คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จุดหักเห สู่เจแปน
สวัสดีจ้าเพื่อนๆชาวเด็กดีทุกคน
วันนี้ปอมต้องรีบไปหาเพื่อนๆที่โตเกียวตอนบ่ายนะจ้า
ก็เลยรีบมาอัพให้อ่านกันก่อน
ยังไงก็ขอคำแนะนำเช่นเดิมจ้า
~~~~ @^ ^@~~~~ @^ ^@~~~~ @^ ^@~~~~ @^ ^@~~~~
อาจารย์ฝ่ายแนะแนวมาบอกนักเรียนชั้น ม.๖ ว่า มีทุนการศึกษาให้นักเรียนไปศึกษาต่อนอกประเทศหรือในประเทศก็ได้
เรียกว่า หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน โดยนักเรียนชั้น ม.๖ ทุกคนสามารถมีสิทธิ์สอบชิงทุนนี้ได้
รวมทั้งนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย เนื่องจากทุนนี้จะจัดสองปีครั้ง
โดยสังกัดอำเภอที่กำหนดไว้ในสำเนาทะเบียนบ้าน เงื่อนไขของผู้มีสิทธิ์สอบครั้งนี้ก็คือ
ต้องไม่เป็นบุตรข้าราชการ
รายได้พ่อแม่รวมกัน (ในกรณีหย่าร้างก็คิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง) ไม่เกินหนึ่งแสนบาทต่อปี
ผลการเรียนเฉลี่ย (GPA) ไม่ต่ำกว่า 3.00
เป็นเด็กที่มีความประพฤติดี ไม่เคยสร้างความเสื่อมเสียให้กับโรงเรียน
อันที่จริงแล้ว ทุนนี้ปีเราไม่ได้เป็นรุ่นแรก เมื่อสองปีที่แล้วก็มีรุ่นพี่โรงเรียนเราได้เหมือนกัน
พี่เค้าเลือกไปเรียนที่ประเทศอินเดีย คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ
(ได้ข่าวว่าตอนนี้จบแล้ว จบภายในสองปีด้วย) พี่เค้าเก่งมากๆ แล้วก็ยากจนด้วย
สมแล้วที่เค้าได้ไป ตอนนั้นเรายังไม่ได้ใส่ใจทุนนี้มากเท่าไหร่ เพราะเรายังแพ้เพื่อนคนอื่นอยู่เยอะ
แต่เราก็อยากลองดูสักครั้ง ก็เลยสมัครทุนนี้ไป
ก่อนที่จะถึงวันสอบหนึ่งวัน เราก็บอกพ่อกับแม่ว่าเราจะไปสอบชิงทุนนะ สอบที่ในเมือง
แม่เลยดุเราว่า จะไปสอบอีกทำไม ในเมื่อได้ที่เรียนแล้วก็ไม่ต้องไปสอบหรอก เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน
ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อธิบายให้แม่ฟังว่าทุนนี้สอบชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศ แม่ก็เลยดุเราใหญ่
ตอนนั้นเราก็โกรธแม่มากๆ ว่าทำไมถึงไม่ให้เราไปสอบ เราก็เลยบอกว่าไม่ไปก็ได้ ก็คิดจะไม่ไปจริงๆ
พ่อของเราก็มาบอกให้เราไปสอบ พ่อจะออกเงินค่ารถค่าไปให้ เราก็เลยใจอ่อนยอมไป
วันนั้นได้อ่านหนังสือแค่วันเดียวก่อนสอบ พอวันสอบจริงก็เอาความรู้ที่จำๆได้ตอนสอบมช.ไปสอบ
คือเราก็ไม่ได้หวังด้วยเพราะคนเก่งๆกว่าเราไปสอบก็เยอะ อีกอยางเราไม่ได้อ่านหนังสือมาด้วย
สอบไปก็ทำแบบสบายๆ แต่เรากลับทำได้เยอะกว่าเพื่อนคนอื่นมากๆ เพราะตอนมาทวนคำตอบกันตอนสอบเสร็จแล้ว
เพื่อนเราทำกันไม่ค่อยได้กันเยอะ อาจเป็นเพราะทุกคนก็คงไม่ได้เตรียมตัวมาเหมือนกัน
เพียงแต่ว่าที่เราทำได้เพราะตอนเราสอบมช. เราอ่านหนังสือหนักมากๆ ก็เลยติดหัวมาด้วย อิอิ
เราก็เลยหวังว่าคงมีลุ้นนิดๆ อย่างน้อยก็คงติดสัมภาษณ์สามคน เพราะเค้าจะเลือกนักเรียนที่ได้ผลการสอบข้อเขียน
อันดับหนึ่ง สอง สาม มาสอบสัมภาษณ์แข่งกันอีกที
