คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฝันของเฟริน (แก้ไขล่าสุด 31 ก.ค. 54)
- 3 -
เฟรินทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากฟังการอธิบายเกี่ยวกับภาระหน้าที่ที่จำต้องทำแล้วก็แทบจะลมจับทั้งเรื่องงานโรงเรียนแถมยังเรื่องบันทึกหัวใจกษัตริย์ที่ต้องเร่งเขียนเพราะต้องส่งภายในอาทิตย์นี้ กษัตริย์งั้นหรอ กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สูงที่เขารู้จักมาคือท่านตาไฮคิง กษัตริย์ผู้ที่สละได้แม้แต่ชีวิตของตนเองเพื่อแผ่นดิน ทั้งที่เขาเองก็ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับท่านตาสักเท่าไหร่แต่เมื่อนึกถึงทีไรก็อดที่จะน้ำตาคลอเบ้าทุกครั้งไม่ได้
ท่านแม่ ถ้าเป็นท่าน ท่านจะเสียใจไหม
เฟรินยกแขนเสื้อขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตา กลอกสายตาทั่วเพดานห้อง เมื่อไหร่คิลจะมาสักทีนะ เจ้าพวกนั้นไปไหนกันหมด...และแล้วเปลือกตาก็พลันหนักอึ้งและจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด
ภาพเบื้องหน้าเป็นแผ่นหลังกว้างของคนที่สุดแสนจะคิดถึง สายลมแผ่วๆพัดให้ผมสีฟ้าสวยปลิวระต้นคอระหง ใบหน้าของเขายังคงนิ่งสงบดุจน้ำแข็งพันปี
“คาโล...” สวาน้อยเรียกชื่อของบุรุษตรงหน้าด้วยความชื่นใจ แต่รอยยิ้มเบิกบานกลับต้องหุบฉับเมื่อสายตาเย็นยะเยือกหันมาสบอย่างไร้เยื่อใยก่อนร่างสูงจะสาวเท้าเดินออกห่างอย่างไม่สนใจใยดี
ไอ้บ้านั่นมันยังโกรธอยู่แหงๆ...
ความคิดสำนึกผิดผุดขึ้นในสมองของอดีตหัวขโมยเป็นครั้งแรก ขี้เกียจเถียงกับมันให้เปลืองน้ำลาย ก่อนขยับตัวเพื่อหวังวิ่งตามให้ทัน แต่ร่างใหญ่กลับห่างออกไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็วจนเฟรินวิ่งตามไม่ทัน ชุดกระโปรงบ้าบอนี่ก็เกะกะชะมัด
“คาโล!” เฟรินตะโกนขณะหอบตัวงอ “หยุดก่อน รอฉันด้วย คาโล!!”
แต่คาโลยังก้าวเดินต่อไปอย่างไม่สนใจเสียงของเฟริน จนทำให้เขาเริ่มฟิวส์ขาดออกวิ่งตามด้วยความเร็ว ถ้าจับได้ล่ะก็จะให้กินหมัดสักดอก! “ไอ้ก้อนน้ำแข็งเดินได้ หยุดนะเฟ้ย!”
แต่วิ่งตามเท่าไหร่เจ้าชายแห่งคาโนวาลก็ยิ่งออกห่างไปเรื่อยจนเฟรินมั่นใจแล้วว่าป่วยการเปล่าที่จะตามต่อไป เมื่อความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นในหัว หัวใจของเฟรินก็แทบหล่นวูบ ราวกับฟ้าผ่าเปรี้ยงตรงกลางหัวใจ ถ้าหากคาโลเดินต่อไปแล้วไม่กลับมาอีกเลยล่ะ... ถ้ามันจากเขาไปทั้งๆอย่างนี้ ทั้งที่...สัญญาไว้แล้วว่าจะไม่มีวันทำให้มันเสียใจ แต่กลับ...
