คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : meet the bad day
ตึ่ก ตึ่ก ตึ่ก ...
“องค์หญิงจ๊า เสร็จรึยังลูก”
“ยังค่ะคุณพ่อขา หนูหาถุงเท้าไม่เจอค่ะ”
“..........”
เมื่อรอลูกสาวตัวดีวิ่งไปวิ่งมา จนบ้านไม้สองชั้นจะพังอยู่แล้ว คุณพ่อวัย 27 ปี จึงอาสาจะช่วยหาให้อีกแรง
“อ๊ะ คุณพ่อขา เจอแล้วค่ะ หนูจะลงแล้ว ไม่ต้องขึ้นมานะคะ แป๊ปเดียวค่า...” เสียงเด็กหญิงตัวน้อยวัย 12 ปี ตอบกลับอย่างร่าเริงเหมือนชอบใจในเกมเล่นซ่อนหาถุงเท้าของตัวเอง แต่ถึงอย่างไรเสีย แม้จะยังหาไม่เจอ หนูน้อยก็ตั้งใจจะไม่ให้คุณพ่อขึ้นมาบนห้องตอนนี้เด็ดขาด เพราะเธอยังหาที่ซ่อนให้นิตยาสารบันเทิงเล่มใหม่ที่เพิ่งฝากเพื่อนซื้อมาไม่ได้เลยนี่นา ยิ่งเป็นหน้าปกของเขาคนนั้นแล้วด้วย..
เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งตึกตักลงบันไดมา รีบร้อนใส่รองเท้าแล้วออกไปสมทบกับผู้เป็นพ่อที่หน้าบ้าน
“องค์หญิงพร้อมแล้วค่า..” เด็กหญิง หรือองค์หญิง ชื่อเล่นที่พ่อตั้งให้ ช่างเหมาะกับใบหน้าหวานน่ารัก ปากนิด จมูกหน่อย ผิวกายขาวใสอย่างเด็กที่มีสุขภาพดี ผมยาวสลวยถึงกลางหลังพลิ้วไปมาเวลาวิ่งถูกรวบไว้อย่างดีด้วยที่มัดผมหมีน้อย ยิ่งทำให้เจ้าตัวน่ารักเด่นสะดุดตาผู้พบเห็นยิ่ง
“เฮ้อ องค์หญิงนะ วันหลังพ่อจะไม่ให้หนูดูการ์ตูนจนดึกอีกเด็ดขาดเลย ดูซิเนี่ยสายทั้งพ่อทั้งลูกซะงั้น” ผู้เป็นพ่อบ่นไปขณะขับรถพาเจ้าตัวดีไปส่งโรงเรียนมัทธยมแห่งใหม่ “พ่อคิดออกแล้ว.. เดี๋ยววันนี้พอพ่อไปส่งหนูเสร็จพ่อจะติดต่อโรงเรียนให้จัดรถโรงเรียนมารับมาส่งดีกว่าเนอะ”
“อ๊า ทำไมหล่ะคะ หนูอยากนั่งรถคุณพ่อไปโรงเรียนนี่นา”
“ก็พ่อต้องเข้างาน 8 โมงเช้านะลูก แล้วเวลาเร่งด่วนยังงี้รถในกรุงเทพฯก็ติดยังกะอะไรดี พ่อไปส่งหนูก็ไปที่ทำงานสายสิจ๊ะ หรือว่าหนูอยากตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ถ้ายังงั้นอาจจะพอทันก็ได้น๊า” ขู่ไปยังงั้น แต่พอองค์หญิงได้ยินก็รีบส่ายหน้าดิ๊กๆ
“ฮือ ม่ายอาวว งั้นหนูก็ต้องเข้านอนเร็วอ่ะสิคะ แล้วนี่ยังมี VCD ชินจัง โดเรม่อน ที่ยังไม่ได้ดูอีกตั้งหลายแผ่นเลย แล้วจะดูดึกได้ไงคะ” เด็กหญิงทำหน้ามุ่ยเอียงคอไปมา
“งั้นก็ต้องให้รถโรงเรียนมารับนะจ๊ะเด็กดี เดี๋ยวพ่อยืดเวลาเข้านอนให้ก็ได้”
“ม่ายปฏิเสธค่า...” องค์หญิงยิ้มกว้างตอบกลับทันทีทันควัน ผู้เป็นพ่อก็ได้แต่หัวเราะคิกคักกับคำพูดเด็กหญิง ไปจำประโยคอย่างนี้มาจากไหนน๊อ
.....................
“เฮ้อ วันนี้เข้างานสายจนได้สิเนี่ย” ร่างบางบ่นเมื่อวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงโต๊ะทำงาน ก่อนจะเริ่มลงมือจัดข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง
“เนมจ๊ะ บก. เรียกให้ไปหาที่ห้องแน่ะจ้ะ เห็นว่ามีเรื่องจะคุยด้วย” เอมอร หญิงสาวร่วมงานโต๊ะข้างๆชะโงกหน้าผ่านที่กั้นโต๊ะมาบอกเนม หรือ เณมินทร์ เชตพลกร ก่อจะหันไปขะมักเขม้นกับงานต่อ
“ขอบคุณครับเอม” หญิงสาวพยักหน้ารับแต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจากงานตรงหน้า เณมินทร์จึงรีบจัดข้าวของต่อแล้วเดินไปยังห้อง บก. ที่อยู่ในโซนทำงานเดียวกัน โดนเรียกแต่เช้าทำให้รู้สึกลางไม่ดียังไงไม่รู้สิ..
