คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ทำไมต้องเป็นเรา
ณ คฤหาสน์แก้วที่อยู่ ณ สรวงสวรรค์ชั้น19
"นี่ !พวกเรามีสาสน์จากเทพลูฟเฟอร์มาแหนะ" เพเนโรปี้พูดพร้อมชูสาสน์ขึ้น
"เปิดอ่านดูสิ ดูซิว่าท่านจะมีอะไรใช้พวกเราอีก" เชอร์เซ่พูดพร้อมทำหน้าไม่สบอารมณ์
"เอ้า อ่านสิ อ่านสิ" ฟินิตี้พูดอย่างอยากรู้อยากเห็น
"จะอ่านละน้า~ แฟร์รี่ทั้งสาม ข้ามีเรื่องให้พวกเจ้าช่วย คือตอนนี้มีทูตสวรรค์ได้กลายเป็นซาตานเพราะความโลภของเขาและได้หนีไปโลกมนุษย์เพื่อหลอกลวงให้มนุษย์ทำชั่ว แฟร์รี่ทั้งสามเจ้าจงไปตามจับตัวซาตานทั้ง13ตนให้จงได้เถิด" เมื่อเราทั้ง3ได้ฟังก็ต้องร้องออกมาพร้อมกันว่า
"13ตน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
"แล้วเรามีกันอยู่3ตนแล้วตองไปจับซาตาน13ตนเนี่ยนะ" ฉันพูดอย่างโมโหๆ
"แต่ซาตานเนี่ย เขาบอกกันว่าหล่อใช่ปะ" เชอร์เซ่พูดอย่างมีเลศนัย
"อืม" เราสองคนพยักหน้าพร้อมกัน
"โอ้ ตั้ง13คนแหนะ สงสัยงานนี้ฉันต้องเสียบริสุทธิ์แน่เลย อิอิ" เชอร์เซ่พูดพร้อมทำหน้าหื่นซะเต็มประดา
" หื่น!!!" เรา2คนพูดใส่หน้าเชอร์เซ่พร้อมกัน
"แฮะๆ" เชอร์เซ่ยิ้มแหยๆ
"ตกลงว่า พวกเราแน่ใจเหรอกับการตามจับตัวซาตานพวกนั้นอะ" ฉันถามอย่างไม่มั่นใจ
เราสองคนก็ส่ายหน้าพร้อมกัน ก็ใครจะมั่นใจได้ละ ซาตานนะ ถึงจะหล่อแต่ก็คงจะชั่วร้ายน่าดูและนี่ก็ตั้ง13ตน ใครจะมั่นใจได้แต่ถ้าส่งเทวดาสัก10ตนมาช่วยก็คงจะมีความมั่นใจบ้างแต่พวกเรามีแค่3คนเองจะทำอะไรซาตานพวกนั้นได้
"งั้น ก็ประท้วงละกัน" ฉันออกความเห็น
"ยังไงละ แบบพันธ_ตรอะเหรอ"
"ประมาณนั้น"ฉันบอก
"แล้วเราจะหาสะพานมัฆวานจากไหนละ" เพเนโรปี้พูดอย่างนางฟ้าใสซื่อบริสุทธิ์ซึ่งไม่เคยผ่านโลกมาก่อน
เราสองตนกุมขมับอย่างหนักใจทันที
"กรรม! =.=!" ฉันพูดอย่างหนักใจ
"เพเนโรปี้เพื่อนเลิฟจ๊ะ" เชอร์เซ่พูดพร้อมเดินมาตบไหล่อันบอบบางของเพเนแล้วพูดว่า
"อืม สะพานมัฆวานนะเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆจ๊ะ แล้วจะเอามันมาทำไม!!!!หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
หวาย เชอร์เซ่จะกลายเป็นซาตานไหมเนี่ย โมโหแรงแบบนี้ ระวัง เส้นเลือดในสมองแตกนะจ๊ะ
" ทะทะทำไม ต้องโมโหขนาดนั้นด้วยอ่า" เพเนพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัว ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำตาที่ค่อยไหลออกมา เชอร์เซ่ยืนกุมขมับอย่างระเหี่ยใจ ต้องเหนื่อยฉันอีกแล้วที่ต้องคอยปลอบเพเนผู้บอบบาง
"โอ๋ๆ เพเน อย่าร้องไห้เลยนะ เชอร์เซ่แค่พูดเล่นหนะ อย่าร้องเลยนะ"