และแล้ว อีกประมาณสองอาทิตย์ผลก็ประกาศออกมาทางอินเตอร์เนท นักเรียนที่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์สามคนก็คือ
แต้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มีเพื่อนเราชื่อกลอย ไอซ์ แล้วก็เรา ทุกคนอยู่บ้านใกล้กันหมดเลย
เราดีใจมากๆ ตอนนั้นก็คิดว่าเราก็คงมีหวังเหมือนกัน พอรู้ผล เราก็รีบวิ่งไปบอกพ่อกับแม่
พอดีตอนนั้นพ่อกับแม่กำลังอยู่ที่สวน พอเราไปบอกว่าเราสอบติดสัมภาษณ์สามคน
คนที่ดีใจออกหน้าออกตากลับเป็นแม่ (ไหนตอนแรกไม่ให้เราไปสอบไง งอนๆ)
พ่อก็แอบยิ้มเล็กๆ อาจเป็นเพราะพ่อเป็นผู้ชายด้วยก็เลยไม่แสดงออกมากนัก
ตอนนั้นเราดีใจมากๆเลย ก็เลยเริ่มเตรียมพอร์ทผลงานต่างๆของตัวเอง
เอาหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่านเตรียมไว้เยอะๆ เพราะเวลาสอบสัมภาษณ์จะมีแบบภาษาอังกฤษด้วย
ตอนอ่านหนังสือก็อ่านใครอ่านมัน แต่เวลาเตรียมพอร์ทผลงานตัวเอง
เราสามคนก็จะเอามาทำด้วยกัน ข่วยๆกันทำเพราะไม่มีใครเคยทำกัน
ตอนนั้นเราสามคนรักกันมากๆ คิดว่าใครได้ก็จะดีใจไปด้วย จับมือกันเลยล่ะ
หลังจากนั้นอีกไม่นาน วันสอบสัมภาษณ์ก็มาถึง เราสามคนก็นั่งรถไปด้วยกันที่สำนักงานเขต
ก็เจอเพื่อนๆต่างอำเภออีกมากมายที่มาสอบสัมภาษณ์เหมือนกัน
เพราะว่าแต่ละสำนักงานเขต จะครอบคลุมประมาณสี่ถึงห้าอำเภอ
ในวันสอบสัมภาษณ์จึงคึกคักเป็นพิเศษ ทุกคนก็เตรียมตัวกันมาอย่างดี ถือพอร์ทของตัวเองมาเยอะมากๆ
เวลาสอบสัมภาษณ์ก็จะสอบทีละอำเภอ อำเภอเราเป็นอำเภอสุดท้าย
แล้วเราก็ได้สอบคนสุดท้ายด้วย ตอนสอบก็ถามหลายๆอย่างเกี่ยวกับตัวเรา
เรื่องชีวิตประจำวัน เรื่องความรู้รอบตัว และที่เด็ดก็คือเรื่องเกี่ยวกับประเทศที่เราอยากไปเรียน
ทั้งหมดนี้มีทั้งสอบแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่อาจารย์ก็ใจดี จึงไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่
พอสอบเสร็จออกมา เราสามคนก็โล่งมากๆ ก็พูดคุยกันว่าอาจารย์ถามอะไรบ้าง ตอบกันยังไงบ้าง
พอรถมาถึง ก็ขึ้นรถแล้วกลับบ้านกัน ทุกคนคงเหนื่อยกันมากๆ เพราะพอถึงรถแล้ว
ทุกคนก็หลับสนิทกันหมดเลย เห้อ ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะได้
กว่าจะประกาศผลก็พอๆกับผลแอดมิชชั่นเลย
ใครจะได้ก็ดีใจไปด้วย เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนก็อยากได้
เพราะทุนนี้จะให้ทั้งค่าเล่าเรียนแล้วค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวัน
สามารถเลือกเรียนได้ทั้งในและนอกประเทศ นักเรียนที่เลือกเรียนต่างประเทศต้องไปรับการเรียนภาษาก่อน
ประมาณ สามเดือน จากนั้นก็เริ่มตัวตัวเดินทางสู่โรงเรียนสอนภาษาในประเทศที่ตัวเองศึกษา
ส่วนนักเรียนที่เลือกเรียนในประเทศต้องสอบเข้ามหาลัยให้ได้ก่อน แล้วจะสามารถรับทุนนี้ได้
ทุนนี้เป็นทุนที่ดีมากๆสำหรับเด็กยากจน เพราะพ่อแม่ไม่ต้องเดือดร้อนเลยถ้าได้ทุนนี้
อยากได้จัง อีกนิดนึงก็จะประกาศผลแล้วสิ แว้กๆๆๆๆ ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆๆ
ความคิดเห็น