คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2
Chapter 2
ข้าวต้มร้อนๆที่ถูกตักเข้าปากช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้จากฤทธิ์แอลกอฮอร์ที่ตกค้างให้มิลินได้เป็นอย่างดี
"หิวมากเหรอมิ้นท์" กานต์มองเพื่อนสาวที่จ้วงอาหารทานอย่างรีบเร่ง
"อืม รีบกินรีบกลับเหอะ
รู้สึกไม่ค่อยดีเลย" ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยังคงหลอกหลอนเธอไม่หาย
ใจอยากรีบหนีให้พ้นๆไปจากสถานที่นี้
ไม่อยากต้องเจอหน้าผู้ชายคนนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง!
"อ่ะ สงสัยเมื่อคืนเมาไปหน่อยเลยหยิบผิดมา"
กานต์เลื่อนโทรศัพท์มาตรงหน้า มิลินจ้องมองโทรศัพท์ตัวต้นเหตุ
เมื่อคืนถ้าเธอไม่ตัดสินใจไปเอามันคืน แล้วดันไปเคาะประตูผิดห้อง
เรื่องอัปยศก็คงไม่เกิดขึ้น นึกๆแล้วอยากจะปาทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด
ผู้โดยสารพากันทยอยขึ้นเรือที่เพิ่งเข้ามาเทียบท่า ในขณะที่มิลินร่ำลาพลางขอโทษขอโพยเพื่อนฝูงที่เธอต้องขอตัวกลับก่อนโดยอ้างว่าไม่สบายขึ้นมากะทันหัน
กานต์เองก็เลือกที่จะกลับพร้อมเธอ คงเพราะเป็นห่วงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยหากปล่อยให้กลับเองเพียงลำพัง
นึกๆแล้วก็รู้สึกผิดที่เธอทำให้เขาต้องอดสนุกเพียงเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง
หญิงสาวกวาดตามองโดยรอบ ไม่ปรากฏวี่แววของ
"ผู้ชายจอมหื่น" คนนั้น ดีแล้วที่ไม่ต้องเจอหน้ากันอีก
เรื่องทั้งหมดควรจะจบลงที่ตรงนี้ โชคดีแค่ไหนที่เมื่อคืนไม่เกิดเรื่องเกินเลยไปมากกว่านั้น
เธอเองก็จะเก็บมันไว้เป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต ดวงตากลมโตเลื่อนมองทอดยาวไปยังเส้นขอบฟ้าไกลสุดลูกหูลูกตาเพื่อผ่อนคลายอารมณ์
ที่นั่งด้านซ้ายมีคนเข้ามาจับจอง แต่มิลินไม่ได้หันไปมอง เห็นเพียงหางตาว่าเป็นชายหนุ่มร่างสูงสวมแว่นกันแดดสีเข้ม
เมื่อผู้คุมเรือประกาศว่าเรือกำลังจะออกจากท่า ผู้โดยสารทั้งหมดจึงเริ่มจับจองที่นั่ง
กานต์เดินมานั่งฝั่งขวาของหญิงสาวที่ว่างอยู่
"อ้าวพี่โจ
จะกลับแล้วเหรอครับ" มิลินที่กำลังก้มเช็ดฝุ่นบนแว่นกันแดดเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนชายซึ่งเริ่มบทสนทนากับผู้ชายแปลกหน้าที่นั่งอยู่อีกข้างของเธอ
มิลินหันมองตาม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงนั้นถอดแว่นกันแดดออกพอดี หัวใจเธอหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อสบตาเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาซึ่งตายแล้วเกิดใหม่อีกกี่ชาติเธอก็ไม่มีวันลืม
ฝ่าย "ผู้ชายจอมหื่น" ก็แสดงสีหน้าประหลาดใจไม่ต่างกันกับเธอ เห็นได้ชัดว่าเขาจำเธอได้
ร่างบางผุดลุกขึ้นในทันทีเพื่อจะไปหาที่นั่งใหม่ หากแต่มือใหญ่ของจิรัชญ์กลับคว้าแขนเรียวของเธอเอาไว้
ฝ่ามืออุ่นร้อนนั้นยิ่งทำให้เธอป่วนปั่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
"เรือออกแล้วอย่าลุกเดินเผ่นผ่านสิ
มันอันตราย" เจ้าของมือดุก่อนจะดึงเธอให้นั่งลง นี่จะถือวิสาสะเกินไปมั้ย?
มิลินแสดงสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ต้องจำใจนั่งลงที่เดิม
"มิ้นท์ นี่พี่โจ รุ่นพี่ที่ภาค"
กานต์แนะนำอย่างร่าเริง ไม่ทันสังเกตเห็นแววตาแสดงความไม่สบอารมณ์ของเพื่อนสาวที่เพิ่งรู้ว่า
"ผู้ชายจอมหื่น" เป็นรุ่นพี่ที่คณะ
"แล้วทำไมรีบกลับล่ะ เห็นเพื่อนๆยังอยู่ต่อกันนี่?"
จิรัชญ์เอ่ยถาม
"พอดีมิ้นท์รู้สึกไม่ค่อยสบายเลยพากลับก่อนน่ะครับ" กานต์กล่าวตอบถึงเหตุผลที่ต้องแยกตัวกลับก่อน
หากแต่อีกฝ่ายกลับไม่เชื่อสักเท่าไหร่ ในเมื่อคนตัวเล็กตรงกลางยังนั่งตาใส
แก้มอมชมพูระเรื่อ ดูเหมือนคนป่วยตรงไหน? หรือจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน
นี่เธอคงตั้งใจจะหลบหน้าเขาเป็นแน่
หลังจากที่กวาดสายตามองหาทั่วห้องอาหารเมื่อเช้าแล้ว ไม่พบใครที่ใกล้เคียงกับหญิงสาวลึกลับที่ทำให้เขาค้างเติ่งเมื่อคืน
จิรัชญ์ก็ถอดใจแกมเสียดายที่คิดว่าคงจะไม่ได้พบกันอีก หากแต่จู่ๆก็ดันได้พบเจอกันอีกครั้งโดยไม่ต้องพยายาม
เพียงแค่สบตาเขาก็จำเธอได้ในทันที ฝั่งคนตัวเล็กก็ได้แต่ก้มหน้างุดแต่ก็รับรู้ถึงสายตาที่คอยลอบมองเธอเป็นระยะๆตลอดการเดินทาง
น้ำทะเลสีฟ้าเริ่มขุ่นขึ้นเรื่อยๆเมื่อใกล้ถึงฝั่ง
เพียง 30 นาทีเท่านั้นเรือก็จอดเทียบท่า
“กลับกันยังไง?” จิรัชญ์เอ่ยถามรุ่นน้อง
หากแต่สายตากลับจับจ้องอยู่กับคนตัวเล็กที่เดินตามมาติดๆ ตลอดทางเขาไม่ได้ยินเสียงเธอแม้แต่คำเดียว
“เดี๋ยวไปขึ้นรถตู้ที่ท่ารถข้างหน้าอ่ะครับ” กานต์เอ่ยตอบ
“กลับกับพี่ก็ได้นะ พี่เอารถมา เพื่อนไม่ค่อยสบายนี่
นั่งรถพี่น่าจะดีกว่า” พอจบประโยคจิรัชญ์ก็หันไปคุยกับเพื่อนร่วมกลุ่มเพื่อให้ย้ายไปนั่งรถคันอื่น
ก่อนจะออกเดินนำไม่เปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้ปฏิเสธ
“เอาแต่ใจชะมัด” มิลินเอ่ยเบาๆแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
เมื่อคิดว่าต้องนั่งในรถคันเดียวกับคนตัวโตที่เดินตัวปลิวอยู่ด้านหน้าอีกเกือบ 3
ชั่วโมง ครั้นจะให้กานต์ปฏิเสธก็รู้ว่าคงไม่มีหวัง เพราะดูท่าแล้วเพื่อนชายคงจะเกรงใจรุ่นพี่คนนี้อยู่ไม่น้อย
แอร์ในรถที่ปรับลงจนสุดแล้วก็ยังเย็นฉ่ำจนหญิงสาวสะท้านหนาวเป็นระยะ
จากที่ป่วยหลอกๆตอนนี้เริ่มตัวร้อนรุมๆ หรือว่าจะป่วยจริงขึ้นมา
ไม่น่าแช่งตัวเองเลย กานต์ที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ
ส่งเสื้อกันหนาวที่พกติดตัวมาให้กับเพื่อนสาวเพื่อคลุมให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
มิลินเสมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างราวกับมันน่าสนใจเสียเต็มประดา
หากแต่ความจริงเธอพยายามหลบสายตาคู่นั้นเสียมากกว่า สายตาคมที่จ้องผ่านกระจกมองหลังขนาดใหญ่กว่าปกติ
ที่ไม่ว่าเธอจะขยับไปนั่งอยู่มุมไหนของเบาะก็หนีไม่พ้น สายตาคมที่ทำให้ใบหน้าเธอร้อนผ่าวทุกคราวที่เผลอสบ
