คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คริสต์มาส และ ของขวัญ
หิมะสีขาวโปรยปรายลงมาราวกับผ้าลูกไม้สีขาวที่ร่วงลงมาจากสวงสวรรค์ เธอเองก็เปรียบเสมือนสโนไวท์ที่นิทรามาแสนนานเหลือเกิน เขาเรียกเธอว่า ‘สโนไวท์’ มานานถึงหนึ่งปีเต็ม เพราะตอนนี้ใบหน้าที่หลับสนิทของเธอนั้นขาวซีดหรืออาจจะขาวกว่าผิวของสโนไวท์ด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่ยืนยันว่าร่างที่นิทราของเธอนั้นยังมีชีวิตคือเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาราวกับจะหลุดลอยล่องไปในสายลม แต่ทุกอย่างของเธอยังเหมือนเดิม ผมสีน้ำตาล...ริมฝีปากเรียว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงดงาม
แฮร์รี่คิดถึงดวงตาสีน้ำตาลที่แฝงไปด้วยความกล้าหาญและสง่างามของเธอเหลือเกิน มันซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาที่ปิดสนิทนั้น แฮร์รี่เฝ้าภาวนามาตลอดหนึ่งปีเต็มว่าขอให้เขาได้เห็นดวงตาคู่นั้นอีกสักครั้งเถอะ
...........ถ้านับรวมวันนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็หลับมาหนึ่งปีเต็มแล้ว แฮร์รี่ยังจำวันที่หิมะโปรยปรายเมื่อหนึ่งปีก่อนนี้ได้.....มันเป็นวันที่เขาได้เห็นดวงตาสีน้ำตาลงดงามของเธอเป็นครั้งสุดท้าย เสียงเพลงวันคริสมาสต์ในวันนี้ก็ยังเหมือนกับวันนั้น เพียงแต่วันนี้....เธอที่ชอบวันนี้เหลือเกินกลับไม่ได้อยู่ร้องเพลงคริสมาสต์หรือหัวเราะสดใส
ร่างของเฮอร์ไมโอนี่นอนสงบนิ่งยู่บนเตียงนุ่มในบ้านหลังน้อยที่แสนน่ารัก นับตั้งแต่วันที่เธอหลับใหลแฮร์รี่ก็อุทิศเงินทั้งหมดเพื่อสร้างบ้านหลังนี้ให้เธอได้นอนหลับอย่างสบาย....เพื่อหวังว่าวันหนึ่งที่เธอจะจากโลกแห่งความฝันและกลับมาหาเขา
“ฉันชอบต้นไม้...ชอบกลิ่นหญ้า”เฮอร์ไมโอนี่เคยพูดกับแฮร์รี่ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบ้านหลังนี้จึงแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ สวนดอกไม้...และสนามหญ้าแสนกว้าง
ข้างกายของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหลับใหล ร่างของแฮร์รี่จะอยู่เคียงข้างเสมอ....มืออบอุ่นของเขาจับทือมี่ขาวซีดของเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้เสมอ เขาดูแลเฮอร์ไมโอนี่อย่างรักใครมาตลอดหนึ่งปีเต็ม มีเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นที่ร่างของเขาจะไม่ได้อยู่ข้างเธอ และทุกนาทีนั้นใจของแฮร์รี่จะกระวนกระวายเป็นห่วงเธออย่างทุกข์ทรมาน
“วันนี้เป็นวันคริสมาสต์....ถ้าเธอตื่น..เราจะออกไปเที่ยวข้างนอก...แล้วก็จัดต้นคริสมาสต์อย่างที่เธอชอบกันนะ” แฮร์รี่กระซิบกับเฮอร์ไมโอนี่เบาๆ มือข้างหนึ่งของเขาลูบปอยผมเธอไปมา รอยยิ้มเศร้าๆปรากฎบนใบหน้าของแฮร์รี่จางๆ
“แฮร์รี่..........” เสียงหนึ่งเรียกเขาให้ตื่นจากความหม่นหมอง แฮร์รี่หันไปด้านหลัง และเขาจะพบร่างของรอนและจินนี่ยืนยิ้มเป็นกำลังใจให้เขาอย่างคุ้นเคย
“เมอร์รี่คริสมาสต์” แฮร์รี่พูดเบาๆและยิ้มให้ รอนและจินนี่พยักหน้า
“เมอร์รี่คริสมาสต์.....แฮร์รี่” จินนี่และรอนพูดขึ้นพร้อมกัน
“คุยกันหน่อยดีมั้ย” รอนบอก และเขารู้ว่าคำตอบของแฮร์รี่คือยิ้มเศร้าๆและส่ายหน้า จากนั้นเขาก็กลับไปลูบปอยผมของเฮอร์ไมโอนี่อย่างหม่นหมองเช่นเดิม รอนและจินนี่รู้ดีว่าแฮร์รี่ไม่อยากทิ้งร่างของเฮอร์ไมโอนี่ให้ต้องนอนอยู่เพียงลำพัง และแฮร์รี่มีความหวังอยู่เสมอว่าเฮอร์ไมโอนี่จะฟื้นขึ้นมาได้ทุกนาที นั่นเป็นเกตุผลสำคัญที่แฮร์รี่ไม่อยากจะทิ้งเฮอร์ไมโอนี่ไป
“สักนิดเถอะ...แฮร์รี่ คุยกันแบบเพื่อน....ที่เราไม่ได้คุยกันนานแล้ว” รอนพูด แฮร์รี่หันมามองรอนอีกครั้งอย่างครุ่นคิด
“เฮอร์ไมโอนี่คงจะดีใจหรอกที่เธอไม่เห็นความสำคัญของตัวเองแล้วก็เพื่อน” จินนี่ยุ แฮร์รี่ค่อยๆยิ้มออกมา
“นั่นเป็นเรื่องเดียวที่เขาทำท่าจะตีฉันได้ทุกเมื่อ” แฮร์รี่พูดขบขันอย่างขมขื่น เขายิ้มและเดินตรงเข้าไปสวมกอดรอน จากนั้นก็พากันเดินไปคุยกันที่อีกห้องหนึ่ง
“ถ้านับวันนี้....เฮอร์ไมโอนี่ก็หลับได้ปีเต็มๆแล้วนะ” รอนพูดขึ้น แฮร์รี่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง จ้องมองดูหิมะสีขาวราวปุยนุ่นที่กำลังโปรยปรายลงมาเหมือนกับมันเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ
