คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ประชุม (แก้ไขล่าสุด 9 ก.ค.54)
- 2 -
ปากแตก ตาช้ำ แก้มบวม แผลถลอก เสื้อผ้าขาด คือสภาพของเจ้าหญิง เจ้าชาย และนักฆ่าจากตระกูลดังที่นั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมสำนึกผิดอยู่ตรงหน้าแองเจลิน่าและมาทิลด้าที่บังเอิญเข้ามาเห็นมวยคู่เดือดพอดีหรือต้องเรียกว่าการตะลุมบอนกันมากกว่า
แองเจลิน่าขมวดคิ้วจนแทบจะผูกติดกันเป็นโบว์ ใบหน้าขมึงตึง ยืนเท้าเอวอย่างหัวเสีย
“นี่มันอะไรกัน!”
“ง่า...แองจี้ คือว่าพวกเรา...” เฟรินอยากจะเอ่ยแก้ตัว สารพัดคำแก้ตัวที่เคยพูดเป็นต่อยหอยตอนนี้กับมลายหายไปจากสมองหมด
“ใครเป็นคนเริ่มก่อน” มาทิลด้าถามเสียงเรียบ
“ท่านคาโล วาเนบลี เดอะปริ๊น ออฟ คาโนวาล” เจ้าจอมกะล่อนเอ่ยเสียงดังชี้นิ้วไปทางคาโลที่ตอนนี้ได้แต่นั่งนิ่ง สาวน้อยผมทองท้วงขึ้นทันควัน
“อย่ามาโยนความผิดให้คนอื่นนะ ฉันว่านายมากกว่าที่เริ่มก่อน” แองจี้ว่าพลางดึงหูของเฟรินจนยืดยาว
“โอ๊ยๆๆ! ไม่เชื่อถามคิลได้เลย ใช่ไหมคิล!”
“...”
คิลเบือนสายตาไปทางอื่นพลางเกาคางแกรกๆ ไม่อยากยุ่งด้วย จอมกระล่อนสบถพรืดเมื่อเพื่อนซี้ดันไม่ให้ความร่วมมือเลยซะงั้น ไอ้เพื่อนทรพี!
“เอาเป็นว่าผิดทั้งหมดก็แล้วกันนะ” มาทิลด้าสรุปทั้งที่ในใจก็รู้อยู่ว่าต้นเรื่องคือใคร เฟรินทำท่าจะท้วงแต่เมื่อไปสบตากับสาวเจ้า ปากที่พลันจะถียงกลับต้องหุบฉับทันที
อย่างนี้ทุกทีสิน่า ผู้หญิงเนี่ย!
เหตุการณ์ในตอนเช้าจบลงด้วยการโดนมะเหงกพิฆาตจากแองจี้ไปคนละดอก ยังดีที่เป็นแค่มะเหงกไม่โดนหนักกว่านั้น เฟรินนึกแล้วยังอดหวาดเสียวกับคทามหากาฬท่าไม้ตายของแม่สาวน้อยนั่นไม่ได้ และทุกอย่างจบลงด้วยการที่เจ้าคาโลงี่เง่าออกไปพร้อมกับมาทิลด้า โดยที่เจ้าหล่อนบอกว่าเป็นการประชุมหัวหน้าชั้นปี ว่าแต่แม่คุณเป็นหัวหน้าชั้นกับเขาด้วยเมื่อไหร่? แต่ก็ดี ประชุมกันให้น้ำแข็งนั่นเครียดจนหัวแตกตายไปเลย
“พูดแล้วพวกนายจะหาว่าฉันคุย”
เสียงเจื้อยแจ้วของอดีตหัวขโมยสาวดังขึ้นท่ามกลางเหล่าเพื่อนพ้องที่กำลังนั่งล้อมวงกันฟังเรื่องที่เธอเล่าถึงตอนไปเที่ยวบ้านคิลที่ซาเรสอย่างเมามันอยู่กลางห้องประชุม
