ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน ปี3 ในโรงเรียนพระราชา

    ลำดับตอนที่ #5 : เฟรินเป็นเจ้าหญิงแคลรีน!!

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 54


     

    - 5 -


    แกว่าไงนะคิล!?” เจ้าหัวขโมยตัวแสบร้องเสียงหลงจนตกเป็นเป้าสายตาใครต่อใครขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมใหญ่ของปราการปราชญ์ที่เป็นสถานที่ประชุมกันในวันนี้ ก่อนเจ้าตัวจะปั้นหน้าเครียด “สงสัยคราวนี้ฉันต้องขอตัวไปเอาหัวโขกส้วมตายก่อนว่ะคิล”

    เออ เจ้าพวกนั้นมันเอาหัวแม้โป้งคิดหรือตาตุ่มมองกันแน่วะ” คำตอบของเพื่อนซี้ทำเอาคนที่กำลังหงุดหงิดชะงักกึก นึกสงสัยว่าจะดีใจหรือจะเสียใจดีกับคำพูดที่ดูเหมือนแฝงคำด่าพ่วงมาด้วย “แต่ฉันว่าไอ้บท ‘นางเอก’ สำหรับนายคง...สนุกพิลึก”

    คนได้รับบทนางเอกสบถพรืด ทำหน้าราวกับกลืนของขม

    สนุกบ้านแกนะสิ”

    ไม่ดีหรือไง จะได้หัดทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงกับเขาสักที” น้ำเสียงเย็นของคนที่เงียบมานานดังขึ้น

    งั้นแกก็ไปหานางเอกคนอื่นสิฟะ เสือกเลือกมาได้ จะบ้าตาย!”

    หึ! ก็บอกแล้วไงคะ เฟริน คุณไม่เหมาะกับบทนี้หรอกค่ะ คนที่จะได้คู่กับเจ้าชายคาโลรูปงามคนนี้ควรเป็นดิฉันมากกว่า”

    เสียงแปดหลอดจากนรกแทรกขึ้น ทั้งสามคนหันมองไปยังร่างสง่าของควีนคนสวยประจำปราสาทขุนนางที่ตอนนี้กำลังคว้าแขนของคาโลเข้าไปกอดส่งสายตาหวานหยดย้อยไปยังเจ้าชายก่อนหันไปยิ้มเยาะอดีตหัวขโมยแห่งบารามอสโดยไม่สังเกตสายตาเย็นเยือกจากคนข้างกาย

    คนโดนเยาะกลับยิ้มกรุ้มกริ่มพลางขยับตัวเข้าไปใกล้สาวเจ้า ยกมือขึ้นลูบดวงหน้าเนียนใสที่เริ่มขึ้นสีเรื่อของหญิงสาว พลางโปรยรอยยิ้มหวาน “แหมๆ ควีนคนสวยแห่งปราสาทคุณนางกับเจ้าชายคนสำคัญของป้อมอัศวิน”

    สายตาดุๆของคาโลดูท่าทางตอนนี้จะใช้ไม่ผล แถมยังทำให้เจ้าตัวยุ่งยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ก่อนหันไปส่งสายตาใครสาวตรงหน้าต่อ

    ใครน้าช่างใจร้ายใจดำ ขัดขวางความรักบริสุทธิ์ของสาวน้อยที่หวังจะมัดใจเจ้าชายคาโลไปไว้ในสต็อก”

    คำพูดทิ้งท้ายของเฟรินเหมือนกระชากเธอที่เริ่มเคลิ้มให้กลับมามีสติก่อนปัดมือของเจ้าตัวแสบออก

    จะใครที่ไหนเล่า ก็นายนั่นแหละ!” ด้วยโทสะทำให้โพล่งออกไปโดยลืมรักษามาดที่เคยมี เมื่อรู้สึกถึงสายตาของเจ้าชายแห่งคาโนวาลก่อนสะดุ้งเฮือก กระแอมเบาๆ จัดท่าทางให้ดังเดิม “เท่าที่ฉันคิดนะ”

    เจ้าตัวแสบหันไปยักคิ้วให้กับเพื่อนซี้อย่างสะใจก่อนหันกลับมา

    แหมๆ คงไม่ใช่ผมหรอกมั้งครับ ผมไม่มีทางทำร้ายผู้หญิงที่สวยราวกับยามรุ่งสาง ต้องไปโทษคนที่โหวตกันมากกว่า คนสวยอย่างคุณคงจะรู้นะว่าเรื่องแบบนี้แล้วแต่เสียงข้างมาก หรือว่าอาจเป็นเพราะคุณสวยจนหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้”

