ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #B-Boy VS #Boy Band ^O^ รักนี้มีลุ้น!!![Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 9 อะไรของมึงไอ้จีน!!

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 53





     

    “ติ๊ดๆๆๆๆๆ” เสียงนาฬิกาปลุกดังบนหัวเตียง แม้ผมจะไม่คุ้นกับเสียงนี้แต่ผมก็พอมีสติที่จะรู้ว่าที่ผมไม่คุ้นเป็นเพราะผมไม่ได้นอนบ้านตัวเอง  

     

    ผมผลักลำแขนแข็งแรงของไอ้จีนออกจากตัว ไม่รู้เป็นอะไรครับ มันชอบคิดว่าผมเป็นหมอนข้างทุกที ตื่นมาทีไรต้องมีแขนมันมาก่ายตัวผมตลอด

     

    ผมลุกไปปิดเสียงนาฬิกา คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่ลืมที่จะล๊อคประตู กลัวว่าไอ้จีนมันจะละเมอมาเปิดประตูห้องน้ำ แหะๆๆ ไม่ใช่หรอกครับความจริงคือผมเข็ดแล้วอ่ะกับเมื่อคืน

    >//////<

     

    ผมอาบน้ำเสร็จไอ้จีนมันยังไม่ลุกจากเตียงเลยครับ เดี๋ยวก็ไปสายกันพอดี ต้องปลุกไอ้ขี้เซานี่ก่อน แล้วผมก็ยิ้มชั่วร้ายออกมา

    หึหึ!! เมื่อคืนแกล้งกู เอาคืนมั่งดีกว่า

    คิดแล้วผมก็เดินเข้าไปหาไอ้จีนที่หลับเป็นตายอยู่บนเตียงไม่มีท่าทีจะตื่นง่ายๆ มันนอนใกล้ๆ ขอบเตียงพอดีเลยครับ หึหึ!! ผมเดินขึ้นไปบนเตียงอย่างเบาตีนที่สุดแล้วง้างขาในท่าที่คิดว่าจะทำให้ไอ้จีนตกเตียงให้แรงที่สุด แล้วก็...

     

    “ป๊าป!!!

     

    กลายเป็นว่าผมถูกคว้าข้อเท้าไว้ด้วยมือแข็งแรง ไม่แค่นั้นมันยกเท้าผมขึ้น!

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!! ผ้าเช็ดตัวมัน... มัน... มัน... ถลกขึ้นมา!!

    ผมรีบคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่พันเอวอยู่ทันที ไม่ให้มันเปิดกว้างไปมากกว่านี้ แต่ไอ้การทำอย่างนั้นทำให้ผมต้องล้มลงบนเตียงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็ยังดีกว่าโชว์มังกรผมให้ไอ้จีนดูแหละครับ แม้ว่ามันจะมีบ๊อกเซอร์อยู่แต่ผมก็กลัวมันล้นออกมา ใช่ของเล็กๆ ที่ไหนล่ะ ((อวดได้อีก//ไรเตอร์)

     

    แต่ก่อนที่ผมจะดันตัวเองลุกขึ้นมาได้ ไอ้จีนก็ขึ้นคร่อมผมเสียแล้ว แถมคว้าข้อมือผมกดลงที่เตียง ใบหน้าง่วงนอนของมันเมื่อกี้หายเกลี้ยง เหลือแต่รอยยิ้มที่สะใจ

    ตกลงมึงไม่ได้หลับใช่ม๊ายยยยยยยยย!!

     

    “มึงจะทำอะไรกู”

     

    “เปล่า... กูแค่จะปลุกมึง” ผมตอบยิ้มๆ ให้มันรู้ว่าผมแค่ล้อเล่น

     

    “ด้วยตีนเนี่ยนะ”

     

    “แหม๋... ล้อเล่นแค่นี้เอง” ผมยิ้มแหยๆ

     

    “แค่นี้เองเหรอ ถ้ากูตกเตียงมึงคงสะใจสินะ สมองมีแต่เรื่องแบบนี้ อย่างนี้ต้องลงโทษ”

    ไม่ว่าเปล่าเชี่ยแมร่งก้มหน้าลงตรงซอกคอผมซุกไซร้จนผมรู้สึกเสียว...

