คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [I] ฮิกังบานะผู้พิพากษาดวงวิญญาณ
แสงดวงตะวันสาดส่องในฤดูหนาวเหน็บ เหล่าบรรดาสัตว์บางตัวต่างพากันหลับจำศีลในฤดู บางตัวออกล่าหาเหยื่อแสนอันน้อยนิด
กับสภาพอากาศหนาวเย็น ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดก้อนละอองหิมะเล็ก ๆ ลอยตกลงมาสู่พื้นดิน
พืชพันธุ์ บุษผา จมไปกับเหล่ากองหิมะขาว แต่กลับมีเพียงบุษผาหนึ่งที่ไม่หายเคยจมหายไปเหมือนเหล่าบุษผาอื่น ๆ
บุษผาสีชาดดั่งเลือดตั้งสง่า ณ ศาลเจ้าร้างไม่หายไปไหน ' ฮิกังบานะ ' ยังคงเริงระบำไปกับสายลมหนาวของฤดู
ศาลเจ้าร้าง ฟุพังไม่เหลือชิ้นดียากเกินกว่าเข้าไปอาศัยพักผ่อนได้ แต่ก็ไม่สำหรับผู้อาศัยใหม่ที่เป็นเจ้าของบุษผาแห่งความตาย
แต่ตอนนี้ไร้ผู้อาศัยนั้น..
.
.
.
.
.
บนยอดเขาลูกหนึ่งมีกระท่อมหลังเก่า มีเหล่าคนอาศัยอยู่กันเป็นครอบครัว ผู้ใหญ่ 1 คนดูแลเหล่าเด็ก ๆ อีก 6 คน
เด็กชายเหมือนจะเป็นพี่คนโตของบ้าน เรือนผม ดวงตาสีแดงไวน์ ใบหน้าเยาว์วัย ใส่ชุดหนาเตอะสร้างความอบอุ่นกับสภาพอากาศที่เย็นยะเยือกของฤดู
บนหลังของเขาแบกกระเช้าที่ข้างในเต็มไปด้วยถ่านดำเพื่อนำเอาไปขายในเมืองด้านล่าง
ฟืด ฟืด
" หื้ม.. ? " เด็กชายได้ใช้จมูกฟุดฟิดสูดกลิ่นอากาศลมหนาวเข้าไปในปอดถึงไอเย็นยามสูดเข้าไปมันมักจะแสบ แต่ครั้งนี้เหมือนกลับได้กลิ่นอีกอย่างที่ปนมาด้วยกับไอเย็นแทน
มันเหมือนกลิ่นสาปที่ไม่ควรสูดดมเข้าไปเท่าไรนัก เด็กชายสงสัยกลิ่นแปลก ๆ ไม่ได้นานก็ถูกผู้เป็นมารดาเรียก
สร้างความสนใจให้หันไปเช็ดใบหน้าเปื้อนถ่านดำ พร้อมใบหน้าเป็นห่วง
กายาดุจดั่งสีชาดแอบอยู่ห่างไกลจากภูเขาลูกนั้น เฝ้ามองการกระทำของเหล่ามนุษย์กระท่อมเก่า ๆ หลังนั้น
" ช่างเป็นเด็กมนุษย์มิรู้จักอันตรายเสียจริงเลยนะ.. " ชายผู้เฝ้ามองยังพื้นที่ห่างไกลจากกระท่อมบ้านหลังนั้นพอสมควร
เด็กชายมนุษย์คนนั้นจะจมูกดีเป็นพิเศษการเข้าไปใกล้ในระดับจมูกของมนุษย์ปกติไม่ได้
ทั้ง ๆ ที่เขาหลบเกาะอยู่หลังต้นไม้ใหญ่เต็มไปด้วยกองหิมะขาวบริสุทธิ์เพื่อทั้งไม่ให้เหล่ามนุษย์รับรู้ตัวตนและกลบกลิ่นอายตนเอง
ไม่เช่นนั้น...