    คำพูดของเฟรินที่มีนัยแฝงกระทบหน้างามๆของสาวเจ้าจนริมฝีปากสวยเริ่มขยับคำสบถด่าเบาๆ แต่ก่อนที่จะเอ่ย เสียงกวนบาทายังพล่ามประโยคที่ถึงกับเอาควีนแห่งปราสาทขุนนางแทบสกัดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่

    สวยจนเสียงส่วนใหญ่โหวตให้คุณได้รับบทเป็นแม่เฒ่าแห่งดินแดนเอล์ฟ”

    ฉับพลันใบหน้าสง่าเริ่มตึงก่อนที่จะระเบิดเสียงกรี๊ด กระทืบเท้าอย่างขัดใจ ก่อนพุ่งเข้าผลักเฟรินอย่างแรงจนหงายหลังแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดจากไป

    พูดอะไรไม่รู้จักคิด” น้ำเสียงเรียบเฉยแต่ฟังดูนุ่มหูดังขึ้นข้างใบหู เจ้าตัวแสบแหงนหน้าขึ้นไปยิ้มให้กับคนที่ตัวเองใช้พิงก่อนที่จะล้มลงไป ดวงหน้ารูปสลักอยู่หางไม่ถึงคืบจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น

    สมควรแล้ว จริงอยู่ที่สวยแต่นิสัยควรสั่งสอน”

    ปากนายก็ควรโดนสั่งสอน” คำพูดแฝงเลศนัยของคาโลทำให้ดวงหน้านวลเริ่มขึ้นสี แต่ก่อนที่จะขยับตัวออก ริมฝีปากบางของเจ้าชายแห่งคาโนวาลก็ประทับลงบนมุมปากนุ่ม ในใจนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เจ้าตัวแสบเริ่มแสดงอาการที่เห็นกันเสียชัดเจนว่ากำลัง ‘หึง’ ได้อย่างน่ารัก

    อะแฮ่ม! โลกนี้ไม่ได้มีแต่นายสองคนนะครับท่านเจ้าชายเจ้าหญิง”

    !!”

    น้ำเสียงประชดประชันของคิลทำให้พวกเขาสะดุ้งเฮือกผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว ใบหน้าขาวของทั้งคู่เริ่มขึ้นสี ส่วนเจ้านักฆ่าก็มีดวงหน้าที่ร้อนผ่าวไม่แพ้กัน

    ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะน่าพวกนาย ไม่ต้องมาประกาศความรักให้ประชาชีเขารู้นักก็ได้”

    ...” ต่างคนต่างไม่มีใครพูด เฟรินหันไปยิ้มแก้เขินให้กับหลายคนที่เดินผ่านมาเห็นทั้งที่ในใจอยากแทรกแผ่นดินหนี

    เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะไปนอนห้องครี้ด เชิญพวกนายตามสบาย” คำพูดเจ็บแสบของคิลเรียกเอาเส้นเลือดบนหน้าแทบแตกก่อนสาบานกับตัวเองในใจว่าวันนี้จะได้เกิดศึกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกันแน่!

    ทำยังไงได้ เพื่อนซี้สองคนนับวันยิ่งหวานขึ้นจนแทบอ้วก ส่วนเขาน่ะหรอ...หัวเดียวกระเทียมลีบ หมันไส้จนอดแกล้งให้พวกมันอายเล่นไม่ได้ ให้ตายเถอะ


    เอาเป็นว่าบทละครตามนี้ก็แล้วกันนะ”

    เสียงของมาทิลด้าดังขึ้นกล่าวเป็นบทสรุปของการตกลงว่าจะใช้บทตามที่ปราการปราชญ์ได้เรียบเรียงและเขียนขึ้นมาอย่างรวดเร็วตามหน้าที่ที่แบ่งไปเมื่อวานนี้ ซึ่งนอกจากนั้นยังต้องทำหน้าที่กำกับเวทีร่วมกับปราสาทขุนนางที่ดูแลเรื่องเสื้อผ้ากับรายละเอียดที่สำคัญต่างๆ แผ่นดินประชาชนรับหน้าที่จัดทำฉากและดูแลเรื่องฝ่ายบุคคล ส่วนป้อมอัศวินก็รับบทสำคัญที่สุด นั่นก็คือกรรมกรแบกของ หาบของ และหาอุปกรณ์ นี่มันงานเบ๊ชัดๆ

