คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [Chapter 2] #ThwvHH
THE WOLF&VAMPIRE 2~
หลังจากที่ผมนัดแบคฮยอนแล้ว ผมก็ดันหลงทางซะงั้น ผมเห็นผู้ชายคนนึง ยืนพิงรถแลมโบกินี่อยู่ ผมจึงลงจากรถและเดินไปถามเขา
"ขอโทษนะครับ โรงแรมSHไปทางไหนหรอครับ? "
"...."
"เอ่อ คุณครับ ได้ยินรึป่าวครับ"
"ได้ยิน"
"เอ๊ะ! แล้วตกลงไปทางไหน คุณจะตอบผมมั้ยครับ ไม่ตอบผมจะได้ไปถามคนอื่น" อะไรของหมอนี่นะ น่าหงุดหงิดจิงๆ
"กวน-ีนแล้วนะครับ อย่าได้เจอกันอีกเลย ไอ้ขี้เก็ก!!!!"
น่าหงุดหงิดจิงๆ คิดว่าหล่อหรอ เออ! ก็หล่อแหละ แต่นิสัยเสียจิงๆ!
SEHUN PART
หลังจากที่ผมโดนเขาคนนั้น สวดยับแล้ว เขาคนนั้น คนที่ผมหัวใจเต้นกระหน่ำราวกลับกลองเมื่อ
ถูกตี ที่เห็นรูป แม้พึ่งจะเคยเห็นหน้า ความรู้สึกเดิมที่เคยมีกลับมาอีกครั้ง แต่ไม่กล้าที่จะมีอีกครั้ง
ไม่กล้าที่จะคิดความรู้สึกที่เรียกว่า ‘รักแรกพบ’ รักครั้งแรกที่ทำให้เค้าเจ็บเจียนตาย รักครั้งแรกที่ทำให้เขาคิดสั้น เกือบที่จะปลิดชีวิตตัวเอง เพียงเพราะเธอรู้ว่าผมไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา และไปกับคนรักคนใหม่อย่างหน้าตาเฉย พร้อมกับพูดประโยคที่ผมเกลียดที่สุด ‘นายมันไม่ใช่คนธรรมดา ฉันไม่อยากมีแฟนเป็นตัวประหลาดหรอกนะ’ ทันทีที่เธอพูดออกมามันก็ทำให้โลกของผมพังทลายลง ทำไมหรือ เพียงเพราะผมไม่ใช่คนธรรมดา เท่านั้นหรือ รักที่สร้างมันมาด้วยกัน รักที่สวยงาม รักที่ผมถะนุถนอมมา2ปี ผมลืมคิดไปว่าถ้าวันนึงเธอรู้ว่าผมไม่ใช่คนธรรมดา เธอจะเป็นยังไง ผมคิดว่า
เธอคงรับได้เพราะเรารักกันมาก
แต่ทันทีที่ผมบอกเธอไปเธอกลับกรีดร้องและวิ่งหนีผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด ผมไม่ได้ตาม
เธอไป ผมรู้ว่ามันยากที่จะยอมรับผมคิดว่าให้เวลาเธอสักวันสองวัน เธออาจจะยอมรับได้ แต่เปล่าเลย.. เธอไม่มีวันจะยอมรับได้วันนั้นผมไปหาเธอที่หอพัก แต่กลับเห็นเธอไปกับผู้ชายคนอื่น ผมจึงตามเธอไป ผมโทรหาเธอ
“(ฮัลโหล นั่นใครคะ~)”
หัวใจของผมเหมือนถูกตอกซ้ำ เธอลบเบอร์ของผมออกไปแล้ว
แถมยังจำเบอร์ผมไม่ได้
“ฟานี่ ผมเอง”
“(!!! นาย โทรมาทำไมยะ!!)”
“เรื่องของเราล่ะ คุณจะว่ายังไง คุณยอมรับผมไม่ได้หรอ”
ถึงแม้ผมจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ผมก็อยากจะตอกย้ำตัวเองให้มันเจ็บให้ถึงที่สุด แล้วมันจะชาชิน
ผมเชื่ออย่างนั้น
“(เหอะ! ยังจะถามอยู่หรอ นายมันไม่ใช่คน ฉันไม่อยากมีแฟนเป็นตัวประหลาดหรอกนะ ชัดพอมั้ย แค่นี้นะ แล้วก็เลิกยุ่งกับฉันด้วย!!! )”
ครืน!!
