ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    final fantasy dissidia [last epic]

    ลำดับตอนที่ #5 : chapter-3

    • อัปเดตล่าสุด 8 ธ.ค. 52


    ยามนี้โลกาได้เข้าสู่วิบัติ ……

    หากเพราะเช่นนั้นใช่ไหมท่านจึงได้ปรากฏกายต่อหน้าข้า…….

    ถ้าไม่เช่นนั้นท่านคงได้เพียงมีตัวตนในนิทานปรัมปรา………….

    เพียงให้เด็กๆคิดว่าท่านนั้นคือเทพธิดาผู้ปราบปิศาจร้ายในจิตนาการ…….

    ท่านมาข้าเพื่อยืนยันการมีตัวตนของตน …….

    เพื่อยืนยันว่ายามนี้ระฆังเบิกม่านได้ดังขั้นแล้ว …….

    ถึงเวลาแล้วของการที่มหากาพย์จะเริ่มต้นขึ้น……

    หากคิดในมุมกลับท่านเพียงอยากจะยืนยันกับตนเองว่าท่านก็มีตัวตนเท่านั้นเอง……..

     

    ข้าไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมทุกสิ่งถึงได้กลายเป็นแบบนี้      ข้ายังหาสาเหตุของการกเกิดสงครามนี้ไม่เจอแม้แต่น้อย ในเป็นเพียงความพึงพอใจเท่านั้นเองหรือ หรือว่ามันเป็นการนักพบเครือญาติบ้าๆ ข้าไม่เข้าใจเลย ทำไมทุกคนล้มตาย ทำไมทุกคนจึงต้องมาร้องไห้เพราะหารสูญเสีย   ข้าสับสนข้ามันไร้ความทรงจำ ตัวข้าเป็นใคร เกิดมาจากไหน ข้ายังไม่เคยรู้แล้วทำไมข้ายังต้องมาแบกรับกับสงครามที่ไร้สาเหตุเยี่ยงนี้ด้วยเล่า  ทำไมข้าว่ามันคล้ายกับการทะเลาะกันในครอบครัวมากกว่าเสียอีก เพราะอะไร เพราะท่านต้องการจะชนะใช่ไหม ทั้งๆที่ท่านเป็นธิดาแห่งความสงบแล้วไยท่านจึงเลือกที่จะเปิดฉากสงครามด้วย ……………..

    ในสายตาของข้ายามนี้ท่านคือเทพีแห่งสงครามและความวิบัติ ท่านผู้ครอบครองความสงบบัญชาเหล่านักรบให้มาต่อสู้ ให้มาสละชีพในสงคราม  ข้าว่าท่านเองก็ไม่ต่างจากคาออสเท่าไรเลย ท่านเป็นผู้สู้ส่งเพราะท่านชนะในสงคราม แต่ถ้าท่านพ่านท่านก็คงเป็นได้เพียงผู้บัญชาเหล่าฆาตกรในสนามรบเท่านั้นเอง  เช่นกันหากข้าแพ้พ่านคงเป็นเพียงฆาตกร  หากชนะแล้วในทันทีข้าคงจะเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้โลก ข้าไม่เคยเข้าในเลยถึงความแตกต่างอันเบาของคำเส้นที่ขีดแบ่งขั้นลำดับชั้นของผู้ชนะและผู้แพ้ที่แน่ๆคือข้าไม่อยากเป็นเพียงฆาตกร และไม่อยากสู้โดยเปล่าประโยชน์ ข้าคิดว่าการตายนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนเท่าเทียมกัน ความตายไม่มีการแบ่งแยกทุกคนต้องตายไม่ว่าช้าก็เร็ว   จะรู้ได้อยากไรว่าการที่บุตรของตนเองนั้นบอกว่าให้บุพการีของตนอยู่นานๆบนโลกใบนี้เป็นความบริสุทธิ์ไม่ได้หวังมรดก   ทุกคนทำเพื่อตนเองทุกคนหาประโยชน์ใส่ตัวเอง ทำเพราะอีกฝ่ายมีสุขหรือเปล่าเลย เค้าสุขเราสุขสุดท้ายก็ทำเพื่อนตนเองสุขมันก็เท่านั้น .....           

     

    ข้าไม่เคยมองอะไรในแง่ดี.........