    แง่ง~~ มันเป็นไปเองอ่ะ ผมไม่ได้อยากรู้สึกแบบนั้น ผมพยายามรวบรวมแรงเพื่อผลักมันออกแต่ไร้ผล มันทำยังไงให้ผมหมดแรงได้อย่างนี้เนี่ย...

    แง~~ เอามันออกไปทีครับพี่น้องงงงงงงงงง!!

    เมื่อมันซุกไซร้หนำใจแล้วมันก็หยุดปากไว้ใกล้ติ่งหูผม จนรู้สึกถึงลิ้นอุ่นที่สัมผัสกับต้นคอทำเอาผมขนลุก ริมฝีปากหนาของมันกดหนักลงไปอีก

     

    “เชี่ยกูเจ็บ!!” ผมบอกพร้อมกับถีบลำตัวมันออกไป

     

    “อุ๊บ!!” มันร้อง ก็แน่ล่ะสิ!! ผมถีบมันเต็มๆ ตีน ด้วยแรงทั้งหมดที่ผมรวบรวมมาได้

     

    “มึงทำเชี่ยอะไรวะ” ผมถูๆ ไถๆ ตรงบริเวณที่โดนมันกัด แต่พอนึกอะไรได้ก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ

    “สัดจีน!! มันเป็นรอย!!” ผมตะโกนออกมา แล้วหันไปทางคนที่ยืนยิ้มพร้อมผ้าเช็ดตัวพาดบ่า

     

    “ตัวมึงหอมดีนะ” มันบอกผมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ แล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์ โดยไม่ลืมลากผมออกจากห้องน้ำด้วย

    มึงสบายอารมณ์แต่กูเครียดดดดดดดดด

     

    “เอาน่ากูขอโทษก็แล้วกัน คราวหน้ากูจะทำเบาๆ ไม่ให้เป็นรอยโอเค้”

     

    เค้พ่องดิ!! ผมกะจะง้างขาเตะมันอีกทีครับ แต่มันดันปิดประตูห้องน้ำไปแล้ว

    เฮ้อ... อย่างนี้มีหวังโดนปากหมาๆ ของไอ้สามตัวนั่นแซวทั้งวันแน่ๆ ผมพยายามเช็ดมันทั้งที่ผมก็รู้ดีว่ามันคงไม่ออก ก็มันรอยจูบไม่ใช่ลิปติก!!

     

    “แว้น แว้นนนน แว้นนนนนนน แว้นนนนนนน เฟี้ยววววววว โครม วี่หว่อๆๆๆ”

     

    ผมหันไปมองไอ้เครื่องสีขาวของผมที่กำลังกรีดร้องอยู่บนหัวเตียง มือที่กำลังแต่งตัวหยุดทันที แล้วผมก็คลี่ยิ้มกับชื่อที่หน้าจอ

     

    “สวัสดีครับ” ผมทักปลายสายด้วยเสียงที่คิดว่าหล่อที่สุด

     

    [แหม๋ทักซะหวานเลยนะเวียงเหนือ... ตื่นแล้วเหรอเจ้า] ปลายสายถามผมกลับ ทำเอาผมยิ้มกว้างงงงง

    โอ๊ยๆๆ ตายๆๆ ผมคิดถึงเสียงนี้ชิหองเลยครับ ไม่ได้ยินมาตั้งสองวัน ตั้งใจว่าจะโทรไปหาสักหน่อย แต่ผมก็มีแต่เรื่องยุ่งๆ รกสมองอันน้อยนิด ทำให้ลืมสนิท

     

    “ตื่นแล้วครับ มินิล่ะอยู่ไหน ออกบ้านหรือยัง”

     

    [ออกแล้วเจ้า มินิใกล้ถึงโรงเรียนแล้วแหละ]

     

    “ไปโรงเรียนเช้าๆ แบบนี้ สงสัยลอกการบ้านเพื่อนล่ะสิ” ผมแซว มินิหัวเราะร่วน

     

    [เวียงเหนือเข้าใจผิด มินิเอาการบ้านไปให้เพื่อนลอกต่างหาก]

     

    “คุยกับใครวะ” ไอ้จีนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำถามผม

    เอิ่ม... นี่มึงอาบน้ำหรือวิ่งผ่านน้ำวะ เร็วชิหอง!!