"ใช่ๆ ฉันขอโทษ ก็พูดเล่นๆไปอย่างงั้นเอง แกก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง" เพเนเช็ดน้ำตาแล้วบอกว่า
"ได้ ฉันจะพยายามเข้าใจแกก็แล้วกัน" เพเนพูดอย่างโหดเหี้ยมซึ่งไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน แม่เจ้า! น่ากลัวโคตร
เราสองคนอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก
"พะพะเพเนแกเป็นอะไร" เชอร์เซ่พูดอย่างกล้าๆกลัวๆ ในขณะที่เพเนกำลังลมออกหู
"เปล่า แค่ของขึ้น"
"อะจ๊ะ จ๊ะ" หลังจากพายุทอนาโดสงบลง พวกเราก็มานั่งเครียดกันต่อก่อนที่จะตัดสินใจไปพบเทพลูฟเฟอร์
ณ ห้องว่าการของเทพลูฟเฟอร์
"พวกเจ้าทั้งสามมีอะไรข้องใจเหรอ ถึงมาหาข้าถึงที่นี่"
"มีแน่นอนคะ คือว่า เรื่องที่ให้พวกเราไปจับซาตานนะคะ คือว่า พวกเรามีแค่สามแต่พวกนั้นมี13นะคะ"
"แล้วไง นี่คือคำสั่งจากท่านอิรอสเซอร์อีกทีหนะ รู้ไหม ท่านไว้ใจพวกเจ้ามาก ถึงยอมให้พวกเจ้ารับงานที่สำคัญที่สุดของสวรรค์ได้"
"แล้วเราจะรับมือกับซาตานพวกนั้นไหวได้ยังไงกันคะ" ฉันถาม
"ง่ายมาก ข้าจะมีอุปกรณ์วิเศษให้เจ้าไป ไม่ว่าจะเป็น..." ท่านลูฟเฟอร์ พูดไปขณะที่มือก็วาดไปบนอากาศจนปรากฏจอภาพที่แสดงรูปร่างและความสามารถของอุปกรณ์วิเศษพวกนั้น
"เชือกเลเซอร์ ซึ่งมีความเหนียวมากกกกกกกกกกก ตัดไม่ขาด มัดง่าย ทนต่อความร้อน และไม่ลื่นมือ"
เชือกสีแดงๆเนี่ยนะจะตัดไม่ขาด มีอะไรที่มันดูดีกว่านี้อีกไหมเนี่ย
"และต่อไปคือ น้ำเต้าวิเศษซึ่งหงอคงเคยถูกจับมาแล้ว" เกี่ยวไรกันเนี่ย =,=! จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เชื่อไม่ค่อยได้เลย
"พอก่อน ตกลงพวกเจ้าจะรับงานนี้ไหม"
"ยังมีทางเลือกเหลือให้พวกเราอีกเหรอคะ ท่านลูฟเฟอร์"
"ฮ่าๆๆๆ ก็ไม่มีไง"
"แล้วท่านจะถามทำไมคะ"
"ก็...ถามให้พวกเจ้าดูมีทางเลือกหน่อยไง อิอิ" ท่านลูฟหัวเราะอย่างชอบใจที่ได้แกล้งพวกเรา
"แน่ใจนะว่านี่ท่านลูฟเฟอร์ เจ้านายของเราจริงๆอะ" เชอร์เซ่กระซิบถามพวกเรา
"ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่อะ" ฉันพูด
"แต่ก่อนไม่เป็นอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ" เพเนถามอย่างไร้เดียงสา ในขณะที่ท่านลูฟเฟอร์ก็ยังคงหัวเราะกับคำพูดของท่านต่อไป พวกเราก็ได้แต่ยิ้มแหยๆให้ท่าน จนกระทั่งมีภูตผีเสื้อน้อยซึ่งเป็นเลขาฯของท่านลูฟเฟอร์เข้ามาแล้วบอกด้วยเสียงที่ดูน่ารักของตนว่า
"ท่านลูฟเฟอร์คะ ท่านอิรอสเซอร์มาขอพบคะ" เมื่อท่านลูฟเฟอร์ได้ยินชื่อของท่านอิรอสเซอร์ก็หยุดหัวเราะทันทีแล้วบอกกับภูตผีเสื้อน้อยว่า
"บอกท่านว่า เดี๋ยวข้าจะไปพร้อมแฟร์รี่ทั้งสามนี่นะ" ภูตผีเสื้อพยักหน้าหงึกๆแล้วบินออกไปก่อนที่ท่านลูฟเฟอร์จะหันมาพูดกับพวกเราว่า
