คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1
Chapter
1
ลมหนาวพัดพลิ้วมาเป็นระยะ
จนทำให้หญิงสาวต้องซุกมือลงในกระเป๋าเสื้อกันหนาวตัวโคร่งเพื่อให้รู้สึกอุ่นขึ้นบ้าง
ขาเพรียวในกระโปรงนักศึกษารีบเร่งก้าวไปตามฟุตบาทซึ่งทอดยาวไปยังตึกสูง 12
ชั้นเบื้องหน้า เนื่องจากอีก 10 นาทีก็จะถึงเวลาสอบแล้ว
หลังจากลิฟต์พามาหยุดที่ชั้น 7 ร่างบางก็รีบกุลีกุจอเดินฝ่ากลุ่มคนแน่นขนัดไปยังห้องสอบ
เสียงจอแจแผ่วลงเมื่อเสียงตามสายประกาศให้เข้าห้องสอบดังขึ้น
กลุ่มนักศึกษาเริ่มแยกย้ายทยอยเดินเข้าไปนั่งตามเลขที่นั่งสอบของตนเพื่อเตรียมสอบวิชาสุดท้ายของภาคการศึกษานี้
"ทำได้ป่ะ?" ร่างสูงที่ยืนพิงกำแพงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวเดินหน้ามุ่ยออกมาจากห้องสอบ
"ได้ทำอ่ะดิ"
ร่างบางกล่าวตอบก่อนจะถอนหายใจยาว มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง
ให้ภาพต้นชงโคที่กำลังบานสะพรั่งช่วยฉุดให้อารมณ์เบิกบานขึ้นได้บ้าง
ทั้งสองเดินมาหยุดที่สนามหญ้าด้านข้างสนามกีฬาของมหาวิทยาลัย
สถานที่ประจำสำหรับมานั่งผ่อนคลายอารมณ์ในวันว่าง
พื้นหญ้าสีเขียวสดตัดกับสีชมพูหวานของดอกชงโคที่ร่วงหล่นเป็นระยะ สวยจนหญิงสาวต้องหยิบมือถือขึ้นบันทึกภาพไว้
อีกแค่ปีกว่าๆเท่านั้นเธอก็จะเรียนจบ ถึงเวลานั้นเธอคงจะคิดถึงบรรยากาศที่นี่น่าดู
ซึ่งคงไม่ต่างกันกับชายหนุ่มซึ่งบัดนี้ทอดกายลงนอนบนพื้นหญ้าหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์
"มิ้นท์สอบเสร็จแกจะกลับบ้านเลยมั้ย?"
ร่างสูงถามขึ้นทั้งที่ยังหลับตา
"คงไม่อ่ะ
ว่าจะหาอะไรทำอยู่ที่กรุงเทพนี่แหละ อยู่บ้านก็คงเบื่อ"
หญิงสาวหันไปตอบคำถามเพื่อนชาย
"งั้นไปเที่ยวกันนะ"
บรรยากาศบริเวณท่าเรือค่อนข้างเงียบเหงากว่าปกติ
เนื่องจากไม่ใช่ฤดูที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาทะเล ซึ่งมีข้อดีคือที่พักราคาจะถูกลงมาก
เหมาะกับนักศึกษางบน้อยอย่างพวกเธอ ที่แค่อยากจะเปลี่ยนสถานที่ในการสังสรรค์ก็เท่านั้น
มิลินหยิบแว่นกันแดดสีชาขึ้นใส่บังตาก่อนเดินตามกลุ่มเพื่อนไปยังหาดส่วนตัวที่อยู่ไม่ไกลออกไปซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมที่ได้จองเอาไว้
หลังจากเก็บของเรียบร้อยหญิงสาวก็ปลีกตัวจาก “เกด” และ “ดา” เพื่อนสาวร่วมห้องเพื่อไปเดินดูบรรยากาศโดยรอบ
“กานต์” เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของร่างบางซึ่งบัดนี้กำลังทอดสายตาไปไกลยังขอบฟ้าสีหม่น
เกือบสามปีที่รู้จักกันในรั้วมหาวิทยาลัย “มิลิน” ถือเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดเลยก็ว่าได้
เขายังจำวันแรกที่พบกับเธอ
ภาพผู้หญิงผมสั้นประบ่าที่มีใบหน้าเรียบเฉยราวกับไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