    พวกปราการปราชญ์นี่ยอดเลยนะครับ แค่วันเดียวก็เขียนบทได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้” ซีบิลเอ่ยชมขณะเปิดอ่านบทที่เพิ่งได้รับแจกมาอย่างสนอกสนใจ

    ไม่เหมือนกับพวกป้อมอัศวิน ที่ใช้กล้ามเนื้อแทนสมอง”

    ประโยคฆ่าตัวตายที่ไม่เบาเลยหลุดจากปากของคนจากปราสาทขุนนางคู่อริที่ยังไม่รู้สึกตัวว่ากำลังถูกสายตาจากคนทั้งป้อมอัศวินจ้องเขม็ง

    ฮ้า แต่ถ้าไม่มีป้อมอัศวินก็คงไม่มีใครทำงานให้พวกกล้ามเนื้อเหลวเป๋วที่บางทีอาจจะจับค้อนแทบจะไม่เป็นด้วยซ้ำจนสำเร็จหรอก” คนที่ถนัดเรื่องยั่วโมโหชาวบ้านที่สุดเอ่ยกระตุกให้บรรยากาศในห้องประชุมเริ่มครุกกรุ่นขึ้นมาอีกรอบ

    ใครกันแน่ที่ไม่มีประโยชน์ พวกนายก็เอาแต่สนุกไปวันๆแค่นั้นไม่ใช่เหรอ แล้วดูสิ ให้มาทำงานร่วมกับพวกนาย งานนี้จะไหรอดรึเปล่าก็ไม่รู้”

    อ้าว พูดงี้ก็สวยสิ” ครี้ดสวนขึ้นปลุกเร้าอารมณ์ของพวกเลือดร้อนจากป้อมอัศวินและปราสาทขุนนางให้ลุกฮือ แต่ก่อนที่จะได้มีการตะลุมบอนเหมือนกับว่าได้ยึดเสียงของความอดทนของใครบางคนขาดผึงแล้วก็ถึงบางอ้อเมื่อ...

    ตึง!!!

    พวกนายหุบปากแล้วนั่งลงเดี๋ยวนี้!!!!”

    มาทิลด้าทุบโต๊ะอย่างแรงและตะโกนลั่น แววตาเดือดดาลชักหมดความอดทนกับรายการทะเลาะกันของพวกเด็กไม่มีหัวคิดเสียเต็มทน

    พวกนายก็โตๆกันแล้วไม่มีปัญญาคิดกันบ้างรึไง จะทะเลาะกันให้มันได้อะไรขึ้นมาหา!!” เจ้าหญิงแห่งอเมซอนตวาดลั่นอีกครั้งจนคนฟังสะดุ้งเฮือกกลับไปนั่งเก้าอี้ทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมดังเดิม นัยน์ตาสีเขียวมรกตเข้มฉายรอยหงุดหงิดก่อนใช้มือเสยผมหยักศกสีดำที่ร่วงลงมาปกหน้าอย่างรำคาญใจ

    ถ้าอยากจะตีกันนักก็ช่วยเอาเวลานั่นมาทำงานจะดีกว่า” เจ้าหล่อนถอนหายใจพรืดก่อนเหยียดยิ้ม “ถึงงานหมากกระดานเกียรติยศเมื่อไหร่ค่อยซัดกันให้สะใจ”

    นี่แหละนะ...ป้อมอัศวิน ชอบการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ

    เอาล่ะๆ” สาวน้อยจากแผ่นดินประชาชนที่ทนฟังอยู่เอ่ยตัดบทขึ้น “เอาเป็นว่าวันนี้คนที่ได้รับบทอะไรก็นำบทที่ได้ไปศึกษาด้วยนะคะ ส่วนใครที่มีหน้าที่อย่างอื่นๆก็ช่วยจัดการให้เรียบร้อยแล้ววันพรุ่งนี้เราจะเริ่มซ้อมกัน สถานที่จะเป็น เอ่อ..ห้องประชุมของป้อมอัศวิน โอเคไหมคะ เจ้าหญิงมาทิลด้า?”