เขาแทบไม่ได้ปกปิดสายตายั่วเย้านั่นเลย สายตาที่เหมือนเธอกำลังโดนถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น
อึดอัดชะมัด มิลินภาวนาให้การเดินทางนี้สิ้นสุดลงโดยเร็ว
รถราเริ่มแน่นขึ้นเมื่อเข้าสู่เขตชานเมืองของกรุงเทพมหานคร
รถยุโรปคันโตสีดำสนิทแล่นเลียบลำคลองก่อนจะหักเลี้ยวข้ามสะพานเข้าสู่ถนนเส้นหลักที่ผ่านหน้ามหาวิทยาลัย
ขับไปอีกไม่ไกลก็ถึงหอพักของกานต์ ส่วนหอพักของหญิงสาวอยู่ถัดไปอีก 2 ซอย มิลินลงจากรถพร้อมกานต์
เธอเลือกที่จะเดินไปหอพักดีกว่าต้องนั่งรถไปผู้ชายคนนั้นสองต่อสอง
“ฉันไม่ชอบรุ่นพี่แกคนนี้เลยว่ะ” หญิงสาวเปิดบทสนทนาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวทันทีที่รถของจิรัชญ์เคลื่อนตัวออกไป
“พี่โจอ่ะนะ แกคงเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไม่ชอบเขาอ่ะ”
กานต์ตอบกลั้วเสียงหัวเราะ เพราะทุกทีเห็นมีแต่สาวๆคลั่งไคล้รุ่นพี่หน้าตาดีของเขา
“ชอบมองแปลกๆ ดูหื่นๆชอบกล”
“คิดมากไปป่าวแก พี่เขามองแกแบบนั้นเหรอ เอ..หรือว่าเขาจะสนใจแกขึ้นมาวะมิ้นท์
มิน่ามาถามอะไรแปลกๆ” กานต์ทำหน้าครุ่นคิด ถึงแม้จะรู้ว่าเพื่อนสาวของเขาไม่ใช่สเปคของจิรัชญ์ที่มักจะเลือกคบแต่สาวเซ็กซี่ดีกรีระดับดาวคณะดาวมหาลัยเท่านั้น
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามิลินเองก็จัดว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ค่อนไปทางน่ารักมากกว่าจะสวยคมสะดุดตา
ไม่แน่จิรัชญ์เองอาจจะอยากลองอะไรที่ผิดแผกไปจากเดิมก็เป็นได้
“ถามว่าอะไร ที่ว่าแปลกๆน่ะ”
“ก็..ถามว่าแกกับฉันเป็นแฟนกันรึเปล่า?” มิลินสงสัยว่าพวกเขาไปคุยกันตอนไหน ทำไมเธอถึงไม่ได้ยิน น่าจะเป็นตอนที่เธอปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันแน่ๆ
“แล้วแกตอบว่าไง” คนตัวเล็กยังคงเบิกตากว้างรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“อ้าว ไอ้นี่ แล้วแกคิดว่าฉันจะตอบว่าไงวะ”
กานต์หัวเราะ ก็เธอกับเขาเป็นเพื่อนกัน แล้วนี่เธอคาดหวังว่าเขาจะตอบว่าอะไร
“ตกลงตอบว่าไง” หญิงสาวเค้นเสียงถาม ไม่ตลกไปด้วย
กานต์มองหน้าเพื่อนสาวด้วยความงุนงงที่เธอจริงจังถึงเพียงนี้
“ไม่ทันได้ตอบ แกเดินมาขัดซะก่อน” บทสนทนาหยุดไว้เพียงเท่านี้เมื่อร่างสูงเดินนำเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ
ก่อนจะยื่นแผงยาแก้ปวดลดไข้ให้มิลินพร้อมน้ำเปล่า
“น่าจะช่วยได้บ้าง” หญิงสาวเพียงเอ่ยขอบคุณเบาๆที่เพื่อนชายยังอุตส่าห์เป็นห่วง
อีกใจก็นึกกระหวัดไปถึงหน้าผู้ชายอีกคนที่เพิ่งร่วมทางกันมา คิดถึงสายตาคู่นั้น คิดถึงคำถามที่เขาเอ่ยถามกานต์แล้วยังไม่ได้รับคำตอบ
คิดแล้วก็หวั่นๆชอบกลว่าเขาจะมาไม้ไหน แต่ที่แน่ๆถ้าอยากให้ชีวิตสงบสุขเธอต้องหลีกหนีเขาให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
ความคิดเห็น