คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ซ้อมละคร 1
- 7 -
“เอ้า!”
กระดาษจดบันทึกถูกยื่นให้กับคนที่กำลังนั่งง่วนอยู่กับการตรวจบันทึกหัวใจกษัตริย์ตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้าในห้องสมุดโดยที่ไม่หันขึ้นมามองเจ้าคนที่อยู่เบื้องหน้า เจ้าตัวแสบถึงกับแยกเขี้ยวหันไปสบตากับเพื่อนซี้
“วางไว้ตรงนั้นแหละ”
“อะไรกัน นี่แกจะอยู่กินกับบันทึกพวกนี้ไปทั้งชาติเลยรึไงหะคาโล” เฟรินกระเซ้าพร้อมกับหันไปหัวเราะร่ากับคิล
“นี่ห้องสมุด ถ้าอยากจะเสียงดังก็ช่วยออกไปด้วย”
“เฮ้ยๆ เป็นอะไรของแก หัวเราะหน่อยก็ไม่ได้ สงสัยว่ามันอยากจะไล่ให้เราออกไปแล้วค่อยหันไปจู๊จี๊กับสาวๆในห้องสมุด” ไม่ว่าเปล่าเจ้าตัวแสบยังเหลือบมองสาวๆน่ารักๆที่นั่งอ่านหนังสืออยู่โต๊ะใกล้ๆ “ไปเหอะคิล ไปขนข้าวของที่นอนมันมาไว้ในนี้กัน”
ปึง!
หนังสือเล่มใหญ่ถูกกระแทกกับโต๊ะดังลั่นพร้อมกับสายตาเย็นชาที่เหลือบมองก่อนเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร ทำเอาเจ้าคนแหย่ถึงกับหน้าเหวอ คิลถึงกับกระทุ้งสีข้างคนปากมากเข้าให้
“โธ่ ก็ไม่นึกว่ามันจะงอนง่ายอย่างนี้นี่หว่า อย่างกับผู้หญิง” คนไม่ยอมรับผิดแยกเขี้ยวก่อนถูกคิลลากให้เดินตามร่างสูงไป
“แกต่างหากที่ไม่เหมือนผู้หญิง”
“วางดาบไว้ตรงนั้นเถิด ท่านคงไม่อยากจะหันคมดาบเพื่อปลิดชีพผู้ใดหรอก” คาโลในบทเจ้าชาย
อเล็กซิสเอ่ยเสียงเรียบในขณะที่มีคาบของเจ้าหญิงแคลรีนที่ได้รับบทโดยอดีตหัวขโมยตัวแสบนามเฟรินจ่อคอหอยอยู่
“ไม่อเล็กซิส ท่านหวังจะฆ่าข้า จะทำลายดินแดนอันเป็นบ้านเกิดของข้า ข้าจำต้องทำลายท่านก่อนที่ท่านจะทำสิ่งนั้นสำเร็จ”
“...ถ้าหากท่านต้องการเยี่ยงนั้น ถ้าหากท่านเข้าใจว่าข้าเป็นคนเยี่ยงนั้น แคลรีน ท่านก็จงฟาดฟันลงมาซะเถอะ” เสียงเย็นยะเยียบเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงขยับเท้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนปลายดาบไม้แตะโดนลำคอขาวทำให้เจ้าหญิงแคลรีนสะดุ้งเฮือก ถอยหลังผงะ มือทั้งสองที่ถือดาบอยู่สั่นระริก
“ยะ อย่า! ท่านจะทำอะไรน่ะ!?”
