ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3 เงาในกระจก : Part2
“ดวงวิญญาณของมนุษย์?”
ตาสีฟ้าหรี่เล็กลง.... หากต้องใช้ชีวิตของคนอื่น เพื่อต่อชีวิตของตนเอง ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าเกิดเขาต้องคร่าชีวิตผู้ที่ไม่รู้เรื่องอะไร เฟรินต้องไม่ชอบแน่ๆ...  หล่อนจะอาละวาด? หรือหล่อนอาจจะไม่คิดที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป?
...ชีวิตที่ได้มาด้วยการแลกชีวิต...
เหมือนเรื่องในตอนนั้น ตอนที่ยอมทิ้งชีวิตตนเอง เฉือนเนื้อหลุดออกมาพร้อมกับเพชรเม็ดงามต้องสาป เพื่อเรียกสติของเรากลับคืนมา
ฉันควรจะทำอย่างไรดี?
“ไม่มีวิธีอื่นงั้นเหรอ?” โรจ้องหน้าเจ้าของคำถามก่อนจะตอบ
“ไม่มีหรอก คาโล.. นี่เป็นเพียงวิธีเดียว แต่ว่า..” เจ้าคนรู้มากยังอมภูมิ
“แต่อะไร?”
“ถ้าเราใช้ดวงวิญญาณของมนุษย์เพื่อเข้าไปเปิดข่ายเวทย์สู่โลกแห่งกระจก ซึ่งพอทางเปิดออกแล้ว.. ยังมีความเป็นไปได้ประมาณ 2% ที่จะดึงดวงวิญญาณนั้นกลับออกมาก่อนที่จะถูกดึงดิ่งลงไปในช่องว่างแห่งความมืดมิด...”
“แต่มันเสี่ยงมาก.. ” ใช่.. เสี่ยงมาก เพราะไม่เคยมีใครทำเรื่องแบบนี้ โรนึก
ในที่สุดคนที่นิ่งเงียบมานาน ก็พูดออกมาบ้าง ตาสีม่วงส่องประกายวาววับ
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รับงานเสี่ยง แต่ในเมื่อมันเป็นเพื่อนฉัน เพื่อนกันก็ต้องช่วยกัน จริงมั้ย?”
ทุกคนพยักหน้า คิลยิ้มรับชอบใจ “แล้วเราจะเริ่มงานกันเมื่อไหร่ดี”
“พรุ่งนี้ ตอนเที่ยงคืน เป็นวันที่ตรงกับเงื่อนไขทุกอย่าง” โรบอก
“โชคดีที่ว่าพรุ่งนี้พระจันทร์เต็มดวงพอดี ไม่อย่างนั้นคงต้องรออีก 2 อาทิตย์ ถ้าช้ามากๆอาจไม่ทันการณ์”
“แล้วนายจะให้ใครเป็นคนเสี่ยงถูกดึงวิญญาณออกมาล่ะ” ตาสีม่วงจ้องปะทะตาสีเขียว แต่ยังไม่ทันที่โรจะได้พูดอะไร ก็มีเสียงของอีกคนพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ฉันเอง...”
คาโลเอ่ย ก่อนที่โรจะถามย้ำ “นายแน่ใจ?”
คาโลจ้องด้วยสายตาดุก่อนที่โรจะ..ยิ้ม พร้อมหัวเราะเบาๆและตอบกลับมาว่า “ได้สิ คุณเจ้าชาย”
“ถ้าอย่างงั้น วันนี้ก็สายมากแล้ว ฉันขอตัวล่ะ” ว่าเสร็จก็ขยับขา ก้าวฉับๆไปยังประตู ก่อนที่จะได้ยินเสียงไล่หลังมา จึงหยุดเดิน
“พวกนายห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด.. แม้จะเป็นมหาปราชญ์เลโมธีก็ตาม” คาโลสำทับเสียงหนัก
“อืม” คิลพยักหน้า
“ได้” โรเอ่ยก่อนที่จะเปิดประตู และได้ยินเสียงทุ้มหนักแน่นไล่หลังมาเป็นครั้งที่ 2
“ฉันขอเตือน ว่าห้ามบอกใคร....ไม่อย่างนั้น..”
ยังไม่ทันจบประโยค โรก็เอ่ยทับเสียงคาโลว่า “ไม่อย่างงั้นฉันจะจัดการนาย”
“อย่างงั้นล่ะสิ? ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่บอกใครหรอก” โรหัวเราะหึหึ ก่อนออกจากห้องไป
“เจ้าบ้านี่..” คิลส่ายหัวอย่างเอือมๆ พร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
คาโลละสายตาจากประตูที่เพิ่งปิดไปเมื่อครู่นี้ แล้วจ้องมายังสิ่งๆหนึ่งที่กำอยู่ในมือ กระจกที่สะท้อนภาพคนแสนห่วง มือที่เคยเย็นเฉียบเสมอกลับมีไอชื้นๆอยู่...
เฟริน... ฉันต้องช่วยนายออกมาให้ได้ แม้จะต้องแลกด้วยวิญญาณของฉันก็ตาม....
===========
อัพวันละนิด ชีวิตแจ่มใส
แต่งแค่หน้าเดียวน้ำตาก็พาลจะไหลแย้ว TwT...