    ก็ได้”

    แหงล่ะ เพราะป้อมอัศวินเวลาทำอะไรก็ไม่ค่อยใช้สมองมาปรึกษากันสักเท่าไหร่หรอก” เสียงของควีนแห่งปราสาทขุนนางดังขึ้น ใบหน้าเจ้าหล่อนยังคงบึ้งตึงก่อนส่งสายตาเหยียดหยามไปยังอดีตหัวขโมยที่ส่งยิ้มรับตอบกลับมาอย่างกวนประสาทเห็นแล้วก็ยิ่งทำให้อารมณ์พุ่งปรี้ด แต่พอหันกลับไปสบนัยน์ตาสีมรกตที่ส่งรังสีบางอย่างที่ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านจึงรีบเอ่ยแก้ “คิดว่าคงเหมาะสำหรับซ้อมได้ดีเหมือนกันนะคะ”

    มีใครจะถามอะไรอีกไหมคะ?” คนจากปราการปราชญ์ถามขึ้นพลางเหลือบไปเห็นเฟรินที่ยกมือส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้

    คือเรื่อง...บทเจ้าหญิงแคลรีนน่ะ คิดดีกันแล้วหรอ?”

    ทำไมจะๆไม่ดีล่ะ เสียงส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย” มาทิลด้าตอบ

    โธ่ มีคนสวยๆออกตั้งเยอะแยะ ทั้งเธอ เรนอน ยัยแองจี้ หรือแม้แต่คนที่ได้รับบทแม่เฒ่า ทำไมมาเลือกคนที่แมนเต็มร้อยอย่างผมด้วย” ปากว่าพลางเหลือบมองไปยังคนเป็นแม่เฒ่าที่กำลังกระฟัดกระเฟียดอย่างโมโห

    ใช่ ให้เจ้าบ้านี่มารับบทเจ้าหญิง มีหวังทำผู้หญิงทั้งโลกขายหน้ากันหมด” เสียงหนึ่งที่สนับสนุนอย่างดีมาจากแองจี้ซึ่งยังไม่วายจะแฝงคำแขวะเล็กๆมาด้วย

    งั้นฉันจะถามความเห็นของคนที่โหวตให้นายเมื่อวานนี้ก็แล้วกัน ถ้าหากมีเหตุผลที่ดีพอนายต้องยอมรับ แต่ถ้าหากไม่ดียังไงก็โหวตกันใหม่”

    ว่าที่เจ้าหญิงแคลรีนยิ้มรับข้อเสนอนั่นอย่างแห้งๆ หวังว่าไอ้คนที่มันโหวตเมื่อวานนี้มันจะยกเอาเรื่องไร้สาระขึ้นมาอ้างจนได้โหวตกันใหม่ แล้วถ้าเธอยังได้คะแนนนำอยู่ล่ะก็...คงต้องไปกราบเจ้าโคมุสแล้วเอาหัวโหม่งพื้นสักพันรอบ

    จนในที่สุดการถามความเห็นก็เสร็จสิ้น บางเสียงจะบอกว่าอยากแกล้งเธอ บ้างก็บอกเธอเป็นเจ้าหญิงจากเดมอสคล้ายกับเจ้าหญิงแคลรีนที่เป็นเจ้าหญิงเอลฟ์ แต่ความเห็นส่วนใหญ่ที่ทำให้เธอแทบจะลมจับก็คือ ‘อยากให้คู่รักได้เล่นคู่กัน’

    ไม่เอา! ฉันไม่เป็น ใครอยากเป็นก็เป็นไปเถอะ!!” เฟรินลุกพรวดตะโกนโวยลั่นเมื่อฟังความคิดเห็นของทุกคนเสร็จ ใบหน้าบูดบึ้งนั้นแดงก่ำ ไม่กล้าหันไปสบตาคนที่ถูกหาว่าเป็นคู่รักด้วย

    เฟริน นายทำเป็นอายไปได้ ใครๆก็รู้ว่าพวกนาย... ขนาดเมื่อตอนก่อนเข้ามาที่นี้ยังทำอะไรไม่เห็นอายชาวบ้านชาวช่องเขาเลย แล้วแบบนี้จะอายอะไร” คำกระเซ้าซอร์โรเรียกเลือดบนใบหน้ารูปสลักของคาโลให้แดงเถือก

    ไอ้บ้า! นั่นมัน...” เจ้าขโมยที่ว่าตัวเองแมนนักหนากลับอึกอักพูดอะไรไม่ถูก “โว้ย!! ยังไงฉันก็ไม่เป็นหรอก!”