“ก็ทำตามที่ท่านปรารถนายังไงล่ะ” ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มอย่างอ่อนโยน
“มะ ไม่! อย่าเข้ามานะ” เจ้าหญิงแคลรีนขมวดคิ้วมุ่น
“ท่านลืมไปแล้วหรือว่าท่านคิดว่าข้าจะสังหารท่านและทำลายดินแดนของท่าน”
“ใช่ ท่านคิดจะสังหารฆ่า ทำลายดินแดนของข้า ท่านยอมรับแล้วสินะ” คำพูดของเจ้าชายอเล็กซิสดูเหมือนจะทำลายความลังเลในหัวใจของเจ้าหญิงไปหมดสิ้น สองมือกระชับดาบก่อนยกขึ้นเหนือหัว “ถ้าเช่นก็จงหลับให้สบายเถิด เจ้าชายของข้า”
นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยหลุบลง รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าสลักอีกครั้งพร้อมกับขยับคำพูดบางอย่างที่ทำให้หัวใจดวงน้อยของเจ้าหญิงสั่นคลอน แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งคมดาบที่ได้ฟาดฟันลงไปเสียแล้ว
ร่างสูงหงายหลังล้มตึง เจ้าหญิงแคลรีนรีบปราดเข้าไปประคองร่างของเจ้าชายอเล็กซิสที่ตนได้ฟาดดาบลงไป นัยน์ตาสีน้ำตาลที่สั่นระริกจ้องมองใบหน้ารูปสลักที่ขาวซีดอย่างหวาดกลัว
“ทำไมท่านไม่รีบบอกข้า ว่าท่าน...ว่าท่าน ว่ามันอะไรวะคิล”
เสียงหวานที่ดันเปลี่ยนมาเป็นเสียงห้าวกระทันหันของเจ้าเฟริน อดีตหัวขโมยแห่งบารามอสผู้รับบทเจ้าหญิงแคลรีนเล่นเอาคนทั้งชั้นปีแทบสะดุดขาตัวเองหัวทิ่มทั้งๆที่เมื่อกี้ยังอินกับบทหวานซึ้งของเจ้าตัวแสบอยู่เพลินๆ ทำเอาใครหลายคนชักไม่แน่ใจแล้วว่าให้เจ้าเฟรินมารับบทนี้สงสัยว่าตัวเองจะคิดผิดเสียถนัด
“ป้าบ!”
“โอ๊ย! อะไรเนี่ยยัยแองจี้” เจ้าตัวแสบร้องเสียงหลงก่อนที่จะปล่อยมือที่ประคองศีรษะของคาโลไว้จนกระแทกพื้นยกขึ้นมาลูบหัวตัวเองพลางจ้องตาไปยังสาวน้อยที่ยืนหน้าบูดบึ้งถือบทละครที่ม้วนไว้เป็นอาวุธ
“ไม่อะไรหรอก แค่ทำโทษเจ้าคนไม่รู้จักจำ เมื่อวานบอกตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าให้ไปท่องบทมาให้ดีวันนี้เราจะซ้อมบทนี้กันแล้วทำไมนายยังลืมได้อีกล่ะห๊ะ!!” แองเจลีน่าตวาดลั่นทำเอาเจ้าตัวดีหุบปากฉับ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอะไรแม่เจ้าประคุณให้มากความ
“แต่จะว่าไปเฟรินก็เล่นได้ดีมากเลยนะครับ ถึงแม้ว่าจะมีบางอย่างที่ยังจำไม่ค่อยได้ก็ตาม” ซีบิลเอ่ยชมอย่างสุภาพ คนถูกชมถึงกับยิ้มร่า พยักหน้ารับอย่างถูกอกถูกใจ
“ใช่ไหมๆ”
“ไม่น่าเชื่อว่านายจะเล่นละครได้ดี เฟริน ฉันคงต้องมองนายใหม่ซะแล้ว” เอ็ดเวิร์ดว่าพลางตบไหล่ของเฟรินที่ตอนนี้กำลังหน้าบานเป็นกระด้ง แต่ครี้ดก็พูดแทรกขึ้น
