ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [V] ทำความรู้จัก
วันที่ 1 กันยายน
วันแห่งการเปิดเทอมใหม่ของเหล่าพ่อมดแม่มดน้อยหลังจากได้รับจดหมายทางโรงเรียนเวทมนตร์ที่ดีที่สุดในกรุงลอนดอน อย่างโรงเรียนเวทมนต์ฮอกวอตส์ ด้วยอายุครบ 11 ปี ถึงจะได้รับการเข้าเรียน
ครอบครัวตระกูลแรดคลิฟได้เดินทางมาถึงสถานนีรถไฟคิงส์ครอสกันแล้ว
พวกเขายืนอยู่ภายในสถานีผู้ปกครองจัดระเบียบความเรียบร้อยให้กับลูก ๆ ของพวกเขา
" เตรียมของมาหมดแล้วใช่ไหมจ๊ะ ทั้งสองคน " ลีโอน่าไล่ถามลูก ๆ ทั้งสองคนถึงข้าวของที่ต้องเตรียมตัวไปอยู่โรงเรียนประจำ
" ผมเตรียมมาครบแล้วครับ... " ไอเรนัสตอบกลับด้วยท่าทางที่มั่นใจว่าไม่ลืมของอะไรทั้งนั้นแล้ว พร้อมฉีกรอยยิ้มร่าเริงติดน่าหมั่นไส้นิดหน่อย
" หนูก็เตรียมมาหมดแล้วเหมือนกันค่ะ... " คาเรนก็ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจเช่นกัน
ลีโอน่าได้รับคำตอบจากลูก ๆ ทั้งสอง คนเป็นแม่ก็ยิ้มภูมิใจให้กับทั้งสองที่โตขึ้นมากพอรับผิดชอบอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แล้ว
พ่อกับแม่พากันเดินนำให้ ไอเรนัสกับคาเรนเดินตามพร้อมเข็นรถสัมภาระที่เตรียมมา ตามไปด้วย
จังหวะที่มาเช้ากว่ากำหนดเวลารถไฟจะออก ไอเรนัสจู่ ๆก็พูดตามนิสัยตามประสาเด็กไม่อยากตื่นเช้าไปโรงเรียน
" มากันตั้งแต่เช้า เวลาขึ้นรถไฟก็เหลือเฟื่อ ทำไมต้องลุกจากที่นอนนุ่ม ๆ ด้วยละครับแม่ " ไอเรนัสพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ว่าจะโดนผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าทำตาดุใส่หลังจากพูดแบบนั้นออกไป
" ข...ขอโทษครับ " ไอเรนัสถึงกับเงียบที่โดนแม่ทำตาดุใส่แบบนั้นแล้วเข็นรถสัมภาระของส่วนตัวตามไปแบบหง่อย ๆ
คาเรนส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจกับผู้เป็นพี่ชายแล้วเข็นรถสัมภาระตามไปแบบเงียบ ๆ
เหล่ามักเกิ้ลมากมายหรืออาจจะมีผู้วิเศษอย่างพ่อมดแม่มดปะปนอยู่ในนั้นด้วย ต่างพากันขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ไหนซักแห่งของแต่ละชานชาลา
ในระหว่างพวกเขารีบเดินตรงไปที่กำแพงหนึ่งระหว่างชานชาลาที่เก้ากับสิบผู้ใหญ่หยุดเดินตรงหน้ากำแพงนั้นแล้วหันมาทางลูกของพวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ และตื่นเต้นกับการที่ลูกสาวคนเล็กของตระกูล ได้เริ่มไปเรียนพร้อมกับลูกชายคนโตเสียที
" ไอเรนัสลูกเข้าไปก่อน... ทำเป็นตัวอย่างให้น้องดู " เสียงทุ้มเข้มของผู้เป็นพ่อบอกแก่ลูกชายคนโต ว่าให้แสดงตัวอย่างที่ดีต่อน้องสาว
ไอเรนัสตอบรับอย่างทะมัดทะแมงจับรถเข็นสัมภาระแน่นแล้วเข็นมันเข้าไปในกำแพงในทันทีไร้ความกลัวว่าขะชนเข้ากับกำแพงนั้น
ถ้าเหล่ามักเกิ้ลมาเห็นคงตกใจว่าบ้าหรือเปล่าที่เข็นรถสัมภาระเข้าหากำแพงแต่สำหรับผู้วิเศษพ่อมดแม่มดอย่างพวกเขาแล้วละก็...
