ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4 ปีศาจแห่งรัตติกาล
    “วันนี้เฟรินหยุดงั้นเหรอ?” แองเจลิน่าถามคาโลและคิลในช่วงพักทานอาหารกลางวัน เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังอื้ออึง เพราะตอนนี้ในโรงอาหารนั้นเต็มไปด้วยผู้คน
แองเจลิน่าพลันนึกในใจ เมื่อวานเจ้าตัวดีก็ความจำเสื่อม ท่าทางอาการแปลกๆไม่ค่อยดีแล้วตอนนี้จะหายหรือยังนะ? แต่วันนี้ไม่มาเรียน.... ตอนนั่งในห้องก็หันไปดูตั้งหลายรอบ มองผ่านประตูห้องก็ไม่มีวี่แววว่าจะมา
หรือว่าอาการจะหนัก?
“ไม่มีอะไร แค่ปวดท้องจนมาไม่ได้.. ก็เท่านั้น” คาโลตอบ ในมือเตรียมเก็บถาดอาหารที่ทานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวใช้เวลาทานไม่ถึง 10 นาที
“แล้ว... ที่ความจำเสื่อมเนี่ย หายหรือยังเหรอ?” แองเจลิน่ายังคงตั้งคำถามต่อ
แต่คราวนี้คนตอบกลับไม่ใช่เจ้าชายน้ำแข็ง แต่กลับกลายเป็นนักฆ่าที่ตอบแทน เพราะคนมาดมากเดินไปแบบไม่สนใจเสียงถาม พอเก็บถาดเรียบร้อยก็ลุกเดินอย่างรวดเร็ว
“หายแล้วๆ พอหายปุ๊บก็กินปั๊บ ยัดยังกะชูชก ชั้นไปก่อนนะ” เจ้าตัวดีที่แหลเอาไว้กลัวจะโดนจับผิดสังเกต เลยรีบชิ่งตามเจ้าคนนำหน้าไป ทิ้งไว้เพียงแค่สาวน้อยที่ยืนอึ้งๆอยู่เท่านั้น
----------------------------------------------------------------------------
“นายว่ายัยนั่นจะรู้มั้ยน่ะ คาโล?” ผมสีดำยุ่งกระเซิงเพราะผ่านการวิ่งมา
“นายไม่พูด เค้าคงไม่รู้ แต่ถ้านายพูด...” คิลเสียววาบเนื่องจากสายตาอาฆาตจ้องมาก่อนจะรีบบอกออกมาแบบกำลังสำลักน้ำยังไงยังงั้น “ไม่พูดน่า ชั้นไม่พูดหรอก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี...”
“แล้วจริงๆมันเป็นอย่างไรกันล่ะ?” คาโลหันกลับไปมองที่ต้นเสียง
..........เจ้าขอทานที่หายไปมาอย่างกับสายลม...........
“นายปล่อยมันไว้ที่ห้องคนเดียวเหรอ ไม่เป็นไรแน่นะ?” ตาสีเขียวมองไปยังคนที่อยู่เบื้องหน้า
“ฉันลงเวทย์สลบเอาไว้แล้ว.. ถึงแม้อยากฟื้นมาอาละวาดก็คงทำไม่ได้”
คิลนึกไปถึงเวทย์ที่เคยใช้กับเจ้าคนแคระจากเดมอสนั่น อ๋อ....ที่แท้ก็เวทย์นั่นนี่เอง....
“แต่ปล่อยมันไว้คนเดียวแบบนี้มันอันตรายนะ” โรเปรยก่อนที่คาโลจะเบิกตาโพลง
แย่ล่ะสิ...
คาโลรีบวิ่งกลับไปที่ห้องก่อนที่คิลกับโรจะวิ่งตามไป
----------------------------------------------------------------------------
“ไม่อยู่..”
คาโลผลักประตูห้องออก แต่พบเพียงเตียงว่างๆหนึ่งเตียง กับหน้าต่างที่ถูกเปิดเอาไว้ เศษกระดาษในห้องปลิวกระจุยกระจายไปทั่ว มีร่องรอยของเล็บแหลมที่จิกไปบนเตียงยับๆ และเหลือเพียงกลิ่นไอความชั่วร้ายที่ลอยปกคลุมไปทั่วห้องเท่านั้น
“ประมาทพวกมันเกินไป...” คาโลเม้มริมฝีปากแน่นขึ้น
คิลที่เพิ่งวิ่งมาถึงพร้อมกับโร พูดพร้อมหายใจหอบเล็กๆ “เฟรินหายไปแล้ว!!?”
ประมาทเกินไป...ใช่ เขาไม่น่าปล่อยให้เฟรินอยู่คนเดียวเลย นึกไม่ถึงว่าจะสามารถแผ่อำนาจในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบนี้... เอาพลังมาจากที่ไหนกัน? หรือว่าพลังอันมหาศาลนั่นเอามาจาก
..เฟริน?