“นายก็กำลังคุยอยู่นี่ไงเฟริน” ครี้ดท้วงก่อนเป็นคนแรกพลางเหลือบตาไปมองลูกชายของนักฆ่าเลื่องชื่อที่กำลังยิ้มร่า
“ก็มันเรื่องจริงนี่หว่า ตอนสู้กันฉันซัดพ่อไอ้คิลกระเด็นเลยนะเว้ย”
คำพูดที่ดูจะเกินจริงไปมากทำให้ทุกคนต่างหันมามองกันเป็นตาเดียวก่อนหันไปขอความจริงจากคนที่กำลังหัวเราะกึกๆอยู่
“จริง ตอนนั้นเฟรินมันใช้ผ่าปฐพีฟันทีเดียวพ่อฉันกระเด็นไปซะไกล” คิลว่าก่อนหันไปหัวเราะต่อเมื่อเห็นเฟรินยืดอกอย่างภาคภูมิ
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องชมกันหน่อยสินะครับว่าฝีมือของคุณเฟรินพัฒนาขึ้นไปมาก” ซีบิลเอ่ย
“เปล่า หลังจากนั้นเฟรินก็โดนไฟฟ้าช็อตทีเดียวจอด”
ประโยคถัดมาทำเอาคนกำลังยืดเกือบตกเก้าอี้โครมเมื่อโร ซาวาเรส คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั่นด้วยเอ่ยขึ้น อดีตหัวขโมยที่ยังคงกะล่อนกระแอมเบาๆแก้เก้อ
“นายอย่าพูดเรื่องที่ทำให้ฉันขายหน้าจะได้ไหม โร”
“โห่ นึกว่าจะแน่” ครี้ด ธันเดอร์สบถพรืดพลางไถหัวของเจ้าหญิงจอมกะล่อนนี่เบาๆ
“แล้วทำไมนายถึงไปสู้กับเวส ฟีมัสได้ล่ะ” กัสถามขึ้น ทุกคนพยักหน้าหงึกเห็นด้วยกับคำถาม
เฟรินยกมือขึ้นลูบแผลเป็นใต้ตาอย่างติดนิสัย นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววมีเลศนัยพลางชายสายตาไปมองหน้าเจ้าคิลที่หุบยิ้มฉับ
“คืออย่างนี้ ไอ้ตอนแรกฉันก็นึกว่าบ้านไอ้คิลมันจะมีแต่พวกเครื่องมือฆ่าคนหรืออะไรที่มันดูโหดๆแบบอิมเมจนักฆ่า แต่ที่ไหนได้...”
เฟรินทิ้งช่วงยกชาขึ้นจิบแบบสบายใจเฉิบทำให้เอาคนที่ใจจดใจจ่อรอฟังเรื่องอย่างจะหาอะไรมาตบหัวเจ้าคนมากท่านี่เสียสักสองสามที แต่ถ้าจะโทษเรื่องอะไรมาโทษเธอ นู่น ต้องไปโทษเจ้าคนต้นแบบที่ชอบยกชาขึ้นจิบตอนเธอจะถามเรื่องอะไรทำให้เธอติดเป็นนิสัยมาซะได้
“ดันมีดอกไม้หอมอยู่ท่ามกลางหมู่อสรพิษซะได้”
ผัวะ!
สันหนังสือเล่มหน้ากระแทกเข้ากลางหัวเจ้าคนมากท่าเต็มๆจนแทบจะร้องลั่น เพื่อนๆหลายคนแทบอยากจะกราบขอบคุณเจ้าของหนังสืองามๆสักครั้ง
“ทำอะไรของเธอยัยแองจี้!”
