ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความเปลี่ยนแปลง
/ me ปัดฝุ่นๆ..
**
Chapter 3
"หุบปากแกเดี๋ยวนี้!!" ราบี้ตะโกนลั่น ร่างกายสั่นเพราะคำพูดตรงๆนั่นแทงใจพอดี มือบางกำผ้าที่ปูนอนเอาไว้แน่น ราวกับจะไถ่บาปตนเองที่ตัดสินใจผิดแม้เพียงชั่วครู่
ชั่วครู่เดียวเท่านั้น... ที่เพียงได้ยิน...
ได้ยิน... ชื่อของนาย...
เพียงเท่านี้ก็ทำให้ความรู้สึกของฉันมันสับสน... จนไม่อาจควบคุมมันเอาไว้ได้...
"ทำไม? แทงใจนายใช่มั้ย? หึหึ..." ขาเรียวยาวก้าวเข้ามาเรื่อยๆเป็นจังหวะ ใบหน้าคล้ำคมเข้มยังคงแฝงด้วยรอยยิ้มอันไม่พึงปรารถนา ดวงตาสีทองคอมกริบมองจ้องราวกับจะทะลุเข้าไปในจิตใจ คล้ายเป็นโซ่ที่คอยพันธนาการไม่ให้หลุดพ้นไปได้
"นายเป็นคนเลือกทางนี้เองนะ?" ร่างสูงเข้ามาใกล้จนลมหายใจผะแผ่วสัมผัสตรงข้างใบหู "นายเป็นคนเลือกเอง... ไม่ใช่ใคร... แล้วนี่ก็เป็นความปรารถนาของนาย" ริมฝีปากคล้ำขบเข้าที่ติ่งหูเบาๆราวกับจะหยอกล้อ ก่อนที่เจ้าตัวจะกระโดดถอยหลังไปเพราะคนที่โดนกระทำกำลังง้างหมัดออก
"หน้าที่เก่าๆนั่นนายก็ละทิ้งมันไปสิ ที่นี่มีสิ่งที่นายต้องทำ" ทิกี้เลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ ก่อนยิ้มมุมปาก
"แต่ก่อนอื่นฉันคงต้องกำจัดความรู้สึกที่ทำให้นายอ่อนแอก่อน" พลันผีเสื้อมากมายก็ปรากฎขึ้นบนฝ่ามือหนา และพุ่งเป้าไปยังร่างตรงหน้า ก่อนที่ดวงตาสีเขียวมรกตจะเบิกกว้าง เสียงร้องดังก้องไปทั่วห้อง ร่างที่เคยยืนหยัดกลับตั้งตัวไม่อยู่
ชายร่างสูงเอาลำแขนแกร่งมารองรับร่างที่จะล้มลง ก่อนพูดราวกับจะให้กระทบโสตประสาทของร่างที่หลับใหล แม้จะไร้สติก็ตาม "เมื่อตื่นขึ้น นายจะลืมทุกอย่าง"
"แม้แต่ชื่อของ 'คันดะ ยู'"
.
.
.
'ที่นี่ที่ไหน...'
'ฉันเป็นใคร...'
'...แล้วนายล่ะ... เป็นใครกันแน่' ผมยาวดำสลวย ผิวขาวที่ขับกับสีแห่งรัตติกาลที่ชวนให้หลงใหล... แต่ไม่ว่าจะมองนานเพียงใด คนๆนั้นกลับไร้หน้าตา สิ่งที่เห็นเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ไร้ขีดจำกัด...
'นึกไม่ออก... หัวของฉัน มันปวดเหลือเกิน...'
ร่างบางพึมพำ เหงื่อผุดพรายขึ้นบนใบหน้า ดวงตาเพียงข้างเดียวยังคงปิดสนิท ไม่มีทีท่าว่าจะลืมขึ้นง่ายๆ มือบางยังคงกำแน่น จนเกือบจะทะลุผ้าผืนที่คอยกั้นระหว่างผิวเนื้อกับเล็บคม
"ร..."
"รา......บี้...."
