เด็กหญิงชลธิชา - เด็กหญิงชลธิชา นิยาย เด็กหญิงชลธิชา : Dek-D.com - Writer

    เด็กหญิงชลธิชา

    โดย kkaofang

    ชลธิชา เด็กสาวตัวเล็กน่ารักและขยัน ที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อเธอถึงเวลาที่ต้องเข้ามหาวิทยาลัยทุกสิ่งทุดอย่างกลับเปลี่ยนไป

    ผู้เข้าชมรวม

    70

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    70

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ม.ค. 65 / 15:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    “ชลธิชา” เมื่อใครได้ยินชื่อนี้ก็ถึงกับยิ้มออกมากันเลยทีเดียว เพราะนี่คือชื่อของเด็กสาววัย15ปีที่ทั้งแสนจะขยันและมีน้ำใจ ที่มีความฝันอยากเป็นครู พ่อและแม่ของเธอทำอาชีพเกษตรกร ครอบครัวของเธอมีที่ดินทั้งหมด5ไร่ โดยพื้นที่บนที่ดินนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4ส่วน ส่วนที่1ได้แบ่งไว้เป็นพื้นที่ของบ้าน,เลี้ยงสัตว์ ส่วนที่2แบ่งไว้เป็นพื้นที่ในการใช้ทำการเกษตร ส่วนที่3ได้แบ่งเอาไว้ใช้ในการเพาะปลูกไม้ผล,ไม้ยืนต้น,พืชผัก,พืชไร่ เพื่อนใช้เป็นอาหารในชีวิตประจำวัน ถ้าหากมีเหลือก็นำไปจำหน่าย ส่วนที่4ได้แบ่งไว้ใช้ในการเลี้ยงสัตว์น้ำและพืชน้ำ ชลธิชารักในการปลูกพืชผักมากจนทำให้เธอสามารถเพราะพันธุ์พืชและนำไปขายได้ เพื่อช่วยเหลือภาระภายในครอบครัวของเธอ เธอทำแบบนี้ตั้งแต่เด็กเป็นประจำ จนเธอมีเงินเก็บเป็นจำนวนมาก พ่อและแม่ของเธอภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก ที่เธอเริ่มหาเงินเองได้ 3ปีต่อมา ก็ถึงเวลาที่เธอต้องเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เธอได้สอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ คณะครุศาสตร์ เนื่องจากพ่อแม่ของเธอไม่ได้มีฐานะที่ร่ำรวยมากนัก จึงทำให้พ่อและแม่ของเอต้องไปกู้ยืมเงินเพื่อที่จะมาจ่ายค่าเทอมและค่าหอของเธอ เพราะเธอไม่มีบ้านพักอยู่ที่กรุงเทพเลย เธอจึงต้องอาศัยอยู่ภายในหอพักแล้วแชร์ห้องกับเพื่อน โดยพ่อแม่ของเธอหวังไว้ว่าเมื่อลูกเรียนจบ จะตอบแทนบุญคุณในภายหลัง และมีอนาคตที่ดี ชีวิตนักศึกษาปีแรกของเธอไม่ง่ายเลย เพราะเธอต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อที่จะได้เข้ากันสภาพแวดล้อมได้ และเธอสามารถกลับบ้านของเธอได้ก็ต่อเมื่อมีวันหยุดหรือในช่วงปิดเทอมของเธอ หลายเดือนต่อมาเธอก็เริ่มปรับตัวได้ เอมิเพื่อนสนิทของชลธิชาเธอได้ชวนชลธิชาไปงานเลี้ยงวันเกิดที่บ้านของเธอในวันเสาร์ และเธอได้บอกชลธิชาว่า เธอได้บอกชลธิชาว่าต้องใส่ชุดที่มีสีแดงเท่านั้น เมื่อชลธิชาทราบเธอก็รีบออกไปข้างนอกเพื่อไปซื้อเสื้อผ้าที่จะใส่ไปในวันเกิดเพื่อนของเธอ เมื่อเธอเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้า เธอก็ได้เจอเสื้อเชิ้ตสีแดง เธอคิดว่าแค่ไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนจึงไม่ต้องเลือกชุดให้วุ่นวายมาก เมื่อถึงวันเสาร์ชลธิชาตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนของเธอ เมื่อเธอมาถึงเธอก็พบกับผู้คนมากมายภายในงานเลี้ยง ทุกคนภายในงานล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ดูดีมีฐานะ เธอเริ่มเกร็งและกลัวที่จะเข้าไป จนเอมิเพื่อนของเธอได้ออกมาพอดี เอมิบอกกับเธอว่า ”ทำไมเธอถึงไม่เดินเข้าไป ยินอยู่ที่นี่ทำไม” เธอจึงตอบกลับไปว่า “ฉันกลัวและไม่กล้าเข้าไป กลัวทำตัวไม่ถูก” เอมิจึงตอบกลับไปอีกว่า “เธอไม่ต้องกลัวนะที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย” หลังจากนั้นเอมิก็ได้ดึงตัวเธอเข้าไปภายในงานเลี้ยง ทุกคนแต่งตัวมาอย่างดีไม่มีที่ติ มีเพียงแค่เธอที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีแดงและกางเกงยีนส์มา ทุกคนต่างจับจ้องมาที่เธอ และซุบซิบกัน “ทำไมยัยนี่แต่งตัวแบบนี้กันนะนี่งานเลี้ยงนะไม่ใช่มาเที่ยว” เธอได้แต่เดินก้มหน้าเข้าไปและทำเป็นไม่ได้ยินเสียงคนซุบซิบ เมื่อมาถึงที่โต๊ะนั่ง เดิมโต๊ะนี้ก็มีเพื่อนผู้ชายของเอมินั่งอยู่แล้ว