คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 6 Be careful yourself
6
Be careful yourself
“ถึงเทคาโปแล้วครับครับ”
เสียงของโชเฟอร์คนขับรถร้องบอกผู้โดยสารขณะที่รถบัสสีขาวได้หยุดการเคลื่อนที่ลง ณ ทะเลสาบสีฟ้าใสที่ถูกรายล้อมด้วยภูเขาสีน้ำเงินเข้มมากมายราวกับที่แห่งนี้ ขาดการติดต่อสื่อสารจากโลกภายนอกทั้งสิ้น เสียงเสียดสีของใบสนที่กระทบกับสายลมหนาว ทำให้บรรยากาศร่มรื่นขึ้น
เจ้าของผมสีบลอนด์ค่อยๆก้าวเท้าออกจารถบัสสีขาวอย่างช้าๆ เมื่อเธอรับรู้ถึงลมเย็นพัดผ่านหน้าของเธอ เบาๆ
“อื้ม...อากาศที่นี่ ดีจังเลยนะ”หลังจากที่เอลซ่าลงจากรถ เธอสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด พร้อมกับเอามือประสานก่อนจะบิดขึ้นฟ้าอย่างเต็มแรง
“บิดขี้เกียจแบบนี้ เดี๋ยวหลังค่อมหมดนะ คุณป้า”เสียงทุ้มอันแสนคุ้นเคยของแจ็ค ประกอบคำพูดอันแสนกวนเท้าของเขา ทำให้เอลซ่าหันกับไปมองแบบค้อนๆใส่
“พอหายโกรธ นายก็พูดแบบนี้เลยเหรอ ว่าแต่นายเดินแบบนี้น่ารักดีนะ”เอลซ่าทำหน้าบูดใส่เขาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแป้นอย่าง สภาพตอนนี้แจ็คได้เป็นถือของทั้งหมดที่เขาได้ซื้อมาเมื่อเช้าที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แทบทำเอาเขาเดินโซซัดโซเซไปมาเลยที่เดียว
“ถ้าเธอบอกฉันตั้งแต่แรก ฉันคงไม่มาต้องลำบากแบบนี้”แจ็คพูดประชดใส่เอลซ่า เพราะว่าเธอถือกระเป๋าเป้ของเธอแค่ใบเดียว ต่างจากเขา ที่มีกระเป๋าลากแล้วไม่พอ สองมือยังมีถุงที่เต็มไปด้วยเสบียงที่ถือมา แถบจะบอกได้เลยว่า แจ็คต้องใช้เท้าเตะกระเป๋าลากของเขาให้เคลื่อนที่ต่อไป
“ความผิดนายเองนะ”เอลซ่าเดินนำหน้าแจ็ค อย่างไม่ใส่ใจ พร้อมยักไหล่ให้เขา
“ใจคอจะไม่ช่วยกันเลยหรือไง”แจ็คพูดทวง ทำให้เอลซ่าหยุดเดินพร้อมหันกลับไปมองที่แจ็ค
“ใครนะ บอกว่าฉันทำเองได้”เอลซ่าพูดกลับแต่ก็ต้องตะลึงกับสายตาอันหวานซึ้งที่อ้อนเธออย่างจัง
“ไม่...”เอลซ่าพยายามเลี่ยงสายตาอ้อนวอนแบบหมาน้อยคู่นั้น
“ฉันบอกว่า...ไม่...”พอเธอหันกับมองอีกที สายตาสีฟ้าอ่อนยิ่งเพิ่มพลังของความสงสารเพิ่มขึ้นทุกที
“โอเค ฉันช่วยก็ได้”คำตอบจากเอลซ่า ทำเอาแจ็คยิ้มร่าด้วยความดีใจ ในขณะที่เอลซ่าเดินมาพร้อมหยิบกระเป๋าลากของเขาขึ้นมาเพื่อลากไปยังที่พัก
“แบบนี่สิ น่ารักหน่อย”แจ็คพูดชม ทำเอาเอลซ่าหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อยแต่ก็โดนน้ำแข็งในใจแช่เย็นอีกครั้ง เพราะความคิดที่ว่า ‘เราแค่คนรู้จักกัน’