“แล้วก็ครอบรอบหนึ่งปีเต็มที่เพื่อนของเรารู้ใจตัวเองเสียที” จินนี่พูดตรงๆตามแบบฉบับของเธอ แต่แฮร์รี่ไม่ถือสา ตอนนี้ต่อให้คนทั้งโลกประณามว่าาเขาเป็นผู้ชายที่โง่และซื่อบื้อที่สุดในโลกเขาก็ยินดีน้อมรับ
“หนึ่งปีที่เฮอร์ไมโอนี่หลับมานี่.....ฉันรอคอยไม่รู้เท่าไร รอให้เขากลับมา” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ สิ่งเดียวในโลกที่แฮร์รี่ยอมที่จะแลกกับอะไรก็ได้คืการได้เห็นดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นอีกครั้ง
“แต่มันก็เทียบกับเวลาที่เฮอร์ไมโอนี่รอเธอมาตลอดเจ็ดปีเต็มไม่ได้หรอก” จินนี่ส่งสายไม่ค่อยจะเป็นมิตรไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้แฮร์รี่เห็น ไม่ว่านานเท่าไรจินนี่ก็ยังขุ่นเคืองเรื่องนี้อยู่นิดๆเมื่อนึกถึง
“เฮอร์ไมโอนี่แอบรักนายมาตลอดตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เรื่องนี้พวกเรารู้กันดี...รู้กันทุกคน รู้กันตั้งชาติ น่าสงสารเฮอร์ไมโอนี่ที่มีแต่นายที่ไม่รู้” รอนเสริม เขาเองก็รู้สึกขุ่นเคืองอยู่เหมือนกัน และรู้สึกเจ็บแค้นแทนเพื่อนรักด้วย
“ใช่! แล้วยังไปหลงรักยัยโชหัวปักหัวปำอีก เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้กับฉันทุกวันเลยนะ เป็นฉันล่ะก็จะต่อย.....” จินนี่ทำกำปั้น แต่รอนขัดขึ้น
“พอได้แล้วจินนี่!” รอนหันไปดุน้องสาว เมื่อแฮร์รี่ทำหน้าเหมือนคนใกล้ตาย ยิ่งได้ฟังเรื่องที่รอนและจินนี่ประเคนใส่หูเขา ความรู้สึกเศร้าและเกลียดตัวเองก็ประเดประดังเข้ามาอย่างไม่อาจห้ามได้ การทำร้ายคนที่ตัวเองรักมันทรมานเสียยิ่งกว่าการทำร้ายตัวเองเสียอีก
“เฮอร์ไมโอนี่ปกป้องนายจากโวลเดอมอร์....จนตัวเองต้องมาเป็นแบบนี้...นายคงรู้แล้วใช่มั้ยว่าเฮอร์ไมโอนี่มีค่าแค่ไหน” รอนพูดอย่างจริงจัง แฮร์รี่กำลังทำหน้าเหมือนโลกจะถล่ม
คนเราจะเห็นค่าอีกคนหนึ่งก็ต่อเมื่อกำลังจะสูญเสียคนคนนั้นไป.....แฮร์รี่เข้าใจความรู้สึกนี้อย่างถ่องแท้ ที่ผ่านมาเขาเป็นคนตาบอดที่ไม่เคยเห็นความดีและความรักจากคนใกล้ตัว แต่ตอนนี้แฮร์รี่รู้แล้วว่าตลอดมาความรู้สึกนั้นของเฮอร์ไมโอนี่มีค่าแค่ไหน และแฮร์รี่รู้แล้วว่าเฮอร์ไมโอนี่รุ้สึกเช่นใดที่ต้องรอคอยเขามาตลอด
เหมือนที่เขารอเธออยู่อย่างนี้
“ช่วยด่าฉันทีเถอะ” แฮร์รี่พึมพำ แววตาของเขานั้นเหมือนคนไร้หัวใจ......
เพาะมันถูกยกให้หญิงสาวคนนั้นไปเสียแล้ว
“เราต้องไปแล้วล่ะ....แต่ขอฉันกับจินนี่เยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่สักหน่อยนะ”รอนตบไหล่แฮร์รี่เป็นเชิงให้กำลังใจ แฮร์รี่ตัดสินใจว่าจะรอยืนอ้อนวอนหิมะให้คืนเจ้าหญิงของเขาอยู่ตรงนี้อีกชั่วครู่ รอนและจินนี่จึงพากันเดินเข้าไปในห้องเงียบๆ แฮร์รี่เหม่อมองไปนอกหน้าต่าง...หวังว่าให้หิมะช่วยอ้อนวอนต่อพระเจ้าในวันคริสมาสต์นี้ให้คืนเธอมาให้เขาเสียที
“ในชีวิตผมไม่เคยขออะไรในวันคริสมาสต์เลย.....แต่แค่วันนี้เท่านั้นทีผมจะขอร้อง...พระเจ้าครับ....ช่วยคืนเธอให้ผมเถอะนะครับ..เธอไปนานเกินไปเสียแล้ว....ผมสัญญา..ว่าถ้าเธอกลับมา ผมจะดูแล...ไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ...จะทะนุถนอมเธออย่างดีที่สุดเลยครับ” แฮร์รี่ยกมือขึ้นประสานกันไว้ เขาก้มหน้าลง...และภาวนา มันเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะได้เธอกลับคืนมา....แฮร์รี่คิดเช่นนั้นจริงๆ
“ไม่......! แฮร์รี่! มาที่นี่!” เสียงหวีดร้องดังขึ้น แฮร์รี่ได้ยินเสียงของจินนี่จากห้องที่เฮอร์ไมโอนี่หลับใหล เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่! แฮร์รี่เคลื่อนกายไปเร็วกว่าไม้กวาดไฟโบลต์และรีบไปที่ห้องของเฮอร์ไมโอนี่ทันที
“เฮอร์ไมโอนี่!” แฮร์รี่โพล่งขึ้น รอนและจินนี่หลบฉากออกจากเตียง แฮร์รี่แทบจะเข่าอ่อนกับภาพที่อยู่ตรงหน้า จินนี่ยืนร้องไห้เบาๆ ขณะที่รอนหน้าตื่นจนซีดเซียว
“เธอ....เธอหายไปแล้ว”จินนี่พูดขณะที่สะอื้นอยู่ แฮร์รี่เดินไปที่เตียงอย่างเชื่องช้า.....เรี่ยวแรงทั้งหมดหายไป รอยยับยู่ยี่บนที่นอนบอกว่าครั้งหนึ่งเคยทีคนนอนอยู่ตรงนั้น...และตอนนี้ร่างนั้นหายไปแล้ว ทิ้งให้สายลมเอื่อยๆพัดม่านสีขาวปลิวเบาๆ หัวใจของแฮร์รี่ราวกับหลุดลอยไปในสายลมด้วย
“เฮอร์ไมโอนี่.......” แฮร์รี่พึมพำเบาๆในลำคอ เขาไล่นิ้วไปบนหมอนใบนุ่มที่เธอเคยใช้หนุน ใบหน้าของแฮร์รี่ซีดเซียวและเหมือนกับจะร้องไห้
“เธออยู่ไหน.......”