นายจะหายไปอย่างนี้เหรอ คาโล
น้ำใสๆเริ่มไหลลงอาบแก้มนวล ริมฝีปากสั่นระริก มือทั้งสองข้างกำจนเล็บจิกลงไปในเนื้อ ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายที่คงไว้ตลอดสิบกว่าปีมลายหายไปสิ้น
“คาโล! ได้ยินที่ฉันพูดไหม ฉัน...ฉันขอโทษคาโล ขอโทษที่ผิดสัญญา!!” เสียงตะโกนของเฟรินทำให้ร่างสูงชะงักกึก
น้ำตาเริ่มเป็นอุปสรรคที่ทำให้มองแผ่นหลังอันสง่าของคนตรงหน้าแทบไม่เห็นแต่เป็นรินยังกลั้นใจตะโกนออกไปอย่างไม่อายปาก
“คาโล ได้ยินไหม ฉันขอโทษ ฉันผิดที่ทำให้นายเสียใจ ฉันรักนายได้ยินไหม ฉันรักนาย!!”
ร่างบางโผเข้ากอดถลาพรวดเข้าสวมกอดคนตรงหน้าอย่างถือสิทธิ์ กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเพราะกลัวว่าเขาจะเดินหนีเขาไปและไม่กลับมาอีก
“ได้ยินแล้ว นายจะแหกปากทำไมนักหนา เฟริน เดอเบอโรว์”
เสียงเย็นเยียบที่ได้ยินข้างๆหูทำให้เฟรินถึงกับสะดุ้งเฮือก พลางมองไปรอบห้อง
อา...ฝันหรือนี่ ดีจริงๆที่เป็นแค่ฝัน
“แกจะกอดฉันอีกนานไหม”
เฟรินสะดุ้งอีกรอบก่อนค่อยคลายอ้อมกอดออกในขณะที่มียังจับไหล่กว้างของคนถูกกอด ใบหน้ารูปสลัก นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววดุแต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างหน้าประหลาด จนทำให้
เฟรินรู้สึกชื้นใจ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยแต่ต้องหุบยิ้มฉับแล้วยกหน้ากากฟาโรห์วิชาถนัดขึ้นสวมอีกรอบเมื่อนึกได้ว่าเมื่อกี้ตะโกนบอกบ้าบออะไรออกไปแถมยังกอดมันเต็มรักอีกต่างหาก
“ทะ โทษที” เฟรินขยับตัวออกห่าง เกาหัวแก้เขิน
“เด็ก”
“หา?”
“เด็กนอนละเมอ”
คำพูดของคาโลทำเอาใบหน้าของเฟรินร้อนผ่าวก่อนอ้าปากกำลังค้นหาคำแก้ตัว พลันมือใหญ่ก็คว้าข้อมือของเฟรินแล้วฉุดเอาร่างเล็กเข้าไปในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว
“!!”
“ฉันไม่ได้บอกว่าห้ามกอด”
เฟรินเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มร้อนขึ้นและรามขึ้นไปถึงหูเมื่อคาโลกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“ฉัน ฉันไม่ได้อยากกอดสักหน่อย ปล่อยนะ!” เจ้าตัวยุ่งเริ่มดิ้นขลุกขลักแต่ยังต้านทานแรงกอดของคนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ คนตรงหน้าจะรู้ไหมหนอว่าทำให้เขาเจ็บปวดใจมากแค่ไหน ตั้งแต่เจอกันเมื่อเช้านี้จนถึงตอนที่เขาคุยกับโร ซาวาเรสนั่น
ในที่สุดเฟรินก็ยอมแพ้แรงพญาวัวของเจ้าชายน้ำแข็ง ถอนหายใจพรืด
“คาโล...ฉันขอโทษ”
“อะไรนะ” รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้ารูปสลัก
“ฉันขอโทษที่ผิดสัญญาคาโล”
“เข้ามาใกล้ๆฉันไม่ได้ยิน”
เฟรินเขยิบตัวเข้ามานั่งใกล้เจ้าคนหูตึง
“นายหูตึงรีไง ฉันบอกว่าขอโทษ!”