…………………
แล้วลางที่ว่านั่นก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ..
“อะไรนะครับเฮียเม้ง!! งานคราวนี้จะให้ผมตามถ่ายไอ้บ้านายพีระนั่นหรอครับ เฮียก็รู้ว่างานครั้งก่อนที่เฮียให้ผมไปถ่ายยัยพิ้งค์กี้คู่ควงชั่วคราวหมอนั่นจนเจ้าหล่อนจับได้แล่นไปฟ้องไอ้บ้านั่น ผมทั้งโดนด่าแถมโดนมันต่อยอีก ไอ้เด็กสเปซนั่น ฮึ้ยย แค่นึกถึงหน้ามันก็หงุดหงิดแล้ว” เณมินทร์ ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ แล้วรัวเป็นชุด พูดจบก็หอบแฮ่กๆด้วยความเหนื่อย
ตึง!!!
เสียงหนังสือที่เฮียเม้งหยิบมาจากตรงโน้นเล่ม ตรงนี้เล่ม มาซ้อนๆกันสูงเป็นตึกใบหยก กระแทกลงบนโต๊ะ ช่วยลดความหน้ามืดตามัวของเณมิทร์ลงไปได้บ้าง..นิดหน่อย เณมินทร์จึงจำต้องลงไปนั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะทำงานเฮียเม้งอย่างเดิม แต่ยังคงสีหน้าฮึกฮัดไม่พอใจไว้
“จะบอกอะไรให้นะ.. ไม่ใช่นายคนเดียวที่ไม่ชอบตานั่น ทุกคนก็รู้ว่าเขานิสัยเสีย เอาแต่ใจตัวเอง แถมขี้หงุดหงิดขี้รำคาญอย่างกับอะไรดี” เณมินทร์เบ้ปากเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ ก่อนจะฟังเฮียเม้งบ่นต่อ “แล้วทีนี้ พอชั้นบอกว่าคราวนี้เราต้องการสกู๊ปเด็ดของนายแบบพระเอกหนุ่มที่กำลังโด่งดังตอนนี้ ทุกคนก็หันหน้าหนีกันไปหมด ไม่มีใครสมัครใจ แล้วชั้นก็ยังคิดไม่ออกในตอนนั้นว่าจะให้ใครรับกรรมนี้ที แต่เนื่องจากว่าไอ้ที่ชั้นพูดไปนั้นเป็นการพูดในที่ประชุมตั้งกะ 8 โมงครึ่ง ซึ่งเป็นการประชุมที่ทุกคนต้องเข้าร่วมทุกเช้า แต่นายมาซะ 9 โมงกว่า นี่จึงเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว ที่ชั้นจะใช้ลงโทษนายไง!”
เฮียเม้งกระแทกตัวนั่งลง แล้วเปิดลิ้นชักหยิบกระดาษขึ้นมาปึกหนึ่ง ยื่นให้เณมินทร์
“เอ้า นี่เป็นตารางเวลางานของนายพีระ เอาไปแล้วเก็บไว้ให้ดี แล้วตามประกบติดไปเลย 1 อาทิตย์ ไม่ว่าไอ้นายพีระมันจะไปเดทกับใคร ทำอะไรกับใคร โดยเฉพาะนอกเวลางาน นายต้องถ่ายภาพเด็ดๆกลับมาให้ได้ ‘Dash Magazine’ ของเราต้องได้สกู๊ปเด็ดและภาพงามๆกว่าชาวบ้าน ชั้นวางใจนายนะ โชคดี ออกไปได้ละ ....อ่อ อาทิตย์นึงที่ว่านายไม่ต้องเข้าบริษัทก็ได้นะ ไปตามประกบนายพีระก็พอ” เฮียเม้งพูดทิ้งท้าย ถึงแม้ไอ้ประโยคท้ายเณมินทร์จะชอบใจที่ไม่ต้องกระวีกระวาดฝ่าฟันรถติดมาบริษัทแต่เช้าตั้งอาทิตย์นึง แต่ยังไง โดยรวมเรื่องนี้เขาก็โชคร้ายอยู่ดีแหละ
เณมินทร์เดินไปเก็บข้าวของที่โต๊ะทำงาน ถือโอกาสบอกลาเพื่อนๆร่วมงานว่าจะไม่ได้เจอกัน 1 อาทิตย์ แล้วจึงเดินไปเอารถตัวเองที่ลานจอดรถเพื่อไปทำหน้าที่ ‘ประกบติด’ ที่ว่านั่น
ความคิดเห็น