"ราบี้" สัมผัสจากมือเล็กบนหน้าผาก แม้เพียงบางเบา แต่ก็ทำให้รู้สึกดี จนคนที่โดนสัมผัสนั้นลืมตาขึ้น
ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือเด็กสาวผมสั้นคนหนึ่ง ผิวสีดำ กับรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรจนทำให้เขาเผลอถามออกไป
"ใคร.. เธอเป็นใครน่ะ?" ร่างกายยังคงนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงริมฝีปากที่ยังขยับเอ่ยคำถามออกมาอย่างช้าๆ
"ที่นี่.. ที่ไหนกัน?" จำไม่ได้ เขาจำไม่ได้จริงๆ ทั้งชื่อ ทั้งอดีต ทั้งตอนนี้ ไม่ว่าจะตอนไหน หัวของเขากลับว่างเปล่าไปหมด ราวกับโดนความมืดครอบคลุมเอาไว้ แต่ไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อ มือที่จับอยู่ที่หน้าผากกลับเลื่อนลงมากุมมือของเขาแทน
เขาไม่เข้าใจ... แต่ที่รู้คือจิตใจตอนนี้ กลับสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ
"ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรไปหรอกนะ ราบี้ ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายเธอ เธอ.. คือครอบครัวของพวกเรานะ" เด็กสาวคนนั้นยิ้มอย่างเป็นมิตรให้
"ราบี้.. นั่นคือชื่อของฉันเหรอ?" ไม่ไหว ยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดี ยิ่งคิดหัวที่ปวดก็ยิ่งแทบจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ "แล้วชื่อของเธอ.."
"โร้ด แล้วฉันจะกลับมาหาเธออีกทีนะ ตอนนี้มีต้องไปเตรียมอะไรบางอย่างก่อน จะหลับต่อก็ได้นะ" แค่คำพูดเพียงนิด แต่จู่ๆในหัวก็ว่างเปล่า แล้วคนฟังก็กลับสู่นิทราอีกครั้งหนึ่งโดยที่เจ้าของร่างยังไม่ทันได้ตอบอะไรต่อ
ปัง..
"แสดงละครเก่งเหมือนกันนี่โร้ด?" ได้ยินเสียงออกมาก่อนที่ร่างสูงจะก้าวพ้นออกมาจากความมืด รอยยิ้มที่เป็นมิตรบนใบหน้าของเด็กสาวเมื่อครู่เปลี่ยนแปลง กลายเป็นยิ้มเย็นอย่างชั่วร้าย
"ใครจะเก่งเท่าทิกี้ล่ะ ฮิฮิ ฉันก็แค่ปลอบเขาเท่านั้นเอง ในตอนนี้ตัวเขาก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กทารกที่เพิ่งออกจากท้องแม่น่ะนะ" โร้ดก้าวเท้าเข้าไปใกล้ชายหนุ่มเรื่อยๆ ก่อนที่จะเอานิ้วชี้ไปจิ้มที่จมูกโด่งคล้ำ
"คนที่ทำให้ความทรงจำสับสนจนหายไป นั่นคือทิกี้ไม่ใช่หรือไง" ร่างสูงอึ้งเงียบไปครู่นึง ก่อนปัดนิ้วเล็กๆนั่นออกเบาๆ
"อะ ฮะๆ นั่นสินะ แต่นั่นฉันเองก็ทำตามคำสั่งพ่อขุนนางพันปีเหมือนกันนะ" เอ่ยพลางจะขยับหมวกเช่นเคย แต่กลับสัมผัสความว่างเปล่า ก่อนที่สมองจะประมวลผลแล้วคิดได้ว่า ลืมไว้ที่แห่งใดกันแน่
"ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอตัวไปเตรียมการก่อนล่ะ ก่อนที่เขาจะฟื้นขึ้นมาอีกที" โร้ดเอ่ยพลางเปิดประตูมิติของตนแล้วก้าวออกไป แต่ก่อนที่จะหายลับไปกลับทิ้งท้ายให้คนฟังต้องเบิกตาโพลงเล่น
