อสูรทั้งสามต่างรู้สึกกลัดกลุ้มยิ่ง หากผู้ที่มาเสนอซื้อเป็นผู้อื่น พวกเขาไม่คิดแม้แต่น้อยว่าแม่นางน้อยจะขายพวกเขา ทว่าคนผู้นี้เป็นถึงเผ่าพันธุ์นิรันดร์กาลเผ่าพันธุ์ที่ครอบครองของวิเศษไว้มากมายเกิดคาดเดา จะไม่ให้พวกเขากลัดกลุ้มได้อย่างไร
แม้พวกเขาจะทำสัญญาผูกวิญญาณไว้ แต่ว่าแม่นางน้อยยังไม่หยดเลือดทำสัญญากับพวกเขาด้วย ดังนั้นแม้พวกเขาจะถือว่าเป็นของนาง แต่นางยังไม่ใช่ของพวกเขาเสียทีเดียว เรื่องนี้จึงทำให้ยิ่งกลุ้มใจกันเข้าไปใหญ่ หากบุรุษผู้นั้นยื่นข้อเสนอที่แม่นางน้อยพึงพอใจ ....
ยิ่งคิดยิ่งกลัดกลุ้มกว่าพวกเขาจะผลอยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียก็เป็นเวลาที่เซียวเยี่ยนหลันเกือบลืมตาตื่นพอดี ด้วยที่พวกเขาต้องใช้พลังส่วนหนึ่งเก็บงำกลิ่นอายส่วนหนึ่งแปลงกายหดกาย ทั้งหมดนี้ล้วนสิ้นเปลืองพลังยิ่ง ยิ่งคิดว่าจะหาทางล่อลวงให้แม่นางน้อยหยดเลือดทำสัญญากับพวกเขาได้อย่างไรก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยล้าสมองขึ้นไปอีก
เรื่องล่อลวงผู้อื่นให้มาเป็นเจ้านายพวกเขา ...
พวกเขาไม่เคยคิดเรื่องเช่นนี้มาก่อนเลยจริง ๆ และไม่เคยคิดว่าจะมีวันเช่นนี้ด้วยที่ต้องหาอุบายมาทำให้อีกฝ่ายยอมรับ
เซียวเยี่ยนหลันลืมตาตื่นเห็นภาพที่ทั้งสามหลับปุ๋ยอย่างน่ารักน่าชังก็ยิ้มกว้างอย่างเอ็นดู แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหากอยู่ ๆ พาพวกมันติดตามออกไปด้วยก็ต้องเป็นที่สังเกตเห็นของคนอื่น อีกทั้งไม่แน่ใจว่าคุณชายหยางผู้นั้นจะยังคงจับตานางหรือไม่ ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องอสูรน้อยทั้งสามนางจึงเก็บพวกมันเข้าไปไว้ในมิติก่อน
ไว้เจอสถานที่และเหตุการณ์ที่เหมาะสมค่อยนำพวกมันออกมาแล้วหยดเลือดทำสัญญากับพวกมัน เท่านี้ก็จะไม่มีใครมาขโมยพวกมันไปจากนางได้แล้ว นอกจากจะเจอพวกไร้คุณธรรมที่มีวิชาเวทย์ยกเลิกสัญญาได้
'แต่พวกมันแค่น่ารักเท่านั้นไม่เห็นมีฤทธิ์เดชอะไรคงไม่มีผู้ใดต้องการพวกมันขนาดนั้นหรอก' เซียวเยี่ยนหลันขบคิดกับตนเองก่อนจะแต่งตัวออกไปสมทบกับคนของสำนักเพื่อเดินทางต่อ
หากทั้งสามทราบว่าที่กลัดกลุ้มไปนั้นสิ้นเปลืองไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ทราบว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
หย่งหมิงไป๋ออกจากห้องนอนของเด็กสาวก็ตรงไปยังแปลงสมุนไพรในมิติดาวดึงส์ ด้วยผลไม้และสมุนไพรล้ำค่าของเขาและนางต่างก็ผลิดอกออกผลอีกครั้งแล้ว แม้เขาจะทราบมาว่ามิติดาวดึงส์นี้สุดลี้ลับ ผู้ครอบครองแต่ละคนจะได้รับประโยชน์จากมันไม่เท่ากัน หากแต่เขาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน
ตัวเขาเพิ่งเก็บสมุนไพรและผลไม้ออกไปไม่นาน แต่พวกมันกลับงอกเงยขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว หากกล่าวว่ายามเขาครอบครองมิติร่วมกับผู้เป็นบิดา พืชสมุนไพรพวกนี้ยังปีสองปีถึงผลิดอกออกผลที แน่นอนว่านี้ถือเป็นเวลาที่เร็วที่สุดที่บรรพบุรุษเขาครอบครองต่อๆกันมาแล้ว เพราะหากนำพวกมันไปปลูกยังด้านนอกบางต้นย่อมต้องใช้เวลาหลายสิบปีหรือเป็นร้อยปีในการให้ดอกให้ผลครั้งหนึ่ง