“ฉันว่า สายตาหมาอ้อนของนายน่ารักกว่าเยอะเลย น่าถ่ายรูปจริงๆ”
“ถ่ายสิ ใครห้าม เดี๋ยวไม่รูปคนหล่ออย่างผมเก็บไว้ดูหรอก”แจ็คพูดพร้อมทำหน้าเก๊กหล่อ ให้เอลซ่าถ่าย
“หลงตัวเอง”เอลซ่าพูดพร้อมขำเล็กน้อย
เมื่อเขาสองคนเดินทางมาถึงที่พัก เอลซ่าก็ได้เข้าเช็กอินที่บริเวณต้อนรับของที่พัก ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังบ้านพักที่เป็นห้องนอนแบบสองห้องที่เชื่อมผ่านโดยห้องครัว แต่สิ่งที่เอลซ่าดีใจเสียยิ่งกว่า คือ ห้องนอนมีห้องน้ำให้ตัว มันทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะ กว่ารอบก่อน และเธอสัญญาว่าเธอจะไม่นอนห้องเดียวกับผู้ชายคนไหนอีกแล้ว ถ้าเธอยังไม่รู้จักเขาดี
“ว้า...แยกห้องนอนแบบนี้อดเห็นของดีเลย”แจ็คพูดน้ำเสียงเจ้าเล่ห์แกมล้อเล่น แต่สำหรับเอลซ่ามันคือคำที่เธอบาดหูบาดใจเธอที่สุด
“ถ้าเป็นแบบนั้น ก็เชิญออกไปนอนข้างถนนเลยไหม”เอลซ่าพูดพร้อมเตรียมตัวขว้างกระเป๋าลากของแจ็คลงหน้าผาที่ตรงหน้าเธอ
“เฮ้ๆ ฉันแค่ล้อเล่น”แจ็คพยายามห้ามปรามการกระทำของเอลซ่า
“ถ้านายคิดจะพูดแบบนั้นอีก ฉันรับประกันได้ว่า นายได้รับสิทธ์นั้นเดี๋ยวนี้”เอลซ่ายิ้มอย่างอ่อนโยน แต่สำหรับแจ็คแล้วมันคือรอยยิ้มที่น่ากลัวที่สุดในโลกสำหรับเขา
“โอเคครับ โอเค แล้วของพวกนี้ คุณจะให้เก็บไว้ไหนครับ”แจ็คผงกหัวอย่างว่าง่าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามเอลซ่าว่าของที่เขากำลังถืออยู่ควรเก็บไว้ที่ไหน
“เดี๋ยวคุณวางของ ไว้ตรงห้องครัวแหละ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เอลซ่าชี้ไปยังบริเวณเคาน์เตอร์ที่มีอ่างล้างจานอยู่ตรงกลาง
“ส่วนห้อง คุณอยากนอนห้องไหน”เอลซ่าถามพร้อมใช้มือทั้งสองข้างชี้ไปยังห้องนอนทั้งสองข้างสลับกัน
“ผมขอเลือกห้องเลือกด้านขวาแล้วกัน ตรงนั้นวิวสวยดี”
“แต่ฉันก็อยากนอนห้องด้วยนั้นเหมือนกัน”เอลซ่าพูดเปรยขึ้นมาโดยที่เธอไม่รู้เลยว่า ทำเอาภายในหัวของแจ็คคิดไปถึงไหนแล้ว
“เฮ้ ฉันหมายถึงฉันจะเลือกห้องนั้นเหมือนกัน”เอลซ่าทำท่าเกาหัวเล็กน้อยเมื่อเธอเพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอพูดอะไรไป ส่วนแจ็คก็ได้แต่แอบขำจะพูดชวนมานอนด้วยก็คงยาก เพราะว่าเขากลัวที่กระเป๋าลากตัวโปรดของเขาจะลอยตกหน้าผาไปก่อน
“เอาเป็นว่า เรามาเป่ายิ้งฉุบเพื่อให้แน่ใจดีกว่า”แจ็คพูดพร้อมเดินไปวางของที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมถกเสื้อขึ้นเล็กน้อยเพื่อแสดงถึงสัญญาณว่าพร้อม