     

    “มินิ” ผมตอบ

     

    [เวียงเหนือไปนอนบ้านจีนแดงเหรอ] มินิถามคงเพราะได้ยินเสียงไอ้จีนเข้าในโทรศัพท์แหง

     

    “ใช่ครับ”

     

    [ไปบ้านจีนแดงบ่อยจัง]

     

    น้ำเสียงน้อยใจของมินิทำเอาผมอดยิ้มกว้างไม่ได้ คือ... ผมชอบคิดไปเองอย่างนี้แหละครับ อย่าถือสาผมเลย ขอแค่ให้ผมได้ใช้จินตนาการอันสูงส่งเพียงลำพังแค่นี้ก็พอใจแล้ว

    ผมชอบมินิ เพราะมินิน่ารัก ถ้าไม่นับหน้าตาที่น่ารักสุดๆ แล้วเนี่ย นิสัยก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผมชอบ ไม่จู้จี้ ไม่โวยวาย ไม่เอาแต่ใจ ไม่ง๊องแง๊งเรื่อยเปื่อย ชอบทุกกิจกรรมที่ผมทำ แต่มีอย่างเดียวที่มินิขัดใจผม... มินิไม่ชอบผมอย่างแฟน =.,=

    จริงๆ เรื่องนี้ผมไม่เคยถามหรอก แต่ผมพอจะรู้... เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องให้ใครบอกหรอกครับ มันรู้สึกได้เอง และนั่นทำให้ผมคิดว่าผมอกหักทั้งที่ไม่เคยเริ่ม T^T

     

    “พ่อแม่มันไปลอนดอนครับ” ผมบอกเหตุผลไป

     

    [วันนี้ไปลานกิจกรรมไหมเจ้า]

     

    “ไปครับ”

     

    [งั้นเจอกันที่นั่นก็แล้วกันนะเจ้า]

     

    “มินิจะไปหาเหรอ” ไอ้จีนถามหลังจากผมวางโทรศัพท์ ผมพยักหน้าให้แล้วแต่งตัวต่อ

    “มาทำไมบ่อยวะ”

     

    “เอ้า!! เค้ามาก็ดีกว่าไม่มา” ผมบอกอย่างใจผมคิด ในขณะที่ผมดีใจที่จะได้เจอกับมินิอยู่นั้น ผมก็นึกบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้

    ใช่ครับ!! ไอ้นาย... กับไอ้ไรท์

    ความรู้สึกของไอ้นาย กับสิ่งที่ผมดันไปรับปากกับไอ้ไรท์ หนักใจครับ

    -_-^^^^

    แล้วมันก็ทำให้หัวใจที่ลิงโลดของผมดับวูบทันที ผมลืมไปว่าสุดท้ายผมก็ต้องจำใจยกมินิให้ไอ้นาย

    .........................

     

    ผมเดินเข้าห้องด้วยอารมณ์ที่ไม่สู้จะดีนัก วางเป้หนักๆ ลงปุ๊บก็เอาตีนขึ้นโต๊ะ (ซึ่งถ้าเป็นไปได้ผมอยากเอามาก่ายหน้าผากด้วยซ้ำ) พร้อมนั่งเก้าอี้ด้วยสองขาหลังแล้วโยกเล่น ผมนึกไม่ออกครับว่าต้องทำยังไงกับมินิดี

     

    “ดีสัด!!” เสียงไอ้ทันทักพร้อมนั่งลงข้างๆ

    ผมอยู่ห้องเดียวกับมันแล้วก็ไอ้นายอีกคน ไอ้ไรท์ถูกโดดเดี่ยวถัดไปอีกสองห้อง ส่วนไอ้จีนอยู่ห้องคิง มันฉลาดกว่าพวกผมโขเลยครับ

     

    “เอ่อ” ผมตอบกลับ

     

    “เฮ่ย...” มันร้องแปลกๆ แล้วถอยห่างไปนิดหนึ่ง หลังจากนั้นก็กลับมาตบไหล่ผม

    “เมื่อคืน... เหนื่อยล่ะสิ ดูทำหน้าเข้า”