‘เธออยู่ไหน’ เสียงเสียงหนึ่งลอยมาตามลม......ราวกับโหยหาใครบางคนที่หายไป
มีแต่เธอเท่านั้นหรือที่ได้ยิน ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นว่างเปล่า ร่างกายผอมซีดและอ่อนแรง เท้าเปล่าเล็กๆแดงก่ำจากการเดินย่ำบนพื้นถนนที่เย็นจัด ผมสีน้ำตาลเข้มปลิวลู่ไปตามแรงลม ภาพที่สะท้อนในดวงตาอ้างว้างของเธอคืองานฉลองอะไรสักอย่างที่แสนครื้นเครง
“ฉัน....เป็นใคร” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำถามตัวเองเบาๆ คำถามนี้เป็นคำถามแรกที่เอถามตัวเองหลังจากที่เดินออกมาจากบ้านที่เธอไม่รู้จักหลังนั้น เธอได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ที่ห้องหนึ่ง และเธอก็หนีออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“แฮร์รี่” เธอพึมพำ เธอไม่รู้จักชื่อนี้....ทำไมกันนะ เหมือนกับติดแน่นอยาในความทรงจำ แต่เมื่อเธอพยายามคิดความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาสู่หัวใจ ทำไมเธอถึงเจ็บปวดเมื่อได้ยินชื่อนี้ แล้วเขาเป็นใคร...และเธอเป็นใคร.....
เสียงเพลงที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกคุ้นเคยแต่ไม่รู้จักคลอมาเบาๆตามสายลม เฮอร์ไมโอนี่ก้าวเท้าที่เปลือยเปล่าไปตามถนนช้าๆ รอบกายของเธอเต็มไปด้วยผู้คน เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบๆอย่างตื่นตระหนก เด็กกำลังหัวเราะ ผู้ใหญ่กำลังครื้นเครง พวกเขาถือไม้อะไรสักอย่างไว้ในมือ และเมื่อพวกเขาพึมพำภาษาที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้จัก....สิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
ตอนนี้หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกชื่นบานขึ้นเล็กน้อย ด้านหน้าของเธอคือต้นไม้สูงใหญ่ที่ประดับประดาไปด้วยเครื่องตกแต่งต่างๆ ริบบั้นสีสันสดใสพันไปตามใบสีเขียวสด ด้านบนสุดมีรูปจำลองของนางฟ้า เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกับตัวเอง มันเป็นภาพที่สวยงามเหลือเกิน
“สนใจทำบุญวันคริสมาสต์มั้ย....สาวน้อย” เสียงแหบพร่าดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งด้วยความตกใจ ชายชราผมรุงรังยืนแสยะยิ้มฟันเหลืองให้เฮอร์ไมโอนี่ เขาสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ในมือถือกระป๋องเก่าครำคร่าเอาไว้ เขาก้าวเดินมาใกล้เฮอร์ไมโอนี่และจับที่แขนของเธอไว้ด้วยมือสกปรก
“อย่ามายุ่งกับฉันนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตื่นตระหนก ชายมอซอคนนั้นยื่นกระป๋องเปล่ามาให้เฮอร์ไมโอนี่และยิ้มอย่างไม่เป็นมิตร เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร แต่ตอนนี้รอบกายของเฮอร์ไมโอนี่เต็มไปด้วยกลุ่มคนจรจัด เฮอร์ไมโอนี่หวาดกลัวและตื่นตระหนก เธอพยายามจะหนีออกจากกลุ่มคนกลุ่มนี้ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
“นี่....เฮอร์ไมโอนี่...เกรนเจอร์........คนที่ช่วยแฮร์รี่ พอตเตอร์ กำจัดจอมมารนี้....” เสียงแหบพร่าและแหลมสูงของหญิงแก่คนหนึ่งดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ตาเบิกกว้าง คนจรจัดเหล่านั้นพร่ำพูดแต่ ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าในอกของเธอนั้นเกิดการเสียดและเจ็บแปลบขึ้นมา เธอทรุดตัวลงกับพื้นและใช้มือทั้งสองข้างปิดหู น้ำตาแห่งความกลัวไหลออกมาจากดวงตาที่ปิดแน่น เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้อง คนเหล่านั้นยังพร่ำพูดคำว่า ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ ใส่หูของเธอ
“ไม่..........!!!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างหวาดกลัว
“ถอยไป!” เสียงหนึ่งดังขึ้น คนจรจัดเหล่านั้นครางฮือๆอย่างหวาดกลัว พวกเขามือสั่นและตื่นตระหนก ทั้งหมดก้าวถอยออกจากเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่ยังคงนั่งอยู่ที่พื้น เธอตัวสั่นอย่างหวาดกลัวและไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองว่าใครยืนอยู่ข้างร่างของเธอ
“ไสหัวไป! ก่อนที่ฉันจะสาปแกให้หมด!” แฮร์รี่คำรามลั่นอย่างเดือดแค้น พวกคนจรจัดวิ่งหายไปราวกับใช้คาถาหายตัว
.....เขาค่อยๆพยุงเฮอร์ไมโอนี่ที่ตัวสั่นอย่างหวาดกลัวขึ้นมา เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้า เธอซ่อนใบหน้าที่ตื่นกลัวเอาไว้
มือของแฮร์รี่ลูบไปตามปอยผมของเฮอร์ไมโอนี่.....ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ พระเจ้าได้หใพรคริสมาสต์กับเขาแล้ว....ท่านคืนเธอมาให้เขา ทุกอย่างที่แฮร์รี่สัมผัส....เส้นผม...แก้ม....มือ ทุกอย่างนั้นแฮร์รี่รับรู้ได้ว่าเธอกลับมาแล้ว
“เฮอร์ไมโอนี่!” แฮร์รี่ดึงเฮอร์ไมโอนี่เข้ามากอด กอดแน่นที่สุดเท่าที่แรงของเขาจะสามารถทำได้ ความอบอุ่นของเธอ.......กลิ่นของเธอ...แฮร์รี่รับรู้ว่ามันไม่ใช่ความฝัน สิ่งที่เขารอคอยมาตลอดหนึ่งปีเต็มนั้นเขาได้กลับคืนมาแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่ปากสั่น เธอไม่คุ้นเคยกับอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความโหยหานี้.....