“โอเค รอบเดียวเลยนะ”เอลซ่าพูด เธอมั่นใจแน่นอนว่าเธอจะชนะแจ็ค เนื่องจากว่าเอลซ่าไม่เคยเป่ายิ้งฉุบแพ้อันนา เพื่อนสมัยเรียน หรือแม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ เธอก็ไม่เคยแพ้แม้แต่รอบเดียว เธอเชื่อว่าเธอจะได้ครอบครองห้องนั้นอย่างแน่นอน
“ได้ หนึ่ง...สอง...สาม”แจ็คเป็นฝ่ายให้สัญญาณ ทำให้ตอนนี้หัวสมองของเอลซ่าประมวลค่าความเป็นไปได้ทันที โดยที่เธอลงกรรไกร แต่ทว่า...ฝันของเธอต้องสลายเมื่อแจ็คได้ลงค้อน
“เป็นไปไม่ได้”เอลซ่าพูดอย่างตกตะลึง น้องสาวของเธอก็ไม่เคยแพ้ใครมาก่อน แต่ต้องมาแพ้ผู้ชายคนนี้อย่างแน่แปลกใจ
“ขอโทษทีนะ แต่ผมบังเอิญฟลุ๊คอ่ะ”แจ็คพูดส่งยิ้มเยาะเย้ยให้แก่เอลซ่า ก่อนจะเดินไปยังห้องนอนฝั่งขวาพร้อมกระเป๋าลากของเขาอย่างสบายใจ ผิดกับเอลซ่าที่ยังคงมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่
‘เรามาแพ้ให้นายคนนี้ได้ไงเนี่ย’เอลซ่าหายใจฟึดฟัดก่อนเดินตรงไปยังห้องนอนฝั่งซ้ายที่ว่างอยู่
แอ๊ด...
เสียงประตูของห้องนอนแจ็คได้ถูกเปิดออกภายห้องยังคงมีแสงจากดวงอาทิตย์ส่องผ่านบานหน้าต่างทำให้เห็นชัดเจนว่า ห้องนอนนี้ถูกทาด้วยสีฟ้าอ่อน โดยมีเตียงนอนสำหรับหนึ่งคนตั้งติดบริเวณหน้าต่างพอดี พื้นที่ที่เหลือถูกจัดด้วยเฟอร์นิเจอร์สีไม้โอ๊คสีอ่อนอย่างเป็นระเบียบ
แจ็คค่อยๆวางกระเป๋าลากของเขาไว้ข้างๆเตียงนอนของเขา ก่อนจะเปิดมันออกมา เพื่อหยิบกล้องตัวโปรดที่เต็มไปด้วยภาพที่เกี่ยวกับคนที่กำลังอยู่กับเขาตอนนี้ เลื่อนดูไปอย่างช้าๆ แต่ก็ต้องรีบเก็บทันทีเมื่อได้ยินเสียงของเธอเรียกขึ้น
“คุณจะไปเล่นไอซ์สเก็ตด้วยกันไหม”เอลซ่าพูดพร้อมเปิดประตูเข้ามาในห้อง ทำเอาแจ็คแทบเก็บกล้องของเขาไม่ทัน เขาจึงเลือกที่จะยัดใส่ใต้เตียงแทน
“จะเปิดก็เคาะประตูด้วยสิ”แจ็คทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยเป็นการตักเตือน
“ก็เหมือนใครบางคนนั้นแหละ”
“คุณพูดว่าอะไรนะ”แจ็คพูดพร้อมทำหน้าสงสัยเมื่อเขาจำไม่ได้ว่าเธอพูดอะไร
“คุณเนี่ยเอาหูไปไว้ไหนกัน ฉันถามว่า จะไปเล่นไอซ์สเก็ตด้วยกันไหม”เอลซ่าจับขมับของเธอก่อนจะทวนคำถามอีกครั้ง แต่เมื่อเธอเห็นแววตาเป็นประกายของแจ็ค เธอรู้ได้เลยว่า เขาจะไปแน่นอน
“งั้นนายไปเป็นเปลี่ยนเสื้อด้วย...”ไม่ทันเอลซ่าจะพูดจบ แจ็คก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อทันที ตอนนี้เขาก็ออกมาในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินพร้อมกางเกงสีน้ำตาลเข้มทำให้เขาดูเท่มากๆในชุดนี้