เหมือนโลกทั้งโลกพังทลายลงมา จบแล้วความรักที่ผมถะนุถนอมมา2ปี จบแล้วความรักที่ดูว่ายิ่งใหญ่ มันจบไปแล้ว ‘ทิฟฟานี่’ ผู้หญิงที่ผมรัก มันไม่มีอีกแล้ว ทั้งๆที่ผมคิดว่าเรารักกันมากแท้ๆ
ไม่ใช่สิ ตอนนี้..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมรักเธอแค่ข้างเดียวต่างหาก..
ผมกลับมายังบ้านพักของตัวเอง ผมขอแยกตัวเองออกมาจากครอบครัวเพราะผมอยากอยู่คนเดียวมากกว่า บ้านพักสองชั้น สีขาวสะอาดตา มีสวนเล็กๆ เหมาะแก่การอยู่คนกับครอบครัวเล็กๆอยู่กับคนรัก แต่ก่อน ทิฟฟานี่ชอบมาอยู่กับผมบ่อยๆ แต่ค้างบ้างไม่ค้างบ้าง เพราะเธอเป็นผู้หญิงคงจะดูไม่ดีนัก ผมเดินตรงไปที่ห้องนอน ผ่านห้องครัว ความทรงจำเก่าๆหวนคืนมา ห้องครัว ที่ๆเราทำอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข มีทั้งความสุข เสียงหัวเราะ ผมเดินผ่านห้องนั่งเล่น ที่ๆผมกับทิฟฟานี่ชอบนอนเล่น นั่งดูทีวีด้วยกัน ผมจำภาพนั้นติดตา ภาพที่เธอร้องไห้เพราะทะเลาะกับผม จนเป็นไข้และร้องไห้จนสลบไปคาโซฟา วินาทีนั้นหัวใจผม
เหมือนถูกกรีด ผมทำให้เธอไม่สบาย และทำให้เธอร้องไห้ ผมดูแลเธออย่างดี เช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยา และผมก็นอนกอดเธอเอาไว้ทุกคืน อาทิตย์นั้นเธอนอนที่บ้านผมทั้งอาทิตย์เพราะพ่อแม่เธอไม่อยู่ และเธอก็ไม่สบาย ผมมีความสุขมากที่ได้ใช้เวลาอยู่กับคนที่ผมรัก แต่วันนี้มันไม่มีอีกแล้ว ผมทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นภาพวันเก่าๆ แต่เหมือนยิ่งหนี ก็ยิ่งเจอ เมื่อผมเดินมาถึงห้องนอน ห้องที่ผมและเธอรู้จักกับคำว่า ‘จูบ’ครั้งแรก ถึงมันจะไม่ร้อนแรงแต่มันก็อบอุ่นไปด้วยความรัก ความสุข..
ผมทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นสถานที่เก่าๆ วันเก่าๆที่มีแต่ความทรงจำของผมและฟานี่เต็มไปหมด คืนนี้คงต้องไปนอนกับไอ้จงอินก่อน
“(ไรมึง)”
“คืนนี้จัดสักดอก กูอกหัก เขาทิ้งกูไปแล้ว” พูดทีไรน้ำตาก็จะไหลให้ได้
“(มึงโอเคป้ะวะ ให้พวกกูไปหามั้ย)”
ผมรักพวกมันก็ตรงนี้ เวลามีเรื่อง พวกมันจะเป็นห่วงผมมาก เพราะผมอ่อนแอและอ่อนไหวง่ายเห็นเย็นชาอย่างนี้ ข้างในผมอ่อนแอและอ่อนไหวมาก หลายๆเรื่องที่ผมได้รู้ มันมากมายเกินกว่าเด็ก18ปีอย่างผมจะรับได้ ผมคิดว่ามีแค่ฟานี่คนเดียวที่ทำให้ผมมีความสุข และลืมเรื่องราวที่ผมได้รับรู้มา แต่เปล่าเลย พอมาวันนี้ มันหมดแล้วทุกสิ่ง ‘ครอบครัว’ ที่เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าเป็นสิ่งที่ผมอยู่ด้วยแล้วอบอุ่น มีความสุข แต่เมื่อพอผมได้รู้ความจริง ว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ๆของพวกท่านความรู้สึกของผมก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่ผมไม่รักพวกท่านนะครับ แต่ยังไงล่ะ ผมคงจะยอมรับความจริงไม่ได้ แล้วฟานี่ล่ะ ถ้าเธอรู้จะเป็นอย่างไร ผมตั้งใจจะเก็บความลับที่ผมไม่ใช่คนธรรมดานี้ไว้ไม่ให้เธอรู้ แต่วันนั้นโชคร้าย ที่เธอดันมาหาผมที่บ้านพอดี เธอแอบฟังผมและพ่อแม่คุยกันโดยที่ ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครคาดคิด
หลังจากที่เธอได้ฟังเรื่องราว ก็อย่างที่ผมบอกไปเมื่อตอนต้นเรื่องล่ะครับ เธอกรีดร้องและวิ่งหนีไป ผมโทษว่ามันเป็นความผิดของพ่อกับแม่ หรือมันไม่จริงล่ะครับ ถ้าพวกเขาไม่พูดออกมาในวันนั้น มันก็จะไม่ทำให้ฟานี่รู้ความจริง และไม่ทำให้เธอทิ้งผมไป ผมเสียใจและโมโหมาก จึงเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านใหญ่ออกมาอยู่ที่บ้านเล็กถาวร จากที่เข้าๆออกระหว่างบ้านเล็กและบ้านใหญ่ กลายเป็นว่าตอนนี้ผมย้ายออกจากบ้านใหญ่ถาวร
หึ ผมมันเลวใช่มั้ยครับ แต่ใครมาอยู่ในสถานะเดียวกับผมตอนนี้จะเข้าใจผมดีเลยล่ะครับ
@ บ้าน คิม จงอิน
“เฮ้ย มึงพอเหอะไอ้ฮุน มึงเมาแล้วนะเว่ย”
“เหอะ กูยังไม่เมา มึงรู้มั้ยกูมาเกลียดตัวเองชิบหายก้วันนี้ เกลียดที่ทำไมกูไม่ใช่คนธรรมดา
เกลียดที่ทำไมกูต้องเป็นไอ้หมาป่า ต้องคอยฉีดยาทุกๆครั้งที่คืนพระจันทร์เต็มดวง!!!”
“กูเข้าใจมึงเว่ย แต่ก็ไม่ได้มีแค่มึงนะเว่ย พวกกูก็เป็น ดูไอ้ยอลดิ แม่งหนักกว่าเราอีก ต้องแดก
เลือดทุกวันอ่ะ ดีนะที่เราไม่ต้องแดกเลือดอย่างมันอ่ะ กูว่าเราโชคดีแล้วนะเว่ย ดูผิวดิ ไม่ได้ขาวซีดเหมือนพวกมัน-.-”
“แต่บางทีผิวมึงก็มืดไปนะ ฮ่าๆๆๆ”
“สัส!”