ใครกัน...ฉันไม่รู้จัก!
“อย่า!” พร้อมกับเสียงร้อง....เฮอร์ไมโอนี่ผลักแฮร์รี่ออก แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่อย่างุนงง แต่สิ่งที่ทำให้แฮร์รี่เจ็บปวดคือแววตาที่ว่างเปล่านั้น ที่มาจากเฮอร์ไมโอนี่
“คุณ....เป็นใครคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยน้ำเสียงที่อ้างว้าง แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่อย่างใจหาย
“เธอ.....เธอพูดว่าไงนะเฮอร์ไมโอนี่...” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงสั่น จิตใจของเขากำลังหวาดกลัว...เขากลัวสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ถาม...และกลัวแววตาว่างเปล่าที่เหมือนมองคนไม่รู้จักนั้น
“ฉัน....ฉันถามว่าคุณเป็นใครคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอีกครั้ง เธอไม่รู้จักเขา......สิ่งแรกที่เธอถามตัวเองหลังจากการหลับมานานแสนนานคือคำถามที่ว่า ‘ฉันเป็นใคร’
“เธอ....เธอจำฉันไม่ได้เหรอ” แฮร์รี่ถามอย่างเจ็บช้ำ และหัวใจของเขาก็แตกสลายไปทันทีเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ค่อยๆส่ายหน้าช้าๆ
“เธอจำฉันไม่ได้เหรอ!” แฮร์รี่ถามอย่างร้อนรน เขาตรงเข้าไปบีบไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่ไว้เพื่อเค้นถาม แววตาที่ร้อนรนของแฮร์รี่มองเข้าไปในดวงตาที่สับสนของเฮอร์ไมโอนี่อย่างร้อนรน เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่ส่ายหน้า แฮร์รี่กำลังจะเป็นบ้า เขาไม่เคยหวาดกลัวครั้งใดเท่าครั้งนี้มาก่อนในชีวิต
“ฉันไง...เฮอร์ไมโอนี่ ฉัน..เธอรู้สิ...ฉันไง..แฮร์รี่ พอตเตอร์!” แฮร์รี่พูดช้าๆ เฮอร์ไมโอนี่ตาเบิกกว้าง เธอนิ่งอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ชั่วครู่ที่แฮร์รี่หลงดีใจว่าเธอจำเขาได้แล้ว
แต่ความดีใจของแฮร์รี่พังทลายลงช้าๆ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่สะบัดมือของแฮร์รี่ที่จับไหล่ของเธอไว้ เธอก้าวถอยหลังไป....และมองแฮร์รี่อย่างเจ็บปวดและว่างเปล่า
“ฉันไม่รู้จัก.....ฉันไม่รู้จักชื่อนี้ และฉันไม่อยากได้ยินด้วย.....ฉันรู้สึกว่าฉัน....ฉันเจ็บปวดเมื่อไดยินชื่อนี้” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แตกลับแปลกที่ในความเจ็บช้ำนั้นมีความสุขเล็กๆซ่อนตัวอยู่ เฮอร์ไมโอนี่ในตอนนี้ไม่อยากสับสนกับหัวใจตัวเอง เธอไม่รู้เสียก้วยซ้ำว่าความรู้สึกนี้เธอควรจะเรียกว่าอะไร
ท่ามกลางเสียงเพลงวันคริสมาสต์......หัวใจของแฮร์รี่ถูกใครพรากไปเสียแล้ว เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน แววตาที่มองเขาอย่างอ้างว้างของเธอนั้นบาดลึกลงไปในจิตใจของเขา โลกทั้งโลกราวกับหยุดหมุนไปแล้ว ทุกอย่างรแบกายแฮร์รี่ราวกับพังครืนลงมา
“เฮอร์ไมโอนี่...” แฮร์รี่ดึงเฮอร์ไมโอนี่เข้ามากอดอีกครั้ง เขาตัดสินใจแล้ว...ทุกอย่างมันเริ่มต้นอย่างโหดร้ายเกินไป มันเริ่มต้นตรงที่เขาทำร้ายเฮอร์ไมโอนี่มาตลอด และตอนนี้....ถ้าเขาจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...เขาจะเริ่มต้นรักเธอด้วยหัวใจทั้งหมดที่เขามี
“ไม่เป็นไร....ถึงเธอจะจำฉันไม่ได้...แต่ฉันจะสร้างความทรงจำใหม่ให้เธอเอง” แฮร์รี่พูดเบาๆอย่างเจ็บปวด เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ความรู้สึกหนึ่งตื้นตันเต็มอกเฮอร์ไมโอนี่ เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถจะเอ่ยเป็นคำพูดได้....แต่เธอแน่ใจว่ามันมาจากคนคนนี้...ผู้ชายอ่อนแอที่กำลังกอดเธอด้วยวงแขนที่ส่นเทา
‘พระเจ้า....ท่านจะลงโทษผมใช่มั้ยที่ละเลยสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไป’ แฮร์รี่คิดในใจ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น...มันก็สาสมกับเขาแล้ว
แฮร์รี่จูงมือเฮอร์ไมโอนี่มาบนถนนเงียบๆ ไม่มีคำพูใดๆออกมาจากปากของคนทั้งสองคน แฮร์รี่ไม่กล้าแม้แต่จะมองเฮอร์ไมโอนี่ เขากลัวว่าจะเจอแววตาที่ว่างเปล่าของเธอ เพราะฉะนั้น...เขาจึงได้แต่กุมเธอไว้แน่นและก้มหน้ามองถนน....