“ฉันพร้อมแล้ว เราไปกันเลยได้ไหม”แจ็คพูดพร้อมกระโดดโลดเต้นไปมา ทำเอาเอลซ่าอดคิดไม่ได้เลยว่า แจ็คเองก็ชอบทำตัวเป็นเด็กเหมือนกัน
“ได้สิ งั้นไปกันเลย”เอลซ่าพูดพร้อมเดินนำหน้าแจ็ค แต่แล้วเธอก็รู้สึกถึงความอุ่นของมือข้างซ้ายของเธอ พอเธอหันไปมองตามมือ แจ็คกำลังจูงมือเธออยู่ เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาทำแบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากแค่รู้สึก...ดีที่เขาอยู่เคียงข้างเธอ
เสียงเสียดสีระหว่างเหล็กของรองเท้าไอซ์สเก็ตกับน้ำแข็งทำให้บรรยากาศของลานสเก็ตครึกครืนแล้วรู้สึกเสียวฟันไปพลางๆ แจ็คทำตาโตเท่าไข่ห่านอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างสนุกสนานกับการไถลไปกับพื้นน้ำแข็งอันแสนลื่นนี้
“ทำยังกะไม่เคยเล่นเลยนะ อ่ะนี่”เอลซ่าพูดสายหัวในความเป็นเด็กของแจ็ค ก่อนจะยื่นรองเท้าสเก็ต ที่ตรงไซส์ให้ ทั้งทีเธอคิดว่าเขาน่าจะโตกว่านี้แต่ไม่เลย แววตาแบบเด็กๆของเขาที่ฉายผ่านนัยน์ตาของเขาตั้งแต่ตอนอยู่ในห้องนอนของเขาจนถึงตอนนี้เป็นเครื่องหมายรับประกันไว้
“ผมไม่เคยเล่นจริงๆนิ”แจ็คพูดเกาหัวเล็กน้อย แก้เขิน เพราะเขาไม่เคยเล่นจริงๆ
“คงไม่พ้นฉันอีกสินะ”เอลซ่าพูดพร้อมเดินไปนั่งข้างๆแจ็ค เพื่อใส่รองเท้าให้ตัวเธอเอง
“คุณเล่นสเก็ตเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่”แจ็คเอ่ยถามเอลซ่าขณะที่เขากำลังผูกเชือกรองเท้า ดวงตาสีฟ้าอ่อนของแจ็คมองที่เอลซ่า ไม่มีครั้งไหนเลยที่ครั้งจะหลงไหลในความสวยของเอลซ่าไม่ว่ามุมไหนก็ตาม
“ตั้งแต่ฉันอายุหกขวบ ฉันมักจะไปเล่นสเก็ตกับน้องสาวของฉันบ่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เล่นเท่าไร”เอลซ่าพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ แต่ก็กลับมาเป็นน้ำเสียงเรียบเหมือนเดิม เมื่อแจ็คเห็นว่ามันสะเทือนใจของเธอจึงพยายามเลี่ยงที่จะถามต่อ
“เอาล่ะ ผมพร้อมที่จะเรียนแล้วครับ คุณครู...เหวอ”แจ็คพูดพร้อมลุกขึ้น แต่ทว่าเขาเกือบล้มหัวคะมำเพราะลืมไปว่าเขาได้ใส่รองเท้าสเก็ตแล้ว แต่ดีที่ว่าเอลซ่าคว้าไว้ทัน
“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวล้มหัวคะมำหน้าหมดหล่อหรอกนะ”เอลซ่าพูดพร้อมดึงให้แจ็คนั่งลงก่อน
“ผมแค่ตื่นเต้นไปหน่อยเอง”แจ็คยิ้มแหยะๆให้เอลซ่า เอลซ่าได้แต่ส่ายหัวเบาๆราวกับความเด็กของหนุ่มคนนี้ ก่อนที่จะจูงมือขึ้นเพื่อให้เขายืนขึ้น