     

    ผมงงกับคำพูดมันครับ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ยังคงนั่งโยกเก้าอี้อย่างนั้นจนไอ้นายเข้ามานั่นแหละครับ

     

    “สัดเหนือมึง... มึง...” ผมหันไปหามันที่เพิ่งเข้ามาในห้องหลังจากวางเป้สีดำไว้ที่โต๊ะตัวเอง แต่พอมันเดินมาหาผมเท่านั้นแหละครับ ปากหมาๆ ก็ทำงาน พร้อมใบหน้าที่ตกใจยิ่งกว่าตกใจ มองไอ้ทันทีมองผมที

     

    “เป็นเชี่ยอะไรของมึง” ผมนั่งลงปกติแต่หน้าตานี่สงสัยเต็มที่เลยครับ ไอ้นายมันดึงผมยืนแล้วมันก็ตบก้นผม!

     

    “คงเจ็บน่าดูนะมึง”

     

    “สัดนาย!! มึงคิดอะไรเชี่ยๆ อยู่วะ!!” ผมโวยขึ้น พอจะเข้าใจใบหน้าแปลกๆ ของพวกมันแล้วครับ

     

    “ก็...”

     

    “คอมึงฝีมือไอ้จีนล่ะสิ เชี่ยกูว่าแล้ว... ไม่นานหรอก แล้วก็จริงๆ ด้วย ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ทันพูดไม่ทันจบหมาของเชี่ยนายก็โผล่ยั้วเยี้ย แล้วพวกมันก็หัวเราะสนุกปาก

    ฮึ่ย... หุบปากมั่งก็ได้นะไม่พูดไม่มีใครว่ามึงตายหรอก ห่านนนนนเอ้ยยย!!

     

    “หึย... หน้าแดงใหญ่เลยนะมึง”

     

    “สัด!” ผมหันไปด่าไอ้ทัน ไม่รู้จะสรรหาคำด่าไหนแล้วครับเพราะรู้ดีว่าพวกมันคงไม่สำนึกเชี่ยอะไร เอาแต่หัวเราะอย่างเดียว ถึงผมจะเตรียมตัวเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่ให้ตายสิผมถึงเขินอ่ะ!

    >//////<

    เพราะมึงคนเดียวไอ้จีน ไอ้เชี่ย ทำกูแล้วสะบัดตูดหนี ไอ้ควาย ไอ้จ๊าดง่าวววววววววว!!

    ได้แต่ด่ามันในใจเท่านั้นครับ มันอยู่คนละห้องคงไม่รู้เหตุการณ์ว่ามันบีบคั้นจนผมพูดไม่ออกแค่ไหน

     

    “พวกมึงเป็น...”

     

    “กลืนคำนั้นเข้าไปเลยเชี่ยทัน กูสบายดี แล้วกรุณาหุบปากเชี่ยๆ นั่นซะ ไม่งั้น”

     

    “มึงจะทำอะไรกู”

     

    ไม่ต้องรอให้ตอบครับผมซัดเกรียนไอ้ทันหนึ่งป๊าป ส่วนไอ้นายกึ่งวิ่งไปหน้าห้องเรียบร้อย ได้ยินเสียงมันตะโกนเรียกการบ้านอยู่หน้าห้อง

     

    “ไอ้มิค เอาฝรั่งเศสมาให้กูลอกหน่อย”

     

    หนอยไอ้นายฝากไว้ก่อนนะมึง!!

    ………………………

     

    “แดกข้าวววววววววววว” เสียงไอ้ไรท์ดังมาแต่ไกลสมทบกับพวกผมที่อยู่ในห้อง ระหว่างทางเดินลงตึกเรียนก็เจอกับไอ้จีนที่ยืนรอพวกเราตรงบันไดขั้นสุดท้ายของตึก

     