มันทะลุเข้าไปข้างในด้วยเวทมนตร์วิเศษ
" ถึงตาลูกแล้วคาเรน... มันอาจทำใจลำบากแต่พ่อกับแม่ค่อยให้กำลังใจตรงนี้นะ " ลีโอน่าเข้าปลอบใจลูกสาวที่ดูลังเลกับการเข้าไปในกำแพงทะลุได้ถึงเป็นผู้วิเศษคงมีความกลัวอะไรแบบนี้บ้าง
คาเรนได้รับการเติมเต็มความรักจากครอบครัวใหม่ หญิงสาววัยกลางคน ภายในร่างเด็กวัย 11 ขวบ ที่ชีวิตเก่าไม่ได้มีความสุขกับครอบครัวมากเท่านี้มาก่อน
คงให้ความรู้แปลก ๆ พอควร มันทั้งมีความอบอุ่น และความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ทำให้ตัดขาดได้ยาก หากที่จะต้องสูญเสียคนใดคนหนึ่งไปกับโลกเวทมนตร์แห่งนี้ คงเสียใจมาก ๆ พวกเขาดีทั้งคู่เลย
" ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ " คาเรนยิ้มให้พ่อแม่ที่ค่อยเป็นกำลังใจให้กับเธอ
เธอหันไปจ้องมองกำแพงทะลุได้อย่างแน่วแน่แล้วเข็นรถสัมภาระเข้าไปในทันที
.
.
.
.
.
ปุ๊น!!!
เสียงรถไฟดังสนั่นพร้อมเหล่าเสียงพูดคุยของผู้วิเศษทั้งหลายที่มีทั้งพ่อมดแม่มดสายเลือดบริสุทธิ์ เลือดผสม มักเกิ้ลบอร์น หรือ เลือดผสม แน่นอนว่าใน
รั้วฮอกวอตส์มีสายเลือดหลากหลายประปนกันทั่วไม่มีแค่เพียงสายเลือดบริสุทธิ์เพียงอย่างเดียว
ยุคสมัยนี้การเยียดสายเลือดมีกันมาก ไม่เหมือนยุคสมัยสงครามของกรินเดลวัลด์ ที่ฮอกวอตส์นั้นทั้งสี่บ้านกับสายเลือดมีเยียดกันบ้างแต่ไม่แรงเท่ายุคปัจจุบันนี้แน่ ๆ
" ดูแลตัวเองกันด้วยนะ " พ่อแม่ตามเข้าที่หลัง เข้าไปหอมแก้มลูกชาย ลูกสาวด้วยความคิดถึงหาที่ต้องจากอ้อมอกพ่อแม่ไปอยู่โรงเรียนประจำกันทั้งสองคน
กาลเวลาไปเร็วจนให้คนเป็นพ่อแม่ใจหายว่าลูก ๆ ของพวกเขานั้นโตเร็วกันไปหรือเปล่า ?
ทั้ง ๆ ที่เฝ้ามองมาตั้งแต่แรกเกิดจนโตพวกเขาก็คงยังเป็นเด็กตัวน้อย ๆ ในสายตากันอยู่เลย
" ไอเรนัส... ดูแลน้องดี ๆ ละ "
" ครับพ่อ ผมจะดูแลคาเรนเป็นอย่างดีเลยครับ... อ่อ... แล้วถ้าหากคาเรนอยู่คนละบ้านกับผมยังดูแลได้อยู่ใช่ไหมฮะ ? "
" ได้สิ... ไม่ว่าพวกลูกจะอยู่บ้านไหน ก็ต้องดูแลซึ่งกันและกัน... " ลีโอน่าโอบกอดลูกของเธอทั้งสองพร้อมคำสอนก่อนขึ้นรถไฟไป
คาเรนกอดแล้วซบหน้าลงกับไหล่ของแม่รับความอบอุ่นถูกส่งมาจนไม่อยากจะผละออกแล้วจากแม่ไป
แต่ก็จำเป็นต้องออกมาเพื่อที่จะต้องเดินทางไปยังฮอกวอตส์
ทั้งสองพี่น้องตระกูลแรดคลิฟอ่ำลาพ่อแม่เสร็จกันเรียบร้อยดี
แล้วนำสัมภาระจำเป็นขึ้นรถไฟไปแล้วแยกทางกันไปหาตู้ที่นั่งว่างกัน
คนพี่ไปนั่งด้วยกับเพื่อนของเขาตรงตู้ข้างหน้าหน่อย