"อ้อ ทิกี้ ถึงตอนนี้เขาจะไม่ขัดขืนแต่ก็อย่าไปทำอะไรรุนแรงนะ เดี๋ยวพ่อขุนนางจะโกรธเอาได้ เล่นอะไรก็เบาๆหน่อยล่ะ"
"เฮ้ โร้ด! หมายความว่าไง.." ยังไม่ทันเอ่ยจบ ประตูนั่นก็หายไปเสียแล้ว ทิ้งให้ชายหนุ่มต้องเผลอถอนหายใจเบาๆ
"พูดมาได้ไงแบบนี้น่ะ.. ยังไงตอนนี้ก็'ยัง'หรอกนะ" ทิกี้พูดกับตัวเองก่อนใช้มือข้างที่ถนัดเปิดประตูเข้าไป เมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มที่เพิ่งพาตัวมากำลังหลับอยู่ รอยยิ้มเหี้ยมก็ปรากฎขึ้นมาอย่างที่ไม่มีสังเกตเห็น
ร่างสูงเขยิบเท้าเข้าใกล้เรื่อยๆก่อนจะใช้นิ้วเรียวลากไล้ไปตามมุมปาก
"ให้จิตใจถูกย้อมด้วยสีดำมากกว่านี้ ให้เธอฆ่าเพื่อนของเธอด้วยน้ำมือตัวเอง ให้ตัวเธอแปดเปื้อนให้มากกว่านี้" พลันรอยยิ้มเหี้ยมก็ปรากฎขึ้น
"ตอนนี้ก็แค่การเตรียมการเท่านั้นนะ...'ราบี้'" ผีเสื้อบินว่อน ลอยล่องคลุมร่างเจ้าของ ก่อนชายหนุ่มผิวเข้มจะหายตัวไป
ฝัน...
ยังฝันอยู่เหมือนเดิม....
แต่คราวนี้กลับเลือนลางมากกว่าเก่า
ไร้ซึ่งตัวตน ไร้หน้าตา กระทั่งหัวใจก็ไร้ความรู้สึก
จำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
**
Chapter 3
"หุบปากแกเดี๋ยวนี้!!" ราบี้ตะโกนลั่น ร่างกายสั่นเพราะคำพูดตรงๆนั่นแทงใจพอดี มือบางกำผ้าที่ปูนอนเอาไว้แน่น ราวกับจะไถ่บาปตนเองที่ตัดสินใจผิดแม้เพียงชั่วครู่
ชั่วครู่เดียวเท่านั้น... ที่เพียงได้ยิน...
ได้ยิน... ชื่อของนาย...
เพียงเท่านี้ก็ทำให้ความรู้สึกของฉันมันสับสน... จนไม่อาจควบคุมมันเอาไว้ได้...
"ทำไม? แทงใจนายใช่มั้ย? หึหึ..." ขาเรียวยาวก้าวเข้ามาเรื่อยๆเป็นจังหวะ ใบหน้าคล้ำคมเข้มยังคงแฝงด้วยรอยยิ้มอันไม่พึงปรารถนา ดวงตาสีทองคอมกริบมองจ้องราวกับจะทะลุเข้าไปในจิตใจ คล้ายเป็นโซ่ที่คอยพันธนาการไม่ให้หลุดพ้นไปได้
"นายเป็นคนเลือกทางนี้เองนะ?" ร่างสูงเข้ามาใกล้จนลมหายใจผะแผ่วสัมผัสตรงข้างใบหู "นายเป็นคนเลือกเอง... ไม่ใช่ใคร... แล้วนี่ก็เป็นความปรารถนาของนาย" ริมฝีปากคล้ำขบเข้าที่ติ่งหูเบาๆราวกับจะหยอกล้อ ก่อนที่เจ้าตัวจะกระโดดถอยหลังไปเพราะคนที่โดนกระทำกำลังง้างหมัดออก
"หน้าที่เก่าๆนั่นนายก็ละทิ้งมันไปสิ ที่นี่มีสิ่งที่นายต้องทำ" ทิกี้เลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ ก่อนยิ้มมุมปาก
"แต่ก่อนอื่นฉันคงต้องกำจัดความรู้สึกที่ทำให้นายอ่อนแอก่อน" พลันผีเสื้อมากมายก็ปรากฎขึ้นบนฝ่ามือหนา และพุ่งเป้าไปยังร่างตรงหน้า ก่อนที่ดวงตาสีเขียวมรกตจะเบิกกว้าง เสียงร้องดังก้องไปทั่วห้อง ร่างที่เคยยืนหยัดกลับตั้งตัวไม่อยู่
ชายร่างสูงเอาลำแขนแกร่งมารองรับร่างที่จะล้มลง ก่อนพูดราวกับจะให้กระทบโสตประสาทของร่างที่หลับใหล แม้จะไร้สติก็ตาม "เมื่อตื่นขึ้น นายจะลืมทุกอย่าง"
"แม้แต่ชื่อของ 'คันดะ ยู'"
.
