ฮ่องกงงงงงง่ะ ตอนที่ 1 ทำพาสปอร์ต (อินไทยแลนด์)
"อยากไปฮ่องกงง่ะ" ฉันบอกป้า
"เออ! เอาน้องไปด้วยแล้วกัน" ด้วยความรำคาญป้าเลยบอกให้พาน้องไปด้วย
"โอเค ได้ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้พาน้องไปทำพาสปอร์ต" ฉันรีบบอกท่านป้า เพราะกลัวไม่ได้ไป ไหนๆ ก็จะพักร้อนแล้วนะ อีกอย่างน้องก็ปิดเทอมอยู่ ไปโลด
คืนนั้นทั้งคืนฉันตื่นเต้นที่จะได้พาน้องไปทำพาสปอร์ต นอนนึกไปนึกมา อ้าวคุณฮิปโป เคยเปลี่ยนชื่อ เวรกรรม เลยลงจากห้องนอนไปโต๊ะทำงาน เปิดลิ้นชักหาเอกสารเปลี่ยนชื่อ หาไปสาม-สี่แฟ้ม คุณพระ! เจอหนึ่งแผ่นแต่เป็นสำเนา แถมเน่าอีกต่างห่าง โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาไอ้แผ่นเน่าๆ นี่ไปถ่ายเอกสารก็ได้ฟะ
วันต่อมา ฉันนัดคุณฮิปโปเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าให้เจอที่ร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ชัยฯ ตอน 11.30 น. แล้วรีบไปทำงาน ทำงานจนใกล้เวลานัดก็รีบนั่งรถไปอนุสาวรีย์ทันที ไปถึงที่นั่นก็ปาไป 11.45 น. แล้ว ฉันก็รีบบึ่งไปแมคโดนัลด์ทันที เพราะเลยเวลานัดมา 15 นาทีแล้ว
พอถึงแมคฯ เดินดูทั้ง 2 ชั้นของร้านแล้ว ไม่มีคุณฮิปโป ฉันเครียดมากและโทรหาคุณฮิปโป แต่คุณฮิปโปปิดโทรศัพท์ โทรไปที่บ้านก็ไม่มีใครรับสาย สงสัยว่าจะออกมาแล้ว ฉันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าที่อนุสาวรีย์ชัยฯ มีแมคฯ ประมาณ 4 สาขา แย่อ่ะ แล้วฉันจะเดินตามหาคุณฮิปโปยังไงดีเนี่ย เวลาล่วงเลยไปถึง 12.00 น. ฉันตัดสินใจเดินไปที่ห้างปากซอยรางน้ำ เพราะมีแมคฯ อยู่เหมือนกัน แต่ปรากฏว่าคุณฮิปโปไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกที คราวนี้ถ้ารับต้องมีการตายไปข้างนึงแน่ แต่สรุปแล้วก็ไม่มีแมวสักตัวรับสาย
ฉันเครียดมาก ถึงขั้นจิตตก เพราะคุณฮิปโปออกจากบ้านแล้ว แต่เรายังไม่เจอกัน ฉันเลยตัดใจครั้งสุดท้ายเดินกลับไปห้างเดิม เดินดูทั้ง 2 ชั้น สุดท้ายก็ไม่เจอ ฉันยืนอยู่หน้าห้างสักพักใหญ่ เวลาล่วงมาถึง 13.30 น. ฉันยืนน้ำตาไหล แล้วก็มีคนมาสะกิดที่หลัง ฉันหันไปมอง คุณฮิปโปนั่นเอง ฉันเปิดฉากเทศน์มหาชาติเลย ถามว่าทำไมไม่โทรมา ถ้าลืมโทรศัพท์มือถือ แล้วทำไมถึงไม่ใช้เครื่องสาธารณะโทรมา สุดท้ายฉันก็พ่ายแพ้ความนิ่งคุณฮิปโป เหมือนฉันบ้าอยู่คนเดียว