“มันเล่นละครซะที่ไหนเอ็ด ไอ้เฟรินมันแหลต่างหาก ตอแหลได้โล่เลยไง”
“เออใช่ ฉันเห็นด้วยกับนาย” คิลกล่าว
“ว่าไงนะ เจ้าบ้าครี้ดคิล!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!!” เสียงหัวเราะของเหล่านักเรียนปีสาม
หลังจากที่ซ้อมละครช่วงดึกมาได้สักพัก เจ้าพวกป้อมอัศวินก็เริ่มร้องโอดโอยบ่นหิวขึ้นมาเป็นป้อมแรก เดือดร้อนเรนอนที่ต้องจัดแจงหยิบกระดาษขึ้นมาจดรายการอาหารของเหล่าสมาชิกนักเรียนชั้นปีสามเพื่อไปสั่งให้ทางโรงอาหารนำมาส่งให้
“ไม่มีใครจะสั่งอะไรแล้วใช่ไหมคะ” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลเลยเก็บกระดาษใส่กระเป๋าทำท่าจะลุกเดิน
“เรนอน เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนนะ” แองจี้เสนอ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันไปเองได้ ทุกคนยิ่งยุ่งๆกันอยู่ ไม่อยากรบกวน”
“อ๋อ งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ ฉันหมายถึงระวังตัวจากพวกผู้ชายน่ะ”
“ฉันดูแลตัวเองได้จ้ะ แค่นี้เอง” เจ้าหญิงเรนอนยิ้มหวานให้เพื่อนสาวก่อนเดินออกไปจากห้องประชุม
ทายาทแห่งตระกูลนักฆ่าที่บังเอิญเหลือบไปเห็นจึงเอามือล้วงกระเป๋าเดินปลีกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนไปอย่างเงียบๆ
“เฟริน นายมานี่หน่อย” เสียงของมาทิลด้าดังขึ้นเรียกให้เฟรินหันควับ
“มาทิลด้า ฉันพึ่งซ้อมเสร็จไปเมื่อกี้เองนา ยังไม่หายเหนื่อยเลย”
“คนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกันล่ะน่า เอ้า คนเขาเรียกก็มาเร็วๆหน่อย” ยัยแองจี้ว่า
“แล้วมีอะไร” เฟรินถามก่อนหาวปากกว้างอย่างไม่สมเป็นผู้หญิง
“อื้อหือ ถ้าจะหาวก็รักษามารยาทซะบ้าง” นัยน์ตาสีฟ้าสวยค้อนควับก่อนยื่นของบางอย่างให้
“นี่อะไรล่ะ”
“ฝ่ายที่เขาจัดการเรื่องชุดอยากจะให้ตัวละครตัวหลักๆลองใส่ชุดดูก่อน แล้วจะได้ดูว่าชุดมีตรงไหนต้องแก้ไขบ้าง”
“หา! ชุดนี้เนี่ยนะ” เฟรินว่าพลางยกชุดเดรสสีขาวสวยดูสะอาดตาขึ้นดูก่อนเบ้หน้า
“นั่นสิคะ ขโมยอย่างคุณคงจะใส่ชุดนี้ไม่ได้หรอก” เสียงแปดหลอดที่ว่าหายไปนานดังจนเหงาหูขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าสวยส่งสายตาเหยียดหยามให้อดีตขโมยที่กำลังเหยียดยิ้ม
“แต่ผมว่าขโมยอาจจะแต่งเป็นเจ้าหญิงสวยกว่าควีนที่แต่งเป็นแม่เฒ่านะ” เฟรินเอ่ยก่อนเดินตามยัยแองจี้และสาวน้อยคนหนึ่งจากปราสาทขุนเข้าไปในห้องน้ำ
“นายเคยคิดจะหวีผมบ้างไหมเนี่ย” ยัยแองจี้เริ่มบ่นอุบขณะกำลังพยายามใช้หวีแปรงสางเผ้าผมที่พันกันยุ่งเป็นยุงตีกันของเฟรินในชุดของเจ้าหญิงแคลรีน