หากแต่ทุกครั้งที่สบตากันนั้นทำให้เขารู้สึกว่าภายในใจของเธอไม่ได้เรียบนิ่งเหมือนที่เธอพยายามแสดงออก
ด้วยนิสัยที่คล้ายกันในหลายๆเรื่องจึงไม่ยากเลยที่เขาและเธอจะสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
"คิดอะไรอยู่เหรอ?" กานต์ถามขึ้นเบาๆ
"เรื่อยเปื่อยน่ะ
ไม่มีอะไรหรอก" มิลินหันมายิ้มให้ก่อนจะเดินไปนั่งยังเก้าอี้เอนริมหาด
มองกลุ่มเพื่อนที่เล่นน้ำกันอยู่อย่างสนุกสนาน เนื่องด้วยเป็นหาดส่วนตัวทั้งยังไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวผู้คนจึงไม่พลุกพล่านนัก
มีเพียงพวกเธอและนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มเท่านั้นบนชายหาดในยามเย็นนี้
"พวกชมรมโฟโต้ที่ ม. เขามาออกทริปกันน่ะ
โลกกลมเนอะ" กานต์พูดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวจ้องมองไปยังกลุ่มชายหญิงราวๆสิบคนที่นั่งล้อมวงหัวเราะสนุกสนานอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วขณะที่มิลินเดินมาสมทบกลุ่มเพื่อนอีก
4 คน ที่กำลังจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เสียงคลื่นเคล้ากับเสียงกีตาร์ใสๆจาก “วิน”
นักดนตรีประจำกลุ่ม ช่วยให้บรรยากาศยิ่งกลมกล่อมมากขึ้น การสังสรรค์ลากยาวไปจนถึงห้าทุ่มก่อนตกลงกันว่าจะสลายตัวกลับไปนอนพัก
มิลินวางแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ในมือลงเพื่อประคอง “เกด” เพื่อนสาว
เดินผ่านกลุ่มชมรมโฟโต้ที่ยังคงไม่มีวี่แววจะเลิกราง่ายๆไปยังตัวโรงแรมที่อยู่ด้านหลัง
เนื่องด้วยดื่มไปเยอะเกินควรทั้งเธอและเพื่อนจึงแทบยืนทรงตัวไม่ได้ กานต์เดินประกบเพื่อส่งเพื่อนผู้หญิงให้เข้าห้องเรียบร้อยก่อนตัวเองจะกลับไปยังห้องพักที่อยู่ติดกัน
มิลินหันมองเพื่อนสาวทั้งสองที่หลับสนิทตั้งแต่หัวถึงหมอน
ก่อนจะควานหาโทรศัพท์มือถือเพื่อตั้งนาฬิกาปลุกให้ทันอาหารมื้อเช้าของโรงแรมในวันพรุ่งนี้ แต่เมื่อกดปุ่มหน้าจอกลับโชว์รูปของกานต์ยิ้มหราสะท้อนกลับมา
เมื่อนึกได้ว่าคงจะหยิบโทรศัพท์สลับกันกับเพื่อนชาย หญิงสาวจึงค่อยย่องไปเปิดประตูเพื่อไปยังห้องพักของกานต์ที่อยู่ติดกัน
มือเรียวยกขึ้นเคาะเรียก ก่อนจะพิงศีรษะเข้ากับประตูเนื่องจากวิงเวียนด้วยฤทธิ์แอลกอฮอร์
จังหวะที่ประตูเปิดออกนั้นเธอเสถลาเข้าไปภายในห้องจนใบหน้าซุกเข้ากับแผ่นอกกว้าง
ก่อนที่ร่างบางจะถูกเหวี่ยงให้ลอยเข้าสู่อ้อมแขนและวางเธอลงอย่างแผ่วเบาบนเตียงนอนนุ่ม
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว
ชุดผ้าฝ้ายเนื้อบางถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในตัวจิ๋ว ก่อนที่มือใหญ่นั้นจะปลดเปลื้องมันออกอย่างง่ายดายและไล้มือเรื่อยไปตามส่วนโค้งเว้าของร่างกายหญิงสาว