.
.
'ที่นี่ที่ไหน...'
'ฉันเป็นใคร...'
'...แล้วนายล่ะ... เป็นใครกันแน่' ผมยาวดำสลวย ผิวขาวที่ขับกับสีแห่งรัตติกาลที่ชวนให้หลงใหล... แต่ไม่ว่าจะมองนานเพียงใด คนๆนั้นกลับไร้หน้าตา สิ่งที่เห็นเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ไร้ขีดจำกัด...
'นึกไม่ออก... หัวของฉัน มันปวดเหลือเกิน...'
ร่างบางพึมพำ เหงื่อผุดพรายขึ้นบนใบหน้า ดวงตาเพียงข้างเดียวยังคงปิดสนิท ไม่มีทีท่าว่าจะลืมขึ้นง่ายๆ มือบางยังคงกำแน่น จนเกือบจะทะลุผ้าผืนที่คอยกั้นระหว่างผิวเนื้อกับเล็บคม
"ร..."
"รา......บี้...."
"ราบี้" สัมผัสจากมือเล็กบนหน้าผาก แม้เพียงบางเบา แต่ก็ทำให้รู้สึกดี จนคนที่โดนสัมผัสนั้นลืมตาขึ้น
ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือเด็กสาวผมสั้นคนหนึ่ง ผิวสีดำ กับรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรจนทำให้เขาเผลอถามออกไป
"ใคร.. เธอเป็นใครน่ะ?" ร่างกายยังคงนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงริมฝีปากที่ยังขยับเอ่ยคำถามออกมาอย่างช้าๆ
"ที่นี่.. ที่ไหนกัน?" จำไม่ได้ เขาจำไม่ได้จริงๆ ทั้งชื่อ ทั้งอดีต ทั้งตอนนี้ ไม่ว่าจะตอนไหน หัวของเขากลับว่างเปล่าไปหมด ราวกับโดนความมืดครอบคลุมเอาไว้ แต่ไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อ มือที่จับอยู่ที่หน้าผากกลับเลื่อนลงมากุมมือของเขาแทน
เขาไม่เข้าใจ... แต่ที่รู้คือจิตใจตอนนี้ กลับสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ
"ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรไปหรอกนะ ราบี้ ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายเธอ เธอ.. คือครอบครัวของพวกเรานะ" เด็กสาวคนนั้นยิ้มอย่างเป็นมิตรให้
"ราบี้.. นั่นคือชื่อของฉันเหรอ?" ไม่ไหว ยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดี ยิ่งคิดหัวที่ปวดก็ยิ่งแทบจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ "แล้วชื่อของเธอ.."
"โร้ด แล้วฉันจะกลับมาหาเธออีกทีนะ ตอนนี้มีต้องไปเตรียมอะไรบางอย่างก่อน จะหลับต่อก็ได้นะ" แค่คำพูดเพียงนิด แต่จู่ๆในหัวก็ว่างเปล่า แล้วคนฟังก็กลับสู่นิทราอีกครั้งหนึ่งโดยที่เจ้าของร่างยังไม่ทันได้ตอบอะไรต่อ
ปัง..