    ถ้าฉันถามคาโลล่ะ” มาทิลด้าเสนอ “ถ้าคาโลอยากให้นายเป็น นายก็ต้องแสดงบทนี้ เข้าใจไหม”

    เฟรินอ้าปากค้างเหลือบไปสบนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยก่อนเหลียวกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วนั่งลงเท้าคางอย่างจนใจ

    ไอ้น้ำแข็งบ้า...ห้ามตอบว่าอยากนะเฟ้ย!!

    คาโล นายว่ายังไง?”

    ...” สายตาเย็นเยียบหันมาจับจ้องแผ่นหลังของคนที่ตนถูกถามถึง พลันรอยยิ้มบางก็ปรากฏบนใบหน้าขาว “นายต้องเป็นเจ้าหญิงแคลรีน เฟริน”

    คำตอบของคาโลเล่นเอาร่างบางสะดุ้งโหยง หันไปส่งสายตาอาฆาตให้กับเพื่อนที่ตัดความหวังอันน้อยนิดของเธอไปจนหมด พร้อมกับเสียงเฮลั่นจากทั้งเพื่อนร่วมป้อมและเพื่อนร่วมชั้นปีคนอื่นๆที่ทำเอาดวงหน้าเริ่มร้อนผ่าวอีกรอบ

    คิล กลับ!!”

    นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยมองตามแผ่นหลังบางของเจ้าตัวแสบที่ลากเอาเพื่อนซี้จรรีออกจากห้องประชุมไปอย่างรวดเร็ว

    นายต้องเป็นเจ้าหญิงแคลรีนของฉัน เฟริน


    พวกนายนี่พัฒนาเร็วกันจังนะ” เสียงที่ดังขึ้นข้างเรียกให้เขาต้องหันควับไปมองขอทานกิตติมาศักดิ์แห่งทริสทอร์ที่ทำให้เขาแปลกใจว่าคนตรงหน้าชอบโผล่เข้ามาเงียบอย่างที่เฟรินมันพูดจริงๆ

    ไม่ใช่เรื่องของนาย”

    นัยน์ตาสีเขียวเหลือบมองก่อนหันไปจิบชาอย่างสบายใจ “เย็นชาจังนะ ระวังเถอะ เย็นชามากไปเดี๋ยวหมอนั่นก็เบื่อ แล้วนายจะเสียใจทีหลัง”

    พูดจบโร ซาวาเรสก็ผละออกไปแต่ไม่หันจะออกห่าง คำพูดของคาโลก็ทำให้เขาต้องชะงักกึก

    คงเพราะมีขอทานบางคนคิดอยากเป็นขโมยมากกว่า”

    โรหันมาสบสายตาเย็นชา ก่อนยิ้มน้อยๆ “บางคนน่ะนะ”





    ----------------------------------------------------------------

    KaReiiNYAPPY


    สวัสดีเพื่อนทุกคนหลังจากที่โบว์ห่างหายไปนาน (โดนเตะ)

    ขอโทษค่ะที่ไม่ได่มาอัพ เนื่องจากอิคนเขียนมันชอบทานของเค็ม (ดอง)

    เพราะงานเยอะมาก หม่อมแม่ไม่ให้อิฉันแตะคอม ยังไงก็จะพยายามอัพนะคะ

    ส่วนช่วงนี้ใกล้สอบแล้ว อาจจะอัพช้าอีกเหมือนเคย (ข้ออ้างเห็นๆ)

    ขอให้เพื่อนๆตั้งใจอ่านหนังสือสอบนะคะ

    อ้า!! จริงๆแล้วโบว์เพิ่งส่งนิยายประกวดแจ่มใสมา Rocker Guys! เขย่าหัวใจยัยขาร็อก

    แนวเจร็อกค่ะ มันมาก ไม่รู้จะได้รึเปล่า

    ถ้ามีข้อติชมอะไรช่วยแนะนำด้วยนะคะ ไม่งั้นจะเขียนมั่ว ฮ่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×