“แต่ก็อย่างที่ไอ้จงอินมันบอกนะเว่ยมึง พวกมึงยังโชคดีกว่ากูมาก ไม่ต้องแดกเลือด ไม่ต้องกลัวแดด ไม่ต้องกลัวน้ำมนตร์ ไม่ต้องคอยหลบหนีการไล่ลาล้างฆ่าเผ่าพันธุ์แวมไพร์เหมือนพวกกู มึงเอ๊ยย กูไม่อยากจะบอกว่าเมื่อวานกูเดินผ่านโบสถ์เขากำลังทำพิธีห่าไรอยู่ไม่รู้ บาทหลวงสะบัดน้ำมนตร์ถูกกูหยดนึง สัสเอ๊ยย ทั้งปวดทั้งแสบถึงใจเลยครับบบ ดูดิ ขนาดแผลกูเริ่มสมานแล้วยังเป็นรอยไหม้อยู่เลย ”
มันเปิดแผลให้ผมดู ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าแผลกำลังสมาน แต่คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นได้
เป็นแผลเหมือนโดนน้ำร้อนลวก แต่แผลค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้วจึงดูไม่น่าเกลียดเกินไป ผมนิ่งไปสักพัก สมองกำลังประมวนคำพูดของไอ้จงอินและไอ้ยอล ที่พวกมันพูดมาก็ถูก ถ้าเทียบกับพวกไอ้ยอลแล้ว พวกผมถือว่าโชคดีอยู่มากโข ไม่ต้องคอยหลบหลีกพวกที่ไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่พวกผมไม่โดนไล่ล่าเพราะหัวหน้าองค์กรของพวกที่ไล่ล่ามีภรรยาเป็นหมาป่า ภรรยาของมันขอไว้ มันจึงตามล่าแค่แวมไพร์ เพราะพวกมันคิดว่าแวมไพร์เป็นอันตรายต่อโลก ทั้งๆที่เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แล้วแท้ๆ แวมไพร์เลิกฆ่ามนุษย์มาตั้งนานแล้วต่างหาก แต่สำหรับแวมไพร์พวกอื่นผมไม่รู้ รู้แต่เพื่อนผมมันไม่ฆ่าคนแน่นอน เลือดที่พวกมันดื่ม ก็ขอจากทางโรงพยาบาลระดับหกดาวเป็นเลือดที่คัดมาอย่างดี ได้รับการอนุญาติจากพี่ซูโฮ สุดน่ารักและขาวโอโม่ญาติของผม จากที่ผมกำลังนั่งคิดอะไรเงียบๆ พวกไอ้จงอินก็นั่งกินเหล้ากันไป แล้วก็บ่นเรื่องแผลของไอ้ยอล ก็ต้องสะดุ้งเพราะตกใจบุคคลที่สี่ ที่พรวดพราดเข้ามาจับแผลของไอ้ยอล
“อ๊ายยยย เจ๊จะทำไรกับแผลผมเนี่ย มันแสบบ แอบ แอบ..” เสียงไอ้ยอลแผ่วลงเพราะกำลังอึ้งกับพี่อี้ชิงที่กำลังใช้พลังเยียวยาให้มัน
“อยู่นิ่งๆซิไอ้ยอล ฉันจะรักษาแผลให้” พี่อี้ชิงเอามือไปทาบบนแผลของไอ้ยอลซักพักก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาสักพักก่อนที่แสงนั้นจะหายไป พร้อมกับพี่อี้ชิงที่ยิ้มทะเล้นอารมณ์ดี สมกับที่เป็นพี่ไอ้ยอล
“เจ๊อ่ะ โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง กลับจากอังกฤษไมไม่บอกจะได้ไปรับ ดูดิ ไอ้จงอินตกใจจนดำกว่าเดิมแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆ”
“มึงตายยยยยยยย ย้ากกกก!” ผมส่ายหัวระอากับไอ้สองคนนี้ที่เล่นกันเหมือนเด็กอนุบาล พร้อมกับหันไปไหว้พี่อี้ชิง