“เธอก็อย่ายุ่งน่า ฉันให้พวกเธอช่วยใส่ชุดให้ก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“แค่ฉันไม่อยากให้นายทำขายหน้าผู้หญิงต่างหาก”
“คร้าบๆ”
“ผมนายเริ่มยาวแล้วนะเนี่ย”
“ฉันก็ว่าจะตัดอยู่ น่ารำคาญจะตาย สาวๆที่ปราสาทของพ่อเอเดวิสน่ะสิบังคับไม่ให้ฉันตัด” เฟรินกล่าวก่อนร้องโอ๊ยเมื่อแองเจลีน่าใช้หวีดึงผมที่พันกันอยู่จนหัวเอนตามไปด้านหลัง
“แต่ผมคุณเฟรินก็สวยดีนะคะ” สาวน้อยแห่งปราสาทขุนนางเอ่ย
“เนี่ยนะสวย น่ารำคาญจะตาย”
“ถ้านายรำคาญนักเดี๋ยวฉันจะมัดให้” ว่าเสร็จสาวเจ้าก็จัดแจงเกล้าผมสีน้ำตาลขึ้นสูงจนเจ้าตัวดีร้องลั่น
“โอ๊ยๆๆ เจ็บๆ นี่เธอจะมัดตึงไปไหนเนี่ย”
“จะได้ไม่รำคาญไงเล่า อยู่นิ่งๆสิ เอ้า เสร็จแล้ว” แองจี้เอ่ยพลางพลักหัวของเฟรินให้หันไปดูกระจก
“มัดมาได้รู้ไหมเนี่ยว่ามัน...เจ็บ”
ภาพเบื้องหน้าทำเอาเจ้าอดีตหัวขโมยอ้าปากค้าง จ้องมองเองในกระจกอย่างไม่ละสายตา
“นะ นี่ แองจี้”
“อะไรยะ”
“ฉันสวยกว่าเธอนะ”
“บ้า” ยัยแองจี้ว่าแต่ในใจก็ยังนึกประหลาดใจไม่ได้ที่เจ้าหัวขโมยตรงหน้าจะสามารถ...ดูดีได้ขนาดนี้ติดอยู่ตรงที่ปากกับความคิดบ้าๆของเขานั่นแหละที่น่าจับไปซักฟอกเสียใหม่
“แต่ก็สวยจริงๆนะคะคุณแองจี้ ผิวคุณเฟรินก็เนี๊ยนเนียน”
“ก็แหงล่ะ ไปอยู่กับเอเดวิสทั้งที เขาจะให้หมอนี่สกปรกซกมกเหมือนเดิมไม่ได้หรอก” นัยน์ตาสีน้ำตาลส่งสายตาเยาะเย้ยจนเฟรินทำหน้าเบ้
“นี่เธออย่าพูดมากได้ไหมยัยแองจี้ แค่นึกถึงฉันก็รู้สึกปวดกบาลแล้ว บ้ารึเปล่า ให้อาบน้ำทีชั่วโมงสองชั่วโมง ขัดๆถูๆจนหนังจะหลุดออกมาเป็นแผ่นๆอยู่แล้ว” ไม่ว่าเปล่ายังทำท่าขนลุกจนสาวน้อยอีกสองคนหัวเราะเสียงดัง
“นั่นล่ะถึงจะสมเป็นผู้หญิง” แองจี้ว่า
“ฉันผู้ชายอกสามศอกต่างหาก” เฟรินแย้งเสียงลั่นทำให้โดนกระทุ้งที่สีข้างเข้าให้เต็มรัก
“นายนี่มัน...” แต่ก่อนที่แองจี้จะได้ด่าเจ้าคนไม่ยอมรับสภาพตัวเอง เสียงของมาทิลด้าที่ดังมาจากข้างนอกก็ดังขึ้น
“นี่พวกเธอเสร็จรึยัง ออกมาให้พวกเราดูได้แล้ว”
“อ้า เสร็จแล้วค่ะคุณมาทิลด้า” สาวน้อยปราสาทขุนนางร้องก่อนหันมามองอีกสองคน “ออกไปกันเถอะค่ะ”
“อื้อ”
-------------------------------
หลังจากห่างหายไปนานก็ได้ฤกษ์แต่งต่อสักที!!! (โดนเตะ)
แหะๆ ขอโทษจริงๆนะคะไม่ได้มาอัพเลย ไม่อยากจะอ้างหรอกนะคะ
คือจริงๆเขียนไปเขียนมามันตัน 555+
ขอบคุณที่ติดตามค่า กำลังจะมีนิยายเรื่องไหม แนวแฟนตาซี + Y คุคุ
ความคิดเห็น