    (สงสัยไหมครับว่าทำไมพวกเราที่อยู่คนละห้องกันแต่ดั๊นเป็นเพื่อนกันได้ คืองี้... ผมเป็นเด็กใหม่ตอนมอสี่เจอกับไอ้นายก่อนเพราะอยู่ห้องเดียวกัน แล้วก็ชอบเต้นบีบอยเหมือนกัน มันเลยชวนฟอร์มทีม ทีมมันมีอยู่แล้วสามคนคือ มัน ไอ้ไรท์แล้วก็ไอ้จีน ไอ้สามตัวนี่อยู่ที่นี่ตั้งแต่อนุบาลไม่เคยเปลี่ยนโรงเรียน ส่วนไอ้ทันเนี่ยเด็กใหม่ที่นี่เหมือนผม บังเอิญว่ามันเห็นพวกเราเต้นๆ กันก็เลยร่วมวงด้วย)

     

    พอไอ้จีนเห็นผมเท่านั้น มันก็คว้าคอผมไปทันที ซึ่งเป็นธรรมดาที่มันจะทำ แต่วันนี้ผมไม่ยอมอ่ะ ผมก็เลยเอาตีนยันตัวมันไว้

     

    “เป็นเชี่ยอะไรของมึงไอ้เหนือ” ไอ้จีนโวยวาย แต่ผมไม่โต้ตอบหรอกครับ เดี๋ยวมันจะยาว

     

    “มึงไปทำอะไรให้เมียมึงโกรธวะไอ้จีน”

     

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครพูด

     

    “สัดนายมึงอยากตายไหม!” ผมหันไปด่ากะจะตบเกรียนมันแรงๆ สักสองทีเผื่อตอนเช้าที่มันรอดไปได้ แต่มันวิ่งหนีผมไปแล้ว

    “หยุดเลยสัด!!” วันนี้มึงต้องตายไอ้เชี่ยนาย ผมตั้งท่าจะวิ่งตามแต่โดนไอ้จีนคว้าตัวไว้ก่อน คือ... คว้าตัวน่ะถูกแล้วครับ มันคว้าเอวผมไว้ด้วยแขนข้างเดียวของมัน

     

    “เฮ้ย!! ปล่อยกู” ผมบอก มันยิ้มเจ้าเล่ห์แต่ยอมปล่อยผมโดยดี

     

    “เล่นเป็นเด็กๆ ไปได้ กูหิวแล้วมึงจะวิ่งเล่นกันทำไมเนี่ย” ว่าแล้วมันก็ลากผมไปโรงอาหาร ครับแม้มันจะปล่อยตัวผมจากวงแขน แต่มันก็ยังคว้าคอผมแล้วลากเหมือนเดิม

    -_-^^^

     

    ห่านเอ้ย!! เพราะมึงแหละไอ้จ๊าดง่าว!!

    ถ้ามึงไม่ทำกู กูก็ไม่เครียดอย่างนี้หรอก แล้วไหนวันนี้ตอนเย็นจะต้องเจอกับมินิ แถมดีไม่ดีอาจเจอไอ้เชี่ยแมกที่ลานกิจกรรมอีก เชี่ยนี่แม่งขี้สงสัยอยู่ด้วย แล้วผมก็โกหกไม่เก่งอีก... ถ้ามันถามเรื่องรอยที่คอ แล้วมันดันคิดไปเรื่อยว่าผมเป็นเกย์ ทั้งที่ผมปฏิเสธมันมาตลอด ผมจะตอบมันว่ายังไงล่ะครับพี่น้อง!!

    ผมชักไม่อยากไปลานกิจกรรมซะแล้วสิ หรือว่าผมจะแกล้งขาเจ็บดี หรือผมจะกระโดดตึกกิจกรรมให้แขนหักขาหักหัวแตกดี (ตึกกิจกรรมที่มี 2 ชั้นเนี่ยนะ///ไรเตอร์) หรือผมจะไปยืนข้างสนามให้บอลโดนหัวแล้วสลบไปสามวันดี (คิดได้เนอะ//ไรเตอร์) หรือผมจะ... จะ....

    โอ๊ววววววววววว!!! บระจ้าววววววววววววววววววว!! ผมอยากป่วยชิหองอ่ะตอนนี้

    ToT

    ............................


    เอามาลงให้ค่ะ
    ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
    ขอให้สนุกกับการอ่าน
    และเพลิดเพลินกับเด็กๆ วัยซนนะคะ

    ^0^
    ..................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×