และเอมิพาชลธิชาเข้ามานั่งด้วยกับเพื่อนของเธอ หนึ่งในเพื่อนผู้ชายของเอมิก็ได้ทักทายชลธิชาอย่างเป็นกันเอง “ไงเธอ”  ชลธิชาตอบกลับไปอย่างกล้าๆกลัวๆว่า ” อ่อ หวัดดี” เพื่อนของเอมิจึงถามเธอว่า “เธอชื่ออะไร” ชลธิชาตอบกลับไปว่า “เราชื่อชลธิชาหรือจะเรียกสั้นๆว่า ชา ก็ได้” พร้อมกับยิ้มให้คนถาม ชลธิชาจึงถามกลับไปว่า “แล้วเธอละพชื่ออะไร” เพื่อนของเอมิจึงตอบกลับมาว่า “ ฐิติภัทร หรือจะเรียกเราว่า เครน ก็ได้” หลังจากนั้นเขาทั้งสองคนก็คุยด้วยกันอย่างสนุกสนาน ด้วยบุคลิกของชลธิชาที่ดูเป็นคนเป็นเฟรนลี่และดูเข้าหาง่าย จึงทำให้เครนประทับใจเป็นอย่างมาก ต่อมาชลธิชาได้ถามเครนกลับไปว่า “ครอบครัวของเธอทำงานอะไร” เครนจึงตอบกลับมาว่า “ธุรกิจส่วนตัวหน่ะ แล้วเธอล่ะ” ชลธิชาจึงตอบกลับแบบกล้าๆกลัวๆไปว่า “อ่อ ครอบครัวเราส่วนใหญ่เป็นเกษตกรหน่ะ” เครนจึงถามว่า “แล้วทำไมเธอถึงมาเรียนที่นี่หล่ะ” ชลธิชาตอบไปว่า “เราสอบได้ที่นี่หน่ะ” เครนพยักหน้าและหาเรื่องอื่นคุยต่อ ทุกคนเพลิดเพลินกับงานเลี้ยงจนถึงเวลาดึก ก็ถึงเวลาที่พวกเขาต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน เครนจึงถามชลธิชาว่า “เธอกลับยังไง” ชลธิชาจึงตอบว่า “เรากลับรถไฟฟ้า”  เครนจึงบอกว่า “โอเค งั้นเธอกลับดีๆนะ” ชลธิชายิ้มให้กับเครนก่อนที่จะเดินออกมา ชลธิชาโบกมือลาเพื่อนๆทุกคนก่อนที่จะเดินออกมา ระหว่าที่ชลธิชานั่งรถไฟฟ้ากลับหอพัก เธอก็ได้แต่คิดว่าภายในงานทำไมมีแต่คนมองเธอ เธอพูดกับตัวเองว่า “เพราะฉันดูแปลก หรือเพราะการแต่งตัวของฉัน” เรื่องนี้ทำให้ชลธิชาคิดอยู่นาน เช้าวันต่อมา ชลธิชาก็ไปมหาวิทยาลัยตามปกติ ละเธอได้เจอกับเอมิเพื่อนของเธอ เอมิทักเธอว่า”เมื่อวานเธอสนุกไหม” ชลธิชาตอบไปว่า “สนุกมากเลย ฉันชอบนะ” เอมิจึงพูดไปว่า “แต่เมื่อวานมีคนมองเธอเยอะเลยนะ ฉันคิดว่าที่พวกเขามองเธอก็เพราะว่า การแต่งตัวของเธอดูธรรมดาเกินไปแหละมั้ง” เมื่อชลธิชาได้ยินที่เอมิพูดเธอก็ตอบกลับไปว่า “ทำไมหรอการแต่งตัวของฉันมันดูแปลกหรอ” เอมิจึงพูดมาว่า “ก็ใช่หน่ะสิ เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีแดงกับกาง้กงยีนส์ ทั้งๆที่คนอื่นใส่เดรสและสะพายกระเป๋าสวยๆ แต่เธอกลับสะพายกระเป๋าอะไรก็ไม่รู้” ชลธิชาเงียบไปสักพัก และหันหลังเดินขึ้นห้องเรียน เมื่อเธอกลับมาถึงหอพัก เธอนั่งคิดอย่างครุ่นเครียด และคิดกับตัวเองว่า ทำไมเธอถึงไม่มีเหมือนคนอื่นเขา ตั้งแต่นั้นมาเธอก็พยายามอย่างมาก เพื่อที่จะมีเหมือนคนอื่น โดยเริ่มจากขอค่าขนมเพิ่มจากเดิม เพื่อที่จะเอาไปซื้อของต่างๆที่เธออยากได้ เธอเปลี่ยนไปมากจากคนที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอประมาณ เธอก็กลายเป็นคนที่อยากได้อยากมี จนในที่สุดเธอกลายเป็นคนมีนิสัยฟุ่มเฟือยขึ้นมาทันที ช่วงแห่งการปิดเทอมก็มาถึง เธอจึงต้องกลับบ้านไปพบครอบครัวของเธอ เธอได้กลับมาถึงบ้านในเวลาตอนเย็น พ่อและแม่ของเธอก็ได้ทำอาหารไว้รอเธอแล้ว  โดยอาหารที่พ่อแม่ของเธอเตรียมไว้คือ ผัดกระเพรา และไข่เจียวชะอมกับน้ำพริกกะปิ พอถึงเวลาทานเข้า เธอตักผัดกระเพราเข้าไปคำแรก และตำหนิแม่ของเธอว่า “ทำไมแม่ถึงทำผัดกระเพราเนี่ย ไม่เห็นจะอร่อยเลย ทำไม่ไม่ทำต้มยำกุ้งล่ะ” แม่ของเธอจึงบอกว่า “อ้าว แม่ไม่รู้ว่าลูกอยากกินต้มยำกุ้ง” ชลธิชาถอนหายใจและเดินออกไป แม่ของเธอตกใจเป็นอย่างมากที่ลูกของเขาทีกิริยาท่าทีที่เปลี่ยนไป เช้าวันต่อมา โดยปกติแล้วชลธิชาจะต้องตื่นมารดน้ำต้นไม้และให้อาหารปลา แต่กลับกลายเป็นว่าเธอไท่ตื่นขึ้นมาทำ ทำให้แม่และพ่อของเธอไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เธอมีนิสัยเปลี่ยนไป เมื่อถึงเวลาที่เธอจะต้องกลับมาเรียนที่กรุงเทพ พ่อและแม่ของเธอได้ให้เงินติดตัวเธอมา 3000 เธอบอกกับพ่อแม่เธอว่ามันน้อยไปขอเพิ่มได้ไหม พ่อของเธอจึงควักเงินแบงค์สุดท้ายในของกระเป๋าของเขาออกมาเพื่อให้ลูกตัวเอง และเธอก็ขึ้นรถออกไป พ่อพูดกับแม่ว่าพักหลังลูกเราเปลี่ยนไปนะ แม่ถอนหายใจออกมาดังมาก และเดินขึ้นรถกลับบ้านพร้อมพ่อ 