"ไป เดี๋ยวพวกเจ้าไปกับข้าแล้วทำตัวสำรวมด้วยนะ ท่านอิรอสเซอร์ท่านไม่ชอบแฟร์รี่ที่ทำตัวไมเหมาะสม"
"คะ" พวกเรารับคำกันอย่างพร้อมหน้า ก่อนจะมุ่งหน้าไปพบท่านอิรอสเซอร์ซึ่งกำลังรอพวกเราอยู่ที่ห้องน้ำชาของปราสาทว่าการของท่านลูฟเฟอร์ เมื่อพวกเราเข้าไปถึงก็เจอกับตาแก่คนหนึ่งนั่งอยู่ที่โซฟาคริบทองสุดหรูด้วยอาการร้อนใจ ก่อนจะพูดด้วยเสียงอันสั่นเทา(คนแก่ก็เป็นอย่างเนี่ยแหละ)ว่า
"มาพร้อมหน้าพร้อมตากันก็ดีแล้ว ข้าจะได้ไม่เสียเวลามาก นั่งสิ" ตกลงว่านี่ปราสาทว่าการของใครกันแน่เนี่ย แทนที่ท่านลูฟเฟอร์จะเป็นคนเชิญ ตาแก่นี่กลับเป็นคนเชิญซะเอง พวกเรานั่งลงที่โซฟาคริบเงินข้างๆโซฟาคริบทองพร้อมกับท่านลูฟเฟอร์ซึ่งท่านก็มานั่งโซฟาตัวเดียวกับเราเสียด้วย แสดงว่าท่านเกรงใจตาแก่คนนี้มากแน่ๆเลย แต่ก็อย่างว่าอะเนอะ ก็ตาแก่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นถึงเทพที่ใหญ่ที่สุดของสวรรค์ชั้น19นี่
"เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า" ตาแก่ตนนั้นพูดขึ้น ก่อนจะวาดมือไปบนอากาศซึ่งไม่นานก็ปรากฏเป็นจอภาพขึ้นมา
"นี่คือ หัวหน้าแก๊งซาตานหรือหัวหน้าแก๊งThirteen Divinity หรือตัวย่อว่า TD.
โห ชื่อ หรูหรามากกกกกกกกกกก แน่ใจเหรอว่านี่ ชื่อแก๊งซาตานไม่ใช่นักร้องเกาหลี
"นี่คือ Dimple" อ้ายยยยยยยยยยยยยยยอยากจะกรี๊ดให้ดังลั่นสวรรค์ ซาตานชาติไหนฟะเนี่ยหล่ออย่างกะเทพบุตรเลย หน้าก็ขาววววววววว ผมทรงเกาหลีสีทองปนดำ มีลักยิ้มด้วย เอิ๊ก!!!!!!!!!!!หล่อ น่ารัก เหมาะกับเรา อิอิ
"บุคลิกของเขาก็คือ ไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่แต่ถ้ายิ้มออกมาละก็คนที่ได้พบเห็นโดยเฉพาะผู้หญิงก็จะตกอยู่ในมนต์สะกดของเขา พอเขาสั่งให้ทำอะไรละก็จะทำตามที่เขาสั่งหมดทุกอย่าง" แหมจะไม่ให้อยู่ในมนต์สะกดยังไงไหวก็ คุณเธอเล่นหล่อซะขนาดนี้
"ส่วนนี่ Pigger" ดูก็ท้วมๆ น่าตาก็โอเค น่ารักดี แต่สงสัยว่า จะบินไหวไหม จะหนีพวกเราทันเหรอเนี่ย ถ้าคิดภาพละ พวกเรากำลังจะไปจับ วิ่งตามล่ากัน ทุกคนหนีกันเร็วมาก เหลือพิกเกอร์ คนเดียวที่หนีพวกเราไม่พ้น ดีไม่ดี ถ้าหกล้มละก็ 5555+++ ฉันนึกไปก็หัวเราะ+อมยิ้มนิดๆระหว่างที่ท่านอิรอสเซอร์ก็พูดถึงบุคลิก
"เขามีดีที่รูปร่าง" แน่ใจเหรอคะ อิอิ
"เขาสามารถทำตัวกลมเป็นลูกบอลได้ และสามารถกลิ้งไปชนสิ่งต่างๆที่เขาอยากให้ไปชนได้"
"ส่วนนี่ Lilium" แม่เจ้ายิ้มมีเสน่ห์มากกกกกกกกกกกกก ดวงตาก็ดูมีเสน่ห์ ไม่น่าเป็นซาตานเลย