ตาสีฟ้าหรี่เล็กลง.... หากต้องใช้ชีวิตของคนอื่น เพื่อต่อชีวิตของตนเอง ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าเกิดเขาต้องคร่าชีวิตผู้ที่ไม่รู้เรื่องอะไร เฟรินต้องไม่ชอบแน่ๆ...  หล่อนจะอาละวาด? หรือหล่อนอาจจะไม่คิดที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป?
...ชีวิตที่ได้มาด้วยการแลกชีวิต...
เหมือนเรื่องในตอนนั้น ตอนที่ยอมทิ้งชีวิตตนเอง เฉือนเนื้อหลุดออกมาพร้อมกับเพชรเม็ดงามต้องสาป เพื่อเรียกสติของเรากลับคืนมา
ฉันควรจะทำอย่างไรดี?
“ไม่มีวิธีอื่นงั้นเหรอ?” โรจ้องหน้าเจ้าของคำถามก่อนจะตอบ
“ไม่มีหรอก คาโล.. นี่เป็นเพียงวิธีเดียว แต่ว่า..” เจ้าคนรู้มากยังอมภูมิ
“แต่อะไร?”
“ถ้าเราใช้ดวงวิญญาณของมนุษย์เพื่อเข้าไปเปิดข่ายเวทย์สู่โลกแห่งกระจก ซึ่งพอทางเปิดออกแล้ว.. ยังมีความเป็นไปได้ประมาณ 2% ที่จะดึงดวงวิญญาณนั้นกลับออกมาก่อนที่จะถูกดึงดิ่งลงไปในช่องว่างแห่งความมืดมิด...”
“แต่มันเสี่ยงมาก.. ” ใช่.. เสี่ยงมาก เพราะไม่เคยมีใครทำเรื่องแบบนี้ โรนึก
ในที่สุดคนที่นิ่งเงียบมานาน ก็พูดออกมาบ้าง ตาสีม่วงส่องประกายวาววับ
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รับงานเสี่ยง แต่ในเมื่อมันเป็นเพื่อนฉัน เพื่อนกันก็ต้องช่วยกัน จริงมั้ย?”
ทุกคนพยักหน้า คิลยิ้มรับชอบใจ “แล้วเราจะเริ่มงานกันเมื่อไหร่ดี”
“พรุ่งนี้ ตอนเที่ยงคืน เป็นวันที่ตรงกับเงื่อนไขทุกอย่าง” โรบอก
“โชคดีที่ว่าพรุ่งนี้พระจันทร์เต็มดวงพอดี ไม่อย่างนั้นคงต้องรออีก 2 อาทิตย์ ถ้าช้ามากๆอาจไม่ทันการณ์”
“แล้วนายจะให้ใครเป็นคนเสี่ยงถูกดึงวิญญาณออกมาล่ะ” ตาสีม่วงจ้องปะทะตาสีเขียว แต่ยังไม่ทันที่โรจะได้พูดอะไร ก็มีเสียงของอีกคนพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ฉันเอง...”
คาโลเอ่ย ก่อนที่โรจะถามย้ำ “นายแน่ใจ?”
คาโลจ้องด้วยสายตาดุก่อนที่โรจะ..ยิ้ม พร้อมหัวเราะเบาๆและตอบกลับมาว่า “ได้สิ คุณเจ้าชาย”
“ถ้าอย่างงั้น วันนี้ก็สายมากแล้ว ฉันขอตัวล่ะ” ว่าเสร็จก็ขยับขา ก้าวฉับๆไปยังประตู ก่อนที่จะได้ยินเสียงไล่หลังมา จึงหยุดเดิน
“พวกนายห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด.. แม้จะเป็นมหาปราชญ์เลโมธีก็ตาม” คาโลสำทับเสียงหนัก
“อืม” คิลพยักหน้า
“ได้” โรเอ่ยก่อนที่จะเปิดประตู และได้ยินเสียงทุ้มหนักแน่นไล่หลังมาเป็นครั้งที่ 2
“ฉันขอเตือน ว่าห้ามบอกใคร....ไม่อย่างนั้น..”
ยังไม่ทันจบประโยค โรก็เอ่ยทับเสียงคาโลว่า “ไม่อย่างงั้นฉันจะจัดการนาย”
“อย่างงั้นล่ะสิ? ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่บอกใครหรอก” โรหัวเราะหึหึ ก่อนออกจากห้องไป
“เจ้าบ้านี่..” คิลส่ายหัวอย่างเอือมๆ พร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
คาโลละสายตาจากประตูที่เพิ่งปิดไปเมื่อครู่นี้ แล้วจ้องมายังสิ่งๆหนึ่งที่กำอยู่ในมือ กระจกที่สะท้อนภาพคนแสนห่วง มือที่เคยเย็นเฉียบเสมอกลับมีไอชื้นๆอยู่...
เฟริน... ฉันต้องช่วยนายออกมาให้ได้ แม้จะต้องแลกด้วยวิญญาณของฉันก็ตาม....
===========
อัพวันละนิด ชีวิตแจ่มใส
แต่งแค่หน้าเดียวน้ำตาก็พาลจะไหลแย้ว TwT...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น