    ชลธิชาใช้ชีวิตที่มีนิสัยฟุ่มเฟือยมาเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่งแม่ของเธอล้มป่วย และต้องใช้เงินในการรักษาอย่างมาก แต่เธอไม่มีเงินเก็บที่จะเอาไปรักษาแม่เลย ทำให้เธอเสียใจและกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เลยทำให้เธอต้องไปทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินรักษาแม่ของเธอ เธอเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่มีเงินเก็บเลย ในระหว่างที่เธอทำงานพาร์ทไทม์ เธอก็ได้เจอกับลูกค้าคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายเหมือนเคยรู้จักมาก่อน ลูกค้าคนนั้นก็เครนนั้นเอง ชลธิชาตกใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เจอกับเครนอีกรอบ เครนจึงทักทายว่า ”อ้าวเธอ ทำไมมาอยู่นี่หล่ะ” ชลธิชาตอบไปว่า “เรามาทำงานพาร์ทไทม์หน่ะ” เครนพยักหน้าแล้วถามกลับไปว่า “ปกติเธอไม่ทำหนิ ทำไมอยู่ๆถึงมาทำหล่ะ” ชลธิชาตอบไปว่า “แม่ฉันป่วยหน่ะ เลยต้องหาเงินไปรักษาแม่” เครนบอกไปว่า “ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือ เธอทักมาหาฉันได้นะ” ชลธิชาตอบไปว่า”ขอบคุณมากนะ” หลังจากนั้นเครนก็ได้แลกไลน์กับชลธิชาเอาไว้ ในช่วงเวลาที่เธอทำงานพาร์ทไทม์ เครนก็ทักมาคุยกับเธอเรื่อยๆ โดยให้เหตุผลว่า อยากเป็นกำลังใจให้กับชลธิชา จนทำให้ชลธิชาได้คบหากับเครน หลายเดือนต่อมาชลธิชาหาเงินได้ตามเป้าหมายที่ต้องเอาไปรักษาแม่ของเธอ เธอได้โทรหาและบอกกับแม่ของเธอว่า “แม่ หนูหาเงินมารักษาแม่ได้แล้วนะ แม่ไม่ต้องห่วงแล้วนะ รักษาตัวให้หายและอยู่กับครอบครัวเราไปนานๆ” แม่พูดมาว่า “ลูกก็อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยเหมือนแต่ก่อน ทำงานเก็บเงินเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน” ชลธิชาตอบกลับไปว่า “ค่ะแม่ หนูจะไม่ใช้ชีวิตแบบนั้นอีกแล้วค่ะ“ 6ปีต่อมา วันที่ชลธิชาเรียนจบก็มาถึง ครอบครัวของเธอและเครนก็มาร่วมแสดงความยินดีกับเธอกันมากมาย 1ปีต่อมาเธอก็ได้ทำงานเป็นครูที่โรงเรียนใกล้บ้านของเธอ และเครนก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับชลธิชาที่บ้านของเธอ ทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข 5ปีต่อมา

