ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลิปหลอนซ่อนตาย

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 51


    อร อ๋อมขอโทษ อ๋อมไม่น่าเล่าให้ฟังเลย
     
                    อรรีบตั้งสติ คว้ากระจก คว้าทิชชู มาซับคราบน้ำตา พร้อมกับโปะเครื่อง
    สำอางค์ลงไปอีกรอบ
     
                    อ๋อม ไม่ผิดหรอก อรขวัญอ่อนเอง ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นกลางวันแสก ๆ  สรุปว่า เป็นวิญญาณเหรอ
     
                “ก็คงต้องเชื่อตามสายตาที่เห็นแหละอร เพราะว่ามันชัดมาก ครั้งก่อนเขาก็มาปรากฎแค่เงา ไม่ชัดเหมือนครั้งนี้ หรือจะลองเปิดดูอีกที
     
                    อ๋อมไม่กลัวเหรอ
     
                    กลัวสิ งั้นก็พรุ่งนี้แล้วกัน น่าจะพร้อมกว่านี้
     
                “อือ ก็ดี   อรเห็นดีด้วย เพราะตัวเองก็แย่พอแล้ว นี่ขนาดไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองนะนี่ ไม่งั้นมีหวังจับไข้หัวโกร๋นสามวันสามคืนแน่
     
                    คืนนั้น หลังจากที่ลองโทรเข้ามือถือเอิร์ธแฟนหนุ่มก็เหมือนทุกครั้ง ปิดเครื่อง เธอกังวลทั้งเรื่องของเอิร์ธและเรื่องที่กำลังเจอ อยากจะเล่าให้เอิร์ธฟังอีกคน เผื่อจะหาเหตุผลมาอธิบายให้เธอฟังแล้วสบายใจได้ แต่จนแล้วจนรอด ก็ติดต่อแฟนหนุ่มไม่ได้ นอนคิดไปคิดมาจนเธอเผลอหลับไป ทั้งที่ตั้งใจว่าจะปิดมือถือก่อนนอนเหมือนเมื่อคืน แต่ก็ไม่ได้ทำ
     
                    ภาพผู้หญิงผมยาวปรากฎขึ้นอีกครั้งบนหน้าจอมือถือ ขนาดสองนิ้วครึ่ง  เธอกดซูมให้ได้ภาพขนาดใหญ่ขึ้นด้วยมือที่สั่นเทา เธอรู้ดีว่าเธอจะต้องเจอะเจอกับอะไร มันยังชัดเจนอยู่ในมโนภาพ ใจกำลังสั่งให้เธอหยุดถ่ายแล้วหันหลังวิ่งกลับไปให้เร็วที่สุด แต่ทุกส่วนของร่างกายมันไม่เชื่อฟัง ทุกอย่างเคลื่อนไหวเอง ทำเอง โดยที่เธอไม่อยากทำ เธอกำลังกลัว กลัวมากถึงมากที่สุด แค่จะหลับตาหนีภาพเบื้องหน้ายังทำไม่ได้
     
                    ผู้หญิงคนนั้น ค่อย ๆ หันมาทีละนิด ๆ มุมปากหยักขึ้นอย่างคนกำลังยิ้ม ดวงตาเธอช่างเศร้าสร้อย เหมือนเธอไม่มีความสุขในขณะนั้น เธอกำลังใช้หลังมือปัดเส้นผมออกจากไหล่ข้างนึง เส้นผมยาวสลวยดังแพรไหม พริ้วไหวตามแรง 

                อ๋อมตัวแข็งทื่อ หายใจไม่ออก เมื่อภาพผู้หญิงที่มีแต่หัวกับคอลอยอยู่ตรงหน้า เธอหวีดร้องออกมาอย่างผวาสุดขีด แต่ไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมาได้เลย
     
                เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้  นอกจากถูกบังคับให้เบิ่งตามองผ่านเลนส์กล้องไป ความรู้สึกเธอเหมือนกำลังดำดิ่งลงสู่ก้นสระน้ำที่ไม่มีอากาศให้ได้หายใจ ถูกพันธนาการด้วยสาหร่าย ไม่สามารถลอยขึ้นมาสูดอากาศได้ ก่อนสติสัมปชัญญะอันลางเลือนจะดับวูบลง สายตาเธอยังจับภาพใบหน้าเธอผู้หญิงคนนั้น  ริมฝีปากที่ขยับขึ้นลง โดยไร้เสียง แต่อ๋อมสามารถเข้าใจได้ทันที เป็นข้อความว่า ช่วยด้วย  ช่วยฉันด้วย
     
                อ๋อมสะดุ้งตื่นกลางดึก เหงื่อท่วมตัว เธอเหนื่อยหอบอย่างกับเพิ่งไปวิ่งมาราธอนมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว      
                   
    มันช่างเหมือนจริงอะไรขนาดนี้ หรือว่าเธอจะต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ
     
                    ที่มหาวิทยาลัยเธอเล่าความฝันให้อรฟังอย่างละเอียด
     
                    แต่เราก็ไม่รู้ว่า มันเป็นแค่ความฝันหรือเปล่านะสิ เพราะว่าตอนนี้ความจริงกับความฝันมันก็แยกกันไม่ออกซะแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป มันอาจจะไม่ดีกับ
    อ๋อมแน่
     อรพูดอย่างห่วงใย
     
                    นี่แค่คืนเดียวอ๋อมยังโทรมขนาดนี้เลย
     
                    อ๋อม ต้นเหตุมันมาจากมือถือเครื่องนี้ อ๋อมยังเสียดายมันอยู่หรือเปล่า
     
                    ทำไมล่ะอร มันเป็นแค่เครื่องรับสัญญาณส่งผ่านมาให้อ๋อมเท่านั้นเอง 
    อ๋อมรักมัน ไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของมันเลยนะ
     
                    อรกลัวก็จริงนะอ๋อม แต่อรเป็นห่วงอ๋อมมากกว่า อ๋อมเคยได้ยินเรื่องตัวตายตัวแทนไหม
     
                    อรคิดว่าวิญญาณของผู้หญิงคนนี้ อยากได้อ๋อมให้ตายเป็นตัวแทนเขา เพื่อให้เขาหลุดพ้นหรือไปเกิดนะหรือ
     
                    ใช่อ๋อม เพราะเราสื่อสารกันได้น้อยมาก และเขาต้องการอะไรจริง ๆ แล้วเราก็ไม่รู้แน่ชัด และที่สำคัญ เราไม่รู้จะเชื่อเขาได้มากน้อยแค่ไหนนะสิ
     
                    อยู่ลมเย็น ๆ ก็พัดเข้าที่โต๊ะเสียวูบใหญ่ ทั้ง ๆ ที่เช้านี้อากาศค่อนข้างร้อน
     
                    อรขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอหันไปมองรอบข้างอย่างหวาด ๆ
     
                    เอาแล้วไหมล่ะ นี่แค่พูดถึงนะ อรเอ่ยเสียงเบา
     
                    มันก็แค่ลมน่ะอร
     
                    อ๋อม อยากจะลองดูสักตั้งก่อนนะอร ถ้าเกิดเขาต้องการความช่วยเหลือขึ้นมาจริง ๆ มันก็เป็นกุศลไม่ใช่หรือ เคยทำบุญกับคนเป็นมาก็เยอะ ทำกับคนตายดูไหม
     
                    แล้วอ๋อมไม่กลัวเหรอ อรถามอย่างหวาด ๆ
     
                              “กลัวมันก็กลัว แต่ถ้าจะปล่อยให้ผ่านไปโดยที่เราไม่ทำอะไรเลย มันเหมือนรู้สึกผิดน่ะ หรืออรจะไม่รู้สึกอะไร” 
     
     
         หลังจากที่ช่างใจอยู่นาน อรก็พยักหน้ารับ

                  
    เอาไงก็เอา 

                  แม้ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจจะมีอันตรายถึงชีวิตรอทั้งคู่อยู่ก็ได้ แต่เธอก็รักเพื่อนเกินกว่าจะให้เผชิญกับสิ่งที่มองไม่เห็นเพียงลำพัง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×