แต่สายตาของแฮร์รี่เหลือบไปเห็นเท้าบอบบางเปลือยเปล่าที่แดงก่ำ แฮร์รี่ลืมไปสนิทเลยว่าเฮอร์ไมโอนี่ออกมาโดยไม่มีรองเท้า เท้าเปล่าแล้วออกมาเดินบนถนนในหน้าหนาวแบบนี้เหมือนกับเดินบนคมมีดชัดๆ
“เฮอร์ไมโอนี่! เธอไม่มีรองเท้านี่” แฮร์รี่ร้องและคุกเข่าลงกับพื้น เฮอร์ไมโอนี่ตกใจกับท่าทางของแฮร์รี่ เธอมองไปรอบๆอย่างตื่นตระหนก ถึงเธอจะเป็นคนที่จำอะไรไม่ได้แต่การกระทำแบบนี้ย่อมเป็นจุดรวมสายตาของผู้คนบนท้องถนน
“เอ่อ.....แฮร์รี่...” เฮอร์ไมโอนี่รวบรวมความกล้าเอ่ยชื่อแฮร์รี่เบาๆ แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นด้วยแววตามีความหวัง แต่แววตานั้นก็หายไปเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ยังคงมองเขาอย่างว่างเปล่าอยู่เหมือนเดิม
“เอ่อ....คือ...ทำแบบนี้คนมองกันใหญ่แล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆอย่างเขินอาย แฮร์รี่ยิ้มขบขัน ไม่ว่าเธอจะเป็นเฮอร์ไมโอนี่คนไหนแต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงกลัวสายตาคนอื่นอยู่เหมือนเดิม
“งั้นฉันจะหารองเท้าให้นะ..อือ....เธอใส่ชุดบางๆมาเดินแบบนี้ก็คงหนาวแย่ละสิ...งั้นเราไปซื้อชุดใหม่กันเลยดีกว่า” แฮร์รี่พูดอย่างครุ่นคิดขณะจับเท้าเปลื่อยเปล่าของเฮอร์ไมโอนี่ที่เย็นเฉียบ แต่ถ้าจะให้เธอเดินไปถึงร้านขายเสื้อผ้า....ป่านนั้นเท้าของเฮอร์ไมโอนี่คงจะเป็นน้ำแขงไปแล้ว
แฮร์รี่ถอดโค้ทออก เขาเหวี่ยงมันไปด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่และคลุมให้เธอ จากนั้น...แฮร์รี่ก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต
“ว้าย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง.....เมื่อแฮร์รี่ก้มตัวลงและช้อนร่างของเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้ในอ้อมแขน แฮร์รี่ยิ้มให้กับเฮอร์ไมโอนี่ที่ตื่นตระหนกอยู่ในอ้อมแขนเขา.....มีไม่กี่ครั้งในชีวิตหรอกที่จะได้เห็นเฮอร์ไมโอนี่ผู้กล้าหาญเขินอายแบบนี้
“ไปเถอะ” แฮร์รี่พูด เขาก้าวเดินมาตามถนนโดยไม่สนใจสายตาของใครทั้งสิ้น
“ที่นี่ล่ะ” แฮร์รี่พูดกับเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเขาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นอ่านป้ายตัวโตหน้าร้าน มันเขียนไว้ว่า ‘ร้านเสื้อคลุมทุกโอกาสของมาดามมักกิ้นส์’
“ที่นี่เหรอ...” เฮอร์ไมโอนี่ถามเบาๆ แฮร์รี่พยักหน้า
“โอ.....พระเจ้า....ดูเอาเถอะว่าใครมาที่ร้านฉัน” เสียงกรีดเล็กของหญิงชราดังขึ้น มาดามักกิ้นส์เปิดประตูออกมาและทำท่าปลื้มปีติกับภาพที่เธอได้เห็นตรงหน้า
“คุณพอตเตอร์...เมอร์รี่คริสมาสต์นะจ๊ะ คุณด้วยจ้ะคุณเกรนเจอร์..” มาดามมักกิ้นส์ยิ้มให้กับเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว
“เกรนเจอร์......เหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ
“เดี๋ยวค่อยเปิดการสนทนาเถอะ ขอผมเข้าไปในร้านได้มั้ยครับมาดามมักกิ้นส์” แฮร์รี่ถาม
“ทำไมฉันต้องปฏิเสธเธอล่ะจ๊ะ เข้ามาก่อนสิ” มาดามมักกิ้นส์หลบฉากให้แฮร์รี่อุ้มเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปในร้าน เธอยิ้มให้กับภาพที่แฮร์รี่ค่อยๆวางเฮอร์ไมโอนี่ลงบนเก้าอี้
“มีอะไรให้ฉันช่วยหรือคะ” มาดามมักกิ้นส์ถาม
“หาเสื้อดีๆและอุ่นๆให้เธอใส่ครับ”แฮร์รี่ตอบ
“งั้น....คุณเกรนเจอร์...เชิญด้านนี้ค่ะ” มาดามมักกิ้นส์โอบไหล่เฮอร์ไมโอนี่เข้าไปในห้องด้านหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่หันมามองแฮร์รี่เหมือนเด็กที่อ้อนแม่
แฮร์รี่ได้แต่ยิ้มสู้.....นี่เขากำลังทำอะไรอยู่นะ
เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงที่แฮร์รี่นั่งแก่วอยุ่บนเก้าอี้ เขามองไปที่ประตูห้องนั้นอย่างกระวนกระวาย และหลายครั้งที่เขาลุกจากเก้าอี้ไปเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าห้องนั้น
แต่แล้วการรอคอยอย่างกระวนกระวายก็สิ้นสุดลง....เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ก้าวออกมาช้าๆพร้อมกับมาดามมักกิ้นส์ และแฮร์รี่รู้สึกเหลือเกินว่ามันคุ้มค่าแห่งการรอคอย เฮอร์ไมโอนี่ดูสง่างามในชุดกระโปรงยาวสีขาวและมีโค้ททับ ทำให้เขาหวนนึกไปถึงงานเต้นรำวันคริสมาสต์เมื่อหลายปีที่ปล้ว ความรู้สึกและท่าทางของเขาในตอนนี้เหมือนกับวันนั้น