"แสดงละครเก่งเหมือนกันนี่โร้ด?" ได้ยินเสียงออกมาก่อนที่ร่างสูงจะก้าวพ้นออกมาจากความมืด รอยยิ้มที่เป็นมิตรบนใบหน้าของเด็กสาวเมื่อครู่เปลี่ยนแปลง กลายเป็นยิ้มเย็นอย่างชั่วร้าย
"ใครจะเก่งเท่าทิกี้ล่ะ ฮิฮิ ฉันก็แค่ปลอบเขาเท่านั้นเอง ในตอนนี้ตัวเขาก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กทารกที่เพิ่งออกจากท้องแม่น่ะนะ" โร้ดก้าวเท้าเข้าไปใกล้ชายหนุ่มเรื่อยๆ ก่อนที่จะเอานิ้วชี้ไปจิ้มที่จมูกโด่งคล้ำ
"คนที่ทำให้ความทรงจำสับสนจนหายไป นั่นคือทิกี้ไม่ใช่หรือไง" ร่างสูงอึ้งเงียบไปครู่นึง ก่อนปัดนิ้วเล็กๆนั่นออกเบาๆ
"อะ ฮะๆ นั่นสินะ แต่นั่นฉันเองก็ทำตามคำสั่งพ่อขุนนางพันปีเหมือนกันนะ" เอ่ยพลางจะขยับหมวกเช่นเคย แต่กลับสัมผัสความว่างเปล่า ก่อนที่สมองจะประมวลผลแล้วคิดได้ว่า ลืมไว้ที่แห่งใดกันแน่
"ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอตัวไปเตรียมการก่อนล่ะ ก่อนที่เขาจะฟื้นขึ้นมาอีกที" โร้ดเอ่ยพลางเปิดประตูมิติของตนแล้วก้าวออกไป แต่ก่อนที่จะหายลับไปกลับทิ้งท้ายให้คนฟังต้องเบิกตาโพลงเล่น
"อ้อ ทิกี้ ถึงตอนนี้เขาจะไม่ขัดขืนแต่ก็อย่าไปทำอะไรรุนแรงนะ เดี๋ยวพ่อขุนนางจะโกรธเอาได้ เล่นอะไรก็เบาๆหน่อยล่ะ"
"เฮ้ โร้ด! หมายความว่าไง.." ยังไม่ทันเอ่ยจบ ประตูนั่นก็หายไปเสียแล้ว ทิ้งให้ชายหนุ่มต้องเผลอถอนหายใจเบาๆ
"พูดมาได้ไงแบบนี้น่ะ.. ยังไงตอนนี้ก็'ยัง'หรอกนะ" ทิกี้พูดกับตัวเองก่อนใช้มือข้างที่ถนัดเปิดประตูเข้าไป เมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มที่เพิ่งพาตัวมากำลังหลับอยู่ รอยยิ้มเหี้ยมก็ปรากฎขึ้นมาอย่างที่ไม่มีสังเกตเห็น
ร่างสูงเขยิบเท้าเข้าใกล้เรื่อยๆก่อนจะใช้นิ้วเรียวลากไล้ไปตามมุมปาก
"ให้จิตใจถูกย้อมด้วยสีดำมากกว่านี้ ให้เธอฆ่าเพื่อนของเธอด้วยน้ำมือตัวเอง ให้ตัวเธอแปดเปื้อนให้มากกว่านี้" พลันรอยยิ้มเหี้ยมก็ปรากฎขึ้น
"ตอนนี้ก็แค่การเตรียมการเท่านั้นนะ...'ราบี้'" ผีเสื้อบินว่อน ลอยล่องคลุมร่างเจ้าของ ก่อนชายหนุ่มผิวเข้มจะหายตัวไป
ฝัน...
ยังฝันอยู่เหมือนเดิม....
แต่คราวนี้กลับเลือนลางมากกว่าเก่า
ไร้ซึ่งตัวตน ไร้หน้าตา กระทั่งหัวใจก็ไร้ความรู้สึก
จำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น