“นายนั่นแหละอารัมภบทอยู่ได้ รำคาญ!” แองเจลิน่าตวาดเสียงเขียวทำเอาเธอยิ้มเจื่อนๆหันไปเข้าเรื่องต่อ
“น้องสาวคิลที่ชื่ออะไรนะ คาร่า อะไรเนี่ยแหละ”
“คาราเอล” คิลแย้งยืนกอดอกแน่น
“เออใช่ คาราเอล แจ่มสุดๆ” ไม่พูดเปล่ายกนิ้วโป้งชูขึ้นซึ่งเป็นอันรู้กันว่าหมายถึงอะไรครี้ดถึงกับตาโต
“จริงเหรอคิล!” คำตอบที่ได้คือการพยักหน้าหงึก
“คนอย่างเฟริน เดอเบอโรว์ มีหรือจะมองพลาด มาทิลด้าชิดซ้าย เรนอนชิดขวา ยิ่งยัยแองจี้ยิ่งตกขอบเหวไปเลย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แหล่ม!”
เฟรินเอ่ยเสียงแจ้วแต่ยังไม่วายต้องหลบหนังสือที่คนถูกพาดพิงขว้างมาเป็นระยะๆ
“แล้วเรื่องน้องสาวของคิลเกี่ยวอะไรกันเนี่ย” โซโลที่เงียบอยู่นานเอ่ย
“อย่างเฟรินมันจะพ้นเรื่อง...”
คนถูกเอ่ยถึงยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นถูไปมา ก่อนตอบ “สวยขนาดนั้นมีหรือจะพ้นเงื้อมือคนอย่างเฟริน เดอเบอโรว์”
“เฮ้ย งั้นนายก็ไอ้ออฟน้องคิลมันแล้วสิ” ครี้ดตะโกนลั่นทำเอาคนเป็นพี่แทบจะหงายท้องตึง หันมามองเพื่อนซี้ตาถลน
“ถ้าอย่างนั้นเฟรินมันคงเละเป็นโจ๊กไปแล้ว เพราะแค่มันไปคุยกับน้องสาวคิลแค่แป๊ปเดียวสองพ่อลูกคู่นี้ก็เล่นเอาจนเฟรินคางเหลือง” โรเปรย
“ฉันคงต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์เอเดนแล้วล่ะว่าตระกูลฟีลมัสนอกจากจะเป็นที่หนึ่งในเรื่องลอบสังหารแล้ว เรื่องหวงน้องสาวก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน” เฟรินพูดพลางส่งสายตาไปยังคนจากตระกูลนักฆ่า “โดยเฉพาะคิล ฟีลมัส”
คิลแยกเขี้ยวงุดใส่ก่อนเอ่ยคำพูดที่คนฟังเจ็บจี๊ด
“แล้วอย่าลืมจารึกไว้ด้วยว่าเจ้าชายคาโล วาเนบลี แห่งคาโนวาล ก็ขึ้หึงไม่แพ้กัน”
นักจารึกประวัติศาสตร์ถึกกับชะงักกึก ใบหน้าขึ้นสีเรื่อ
“ไอ้บ้าคิล อย่าพูดถึงไอ้น้ำแข็งบ้านั่นอีกนะ”
“ถึงคิลมันไม่พูด แกก็คิดถึงมันใจจะขาด” เจค สวอนว่า พร้อมกับหัวเราะผสมโรงกับคนอื่นๆ ขนาดเจ้าหญิงเรนอนคนงามก็ยังเอากับเขาด้วย เฟรินปั้นใบหน้าเหยเก ยกมือขึ้นเท้าคางก่อนตอบ
“คิดถึงจนอยากให้มันตายๆไปซะได้ก็ดี”
“ขอโทษทีที่ฉันยังไม่ตาย เจ้าหญิงเฟลิโอน่า”
น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้นด้านหลัง เป็นเสียงที่ทำเอาเฟรินแทบอยากจะเอาหน้ามุดส้วมตายเสียให้ได้เมื่อมันดันมาได้ยินตอนที่กำลังด่ามันพอดี คาโลกับมาทิลด้าเดินไปที่ด้านหน้าของห้องประชุม วงล้อมนินทาชาวบ้านได้แตกกระจายแยกย้ายกันไปนั่งทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยไม่ต้องมีใครสั่ง
“ไอ้คาโลมันมาเมื่อไหร่วะคิล” เฟรินกระซิบเสียงเครียด
“มาตั้งแต่ตอนที่เจคพูดนั่นแหละ”
“แล้วทำไมพวกนายไม่บอกฉันเล่า!”