“หูมันอื้อ”
เฟรินส่งเสียงจึ๊กจั๊กในลำคอ สบถอุบก่อนตะโกนเสียงดัง “ฉันขอโทษ!!”
“หา?”
ไอ้บ้าคาโลมันกวนประสาท!!
“ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ โอ๊ย! ขอโทษ!!” เฟรินตะโกนลั่นแต่เจ้าน้ำแข็งนี่ยังปั้นหน้านิ่ง อย่าบอกนะว่ามันยังไม่ได้ยิน สงสัยพรุ่งนี้ต้องพาไปหาหมอ
“ไม่ใช่ ฉันบอกว่าให้เข้ามาใกล้ๆ”
พูดจบเจ้าตัวก็โน้มใบหน้าขาวเนียนเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อน นัยน์ตาสีฟ้าสบนิ่งอยู่กับนัยน์ตาสีน้ำตาลดวงโต หัวใจของสาวน้อยเริ่มเต้นโครมคราม
“ไหนพูดอีกทีซิ”
“ขะ ขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ทำให้นายเสียใจ”
ริมฝีปากเรียวเหยียดยิ้มอย่างน่าใจหาย “ผิดแล้ว นายต้องพูดอีกคำต่างหาก”
“อะไร?” เฟรินเลิกคิ้วก่อนคำพูดบางอย่างผุดขึ้นในหัวก่อนผลักคนตรงหน้าออก “ไอ้บ้า!”
ไม่รู้ว่าเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาลไปเรียนมุกจีบสาวแบบนี้มาจากไหน เคยแต่ใช้จีบคนอื่นพอตัวเองโดนบ้างก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ทำอะไรไม่ถูก สงสัยต้องสอนกันใหม่!!
“แล้วฉันจะยกโทษให้ พูดมา” น้ำเสียงของคาโลเต็มไปด้วยอำนาจจนคนฟังขนลุกเกรียว แต่ยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ถามกลับไป
“นายจะให้ฉันพูดว่าอะไร”
ใบหน้าของเจ้าชายยังคงนิ่งสงบ ปากเรียวยาวขยับขึ้นลงเป็นคำสามพยางค์ที่เฟรินถึงกับหน้าขึ้นสีว่าปากที่ตัวเองอ่านออกแปลว่าอะไร
“อย่าให้ฉันรอนาน”
“...” เฟรินกัดฟันแน่น หลบสายตาของคนตรงหน้า
เอาวะ ต่อให้มันครั้งหนึ่ง
“ฉัน...รัก...นาย คาโล”
ฉับพลันริมฝีปากบางก็ถูกปิดด้วยปากของเจ้าชายแห่งคาโนวาล เฟรินเบิ่งตากว้าง จะร้องด่าก็ได้แต่ส่งเสียงอู้อี้เพราะปากนั้นไม่ว่าง จูบร้อนของยังวนไปถึงใบหู หัวใจดวงน้อยของเฟรินเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก มือไม้พยายามดันร่างของคาโลออกแต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงเอาเสียเลย จนได้แต่ปล่อยให้เจ้าคาโลทำอะไรตามใจชอบ จนในที่สุดมันก็หยุดและหันมาจ้องหน้าเขา
“นายสัญญากับฉัน และฉันก็จะสัญญากับนายด้วยศักดิ์ศรีแห่งนักรบคาโนวาลว่า ฉันจะไม่มีวันทิ้งนายไปนับแต่นี้และตลอดไป”
คำมั่นสัญญาที่ออกมาจากปากของบุรุษที่อยู่ตรงหน้าของเธอและจะไม่มีวันจากเธอไปทำให้หัวใจของเธอพองโต ทำนบน้ำตาเริ่มแตกอีกรอบ เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าเนียนของเขา
“อื้อ ฉันก็ขอสัญญา”