ริมฝีปากหนาทาบทับลงมาอย่างเร่าร้อนเร่งเร้าให้เธอตอบสนองในแบบเดียวกัน
"อย่า" มิลินส่งเสียงห้ามในจังหวะที่ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก
หากแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้การล่วงเกินนี้หยุดลง มือน้อยปัดป่ายหวังว่าจะหยุดเขาจากการกระทำนี้แต่ก็ไม่เป็นผล
ริมฝีปากอุ่นกรุ่นด้วยกลิ่นแอลกอฮอร์ลากไล้ต่ำลงไปเรื่อยๆก่อนความสากของลิ้นจะเริ่มต้นหยอกล้อกับยอดอกเต่งตึง
ความเสียวสะท้านที่แล่นริ้วขึ้นมาทำให้หญิงสาวต้องแอ่นกายขึ้นรับรสสัมผัสราวควบคุมตัวเองไม่ได้
มือใหญ่เลื่อนลงต่ำไปยังจุดหวงแหน บดขยี้เบาๆให้หญิงสาวพร้อมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมา
มิลินรวบรวมกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิดผลักออกไปเต็มแรง
แสงไฟสลัวจากโคมไฟข้างเตียงสะท้อนให้เห็นหยาดน้ำตาอาบแก้มใสทั้งสองข้างจนชายหนุ่มชะงักเมื่อเห็นเข้า
ร่างบางรีบฉวยโอกาสนี้ผุดลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้ามาสวมอย่างรวดเร็วก่อนวิ่งออกจากห้อง
“จิรัชญ์” มองตามหลังร่างบางที่รีบสาวเท้าจากไป
เธอคือใคร? แล้วจู่ๆมาเคาะห้องเขาทำไม? คำถามมากมายผุดขึ้นเต็มไปหมด พลันเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ร่างสูงเดินไปเปิดประตูก็พบกับรุ่นน้องสาวเซ็กซี่ที่อยู่ชมรมเดียวกันยืนยิ้มให้อย่างยั่วยวน
ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาประกอบกับร่างสูงใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นที่เกิดจากการออกกำลังกายเป็นประจำ
จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับชายหนุ่มที่จะมีหญิงสาวทอดกายให้เขาได้ระบายความต้องการอยู่เรื่อยๆ
เธอคนนี้ก็เช่นกัน
"ให้เหมยเข้าไปก่อนสิคะพี่โจ"
หญิงสาวที่ยั่วยวนเขามาตลอดทั้งคืนก่อนจะนัดแนะว่าเธอจะมาหาที่ห้องถามขึ้น
เมื่อเห็นฝ่ายชายยืนขวางประตูอยู่โดยไม่มีทีท่าว่าจะเชื้อเชิญเธอเข้าห้องเพื่อสานต่อความสัมพันธ์
"กลับไปก่อนเถอะ พี่อยากนอนละ"
ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย ก่อนจะปิดประตูทิ้งให้หญิงสาวยืนนิ่งอึ้ง
ด้วยความมืดบวกกับความเมาทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าร่างบางที่เขาเพิ่งล่วงเกินไปนั้นเป็นเธอคนนี้
จิรัชญ์เอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ใจกระหวัดนึกถึงรสสัมผัสที่เธอมอบให้
ทรวงอกอวบอิ่มกับริมฝีปากนุ่มนั่น ทำให้ความต้องการของเขาเริ่มประทุขึ้นภายใน
ผ่านผู้หญิงมาก็เยอะ แต่ไม่มีใครเลยที่จะทำให้เขารู้สึก "อยากได้"
ขนาดนี้ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเธอเป็นใคร!
ความคิดเห็น