หรือว่า ในระหว่างที่กลุ่มความทรงจำโดนดูดเข้าไปอยู่ในกระจกกักนั่น... ปีศาจนั่นจะค่อยๆดูดพลังชีวิตรวมถึงพลังเวทย์ไปด้วย?
แค่ที่ผ่านมาไม่กี่วันได้พลังไปมากถึงปานนี้ ... พลังของเฟรินมีมากขนาดไหนกัน?
“พวกเราคงต้องรีบตามหาเฟรินกันก่อน” คาโลหันกลับมาบอกกับสองคนที่เหลือ
“แล้วจะหาตรงไหนกันดีล่ะ?” คิลถาม
“ตอนที่ฉันลงอาคมเวทย์สลบไว้ ฉันใส่ไอมนต์ของฉันลงไปด้วย  ต้องตามจากพลังเวทย์ของฉัน” ตาสีฟ้าจ้องไปยังบุคคลที่ยืนอยู่ ตาสีเขียวมองขึ้นมาสบ
“ได้ งั้นรีบตามไปดีกว่า” โรเบือนหน้าขึ้นมามองทางหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้
“เริ่มจากทางหน้าต่างนั่น”
----------------------------------------------------------------------------
“ฮ่าๆๆๆๆๆ เจ้าพวกนั้นช่างประมาทจริงๆ ถ้าง่ายอย่างนี้ ท่านผู้นั้นคงตบรางวัลให้อย่างงามแน่ๆ”
เจ้าตัวหน้าตาคล้ายหมาจิ้งจอก แต่มี9 ขา ตาสีทองส่องประกายวาววับในหลุมมืดหลุมหนึ่งที่ถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้หนาทึบ ในมือที่เต็มไปด้วยเล็บแหลมคมกำลังอุ้มหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งมีผมสีน้ำตาลยาวสยายพลิ้วระเรี่ยไปตามพื้นดิน ใบหน้ายามหลับใหลดูอ่อนแรง ตำหนิเพียงหนึ่งเดียวที่ใต้ตาดูเข้มขึ้นเล็กน้อย
“หึหึหึ แถมไม่ต้องเหนื่อยเปลืองแรง เพราะเจ้าหัวเงินนั่นลงอาคมเวทย์สลบไว้ ช่างโชคดีอะไรปานนี้ ต้องขอบคุณท่านผู้นั้นที่แบ่งพลังมาให้ ทำให้ข้าสามารถเคลื่อนตัวในตอนตะวันขึ้นนี้ได้” แต่..พลังก็ยังไม่เพียงพอจะเคลื่อนไหวได้นาน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องหลบซ่อนตัวก่อน
ใช่... จนกว่าจะถึงรัตติกาลนี้...
เมื่อพลังของผู้ที่อยู่ในกำมือนี้เป็นของท่าน บัดนั้น ท่านคือผู้ครองผืนพิภพนี้อย่างแท้จริง เสียงร้องไห้กระเสือกกระสนร้องขอชีวิตที่ไม่มีวันจะได้รับ เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นเปื้อนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่ดังกึกก้องไปทั่วผืนฟ้า
ช่างน่าเกรงขามเสียนี่กระไร................
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าจะทำให้ความปรารถนาของท่านเป็นความจริงให้จงได้ เจ้าเหนือหัวของข้า
“หึหึหึหึหึ” เสียงหัวเราะแหลมเล็กเบาๆนั้นถูกปล่อยออกมาจากปากแหลมๆของมัน พร้อมกับหน้าตาที่เริ่มบิดเบี้ยวอัปลักษณ์เนื่องจากผ่านการหัวเราะมา
เจ้าตัวประหลาดคล้ายจิ้งจอกวางคนที่อยู่ในอ้อมแขนลงกับพื้น และรอเวลาแห่งรัตติกาล เวลาแห่งการดับสลายของคนตรงหน้านี้...
----------------------------------------------------------------------------
ทั้ง 3 คนวิ่งตัดผ่านป่า ตามไอมนต์ที่มีอยู่เพียงบางเบา ลมที่เคยพัดผ่านเอื่อยๆอยู่เสมอในตอนนี้กลับกลายเป็นลมที่ทั้งแรงและทั้งเร็วราวกับสะท้อนถึงจิตใจของผู้ที่กำลังวิ่งอยู่
คาโลวิ่งอย่างรวดเร็ว แหวกผ่านต้นไม้จนใบไม้อันแหลมคมที่ติดอยู่กับต้นนั้นเฉือนเนื้อจนเลือดออกซิบๆ แต่ถึงกระนั้นสายตาที่ยังคงมุ่งมั่นตรงไปข้างหน้าไม่เคยทอแสงลงเลย...