จากนั้นเฟรินก็ประทับรอยจูบสัญญาลงบนริมฝีปากของชายผู้ที่ได้แลกคำสัญญา ความรู้สึกในตอนนี้ราวกับว่าร่างทั้งร่างนั้นเบาหวิว ทุกสิ่งรอบข้างหยุดเคลื่อนไหว ปรารถนาอยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้
คาโลยอกมือใหญ่ขึ้นประคองใบหน้าของเจ้าของริมฝีปากอันหอมหวานที่ตอนนี้หลับตาพริ้ม ทำตัวเป็นเด็กดีว่าง่ายยอมให้เขาดื่มด่ำรสชาติความหวานได้ตามใจนึก จูบร้อนไล่ลงจากลำคอขาวลงไปถึงเนินอก ขบเม้นจนเกิดเป็นรอยสีกุหลาบ จนเฟรินถึงกับร้องออกมาเพราะความไม่คุ้นชิน มือของบุรุษเริ่มซุกซน ปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนของเธอโดยไม่ขออนุญาต
“อือ...” ในใจนึกอยากจะด่าแต่ปากเจ้ากรรมดันไม่ว่างซะนี่
ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกผลัวะ!
“เฟริน!!”
“โครม!!”
ร่างสูงของเจ้าชายเพื่อนซี้กระเด็นผ่านหน้าไปชนโครมเข้ากับตู้เสื้อผ้าอย่างเต็มแรง ทำเอาคิลที่เพิ่งเข้ามาใหม่ถึงกับอ้าปากค้าง
“เอ่อ..ฉันมาขัดอะไรพวกนาย ‘อีกแล้ว’ รึเปล่า?” คิลถามพลางกวาดสายตามองเฟรินที่กำลังหน้าขึ้นสีจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางอย่างรีบร้อนกับคาโลที่กำลังทำสีหน้าปั้นยากคลำหลังป้อยๆ
“ใช่ ‘อีกแล้ว’”
“ไม่! และก็ไม่เคยมี ‘ครั้งที่แล้ว’ ด้วย!!” เฟรินท้วง
“อ่า...งั้นฉันไม่อยู่กวนพวกนายดีกว่า”
“ไม่ต้องล่ะ หมดอารมณ์แล้ว”
ไอ้ ‘อารมณ์’ เฟรินถึงกับร้อนวูบวาบบนใบหน้า อยากกระโดดเตะเจ้าคนที่มันพูดแล้วเดินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ไปนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะหน้าตาเฉย!
“เฟริน” คิลเรียกก่อนนั่งลงข้างๆเฟริน แววตาสีม่วงและรอยยิ้มกว้างฉายรอยขบขัน
“ยิ้มอะไรของแก คิล”
“ดูท่าพวกนายสองคนอะไรๆจะดีขึ้นแล้วสินะ”
อดีตหัวขโมยกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ รีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที “ว่าแต่แกเหอะคิล เรนอนเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
คำถามของจอมกวนประสาททำเอารอยยิ้มของคิลหุบฉับ เดินไปที่เตียงตัวเองแล้วล้มตัวลงนอน
“นายคงไม่อยากให้คนอื่นรู้หรอกนะว่าพวกนายสองคนมี ‘อะไรๆ’ กันตั้งแต่วันเปิดเทอมวันแรก”
จบประโยคสายตาสองคู่ก็หันควับมาจ้องเจ้านักฆ่าตัวแสบที่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้นอนคลุมโปงสบายใจเฉิบ
“เฮ้ยคิล!!” เฟรินร้อง แต่จะท้วงก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะเสียงสัญญาณเตือนให้รู้ว่าถึงจะพูดอะไรไปก็ไม่มีผลกับเจ้านักฆ่าที่นอนเก่งและแสบที่สุดอย่างคิล ปล่อยให้หัวใจสองดวงเต้นระรัว
“คร่อกกก”
ความคิดเห็น