ฉันพาคุณฮิปโปขึ้นรถเมล์สาย 28 เพื่อไปยังอาคารกระทรวงวัฒนธรรม ถนนบรมราชชนนี จริงๆ แล้วตอนที่ฉันไปทำหนังสือเดินทาง ฉันนั่งรถส่วนตัวไป แต่ตอนนี้ต้องรบกวนคุณพนักงานเก็บสตางค์ให้ช่วยบอกเราด้วย เรานั่งรถจนเข้าเส้นบรมราชชนนี ผ่านไปหลายป้ายแล้วแต่คุณพนักงานก็ยังไม่บอก พอฉันเห็นเซ็นทรัลปิ่นเกล้าแล้วก็เริ่มรู็้สึกตะหงิดๆ เลยถามคุณพนักงานว่า "พี่คะ เราต้องลงป้ายไหนคะ" คุณพนักงานทำหน้างงๆ ฉันเลยบอกว่า "ป้ายกระทรวงวัฒนธรรมค่ะ" คุณพนักงานทำหน้ามึนอีกครั้ง พอรถจอดคุณกระเป๋าเลยถามฉํนว่า "ป้ายนี้รึเปล่าคะ" ฉันมองป้ายโรงพยาบาลเจ้าพระยา "เอ้อๆ ใช่ค่ะ" แล้วรีบวิ่งลงจาก 28 ทันที ขอขอบคุณแผนที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวปิ่นเกล้าด้วยค่ะ คราวหน้าฉันจะลงป้ายโรงพยาบาลเจ้าพระยา
คุณฮิปโปและฉันเดินลงชั้นใต้ดินของอาคารกระทรวงวัฒนธรรม คุณพนักงานให้บัตรคิวขอบัตรประชาชนคุณฮิปโป แล้วถามเราว่า "คุณพ่อ คุณแม่ มาด้วยมั้ยคะ" ฉันกับคุณฮิปโปมองหน้ากัน แล้วบอกเค้าไปว่า "หนูเอาเอกสารมาครบค่ะ" คุณพนักงานวัยคุณป้าทำหน้าเครียดแล้วบอกว่า "ต้องนำพ่อแม่มาด้วยค่ะ" แล้วก็ทำหน้าถมึงทึงเดินจากไป ส่วนคุณพนักงานวัยใสก็อธิบาบให้ฟังว่า คุณฮิปโปอายุ 18 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องให้พ่อแม่มาเซนต์อนุญาต แต่ถ้ามาไม่ได้ต้องไปทำเรื่องที่สำนักงานเขต พอได้เอกสารแล้วให้นำบัตรประชาชนตัวจริงของพ่อแม่มาด้วย พร้อมสำเนาและลายเซนต์ และถ้าอยู่คนละบ้านก็ให้นำสำเนาทะเบียนบ้านมายืนยันอีก ทั้งของพ่อและแม่ด้วย โอ้คุณพระ! ถ้าบิดามารดาข้าพเจ้าม่องเท่งกันหมดแล้ว คงต้องนำอัฐิพร้อมใบมรณบัตรมาด้วยสินะ แถมหมอผีอัญเชิญวิญญาณมาเซนต์อีกเหรอเนี่ย แล้วจะให้ทำบัตรประชาชนตอน 7 ขวบเพื่อแมวอะไรฟะ
ฉันโทรไปหาบิดามารดาที่รักฉันและคุณฮิปโปมาก ท่านทั้งสองให้คำตอบว่า "ไม่" โอเคเคลียร์ หลังจากรับโอกาสในการเกิดจากท่านทั้งสองมาแล้ว ฉันกับคุณฮิปโปก็ไม่เคยได้รับโอกาสจากท่านเหล่านั้นอีก ยอมรับและศรัทธาในคุณของบิดามารดาที่มีต่อบุตรค่ะ คิดอีกอย่างคือท่านอาจจะเป็นห่วงนะคะ คิดบวกเข้าไว้ จิตเป็นกุศลค่ะ
สรุปว่าคุณฮิปโปไม่ได้ไป และนอยด์มากค่ะ
(จบตอนที่ 1) ยังไม่ได้เหยียบฮ่องกงก็รู้ลางแล้ว
** ถ้าอยากให้รูปในหนังสือเดินทางเป็นภาพสี กรุณาไปทำที่สำนักงานหนังสือเดินทางแจ้งวัฒนะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น