    ชลธิชาได้ตั้งท้องลูกคนแรก และได้บอกให้เครนรู้เป็นคนแรกชลธิชาโอบกอดเครนอย่างแน่นและร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อเครนพร้อมทั้งคุณยายและคุณตารู้ก็ดีใจเป็นอย่างมากจนร้องไห้ออกมาเพราะความตื้นตันภายในใจของเขา เครนผู้ที่ได้เป็นพ่อได้บอกกับชลธิชาผู้เป็นแม่ว่า” เราจะตั้งใจเลี้ยงเขาและทำให้เขาเติบโตมาอย่างดี” นับตั้งแต่นั้นมา 

    เครนก็ได้ดูแลเอาใจใส่ชลธิชามาเป็นอย่างดี จากเดิมที่ชลธิชาต้องเป็นคนทำงานบ้าน กลับกลายเป็นเครนนั้นได้มาทำงานแทน เพื่อที่จะได้ไม่ให้ชลธิชาลำบาก 9เดือนต่อมา ชลธิชาก็ได้คลอดลูกคนแรก เครนและชลธิชาดีใจเป็นอย่างมากที่พวกเขาได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก เธอเป็นเด็กสาวที่มีเส้นผมหนาและผมสีดำสนิท ดวงตาสองชั้น มีจมูกโด่งเป็นสัน เด็กคนนี้มีชื่อว่า “ชลรวี” และคุณยายได้ตั้งชื่อเล่นของเธอว่า “วี” 

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×