"เขาจะไม่ค่อยพูดแต่เมื่อพูดเวลาเขาโกรธลมที่ออกจากปากเขาเวลาเขาพูดก็จะกลายเป็นพายุทอร์นาโดพัดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบข้างโดยที่เขาไม่สามารถควบคุมได้แต่เพื่อนๆของเขาจะรู้ดีจึงพากันใช้คาถา สยบพายุ ซึ่งเป็นคาถาเฉพาะกลุ่ม ไม่มีใครใช้ได้ผลนอกจากจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับเขา" พูดจบเขาก็เปลี่ยนหน้าไป
"แล้วก็Can'stop" แม่เจ้าโว้ยยยยยยยยย น่ารักน่ารักจริงๆนะ
"เขาชอบเต้นมากเต้นได้แบบไม่มีเงื่อนไขเต้นได้ทุกท่าเต้นไม่หยุด และการที่เขาชอบเต้นเนี่ยแหละ ทำให้เขาทำอะไรได้รวดเร็วมากแม้กระทั่งจะลอบฆ่าก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา" แล้วพวกเราจะเหลือไหมเนี่ย --^^^^^^^^--
"ต่อมา คือ Deepper เขาเป็นคนที่หน้าเด็กมากกกกกกกกก" ไม่บอกก็รู้คะ หน้าเด็กแถมยังน่าฟัดหน้าเหวี่ยงอีกต่างหาก อิอิ
"มีเสียงที่ทุ้มนุ่มลึกฟังแล้วจะสะกดจิตแล้วก็จะสั่งให้ทำอะไรที่ตนต้องการและเขาก็ใช้วิธีนี้ในการสั่งให้คนทำชั่ว" ว่าแต่สะกดจิตให้หลงรักเขาได้หรือเปล่าน้า แต่หน้าเหมือนเด็กจริงๆเลย ตาตี่ๆด้วย
"ต่อมาก็คือ Sweeteyeเขามีดวงตาที่หวานมากกกกและหน้าคล้ายผู้หญิงมากกกก" สวยอย่างนี้ไม่หน้าเกิดเป็นผู้ชายเลย หว่า ผู้หญิงอย่างเราอายแทนเลยอ่า
"แต่ดวงตาของเขาจะทำลายทุกอย่างเมื่อเขาต้องการ" น่ากลัวแหะ
"และต่อมาคือStubbornเด็กจอมดื้อประจำกลุ่มชอบแกล้งเพื่อนๆในกลุ่มตลอด ชอบทำตัวเหมือนเด็กๆเวลาทำผิดจะไม่ค่อยยอมรับและจะทำหน้ามุ่ย บางทีจะทำหน้าตาหน้าสงสารให้เพื่อนๆเห็นใจตนเอง"
ชักอยากจะกินเด็กขึ้นมาแล้วละซิ ss เชอร์เซ่คิด
"และนิสัยอย่างนี้แหละที่เวลาเขาไปขออะไรใครๆก็จะให้ตามสิ่งที่เขาต้องการ" แสบจังนะ เธอเนี่ย
"ต่อมาคือ พีน็อคคิโอ" คนเดียวกับคนที่โกหกแล้วจมูกยาวหรือเปล่านะ
"เขาเป็นคนที่อ่อนโยนมากแล้วก็อ่อนไหวแถมยังขี้หึงมากอีกด้วย" ว้าวววววผู้ชายขี้หึงงงงงงงงงงง น่าหม่ำที่สู้ดเลยss เซอร์เซ่คิด(เรื่องหื่นๆแบบนี้ ยัยนี่คิดได้คนเดียว)
"และการที่เขาอ่อนไหวเนี่ยและเขาจะใช้ท่าเต้นที่อ่อนไหวทำให้เป้าหมายง่วงนอนและหลับไปในที่สุด"
ว้าว ไม้ตายจริงๆเลย
"ต่อมาNarcissismแต่เรียกเขาว่านาลซิสต์" อาการทางจิตที่แปลว่าหลงตัวเองหรือเนี่ย
"เขาชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนน่ารักที่สุดในกลุ่ม" แน่ใจเหรอ? แต่จะว่าไปก็น่ารักกันหมดทุกตนนั้นแหละ อิอิ
"และการที่เขาชอบหลงตัวเองทำให้เขามีของวิเศษที่ทำให้คนอื่นหลงอยู่ในวังวนแห่งความคิดจนกว่าเขาจะพอใจ" ร้ายจริงๆเลย
"ต่อมา Prattle เขาเป็นคนช่างพูดเป็นขาเม้าท์ตัวจริง" ว้าว นิสัยเหมือนผู้หญิงเลยแฮะ
"และการที่เขาช่างพูดเนี่ยแหละ ทำให้เวลาเขาพูดแทงใจดำ คนที่โดนเขาว่าก็จะเจ็บจี๊ดที่หัวใจจนสลบไปถึงจะหาย" ร้ายกาจมาก
