมเข้าใจแล้ว" ดูเหมือนฟาจะเชื่อคำพูดของฉัน โชคดีจริงๆ ฟู่ -0- "ไม่ต้องเข้ามาแล้วฉันง่วงมากไม่อยากให้ใครมารบกวนถ้ามีอะไรก็รอให้ฉันตื่นก่อนล่ะกัน"

    "เพคะ" สาวใช้รับคำง่ายๆ ก่อนฉันจะได้ยินเสียงประตูที่เธอเปิดออกไป

    "ผมไล่เธอไปแล้ว"

    "ดีมาก" ฉันยิ้มอย่างพอใจ เมื่อรับรู้ว่าปลอดภัยแล้ว

    "แล้วคุณผีจะเอาคืนผมยังไงเหรอ?" ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฟากำลังมีสีหน้าแบบไหนอยู่ แต่น้ำเสียงกลับฟังดูไม่ตื่นกลัวอย่างเมื่อครู่แล้ว นี่สรุปเมื่อกี้นี้เขาแค่ตกใจเลยกลัวใช่ป่ะ พอตั้งสติได้ก็หายกลัวเลย -3-

    "หึๆ ข้าจะทำให้เจ้ากลัวยังไงล่ะ"

    แหม~ ก็ฉันยังสนุกอยู่นี่ ขอแกล้งฟาเล่นอีกนิดนึงล่ะกัน ถึงแม้ว่าจะปลอดภัยแล้วก็เถอะ :)

    "ผมไม่กลัวแล้ว หึๆ" เสียงฟาเย็นเฉียบน่ากลัวยิ่งกว่าผีหลอมอย่างฉันซะอีกอ่ะ -[]-;;;

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×