     

    ข้าเดินออกมาจากปราสาทหลังงาม สถานที่ซึ่งมีแต่ความสบายเพรียบพร้อม  สองข้างทางในตลาดซึ่งมีคนมากหน้าหลายตาซึ่งอาจเคยได้ยินเรื่องราวของข้ามาบ้างแล้ว เสียงจอแจติฉินนินาชื่นชมทั้งหลายล้วนทำให้ข้ายิ่งอึดอัดข้าไม่เคยนิยมชมชอบเสียงดังด้วยเลยยิ่งรับสาวท้าวเดินให้พ้นจากที่แห่งนั้น จนมาถึงยังป่าไผ่งามกลิ่นของธรรมชาติยิ่งชวนหลงใหล ข้าเผลอปล่อยใจกับสิ่งนั้นชั่วครู่ และก็หวนกลับมานึกถึงเสียงนินทาถึงตนเองที่ในตลาดยิ่งปวดใจ ความเจ็บปวด อึดอัดในอกตรมและยิ่งช้ำชอกหนัก เมื่อน้ำตาที่ควรจะไหลลงมาก็กลับไม่ไหลลงมาเลยแม้เพียงหยดเดียว ……

    ทุกชีวิตที่ข้าคร่าช่วงไปใช่ว่าข้าจะไม่โศกเศร้า ……

    ข้าจำได้แม่นยำ ……

    เป็นอย่างดี…..

    ข้าอยากร้องไห้………….

    อยากที่จะปลดปล่อยทรมานของตนเองออกมาให้ใครซักคนได้รับรู้……

    เพียงแต่ทว่า………

    คนคนนั้น…..

    คือใครกัน……….

    ใครกันที่จะมาคอยรับฟังเสียงของหัวใจข้ากันเล่า ……….

    ไม่มีแม้เพียงเงา.....................

    ข้าเหงา

    ความรู้สึกที่ไม่เคยให้ใครรับรู้......

    ข้าอาจเพียงกลัว ความกลัวทำร้ายเราได้ ข้าเชื่อแบบนั้น .............

    ว่าแต่ อยากร้องไห้จริงๆนะ.......

    ทำไงดีล่ะ อ๊ะ.... ทำไมน้าถึงไม่ไหลลงมาล่ะ......สงสัยหัวใจข้าคงด้านชาเสียแล้วกระมัง ........

     

    ขอโทษครับคือมทราบว่าท่านคืออัศวินที่มายังเมืองข้าในฐานะราชอาคันตุกะซินะครับ ไม่ทราบว่าท่านมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับถึงได้มาที่นี่เสียงใสของเด็กหนุ่มวัยรุ่นเรียกให้ดวงตาสีฟ้าสวยราวกระจกต้องเมียงมองไปยังต้นเสียง ร่างบางมีผิวสีแทนดวงตาสีอัมพันเป็นประกาย เรือนผมสีขาว ใบหน้าหวานประดับรอยยิ้มงดงาม

    เปล่านี่.....ข้าเพียงแค่มาเดินเล่นเท่านั้นเองข้าตอบ พลางจ้องมองดวงตาสีสวยคู่นั้น ดวงตาที่ราวกับจะมองทุละหัวใจ อ่อนโยน และคมกริบราวพญาเหยี่ยว

    แล้วเจ้าล่ะมาที่นี่ทำไม

    ข้าหรอมาเดินเล่นน่ะ แล้วก็เพิ่งไปซื้อยาให้น้องมาน่ะครับร่างนั้นตอบมือเก้าท้ายทอยอย่างเอียงอาย

    งั้นหรอ จริงซิเจ้าชื่ออะไร

    อยากรู้เสียจริงว่าเด็กคนนี้เป็นใคร และยังมีคนแบบนี้อีกหรอที่อาณาจักรฟินน์ที่ตกเป็นรองพาราเมเกีย แต่สมแล้วที่เป็นเมืองนักรบ ......

    เมืองแห่งอาวุธในตำนาน ............

    ข้าชื่อฟรีโอนีล เรียกข้าฟีเรี่ยนก็ได้

    ข้าไม่มีชื่อ.....น่าเสียดายนัก ที่ข้าไม่มีชื่อให้เจ้าเรียกได้ เพราะข้าสูญเสียความทรงจำไปแล้ว ข้าเป็นใครทำไมจึงมาเป็นอัศวิน ทำไม ทำไม ข้าไม่รู้เลย

    งั้นหรือครับ แต่ข้าก็ไม่ได้อะไรนักหรอกครับ เพียงแค่อยากรู้ว่าท่านต้องการคนที่จะมารับฟังเรื่องราวของท่านบ้างหรือไม่ครับ

    ถ้อยคำ กับน้ำเสียงอ่อนโยนที่พานให้น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว ข้ารับรูได้เลยถึงความอ่อนโยนของเด็กหนุ่มตรงหน้า

    และนี้คือเรื่องราวที่ข้าได้พบกับเจ้าเมื่อคราแรก...............

    ความทรงจำที่ข้าไม่มีวันลืมเลือน .....................

    เพราะวันนั้นคือวันที่ข้าได้พบกับสายสัมพันธ์ที่เป็นหลักฐานของการคงอยู่ของข้า..................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×