“คงจะพอใช้ได้นะจ๊ะ” มาดามมักกิ้นส์เป็นผู้ทำลายการหวนนึกถึงความทรงจำของแฮร์รี่ แฮร์รี่ได้แต่พยักหน้าจนคอแทบหลุด
“แต่เรายังขาดรองเท้าจ้ะ” มาดามมักกิ้นส์พูด เธอเดินไปทีกล่องซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นก็ยื่นให้แฮร์รี่ แฮร์รี่ยิ้ม เขารู้ว่าเขาต้องทำอะไร
“มานี่จ้ะ” มาดามมักกิ้นส์ดึงเฮอร์ไมโอนี่มานั่งลงบนเก้าอี้อย่างเกรงๆ แฮร์รี่คุกเข่าลงตรงหน้า เขาค่อยๆสวมรองเท้าให้เฮอร์ไมโอนี่.....ราวกับภาพของนิยายปรัมปรา
“เมอร์รี่คริสมาสต์...เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นยิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่ และเฮอร์ไมโอนี่ก็ยิ้มตอบ....ไม่เคยมีคริสมาสต์ใดที่มีความสุขเท่าคริสมาสต์ในปีนี้อีกแล้วสำหรับแฮร์รี่
แฮร์รี่บอกลามาดามมักกิ้นส์แทนเฮอร์ไมโอนี่เสร็จก็พาเจ้าหญิงของเขาเดินออกมาจากร้าน หิมะยังคงโปรยปรายลงมา แฮร์รี่มองมันอย่างสุขสันต์....มันดูสวยงามกว่าตอนที่เฮอร์ไมโอนี่หลับใหล เจ้าหญิงเดินตามหลังเขามาเงียบๆ ใบหน้าของเธอเหมือนกำลังครุ่นคิด
“แฮร์รี่......” เฮอร์ไมโอนี่เรียกเบาๆ แฮร์รี่หันมาและยิ้มให้กับใบหน้าที่สับสนของเฮอร์ไมโอนี่
“คุณเป็นใครกันแน่......ทำไมคุณถึงดีกับฉัน” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างเศร้าหมอง เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองแฮร์รี่....คำถามนั้นเป็นคำถามง่ายๆแต่แสนจะยากลำบากสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ เกิดความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถห้ามน้ำตาได้ในใจของเฮอร์ไมโอนี่
ความเงียบแสนอ้างว้างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่ที่ห่างไกลเหลือเกินในความคิดของเขา ตอนนี้เธอไม่มีเขาอยู่ในหัวใจแล้ว ซ้ำร้ายเธอยังรู้สึกเจ็บปวดที่ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของเขาเสียอีก
“ฉันเป็นคนรักของคุณเหรอ.....” เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยเสียงสั่นเครือ ใจของแฮร์รี่ร่ำร้องเหลือเกินให้ตอบคำถามง่ายๆว่า ‘ใช่’ แต่ในใจของเขา....ความถูกต้องเล็กน้อยนิดหนึ่งบวกความรู้สึกรักผู้หญิงตรงหน้าอย่างจับใจ
“ฉันเป็นคนที่รักเธอต่างหากล่ะ” แฮร์รี่ยิ้ม เป็นยิ้มที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความแจ่มใส
..........ตอนนั้นเอง...ที่เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอซึ่งกำลังหลงทางอยู่ในความมืด...ไม่มีทางออกและเดียวดาย แต่แล้วแสงสว่างที่แสนอบอุ่นก็ช่วยนำทางเธอออกจากควมมืดมิดนั้นให้เธอได้หายใจอีกครั้ง....และเหมือนมีชีวิตใหม่
“แฮร์รี่....” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มทั้งน้ำตา ความปลาบปลื้มใจล้นเต็มปรี่อยู่ในอก ความรู้สึกหนึ่งที่เหมือนถูกปิดกั้นเอาไว้สามารถปดปล่อยออกมาได้
.........คนนี้เองใช่มั้ย....ที่เป็นคำถามแรกเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาว่าเธอคิดถึงใครกันแน่
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกโหยหาอยากจะให้แฮร์รี่กอดเธออีกสักครั้ง....เธอแน่ใจว่าถ้าเธอได้รับความอบอุ่นจากเขาอีกครั้งเธอจะสามารถมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองมากกว่านี้ได้แน่นอน
“แฮ.....”
“แฮร์รี่!” เสียงเสียงหนึ่งดันเสียงของเฮอร์ไมโอนี่ให้กลับลงคอไป แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่หันไปตามเสียงเรียก แฮร์รี่แทบอยากจะฉุดเฮอร์ไมโอนี่ให้รีบไปจากตรงนั้นโดยเร็ว.......
หญิงสาวผมสีดำยืนยิ้มกว้างให้แฮร์รี่ นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความยินดีและเป็นสุข
“โช......” แฮร์รี่พึมพำออกมาจนเสียงแทบจะลอยไปกับสายลม
จู่ๆความรู้สึกเจ็บแปลบก็เกิดขึ้นในใจของเฮอร์ไมโอนี่ ความรู้สึกนี้เจ็บยิ่งกว่าครั้งแรกที่ได้ยินชื่อของแฮร์รี่ ผู้หญิงคนนั้นฉีกยิ้มหว้างที่เหมือนฉีกใจของเฮอร์ไมโอนี่ใหสิ้นสลาย ความรู้สึกสับสนและปวดร้าวเจ็บมากขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อเธอเดินเข้ามาหาแฮร์รี่