“พี่รู้ข่าวเรื่องฮุนกับฟานี่แล้วนะ พี่เสียใจแล้วก็ดีใจด้วย” ผม งง กับคำที่พี่อี้ชิงพูดว่าดีใจด้วย ดีใจ
เรื่องอะไร แต่ยังไม่ทันได้ถามพี่แกก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ต้องสงสัย พี่จะคุยกับเราตอนนี้แหละ ออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่าปล่อยให้ไอ้สองตัวนี้มันกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปก่อน”
“ครับ” ผมเดินตามพี่อี้ชิงออกไปเงียบๆ ผมเดินตามพี่เลย์ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้มองไปข้างหน้า ผมก้มมองดูพื้นดิน ดูเหมือนผมจะเหม่อไปหน่อย รู้สึกตัวเข้าอีกทีก็ชนกับแผ่นหลังพี่อี้ชิงเข้าซะแล้ว
“โอ๊ะ! ขอโทษครับพี่อี้ชิง เอ๊ะ?” อะไรกัน นี่มันร้านเค้กแถวบ้านผมกับไอ้จงอินหนิ พี่อี้ชิงพาผมมาทำ
อะไรที่นี่ คงจะไม่ได้มาซื้อเค้กฉลองที่ผมอกหักหรอกใช่มั้ย = = แต่ผมก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นคนที่ผมคุ้นเคยดีกำลังป้อนเค้กให้กับผู้ชายคนอื่นแถมหัวเราะคิกคัก แค่นั้นยังไม่พอ ผมเจ็บยิ่งกว่านั้นที่เห็นเธอสวมแหวนคู่กับผู้ชายคนนั้น แล้วทิ้งแหวนที่ใส่คู่กับผมลงถังขยะต่อหน้าต่อตาของผม ผมเหลือบมองแหวนคู่ที่ถูกสวมไว้นิ้วนางข้างซ้ายของผม
สีเงินสะท้อนแสงไฟวิบวับสลักชื่อS&T ย่อมาจากเซฮุนแอนด์ทิฟฟานี่
ผมหันหลังกลับด้วยหัวใจที่แทบสลาย ทำไมพี่อี้ชิงถึงพาผมมาที่นี่
“เห็นแล้วใช่มั้ย ว่าผู้หญิงคนนั้นเค้าไม่ได้มีค่าพอที่จะให้นายเสียใจแล้วก็อาลัยอาวรณ์เลย เพิ่งจะเลิกกับนายได้แค่วันสองวันแต่กลับมานั่งกะหนุงกะหนิงกับผู้ชายคนอื่นแล้ว นายอย่าไปเสียดายยังมีคนอื่นอีกมากมาย จะไปเอาอะไรมากกับผู้หญิงพรรค์นี้ แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป อกหักจากผู้หญิง อย่าไปแคร์ ผู้ชายหน้าหวาน สวยๆ ก็มี อกหักจากผู้หญิงหาแฟนผู้ชายก็ได้ ไม่เห็นต้อง ซีเรียส ตาสว่างแล้วทำใจได้แล้วเซฮุน พี่เตือนเพราะความหวังดี ไม่อยากเห็นนายต้องมาเฮิร์ทกับผู้หญิงที่...แบบนี้ เข้าใจใช่มั้ย ป่ะ กลับบ้าน”
ผมนิ่งไปกับคำพูดที่พีอี้ชิงพูดมา มันก็จริงอยู่ที่พี่อี้ชิงพูดมา ผมควรจะตัดใจแล้วเริ่มต้นใหม่สักที
แต่เอ๊ะ! นี่กี่โมงแล้วเนี่ย โทรศัพท์ผมก็ไม่ได้เอาออกมาซะด้วย
ผมต้องฉีดยาตอนเที่ยงคืน หนิ ไม่งั้นได้กลายร่างแน่ๆ
“พี่อี้ชิงครับ กี่ทุ่มแล้วครับตอนนี้”
“หืม ตอนนี้ก็ห้าทุ่มห้าสิบแล้ว ทำไมหรอ เฮ้ย!!!”