“เฟริน พวกนายจะคุยกันอีกนานไหม”
นัยน์ตาสีเขียวจับจ้องมาที่เฟริน ก่อนทุกอย่างจะเงียบลง มาทิลด้ายกกองกระดาษขนาดใหญ่วางบนโต๊ะดังตึง สบตากับทุกคนภายในห้องและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจเช่นเคย
“เอาล่ะ คงไม่ต้องมีการทักทายอะไรกันมากมาย หวังว่าปิดเทอมที่ผ่านมาทุกคนคงจะได้พักผ่อนกันเพียงพอแล้ว และหวังอีกว่ามันจะพอสำหรับภาระหน้าที่ที่หนักหนากว่าปีที่แล้วที่เราจะได้รับภายในปีนี้”
จบประโยคเสียงพูดคุยก็ดังขึ้น มาทิลด้าทุบโต๊ะดังปังทุกอย่างจึงกลับเข้าสู่ความเงียบ นึกสงสัยเหมือนกันว่าแม่คุณไม่เจ็บมือบ้างหรือไง
“เนื่องจากปีที่แล้ว...ได้เกิดเรื่องราวขึ้นต่างๆมากมาย ทั้งเรื่องแหวน เรื่องสงครามเอเดน เดมอส” นัยน์ตาสีเขียวหันไปสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่เจ้าตัวได้แต่ยิ้มแห้งๆรับ “หรือแม้แต่การจากไปอันยิ่งใหญ่ของไฮคิง ทำให้เราต้องเสียเวลาในการเรียนไปมาก ทางอาจารย์จึงได้ประชุมกันและมีมติว่าจะแจกเอกสารประกอบการเรียนในปีที่แล้วให้กับทุกคนเพื่อเป็นการทดแทน”
เจ้าหญิงจากอเมซอนยกกองเอกสารดังกล่าวให้คาโลครึ่งหนึ่ง พลางพยักเพยิดให้ช่วยเดินแจก ขณะที่มันยังปั้นหน้าตายไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับรังสีอัมหิตที่เฟรินเพียรจะส่งมาให้อยู่ตลอด ขณะที่มาทิลด้ากำลังเดินแจกเอกสารอยู่นั้น ผู้ที่สุภาพที่สุดในชั้นปีอย่างซีบิลในชั้นก็อาจหาญถามขึ้น
“คุณมาทิลด้าครับ แล้วเรื่องบันทึกเรื่องหัวใจกษัตริย์ที่เราทำค้างเอาไว้ล่ะครับ”
“เรื่องนั้นคาโลจะเป็นคนอธิบาย” ทุกสายตาจับจ้องไปยังเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่ยังทำหน้าน้ำแข็งแจกเอกสารโดยไม่สนใจใคร มาทิลด้าจึงเอ่ยต่อ
“และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ฉันจะขออธิบายเรื่องต่อไปเลยแล้วกัน ว่าในตอนนี้โรงเรียนพระราชาเอเดนเบิร์กของเราต้องส่งตัวแทนไปร่วมแสดงความยินดีและรักษาความปลอดภัยในงานเสด็จขึ้นครองราชย์ของไฮคิงคนใหม่”
เฟรินเลิกคิ้วขึ้นก่อนใช้นิ้วสะกิดเจ้าคนที่เธอขนานนามว่าห้องสมุดเดินได้ กระซิบเสียงเบา
“ใครกันที่ขึ้นเป็นราชาแห่งบารามอสคนใหม่”
“ก็เจ้าชายชามัลยังไงล่ะ อย่าบอกนะว่านายไม่รู้” โรกล่าว เฟรินส่ายหัววืด ขอทานแห่งทริสทรอส่ายหัววืด “ก่อนที่ไฮคิงจะเสด็จสวรรคตน่ะ ท่านได้กล่าวฝากฝังตำแหน่งราชาแห่งบารามอสให้กับเจ้าชายชามัลแล้วกษัตริย์จากทุกประเทศและปราชญ์เลโมธีก็เห็นพร้อมต้องกันแล้วด้วย”
“ถ้าหมอนั่นได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ล่ะก็บารามอสได้โดนประเทศอื่นตีจนแหลกลานแหงๆ กษัตริย์บ้าอะไรเกลียดสงคราม”
ข้อเท็จจริงอีกอย่างที่เจ้าหญิงแห่งบารามอสคนนี้ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวคือเรื่องที่เจ้าตัวผ่านมาทั้งหมดและสงครามเอเดนเดมอสนั้นเป็นแผนของว่าที่ราชาแห่งบารามอส โรยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า
“งั้นนายก็ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนซะสิ เจ้าหญิงแห่งบารามอส”
คำพูดของขอทานกิติมาศักดิ์ทำเอาเฟรินเบิ่งตากว้าง สบถอุบ
“ประสาท ถ้าฉันได้เป็นราชาล่ะก็สิ่งแรกที่ทำคือฆ่าตัวตาย!”