“เธอหายไปไหนมาตั้งปี” โชถามเสียงสั่น แต่มีรอยยิ้มปลายปลื้มบนใบหน้า แฮร์รี่ทำอะไรไม่ถูก เขาได้แต่ยืนตะลึงและนิ่งแข็งเมื่อโชโผเข้ากอดเขา
“ฉันคิดถึงเธอนะ!” โชพูด เธอสะอื้นกับบ่าของแฮร์รี่เบาๆ สีหน้าของแฮร์รี่นั้นร้อนใจและเป็นทุกข์ เขาลืมไปเสียสนิทว่าก่อนที่เขาจะบอกลาโลกภายนอกและมาดูแลเฮอร์ไมโอนี่ในบ้านหลังนั้นเพียงลำพัง......เขายังมีโชอยู่ และลืมเสียสนิทแม้แต่จะบอกเลิกความสัมพันธ์ของเขากับเธอ
“โช....คือ...” แฮร์รี่อึกอัก
“ฉันตามหาเธอตลอดเลย รอนกับจินนี่แล้วก็ทุกคนพยายามปกปิดฉัน ฉันตามหาเธอมาตลอด เธอทำอย่างนี้ได้ยังไงน่ะแฮร์รี่.....เธอหายไป....จากฉันไปตั้งหนึ่งปี” โชละล่ำละลักพูดอย่างดีใจ แต่แฮร์รี่กับรู้สึกเหมือนถูกน้ำเย็นๆสาดจนใบหน้าด้านชา เขามองภาพที่โชยิ้มอย่างดีใจแล้วพาลคิดว่า.......ผู้หญิงที่รอเขามาตั้งหนึ่งปีแต่พอมาวันนี้.....ผู้ชายคนนี้กลับไม่มีเธออยู่ในหัวใจอีกแล้ว โชจะคิดยังไงกันนะ
แต่ยังไงเขาก็ต้องบอกเธอ.....เขาจะต้องบอกเธอให้ได้ แฮร์รี่กำลังสับสนและมาดมั่น เขาไม่สามารถจะรักเฮอร์ไมโอนี่ได้อย่างบริสุทธิ์ใจถ้าโชยังได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขาอยู่
“โช......” แฮร์รี่เรียกเบาๆด้วยความละอายใจ
“คะ” โชตอบเสียงใส
“ผมอยากให้รู้เรื่องที่เราไม่ได้เจอกันมาตลอดหนึ่งปีนี่....” แฮร์รี่ก้มหน้าลง เขารู้สึกละอายใจที่กำลังจะทำให้รอยยิ้มสดใสนี้หายไป
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณหายไปไหนมาตลอดหนึ่งปีนี่” โชใช้หลังมือปาดน้ำตา แฮร์รี่เคยคิดว่าถ้าโชร้องไห้ก็อยากจะเป็นคนเช็ดน้ำตาให้เธอ แต่มันคงจะเป็นอย่างนั้นไม่ได้อีกแล้ว.....ต่อไปนี้...เขามีคนที่จะต้องเช็ดน้ำตาให้ ไม่สิ!เขาจะต้องดูแลเธอไม่ให้มีน้ำตาต่างหาก
“คุณน่าจะรู้เรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่........ปกป้องผมไม่ให้ถูกโวลเดอมอร์ฆ่าตาย” แฮร์รี่ถอนหายใจครู่หนึ่ง โชฟังเขาอย่างตั้งใจ รอยยิ้มหายไปแล้ว เหลือแต่ความสงสัยและความครุ่นคิด
“ค่ะ...ฉันรู้” โชตอบเสียงแผ่วเบา แฮร์รี่ตัดสินใจอย่างยากเย็นที่จะพูดต่อ
“ตั้งแต่นั้นมาเธอก็เป็นจ้าหญิงนิทรา......” แฮร์รี่พูดอย่างขมขื่น เขาไม่กล้ามองโชตอนนี้ แต่เขาได้ยินเสียงโชร้องอย่างตกใจครู่หนึ่ง
แฮร์รี่เงยหน้าขึ้น เขาคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วสำหรับการจะบอกความจริงในใจ
“และผมก็อยู่ดูแล ผมทิ้งเธอไม่ได้ เธอปกป้องผม....เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แต่ผมกลับทำร้ายเธอ! ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่เป็นจิตใจ.....ผมทำร้ายเธอมาตลอดเจ็ดปี จนผมได้รู้ว่า.....ตอนนี้.....ความรู้สึกของผมที่มีต่อเฮอร์ไมโอนี่มันไม่ใช่แบบเดิม” แฮร์รี่ไม่สามารถรหยุดคำพูดได้ สีหน้าของโชดูเศร้าสลดเล็กน้อยเหมือนกับพอจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง แฮร์รี่รู้สึกสงสารโชจับใจขณะที่นิ่งมองดูเธอกลั้นน้ำตา
“คุณรู้ใช่มั้ยว่าผมจะพูดอะไรต่อไป....โช” แฮร์รี่พูดอย่างหนักแน่น ถึงจะดูใจร้ายไปเสียหน่อยแต่เขาก็ต้องทำ....เพื่อโช....เพื่อคนที่เขารัก...และเพื่อตัวของเขาเอง
น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาสีดำสนิท โชฝืนยิ้มอย่างฝืดเคือง เธอยิ้มและพยักหน้า แฮร์รี่สงสารเธอจับใจ เขามองโชที่เอาแต่ยิ้มและพยักหน้าอย่างเจ็บปวด
“คุณไม่ต้องบอกฉันหรอกค่ะ....ฉันคิดว่าเรื่องนี้ฉันไม่ควรจะได้ฟังเป็นคนแรก...แต่ต้องเป็นเธอต่างหาก” โชเช็ดน้ำตา เธอยื่นมือออกมา แฮร์รี่จับมือเธอด้วยความเป็นมิตร ภูเขาทั้งลูกออกจากอกของแฮร์รี่ไปแล้ว เขารู้สึกเป็นสุขขึ้น
“คุณไปบอกเธอตอนนี้เลยเถอะค่ะ.....เธออยู่ที่ไหนคะ” คำถามนี้ทำให้คิ้วของแฮร์รี่ชนกัน โชพูดถึงอะไร แฮร์รี่สงสัย
“คุณถามหาใคร”แฮร์รี่ถาม
“คุณเกรนเจอร์ไงคะ ฉันคิดว่าคุณน่าจะไปบอกเธอซะตอนนี้เลย....ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนล่ะคะ”
“ก็..................” แฮร์รี่หันมาหวังว่าจะพบเธอ.........
แต่ความว่างเปล่าและลมเย็นๆของวันคริสมาสต์ทำให้แฮร์รี่หน้าชา.......เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า.......เธอหายไปอีกแล้ว
ลมที่ตรอกไดแอกอนว่าเย็นแล้ว......แต่ลมที่ริมทะเลสาบฮอกวอตส์นี้หนาวจับใจกว่า.......