ซวยแล้ว!!! ผมกับพี่อี้ชิงมองหน้ากันแล้วเหงื่อตกยาผมก็ไม่ได้เอามาด้วยเพราะคิดว่าไปคุยกันหลังบ้านไอ้จงอิน จะรีบกลับไปเอาก็ไม่รู้จะทันรึเปล่า
“ทำไงดีอ่ะฮุน พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ทันคิดเรื่องนี้ พี่ขอโทษนะๆๆT^T”
เอาไงดี ผมคงต้องเข้าป่าข้างทางไปก่อนจนกว่าจะกลายร่างแล้วล่ะ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ผมจึงมีวิธีแก้หน้าไปก่อน
“เอางี้นะครับพี่กลับไปเอายาที่บ้านไอ้จงอินในกระเป๋าผมแล้วไปหาผมที่ป่าตรงนั้นนะครับเอาไอ้
จงอินไอ้ยอลมาด้วย มันรู้วิธีที่จะหยุดผม"
“โอเคๆ งั้นพี่รีบไปนะ”
“ครับ”
เหลือเวลาอีก5นาทีสินะ ระหว่างที่ผมกำลังเดินไปที่ป่านั้น ผมก็ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ หันไปด้านซ้ายมือ ก็เจอผู้ชายคนหนึ่งกำลังถูกผู้ชายตัวเท่าควายรุมสามคน ให้ตายเถอะ! ชั่วจริงๆเลย รังแกคนที่ไม่มีทางสู้ ผมล่ะเกลียดจริงๆ
“เฮ้ย! ทำไรวะ!!” ผมเดินเข้าไปหาพวกมัน
“อ้าว! เสือก ยุ่งไรกับพวกกูวะ พวกกูก็แค่จะหาความสุขกับน้องชายคนสวยคนนี้ซักหน่อย เฮ้ย พวกมึงจัดดิ้ ”
“ฮึกๆ ฮือออ ช่วยผมด้วยครับ พวกมันจะข่มขืนผม ฮึก”
พวกมันสามคนตรงดิ่งเข้ามาหาผมทันที เอาไงดีวะเนี่ย เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะกลายร่างแล้ว ไหนๆก็ไหนๆและ ช่างเหอะ
เริ่มแล้ว ร่างกายของผม ไม่ได้การแล้ว ต้องรีบบอกให้คนนั้นหนีไป
“คุณน่ะ! รีบหนีไปเร็วเข้า!!”
“แล้วคุณล่ะ ผมไม่ปล่อยคุณไว้หรอกนะ”
“ไม่ได้! คุณรีบวิ่งออกไปตรงถนนแล้วรอผู้ชายสามคน สังเกตุดูมีคนนึงดำๆคนนึงหูกางๆอีกคนนึงหน้าสวยๆ แล้วบอกพวกเขาว่าผมอยู่ไหน เร็ว!!!”
“อะ..โอเคๆ”
อึก! เหงื่อเริ่มออก แขนขาเริ่มเปลี่ยนแล้ว
ในวินาทีนั้น เซฮุนก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย ร่างกายที่เคยงดงามน่าหลงใหล บัดนี้เปลี่ยนเป็นหมาป่า
รูปงาม ขนสีขาวปนเทาไสวงามตามลมที่พัดมา ดวงตาที่เคยเป็นสีเทาบุหรี่ เย็นชา บัดนี้กลับกลายเป็นโกรธเกรี้ยวดังพายุโหมกระหน่ำรุนแรง
“เฮ้ย!!! ทำไมมันกลายเป็นหมาป่าวะ!! สัตว์ประหลาด!”
ถึงแม้เซฮุนเมื่อกลายร่างเป็นหมาป่า แต่ด้วยที่มีประโยคที่สะกิดใจยามเป็นมนุษย์อย่างเช่นคำว่าสัตว์ประหลาด เมื่อได้ยินมันกลับกระตุ้นให้หมาป่าร่างงามตัวนี้โกรธและร้องคำรามออกมาอย่างน่าหวั่นเกรง
และพุ่งเข้าหาเหยื่อตรงหน้าทันที
END SEHUN PART
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกก” เสียงร้องเจ็บปวดโหยหวนดังลั่นพื้นที่ตรงนั้น
“เฮ้ย!! ไอ้ฮุน!!!!!” บุคคลที่สามรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาหาเพื่อนตามที่อี้ชิงบอก
“เอ่อ เดี๋ยวนะครับ พวกคุณเพื่อนคุณที่หน้าหล่อๆรึเปล่าครับ เขาบอกให้ผมนำทางคุณไป เขาช่วยผมไว้จากพวกโจร”
“นำทางผมไปเดี๋ยวนี้เลยครับ!!!!”