“ก่อนอื่นเลยนายต้องหัดยืนให้ก่อน เวลายืนคุณต้องแยกปลายเท้านะ แบบนี้”เอลซ่พูดพร้อมทำให้ดูเป็นตัวอย่าง แจ็คจึงพยายามทำให้เท้าทั้งสองข้างแยกออกห่างจากกัน แต่ดูท่าว่าจะล้มแลไม่ล้มแล
“เยี่ยมมาก ตอนเดินไปที่ลานสเก็ต ให้นายเดินหันข้างนะจะได้ไม่ล้ม”เอลซ่าพูดพร้อมเดินไปจับราวก่อนทางเข้าลานสเก็ตซึ่งแจ็คค่อยๆตามไปอย่างช้าๆ เมื่อมาถึงราวที่จับแจ็คจึงรีบเกาะราวไว้แน่น เขาค่อยๆเดินไต่ขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าลานสเก็ต แจ็คได้แต่กลืนน้ำลาย และมองผู้คนที่สไลด์ไปมาตาม
‘นึกว่าจะง่ายๆ’แจ็คบ่นอุบอิบในใจ แน่นอนเขากลัวเจ็บแต่ที่มากกว่านั้น คือ ทำให้เอลซ่าไม่ได้เล่น
“มาเร็ว”เอลซ่ากวักมือ เรียกเพื่อให้แจ็คตามเธอมา แต่ดูท่าแจ็คกลัวเอามาก
“นี่นายลองสไลด์สับข้างไปมาดูสิ”เอลซ่าลากเท้าโดยไม่ได้ยกขึ้นแต่พยายามผลักให้มีเหล็กของรองเท้าทำให้ตัวเธอเลื่อน แจ็คเริ่มพยายามปล่อยตัวเองจากกระจกและทำตามที่เอลซ่าบอก
“เหวอ”แจ็คล้มลง ทันทีที่ออกตัว ทำเอาเอลซ่าขำคิกคักเหมือนเห็นผู้ชายที่ชอบทำตัวเก่งไปซะทุกอย่าง ต้องพ่ายแพ้แก่รองเท้าไอซ์สเก็ต
“ขำอะไร ครูสอนนักเรียนไม่ดีเลย”แจ็คทำหน้าบูดพร้อมบ่นใส่เอลซ่ายกใหญ่
“โอ๋ๆ มาๆ จับมือฉันไว้นะ แล้วดูที่เท้าฉันด้วย”เอลซ่าดึงมือแจ็คให้ลุกขึ้น แล้วเธอค่อยสไลด์ถอยหลังไปเรื่อยๆ แจ็คมองเท้าเอลซ่าพร้อมพยายามทำตาม ตอนนี้ทั้งสองคนเหมือนกับเป็นคู่เต้นรำกลางงานบอล
“เห็นไหม คุณทำได้...”เอลซ่าพูดขึ้นแต่ก็ต้องหยุดพูด เพราะดวงตาของแจ็คจดจ้องไปยังดวงตาของเธอเหมือนพยายามหาอะไรบางอย่างจากดวงตาของเธอ โลกทั้งโลกหยุดหมุน ผู้คนมากมายบนลานสเก็ตได้หายไปจากโสตประสาทของเขา ทิ้งไว้แต่พวกเขาสองคนที่กำลังทำสงครามประสาทตาอย่างไม่ลดละเลิก เหมือนทุกอย่างต้องมนต์สะกด แต่เอลซ่าต้องตื่นจากภวังค์เมื่อรับรู้ถึงวงแขนกว้างเริ่มโอบรอบเอวของเธอ
“เอ่อ...คุณ”เอลซ่าเรียกให้แจ็คตื่นจากภวังค์ เมื่อรู้สึกว่าหน้าของเขาเริ่มโน้มมาใกล้เธอเข้าทุกที
“แจ็ค”
“ฮะ...ฮะ เหวอ/กรี๊ด”เมื่อแจ็คตื่นจากภวังค์อีกครั้งที่เขาลื่นไถลล้มอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว แต่เขาพาเอลซ่าล้มไปอีกคนด้วย
“เอ่อ...เจ็บไหม”แจ็คถามเอลซ่าโดยไม่รู้เลยว่าสภาพของเขาตอนนี้ ล่อแหลมมากๆ เขากำลังคร่อมเอลซ่าเหมือนตอนที่อยู่โมเทลแต่ดีที่เขามีสติจึงรีบลุกขึ้น แต่เขาก็เห็นใบหน้าของเอลซ่าแดงระรื่นอีกคร้ง
“ไม่หรอก แต่ช่วยระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหม”
ความคิดเห็น