ยามนี้เห็นว่าพวกมันพากันเบ่งบานอีกรอบก็ยิ่งรู้สึกว่าแม่นางน้อยผู้นี้ต้องเป็นคนที่มีพลังจิตวิญญาณแข็งกล้าเป็นอย่างมาก อีกทั้งต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจดีไม่ละโมบด้วย ไม่เช่นนั้นมันคงไม่เอาใจนางถึงเพียงนี้
มองดูพวกสมุนไพรและผลไม้ในฝั่งของนาง ที่เกิดจากการแตกออกจากของๆเขา สิ่งใดที่เขามีทางฝั่งนางก็ย่อมมี ไม่ทราบว่ามิติดาวดึงส์ทำเช่นนี้ได้อย่างไร เพราะเขาก็เพิ่งเคยพบเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาเห็นสิ่งต่าง ๆ มากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่าบรรพบุรุษของเขาคงต้องกัดลิ้นตายในพลันหากมาเห็นเช่นเดียวกับเขานี้ เพราะพวกเขามักกล่าวโดยตลอดว่ามิติดาวดึงส์เป็นที่ที่เอาแต่ใจตนเองเป็นที่สุดยิ่งเราต้องการอะไรมันยิ่งไม่ตอบสนองเรา แต่นี่แม่นางน้อยที่ไม่ประสาผู้หนึ่งอีกทั้งยังครอบครองมิติดาวดึงส์ร่วมกับเขาที่เคยเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียวมาก่อนมันกลับตอบสนองให้ราวกับกำลังประจบเอาใจดั่งเกรงกลัวว่านางจะทอดทิ้งพวกมัน
ผลไม้บางต้นหากถึงเวลาแล้วเขาไม่เข้ามาเก็บไป พวกมันก็จะล่วงหล่นลงพื้นสลายกลายเป็นปุ๋ยให้กับลำต้น แต่ยามนี้มองดูผลไม้หลากชนิดที่เหมือนกันกับของเขายังคงมีผลติดกิ่งอยู่ไม่คล้ายจะร่วงหล่นสักนิดก็ยิ่งอยากทำความรู้จักแม่นางน้อยผู้นั้นยิ่งขึ้นไปอีก
"ต้องไปพบปะสนทนากับนางเสียหน่อย"
หย่งหมิงไปเดินไปยังวังขนาดเล็กทางฟากที่มืดมิด เขาเดินเข้าไปด้านในจนไปถึงประตูอีกบานที่อยู่จุดสิ้นสุดทางของด้านนี้ เปิดประตูออกไปก็พบแสงสว่างยามเช้าของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
ไม่มีใครสังเกตว่าบุรุษชุดขาวผู้นี้ออกมาจากบ้านใดกันแน่ เพียงแต่จ้องมองเขาเพราะรูปโฉมเท่านั้น
ใบหน้าคมคายผิวขาวกระจ่างไร้รอยหนวดเครา คิ้วดกดำได้รูปรับกับดวงตาที่ราวกับมองทะลุไปถึงวิญญาณ ดวงตานี้เองที่ทำให้ผู้คนเหม่อลอยจนไม่ทันนึกคิดหรือสังเกตว่าเขาก้าวออกมาจากความว่างเปล่าของช่องว่างระหว่างบ้านสองหลัง
มุมปากประดับรอยยิ้มเล็กๆเอาไว้นำพาให้ทั้งใบหน้าของเขาดูเป็นมิตรขึ้นหลายส่วน
ชายเสื้อสีขาวพริ้วไหวไปกับสายลมที่ไม่ทราบว่ามาจากไหนรับกับทุกก้าวที่ย่างเท้าออกในระยะห่างที่เท่ากันในแต่ละก้าวอย่างไม่เร็วไม่ช้าไปทางบ้านพักที่คนของสำนักเมฆาสวรรค์พักอยู่
ยามนี้พระอาทิตย์เพิ่งพ้นขอบฟ้า แสงแดดยังไม่สว่างจ้าเท่าไร แต่บางจุดบางที่ของทั่วทั้งพิภพกลับคล้ายยังไม่ได้หลับใหล
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งนักยุทธ์และผู้ครองแคว้นแม้กระทั่งผู้เร้นกายที่เก่งกาจทั่วทั้งพิภพตอนนี้ทราบแล้วว่าในพื้นพิภพที่ยิ่งใหญ่ได้มีสายเลือดชนชั้นบรรพกาลถือกำเนิดขึ้นมาใหม่แล้ว อีกทั้งคาดว่าต้องเป็นสายเลือดที่เข้มข้นอย่างที่สุดถึงได้ทำให้เหล่าสัตว์อสูรแสดงความเคารพเช่นนี้ได้
"ไปตามหาอสูรบรรพกาลมา หากมีผู้ครอบครองมันอยู่ก็กำจัดซะ!"