ตึกๆๆ ชายหนุ่มทั้งสี่ รีบวิ่งกระหืดกระหอบไปยังที่ๆเซฮุนอยู่กับพวกโจร
“มึงว่าไอ้ฮุนจะเป็นไรป้ะวะ” ชานยอลที่เป็นห่วงเพื่อนถามออกมา
“เหอๆ ถามกูว่าไอ้พวกโจรจะเละขนาดไหนจะถูกกว่ามั้งไอ้ยอล”
“ยาล่ะ เอามาแล้วใช่มั้ย แล้วถ้ามีคนเห็นฮุนในร่างนั้นล่ะ”
“เอามาครับ ไม่มีคนหรอกครับ จะมีก็แต่..” จงอินเมื่อพูดจบประโยคก็หันกลับมาหาลู่หานที่ทำหน้า งง อยู่
“มีอะไรหรือเปล่าครับ คุณใจดีคนนั้นทำไมหรอครับ” อะไรกันนะคนพวกนี้ ทำไมต้องมองหน้าเขาเหมือลำบากใจอะไรขนาดนั้น
“พวกผมสามารถไว้ใจคุณได้ใช่มั้ย? สัญญาได้หรือเปล่าว่าถ้าคุณเห็นอะไรแล้วจะเก็บเป็นความลับ”
“เฮ้ย! เอางั้นหรอเจ๊ จะไว้ใจได้มั้ยเนี่ย แค่คำสัญญาเองนะ”
“นี่ คุณ ถ้าผมทำไม่ได้ผมก็จะไม่รับปากหรือสัญญาใครไปทั่วหรอกนะ ผมสัญญาว่าถ้าผมเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นแล้วผมจะเก็บเป็นความลับ ถ้าผมผิดสัญญา ผมยอมให้พวกคุณทำอะไรผมก็ได้”
“โอเคๆ เฮ้ย!!!!”
แล้ว พวกเขาทั้งสี่ก็ต้องผงะ กับกองศพที่อยู่ตรงหน้า ถึงสภาพจะไม่เละเท่าไหร่ แต่ก็เหวอะหวะพอที่จะทำให้ลู่หานและอี้ชิงเข่าอ่อนได้เหมือนกัน ศพชายหนุ่มนิรนาม3คน นอนกองกันอยู่ตรงหน้า
ส่วน คนที่ทำกลับไม่รู้เรื่องรู้ราว เดินวนศพอยู่อย่างนั้น พร้อมกับเห่าหอน และคำรามในเวลาเดียวกัน ดวงตาสีเทาควันบุหรี่ ดูอ่อนระโหยโรยแรงเหลือเกิน ราวกลับเหนื่อยและเพลียมากอย่างไรอย่างนั้น ลู่หานและอี้ชิงที่เพิ่งจะหายตกใจก็ต้องกลับมาตกใจอีกรอบเมื่อเห็นหมาป่าแสน จะงดงามแต่แฝงไปด้วยความอันตรายนั้นล้มลงต่อหน้าต่อตาและกลายเป็นมนุษย์ที่มีนามว่าเซฮุนเหมือนเก่าในสภาพหัวแตกเลือดอาบ
“เฮ้ย! ไอ้ฮุนโดนไม้ตีหัวแตกว่ะ เจ๊! ทำไงอ่ะ”
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง ตอนนี้รีบพาฮุนกลับบ้านเถอะ จะได้รีบทำแผล”
“กว่าจะถึงบ้านคุณ ผมว่าคุณใจดีเลือดหมดตัวพอดี แวะคอนโดผมก่อน เดินออกไปตรงหน้านี่เอง เร็วเข้าเถอะครับ!”
ชายหนุ่มทั้งสามมองหน้ากันอย่าง งงงวย นี่เขาไม่ตกใจเลยหรือแต่ก็ไม่ทันได้ถามเพราะตอนนี้เพื่อนเขาสำคัญกว่าอี้ชิงและลู่หานอมยิ้มกลั้นขำ เมื่อเห็นภาพที่ชานยอลแบกเซฮุนขึ้นหลังอย่างทุลักทุเล กับจงอินที่จัดท่าเซฮุนให้เข้าที่เข้าทางเดินมาได้ไม่ถึง2นาที ก้ถึงคอนโดหรูหรา ดูท่าแล้วคนคนนี้คงจะมีเงินไม่ใช่เล่นถึงได้มีคอนโดหรูขนาดนี้ อี้ชิงคิดในใจ
‘1017’
“ตามสบายนะครับ พวกคุณพาคุณใจดีไปนอนตรงโซฟาได้เลยผมจะไปเอาอุปกรณ์ทำแผลกับผ้ามาให้”
“อ๋า รบกวนด้วยนะครับ คุณ..?”