ใบหน้าของหญิงสาวเย็นเฉียบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม.....บวกกับลมที่เธอคุ้นเคยนี้.....มันหนาวเย็นจนบาดลึกลงไปในจิตใจ
..............เมื่อได้พบโช......เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งเจ็บและปวดจนคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว......แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดนั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถจะยืนอยู่ตรงนั้นได้
......ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว เหตุการณ์ทุกอย่างที่ไม่ใช่แค่วันคริสมาสต์ปีนี้ แต่เป็นปีที่แล้ว สองปีที่แล้ว......สามปีที่แล้ว ทุกคนที่เอคุ้นเคยกลับเข้ามาในความทรงจำ ทุกๆคนที่เป็นเพื่อน....และศัตรู
ท่ามกลางความทรงจำที่ย้อนกลับมานั้น เขาเด่นชัดขึ้นอีกครั้งในใจของเธอ.......พร้อมกับความรู้สึกหนึ่งที่เด่นชัดมากขึ้น.......พร้อมกับความเจ็บปวดที่เริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ
เฮอร์ไมโอนี่เช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเองเป็นครั้งที่ร้อย เธอจำได้ทุกอย่างแล้ว.....ความรู้สึกและความเจ็บช้ำทั้งหมดก็กลับคืนมาด้วย ทันทีที่พบโช...ความทรงจำของเฮอร์ไมโอนี่ก็กลับคืนมา และความเจ็บปวดที่แอบรักเขาคนนั้นข้างเดียวก็กลับคืนมาด้วย เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถมองภาพที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันนั้นได้.....เธอจึงเดินจากมาโดยไม่ให้พวกเขารู้ตัว
‘ฉันเลวจริงๆ......ฉันดึงแฮร์รี่ไว้กับตัวเองตั้งปี.....แต่พอเขาจะได้กลับไปหาคนรัก....ฉันกลับเจ็บใจ’ เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างโศกเศร้า ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล เมื่อครู่นี้เธอคิดว่าถ้ากลับมาที่นี่อีกครั้งเธอจะสามารถเก็บความรู้สึกของเธอที่มีต่อแฮร์รี่ไว้ได้เหมือนเดิม เธอทนมาได้ตั้งเจ็ดปี แต่แค่ฟื้นขึ้นมาวันเดียวเธอกลับทนไม่ได้
“เฮอร์ไมโอนี่!”เสียงที่ติดแน่นอยู่ในความทรงจำของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้นด้านหลัง ใจของเฮอร์ไมโอนี่เต้นถี่แรงเหมือนกลองรัว ขอร้องล่ะ....ถ้าฉันเจอเธอตอนนี้ความพยายามตลอดเจ็ดปีของฉันจะจบลง
“เฮอร์ไมโอนี่...ฉัน...”
“อย่าเข้ามา!” ทั้งที่เขาเป็นคนที่เธอคิดถึงมาตลอด.....แต่ตอนนี้เธอต้องห้ามความรู้สึกทุกอย่างที่มีต่อเขาเอาไว้ สมควรปล่อยเขากลับไปหาคนรักได้แล้ว........เขาอยู่กับเธอตลอดหนึ่งปีนี่เพราะความรู้สึกผิด ถึงเวลาที่เธอจะต้องปลดปล่อยเขาแล้ว.....เฮอร์ไมโอนี่คิดกับตัวเอง
“เฮอร์ไมโอนี่......” แฮร์รีพูดเบาๆอย่างเสียใจ
“ฉันขอร้องล่ะ.....อย่ายุ่งกับฉันมากไปกว่านี้เลย....ไม่งั้นฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอกลับไปหาโชแน่” เฮอร์ไมโอนี่ตะเบงเสียง...แข่งกับเสียงลมที่หยาวเย็น
“เธอหมายความว่ายังไง” แฮร์รี่ถามเสียงต่ำ
“ฉันขอโทษนะ! ฉันมันเป็นเพื่อนที่แย่ ฉันคิดไปในทางไม่ดีกับเธอ......ฉัน....ฉันเป็นสาเหตุให้เธอต้องห่างจากโชตลอดหนึ่งปีมานี่ใช่มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถพูดต่อได้ เธอจ้องมองดูแฮร์รี่อย่างห่วงหา แฮร์รี่หายใจถี่
“เธอจำได้แล้วเหรอ” แฮร์รี่ถามอย่างประหม่า
“ช่วยทำให้ฉันกลับไปลืมทุกอย่างเหมือนเดิมทีเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเจ็บช้ำ
แฮร์รี่ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาก้าวเข้าไปหาเฮอร์ไมโอนี่ดดยไม่ฟังเสียงร้องห้ามของเธอ ผู้หญิงที่ตอนนี้อยู่ตรงหน้าเขาเป็นผู้หญิงที่เขาเฝ้ารอคอยมาตลอดหนึ่งปีมานี่....และเป็นผู้หญิงใจกล้าที่ทนความเจ็บปวดที่เขามอบให้ได้มานานกว่าเจ็ดปี
แฮร์รี่ยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าที่เย็นเฉียบและซีดเซียวของเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่ไม่พูดอะไร....แววตาอ่อนโยนของแฮร์รี่ทำให้เธอไม่สามารถต้านทานได้ แฮร์รี่สัมผัสใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่.....เรียวผม....เปลือกตา เขาเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ
“เธออาจไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นตลอดหนึ่งปีมานี่ มีสองสิ่งที่ฉันพูดกับพระเข้ามาตลอดหนึ่งปีว่าขอให้เธอฟื้นขึ้นมา.......และขอบคุณท่านที่ทำให้ฉันรู้ใจตัวเอง” แฮร์รี่พูดอย่างอ่อนโยน เขาจูบที่เปลือกตาของเฮอร์ไมโอนี่เบาๆด้วยความรัก เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลง.....สัมผัสลมหายใจอุ่นๆของเขาที่ใบหู รอฟังว่าแฮร์รี่จะกระซิบว่าอะไร
“ฉันรักเธอ.....เฮอร์ไมโอนี่” คำพูดของแฮร์รี่เปรียบเสมือนคำอวยพรวันคริสมาสต์ที่ดีที่สุดเท่าที่เฮอร์ไมโอนี่เคยได้ยินมา เสียงเพลงคริสมาสต์ลอยมาแต่ไกลๆ แต่ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามรถรับรู้ถึงเสียงรอบข้างได้อีดแล้ว.....เมื่อแฮร์รี่เอาแต่กระซิบบอกรักเธอที่ข้างหูอยู่เนิ่นนาน
“ฉันก็รักเธอ...แฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆ เธอยิ้มอบอุ่นทำลายความหนาวเย็นรอบข้าง สำหรับแฮร์รี่.....ไม่มีคริสมาสต์ใดจะสวยงามและน่ารื่นรมย์เท่ากับครั้งนี้อีกแล้ว
...........เฮอร์ไมโอนี่อยากจะพูดเมอร์รี่คริสมาสต์กับแฮร์รี่....แต่คงต้องรอไปก่อน.......เพราะแฮร์รี่มอบจูบเป็นของขวัญให้กับเธอ....จูบที่แนบแน่นและเต็มไปด้วยความคิดถึง
คริสมาสต์ปีใดก็ไม่วิเศษเท่าปีนี้......ปีที่ทั้งสองได้รับความรักจากกันและกันเป็นของขวัญ
.........ขอบคุณพระเจ้า....ที่คืนเธอให้กับผม....ขอบคุณสำหรับของขวัญวันคริสมาสต์ที่ดีที่สุดในชีวิต แฮร์รี่คิด
Merry Christmas
ความคิดเห็น