คำสั่งการเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมพื้นพิภพ แม้แต่ผู้ที่ไม่มีเจ้านายคอยสั่งการก็ยังหมายมาดคาดหวังว่าตนเองจะแย่งชิงอสูรบรรพกาลมาได้ก่อนใคร
แต่ผู้ใดจะทราบได้ว่าอสูรบรรพกาลที่พวกเขาคาดฝันไว้ว่าต้องเป็นอสูรที่ร้ายกาจและมีความน่าเกรงขามนั้นจะกลายเป็นอสูรน้อยตัวกลมขนฟูไปเสียแล้ว ยามเดินผ่านหรือบังเอิญพบเจออสูรบรรพกาลยังไม่คิดเหลือบแลสักนิด หากแต่ถ้าได้มองดูย่อมไม่คาดเดาความว่าอสูรทั้งสามจะมีตัวใดตัวหนึ่งเป็นตัวที่พวกเขาตามหาอยู่
แต่ละที่นั้นครอบครองอสูรไม่เหมือนกัน ดังนั้นต่างคนต่างตามหาเผ่าพันธ์ที่แตกต่าง กว่าจะทราบว่าพื้นพิภพนี้มีชนชั้นบรรพกาลก่อกำเนิดถึงสามเผ่าพันธ์เวลาก็ล่วงเลยไปหลายเดือนแล้ว และก็เป็นเช่นเคยแม้พวกเขาจะบังเอิญพบเจออสูรขนปุยทั้งสามที่วิ่งเตะขาวาดแขนใส่กันรอบตัวแม่นางน้อยผู้หนึ่งจะเป็นอสูรบรรพกาลทั้งสามนั้น
ราชาทั้งสองและราชินีวิหควายุย่อมต้องมีความสามารถในการเก็บกลิ่นอายตนเองมิให้ผู้ใดทราบได้ว่าพวกเขาเป็นใคร เนื่องด้วยแม่นางน้อยยังเด็กนักและพลังยุทธ์ก็ยังไม่มาก ดังนั้นหากเจอศัตรูที่น่ากลัวสามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้นางย่อมไม่สามารถปกป้องตนเองหรือพวกเขาได้ ฉะนั้นแล้วย่อมต้องเป็นพวกเขาที่ต้องระมัดระวังตัวเองไว้ ยามพบเจอสัตว์อสูรที่มีสายเลือดของตนก็จะให้พวกมันไปแพร่กระจายข่าวบอกต่อๆกันไป ให้ไม่ต้องแสดงความเคารพพวกเขาให้พวกมนุษย์สงสัยหาไม่แล้วแม้แต่ดวงจิตดวงวิญญาณพวกเขาก็ยึดจากมันตัวนั้นมาให้หมด
เช่นนี้เองเหล่าอสูรที่พบกับราชาทั้งสองและราชินีวิหควายุจึงไม่กล้าแสดงออกถึงตัวตนของพวกเขา ทำให้พวกเขาและแม่นางน้อยอยู่รอดปลอดภัยไม่ถูกเพ่งเล็ง
ทว่าสิ่งใดในโลกล้วนไม่สามารถเป็นไปดั่งใจเราต้องการทุกอย่าง
ขอโทษค่า มาช้า วันนี้พิมพ์ในมือถือไม่ค่อยถนัดเลยค่ะ ที่ทำงานหัวหน้าใหญ่เข้า ทำให้ใช้คอมเข้าเวปอื่นไม่ได้เดี๋ยวถูกดุ TT
พระเอกที่ถามหา ก็ท่านประมุขไงคะ อิอิ
คำผิดไว้จะตามแก้ให้นะคะ ต้องขอโทษที่ไม่ได้ตรวจทานให้ดีค่ะ ไม่มีสแปร์ตอนไว้ พิมพ์สดทุกวันที่ลงเลยไม่ค่อยได้อ่านทวนค่ะ ขอภัยด้วยนะคะ ส่วนหน้าแรกของเรื่องเดี๋ยวแก้เลยต่ะ น่าจะพิมพ์ไว้แล้วไปแทรกลำดับอื่นละลืมลบ ><
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
เย้ท่านประมุขจริงๆด้วย
สงสารพี่หวั่นเสียน
ดีใจมากๆ
สี่สิบกว่าตอน แทบไม่เจอช่วงน้ำช่วงเอื่อยๆเลย เยี่ยมยุทธมาก!!!
ในที่สุดพระเอกก็มาจริงๆ รอลุ้นมานานว่าใครกันแน่
ขอบคุณค่ะ สนุกลุ้นตลอด อสูรทั่ง3 น่ารัก น่าชังจริงๆ