“ลู่หานแล้ว แล้วคุณ..?”
“ผมอี้ชิงครับ เรียกเลย์ก็ได้ ส่วนคนที่แบกเจ้านั่นมาชื่อชานยอล ส่วนอีกคนชื่อจงอินครับ”
“เจ้านั่น?”
“อ๋อ เซฮุนน่ะครับ คนที่ไปช่วยคุณนั่นแหละ”
เลย์กล่าวไปด้วย ทำแผลให้เซฮุนไปด้วย เขาปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปก่อน แล้วค่อยใช้พลังเยียวยารักษาทีหลัง
“ว่าแต่คุณไม่ตกใจหรอครับที่เห็นเพื่อนผมกลายร่างอย่างนั้น”
จงอินก็สงสัยไม่น้อยที่เห็นคนตัวเล็กนี้ไม่รู้สึกตื่นตกใจอะไรมากมายนอกจากเห็นครั้งแรกเท่านั้น
“ผมจะกลัวทำไมล่ะครับ ผมมีครอบครัวเป็นหมาป่าหนิครับ”
“ห้ะ!/ห้ะ!/ห้ะ!” ลู่หานนึกขันเล็กน้อย นี่คนพวกนี้อายุเท่าไหร่กันทำไมถึงยังดูไม่โต หรือโตแต่ตัว?
“ครับ ผม..อ้ะ!” เสียงโทรศัพท์ลู่หานดังขึ้นทำให้เจ้าตัวต้องลุกออกไป
เมื่อคล้อยหลังเจ้าตัวไป ทั้งสามก็หันจับกลุ่มคุยกันทันที
“เจ๊ เขาพูดจริงป้ะอ่ะ มันใช่อ๋อ” เปิดประเด็นโดยชานยอล
“นั่นดิ แล้วทำไมเขาไม่กลายร่างอ่ะหรือเขาก็ฉีดยาเหมือนเรา”ตามด้วยจงอิน
“นั่นดิ พิสูจน์มะ”
“ฮะๆ ไม่ต้องพิสูจน์หรอกครับ ผมจะพาไปดูห้องลับเอามั้ยครับ”
“แย้ก!!/ว้าก!!/หอยแหก!!” (อีหยอยเรา5555)
“อ่ะ..เอ่อ.. พวกผมขอโทษนะครับที่เสียมารยาท”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”
“แล้วห้องลับที่ว่าคืออะไรหรอครับ”
“อ๋อ มันเป็น..โอ๊ะ!” ทั้งสามถอนหายใจมองหน้ากันมีคนขัดอีกแล้ว
“เออๆ เดี๋ยวกูไปหามึงตอนนี้แหละแบค ดีโอล่ะ? เออๆโอเค ใจเย็นๆนะเว่ย”
“คือ เพื่อนผมกำลังมีปัญหาน่ะครับ ผมเลยต้องไปหามัน”
“งั้นพวกผมกลับเลยแล้วกันนะครับ ขอโทษที่รบกวนนะครับ”
“โอ้ะๆ ไม่รบกวนเลยครับ ผมต้องขอโทษต่างหากที่เป็นต้นเหตุทำให้เพื่อนคุณต้องเจ็บตัว แล้วก็ฝากขอบคุณเซฮุนสำหรับการช่วยเหลือมากๆนะครับถ้าไม่ได้เซฮุนช่วยไว้ ผมคงแย่แน่ๆ”
“ไม่เป็นไรครับ งั้น พวกผมไปก่อนนะครับ ไว้มีโอกาสหน้าเจอกันใหม่นะครับ”
และ ทั้งสามหนุ่มก็เอ่ยลาลู่หานพร้อมกันกับที่ลู่หานออกไปหาแบคฮยอนและดีโอ ส่วนโอ เซฮุน ช่างน่าเสียดายที่ยังไม่ทันได้พูดคุยกับลู่หาน แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา ยังไงพรหมลิขิตก็ต้องบรรดารให้เจอกันอีกนั่นแหละ ก็ ‘เนื้อคู่’ ยังไงก็คือเนื้อคู่หนิ.
#ThwvHH
ความคิดเห็น