คาเรนยกสัมภาระพร้อมมองหาตู้ที่นั่งว่าง ๆ ไร้คนนั่งแต่ที่เดินมาช่วงหัวรถไฟก็เต็มกันหมด เธอค่อย ๆ เดินมาช่วงเกือบท้ายรถไฟก็เริ่มมีตู้ว่างกับตู้ที่มีคนนั่งน้อย
แล้วเธอไปสะดุดตาอยู่ตู้รถไฟห้องหนึ่งที่มีคนข้างในที่เธอทำความรู้จักที่ตรอกไดแอกอนแหล่งซื้ออุปกรณ์การเรียนของนักเรียนฮอกวอตส์
ที่นั่งฝั่งตรงข้ามเหมือนจะมีเพื่อนอีกคนนั่งอยู่ด้วย เขามีสีผิวเข้มกับผมสีดำกำลังนั่งคุยบางอย่างกันอยู่
แล้วหันมาทางประตูสังเกตเห็นคาเรนที่ยืนหน้าประตูอยู่
ก๊อกๆๆ!!! ครืน~~!
คาเรนรักษามารยาทเคาะประตูก่อนจะเลื่อนเปิดประตูตู้อย่างเรียบง่าย กวาดสายตามองทั้งห้องพร้อมถาม
" ที่นั่งว่างพอให้ฉันนั่งด้วยไหม ? " เธอเอ่ยเสียงราบเรียบไร้อามรณ์ทั้งสิ้น แตกต่างเวลาอยู่กับพ่อแม่ พี่ ที่มักจะยิ้มน้อย พูดหวาน ๆ อย่างเป็นธรรมชาติเพราะพวกเขาคือครอบครัว แต่หากเป็นคนที่พึ่งรู้จกใหม่คงต้องเก็บนิสัยนั้นไว้
" แรดคลิฟ... มานั่งสิ " แฮร์ริสันเห็นว่าเป็นคาเรนเลยเรียกให้มานั่งด้วยกันกับพวกเขา
คาเรนพยักหน้าตอบกลับ เดินเข้าไปนั่งตรงกันข้ามกับเด็กชายผิวเข้ม และเอาสัมภาระวางไว้ไม่ให้เกะกะทางเดินเข้าออก
" ฉันเบสส ซาบินี่ " เบสสเริ่มแนะนำตัวเองและยื่นมือมาทางคาเรนเพื่อทำความรู้จักกัน
" ฉันรู้จักนาย.. แต่ก็คาเรน แรดคลิฟ " เธอจับมือทำความรู้จักกับเบสสพร้อมเขย่ามันเพียงเล็กน้อยแล้วผละออก
" เรานึกว่าเธอจะไปนั่งอีกตู้แล้วซะอีก " แฮร์ริสันพูดขึ้น
" ตอนแรกก็อยากไปนั่งตู้ว่าง.. แต่เห็นพวกนายอยู่ตู้นี้เลยมานะ " คาเรนตอบกลับไป
ทั้งสามเด็กชายในตู้รถไฟต่างพากันถามทำความรู้จักกันปล่อยให้เด็กสาวนั่งฟังพวกเขาคุยกันอยู่แบบนั้น
จนรถไฟออกเดินทางไปมากกว่าครึ่งทางแล้ว เบสสนึกถามเรื่องบ้านที่จะเข้าในฮอกวอตส์กัน
" พวกนายคิดว่าจะได้อยู่บ้านไหนกัน.. ของฉันคงสลิธีริน " เบสสตอบด้วยความมั่นใจ มุมมองของคนเราหากมองเด็กบ้านสลิธีรินคงเป็นตัวร้าย เจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ จิตใจปากคอร้าย จริง ๆ พวกเขาก็แค่เด็กที่ค่อย ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เหล่าผู้ใหญ่ต้องการจะให้เป็น
เหมือนอย่างเดรโก มัลฟอยที่ถูกสั่งสอนให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
" ฉันคงเหมือนพ่อกับแม่ กริฟฟินดอร์นะ... " แฮร์ริสันตอบ
แฮร์ริสัน พอตเตอร์คงจะได้อยู่กริฟฟินดอร์คงจะถูกทั้งนิสัยแล้ว เหมือนกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ทุกอย่างยกเว้นสีผมที่ไม่ใช่น้ำตาล เป็นสีแดงเหมือนกับแม่ของเขา