“เราใกล้ถึงแล้ว” คาโลเอ่ยพร้อมหยุดลงที่ปากถ้ำแห่งหนึ่งใกล้กับต้นไม้ใหญ่ที่บดบังแสงสว่างจนมองสถานที่ตรงหน้าแทบไม่เห็น
“ตรงนี้นี่เอง... ถ้ามาหาจริงๆเราคงข้ามที่นี่ไปแน่ๆ” โรใช้สีหน้าครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนคาโลเอ่ยเสียงออกมา
“รีบเข้าไปเถอะ”
เสียงฝีเท้าย่ำไปตามทางเดินที่นำไปยังปลายสุดของถ้ำนั้น เสียงหยดน้ำหยดลงมาเบาๆที่ใบหน้าของเจ้าชายแห่งคาโนวาลแต่เจ้าตัวไม่สนใจจะปัดมันออก เพราะใจที่จดจ่อกับคนๆหนึ่งที่อยู่สุดทางเสียมากกว่า
ทั้ง 3 คนเดินไปจนพบกับทางตันที่สุดขอบหินขรุขระ
“ทางตัน!!!?” ตาสีม่วงเบิกโพลงออก
“แต่มีไอมนต์จนถึงที่นี่นะ” คราวนี้ตาสีเขียวสอดส่องไปจนทั่ว จนไปพบกับหลุมๆหนึ่งที่อยู่มุมขวาของถ้ำนั้น
“ต้องเป็นที่หลุมนั่นแน่” โรชี้ไปยังหลุมนั่นตนเพิ่งพบเมื่อครู่นี้
คิลพลันนึกในใจ.. เจ้าบ้านี่ ทั้งที่มืดขนาดนี้ยังอุตส่าห์มองเห็นอีก สงสัยสายตามันคงดีมาก ขนาดชนะสายตานักฆ่าที่ชินชากับความมืดนี่ได้
คาโลที่เงียบปาก ไม่พูดอะไรแต่กลับโดดลงไปในหลุมดำนั่น!
“เฮ้ย!” ไปเร็วชะมัด.. คิลส่ายหัวก่อนโดดตามลงไป และปิดท้ายด้วยเจ้าขอทานแห่งทริสทอร์......
ระยะทางจากปากหลุมที่ไม่ลึกมากจนเกินไป ทำให้ผู้มาเยือนคนใหม่มาถึงได้เร็วกว่าที่คาดไว้ ลำตัวที่ผ่านต้นไม้ที่บดบังเป็นระยะๆพุ่งตรงลงมารวดเร็วราวกับลูกธนู จนมาบรรจบลงเพราะเท้าลงมาแตะพื้นหลุมเรียบร้อย ก่อนผู้มาเยือนคนที่ 2 และ 3 จะตามมา
“พวกแกเป็นใครกัน!!!?”
เจ้าปีศาจถลึงตาจนลูกตาของมันแทบจะทะลักออกมา ตาสีทองใหญ่โตเพ่งเล็งผู้ที่ไม่ได้รับเชิญมา ในมือรีบกระชากร่างที่นอนอยู่ตรงพื้นขึ้นมาให้อยู่ในกำมือของมันอย่างรวดเร็วจนผมสีน้ำตาลพลิ้วไสว
ตาสีฟ้าที่จดจ้องไปยังร่างที่ถูกกระชากมาเมื่อซักครู่นี้กำลังเบิกกว้างด้วยใจที่คุกรุ่นไปด้วยความโกรธ
“เฟริน!”
***************
ในที่สุด..TwT ก็แต่งจบ(ตอน)จนได้
เพราะว่าเราช่างขี้เกียจเหลือหลาย ประกอบกับงานเยอะขึ้น
.. ตอนที่โพสนี่แอบๆพี่ด้วย เพราะว่าเค้าไม่ยอมให้เราแต่งฟิคอะ
(แต่ก็แอบแต่งมาจนถึงนี่... เหอ เหอ) เค้าบอกว่ามีเวลาก็เอาไปวาดโดซะ!!
(กี้ดดดดดด=[]=!!!!!!!!!!!!)
ขอขอบคุณน้องแก้ว(ใช่เปล่าคนที่วาดรูปให้พี่อะ)
ที่ช่วยบอกข้อแก้ไขให้นะคะ ^^
พี่แก้แล้วน๊า(ต้นฉบับ) ปรากฏว่ามันเยอะจนต้องแก้บานเรย TwT
กะลังแต่งตอนที่5เน้อ(เฮ้อ แต่ละตอนนี่ ไหงเราแต่งได้ไม่ยาวๆบ้างเลยน๊า T-T)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น