"ต่อมาคือ ซิมบา" สูง เท่ห์ หล่อ สมาร์ท
"เขาคือลูกชายคนเดียวของท่านริชเซอร์ลาซเป็นเทพที่รวยที่สุดในสวรรค์ชั้น18 ซึ่งท่านริชรักมากที่สุด เขามีพลังมากที่สุด คงรู้นะว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง"
พวกเราพยักหน้างึกๆ
"คนสุดท้ายน้องเล็กสุดของกลุ่มคือ Little" มาดนิ่ง สุขุม นุ่มลึก
"เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดดูหยิ่งๆ เขาไม่มีอะไรร้ายกาจนอกจากความคิดเขา เขาสามารถวางแผนทุกอย่างได้อย่างเฉียบขาด" ว้าว มีความเป็นผู้นำ อย่างนี้แหละที่พวกเราต้องการ อ้ายยย ฉันคิดอะไรลงไปเนี่ย
"นี่แหละ คือซาตานทั้ง13ตนที่พวกเธอต้องจัดการ"
"คะ" พวกเรารับปากอย่างแข็งขันและบอกลาท่านทั้งสองกลับมาที่คฤหาสน์แก้ว
ณ คฤหาสน์แก้ว
"ซาตานพวกนี้หล่อเนอะ ว่าไหม" เชอร์เซ่พูดขณะที่ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อนแต่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"หล่อ...แต่...ยังไงเราก็ต้องพาเขากลับมาให้ท่านลูฟเฟอร์อยู่ดีอะ เพราะฉะนั้นหล่อไปก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเราอยู่ดีแหละ" ฉันพูดแบบปากไม่ตรงกับใจ เพราะยังไงพวกเขาก็เป็นอาหารสายตาของเราอยู่ดี
"แล้วแกไม่มีอะไรจะพูดบ้างเหรอ เพเน" เชอร์เซ่ถามคนที่นั่งก้มอยู่ตรงโซฟาไม่พูดไม่จากับใคร
"ฮะ" เพเนเงยหน้าขึ้นมาด้วยอาการหน้าแดงก่ำ
"อ่า เพเน เธอหน้าแดงเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอแค่เห็นหน้าพวกซาตานพวกนั้นแล้วจะเก็บเอาไปเพ้อฝันคนเดียวเลยเหรอเนี่ย เฮ้อๆ" เชอร์เซ่เอาแต่แซวเพเน ส่วนเพเนก็หน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ
"เงียบเลยนะ เชอร์เซ่ เธอเองก็เหมือนกันนั่นแหละ" เพเนพูดแล้วเสมองไปทางอื่นๆก่อนจะเดินขึ้นบันไดแก้วไปสู่ห้องนอนของตนเอง
"แล้วแกไม่หวั่นไหวกันซาตานทั้ง13มั่งเหรอ"
"หา ฉะฉันเหรอ มะมะไม่นี่ ไม่มีหรอก////=_=////" ใครละจะไม่หวั่นไหวก็ดันหล่อกันซะทุกคนเลย
"แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย" เชอร์เซ่พูดพร้อมเอานิ้วมาเขี่ยแก้มฉันเล่น
"เออๆๆ ฉันหวั่นไหวแล้วไง แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นเหรอ" ฉันพยายามทำหน้าให้เฉยที่สุดเท่าที่จะทำได้
"มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกมันก็แค่...เกิดความรู้สึกอยากจับเขาให้มานั่งอยู่ในใจแค่นั้นละ"
"^///^ บ้า ไปดีกว่า" ฉันพูดแล้วเดินจากไป
"อะไรกันแค่แซวแค่นี้ต้องหนีกันไปหมดเลยด้วย เฮ้อ~ จริงๆเลย" และแล้วเชอร์เซ่ก็ต้องนั่งอยู่ที่โซฟาคนเดียว เนื่องจากแซวคนอื่นเอาไว้เยอะ
ความคิดเห็น