" ฉ...ฉันอาจจะสลิธีรินเหมือนกันกับซาบินี่ " เดอร์เมทตอบด้วยความไม่มั่นใจ นิสัยเขาดูไม่เหมือนคุณหนูเอาแต่ใจ แต่ดูจะขี้กลัว ขี้อายซะมากกว่า หน้าตาเหมือนคนพ่อและเดรโก
แต่อาจจะได้อยู่สลิธีรินก็ได้ที่เห็นอาจจะแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ข้างในใครจะรู้ว่าอาจร้ายกว่าที่คิด
" แล้วแรดคลิฟละ... "
" ฉันเหรอ.. อื้อ~ไม่มั่นใจว่าจะได้อยู่บ้านไหนคงสลิธีรินละมั้ง " คาเรนตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ ยังไงเธอก็ได้ไปที่ฮอกวอตส์แล้วลุ้นเอาว่าจะได้อยู่บ้านไหน
ลุ้นกว่าตั้งเยอะจริง ๆ...
" ฉันกริฟฟินดอร์คนเดียวเหรอเนี่ย... " แฮร์ริสันหง่อยที่เพื่อนในตู้นี้ไม่มีใครอยู่บ้านเดียวกันกับพวกเขา
" สลิธีรินกับกริฟฟินดอร์เป็นศัตรูกันมานานแล้วนี่น่าจากที่พ่อแม่เล่า ๆ มา... " เบสสทำท่าทางเท้าคางนึกคิดสิ่งที่พ่อแม่ของพวกเขาสั่งสอนมากัน
" ก็เป็นเพื่อนกันได้อยู่ไม่ใช่ไงถึงจะคนละบ้านก็ตาม... " คาเรนตอบออกไปอย่างใจนึกคิด
เป็นโลกคู่ขนานแต่ถ้าเปลี่ยนบางอย่างหรือเธอเดินทางในเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งคงมีเรื่องแปลก ๆ เข้ามา
แต่ตอนนี้คงจะไม่มีอะไรหรอกละมั้ง
ทั้งสามเด็กชายพากันพยักหน้าเข้าใจสิ่งที่คาเรนพูด แล้วพากันพูดคุยกันแลกเปลี่ยนทั้งเรื่องทั่วไป เรื่องที่พวกผู้ชายสนใจกันอย่างควิดดิช กีฬาของโลกเวทมนตร์ที่เหล่าทั้งพ่อมดแม่มดสนใจกัน
คาเรนหยุดพูดคุยกับเหล่าเพื่อนใหม่แล้วหันหน้าออกไปทางหน้าต่างของรถไฟเพื่อดูวิวด้านนอก พร้อมถอนหายใจว่าเหตุการณ์ข้างหน้านั้นจะมีเหตุการณ์อะไรกำลังรอการไปถึงของเธอบ้าง ?
Talk To Me
สวัสดีเราไรท์เอง มิตรภาพน้อย ๆ ของเหล่าเด็ก ๆ (รูปร่างเด็กภายในผู้ใหญ่)
จะยอมรับง่าย ๆ ไหมน่า ก็รออ่านกันต่อไป
หากผิดพลาดอะไรยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะ
การสปอยแต่ละครั้งจะมีเนื้อหาเอามาบางส่วนนะ
ยังไงก็คอมเมนต์ใต้ล่างได้เลยนะ
Spoiler
[V] สลิธีริน
" แฮร์ริสัน พอตเตอร์ ครอบครัวเธอที่ถูกโศกนาฏกรรมจากคนที่รู้ว่าใคร ใช่ไหม? "
" ช...ใช่ แต่พวกเรารอดมาได้นะ จากที่พ่อแม่บอกเรามานะ "
" โอ้!~~ยินดีที่ได้เจอกันอีกนายหญิง "
" ครั้งนี้จะไปบ้านใดดีขอรับหรือจะอยู่บ้านเดิมของท่านดี "
" สลิธีริน!!! "
แก้ไขคำ 21 กุมพาพันธ์ 2563
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น