“อ้าว ไหนเคยบอกว่าเรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝนยังไงล่ะ”
“นั้นมันเจ้าพ่อบ้าของฉัน ใครจะบ้าอยากเป็นราชากัน มีหวังประสาทกินกบาลตาย”
เฟรินเบือนหน้าหนีอย่างหน่ายๆ รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของขอทานกำมะลอโดยที่ไม่รู้เลยว่านัยน์ตาแข็งกร้าวสีฟ้านั้นคู่นั้จับจองอยู่
“จะมีการจัดงานขึ้นในอีก 1 เดือนข้างหน้า โดยแต่ละคนจะต้องมีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบและเรื่องที่เราจะต้องรับผิดชอบร่วมกับป้อมอื่นๆคือจัดการแสดงในพิธีหนึ่งชุดการแสดง ซึ่งชั้นปีอื่นๆก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป ถ้าหากใครไม่มีหน้าที่ในการแสดงก็ต้องไปช่วยฝ่ายอื่นๆ รายละเอียดจะแจ้งให้ภายในการประชุมเย็นพรุ่งนี้ มีใครจะถามอะไรไหม”
ไม่มีการยกมือถาม มีเพียงเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นเกี่ยวกับงานที่กำลังจะมีขึ้น แต่พอคาโลขึ้นมายืนแทนที่พร้อมกับกวาดสายตาที่สบแล้วราวกับถูกแช่แข็งนั่นไปทั่ว ทุกคนเงียบกริบก้มหน้างุด ยกเว้นเสียแต่เจ้าอดีตหัวขโมยแห่งบารามอสที่ทำใจกล้าหน้าหนาสบตากับเจ้าชายน้ำแข็งโดยไม่เกรงกลัว ก่อนนัยน์ตาสีฟ้าจะเบือนไปทางอื่นเจ้าตัวยุ่งเลยสบถขึ้น
“โห่ นึกว่าจะแน่”
“เรื่องของฉัน บันทึกเรื่องหัวใจกษัตริย์ที่ค้างเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว พวกนายทุกคนต้องเขียนบันทึกอีกหนึ่งฉบับและสรุปเรื่องราวทั้งหมด ส่งกับฉันภายในวันอาทิตย์นี้ มหาปราชญ์เลโมธีจะเป็นคนพิจารณาและจะมีการประกาศผลภายในสัปดาห์หน้า”
สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ ที่เจ้าตัวพูดเอาไว้ก่อนเดินออกจากห้องไปหลังจากที่เห็นเจ้าหญิงเฟลิโอน่ากำลังคุยอย่างออกรสออกชาติอย่างไม่สนใครกับโร ซาวาเรส ทำเอาทุกคนที่ถึงแม้จะเข้าใจกับคำพูดแต่ยังอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าไอ้เจ้าชายน้ำแข็งคนนี้เป็นอะไรกันแน่
ความคิดเห็น