คงมีเรื่องเลวร้ายเกินขึ้นเป็นแน่
มารดาของเด็กมนุษย์คนนั้นเช็ดใบหน้าเปื้อนถ่านดำออก มีเหล่าพี่น้องออกมาหาอยากและอยากที่จะติดตามเด็กคนนั้นไปด้วย
กายาใหญ่ในชุดยูกาตะสีแดงชาดเฝ้ามองจนเด็กชายคนนั้นเดินลาลับจากที่อยู่อาศัยของเขาไป
มุ่งหน้าไปยังในเมืองเพื่อจะค้าขายถ่านและช่วยเหลือเหล่ามนุษย์พวกนั้น
ไม่จำเป็นต้องตามเด็กคนนั้นไป
' กลิ่นพวกอสูร... ' ชายหนุ่มนั้นสูดกลิ่นต้องการกลิ่นชื่นของหิมะแต่กลับได้กลิ่นของอสูรแทน เพียงตนนี้กลิ่นอายอสูรแรงเอามาก
เขาทำเพียงเฝ้ามองมันไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่ต้องช่วยเหลือเหล่ามนุษย์ให้มีชีวิตรอดเท่าไร
" เกลียดชะมัด.. " น้ำเสียงเข้มราบเรียบเอ่ยสบถตนเอง กับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ชายหนุ่มนั้นเป็นภูติไร้กล่าวขานตำนาน ยกเว้นเหล่าบัดดาลผู้พบเห็นหรือได้รับการกล่าวขานในหมู่ผู้เฒ่าผู้แก่เท่านั้น
ซึ่งเรียกตำนานของภูติหนุ่มนั้นคือ ฮิกังบานะผู้พิพากษาดวงวิญญาณ ภูติหนุ่มถูกกล่าวขานเช่นนั้น
เวลาผ่านไปจนพบค่ำเด็กชายคนนั้นก็ยังคงไม่กลับมาที่กระท่อม
โศกนาฏกรรมในกระท่อม ได้ถูกเฝ้ามองโดยภูติหนุ่มไร้การยุ่งเกี่ยวทั้งสิ้น การนองเลือดสาดกระเส็นเต็มในเรือน บนพื้นหิมะขาวนองด้วยน้ำสีแดงชาดของเหล่าผู้ใหญ่และเด็ก
" .... " ภูติหนุ่มยังคงเฝ้าจนรุ่งสางของอีกวันโดยไร้การนอนพักผ่อน
เด็กชายได้กลับมายังกระท่อมบ้านของเขา ตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่บาดลึกเข้าไปในจิตใจเกี่ยวกับครอบครัวของเขาที่ถูกนองไปด้วยเลือด
ตะโกนเรียกขานคนในบ้านอย่างบ้าคลั่งเพื่อค้นหาคนที่ยังมีลมหายใจ
เหมือนจะเหลือรอดคนหนึ่งเป็นเด็กหญิงที่ค่อยดูแลเหล่าเด็กน้อยแทนพี่คนโต แบกขึ้นหลังแล้วพาลงจากภูเขาไป
ดวงวิญญาณเหล่านี้ปรากฏตัวให้ภูติหนุ่มได้เห็น พวกเขามีสีหน้าเศร้าต้องปล่อยคนที่เหลือรอดไว้เพียงลำพัง
เขามองใบหน้าเหล่านั้นพร้อมถอนหายใจ หากดวงวิญญาณมีห่วงอยู่กับคนที่มีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่สามารถนำทางพวกเขาไปยังที่ ๆ ควรไป
" ยังห่วงอยู่เช่นนั้นรึ ? " เสียงเข้มเอ่ยถาม
" ข้าอยากจะติดตามลูกข้าไป ท่าน... "
" ฮิกังบานะผู้พิพากษาดวงวิญญาณ... พวกเจ้ายังมีห่วงข้ามิอาจนำพาไปได้ " ร่างสูงใหญ่ทำได้เพียงชายตามองเหล่าดวงวิญญาณทั้งหมดด้วยความระอา
อยากนำพาดวงวิญญาณนั้นไปส่งที่ ๆ ควรอยู่แต่หากมีห่วงอยู่ ก็ไม่อาจสามารถทำอะไรได้
" ท่านผู้พิพากษา... ได้โปรดขอให้พวกข้าได้ติดตามไปเถิด " มารดาร้องขอผู้พิพากษาด้วยความอ้อนวอน ภูติหนุ่มถึงจะเกลียดมนุษย์ยังไง
ตอนนี้พวกเขาก็คือดวงวิญญาณเร่ร่อนที่ถูกตราตรึงด้วยห่วงภายใต้จิตสำนึกที่ยังหลงเหลืออยู่
" ได้... " และต้องเป็นคำตอบที่เขาต้องให้
ดวงวิญญาณทั้งหมดพากันขอบคุณเขากันพักใหญ่ ก่อนพวกเขาจะพากันไปหาเด็กชายกับเด็กสาว
กายาสีแดงชาดมองจนลับไปไกล ใบหน้าคมเงยหน้ามองท้องฟ้ามีก้อนเมฆหนาเกาะกันเป็นก้อน
พร้อมเกล็ดหิมะขาวค่อย ๆ โรยลงมาสู่พื้น
" อา~~เป็นฤดูกาลที่หนาวเหน็บเสียจริง "
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนรอบตัวเขาจะเปล่งประกายสีแดงชาดก่อนจะหายไปพร้อมดอกฮิกังบานะเต็มพื้นบริเวณนั้นแล้วแห้งเหี่ยวมลายหายไป
TALK TO ME
สวัสดีจ๊ะทุกคนครั้งนี้แต่งออกมาช้ามากกกกกกก แต่ก็ไม่ดองนะะ เนื้อหาอาจจะบรรยายไม่ค่อยเข้าใจแต่จะพยายามปรับปรุงหรือเป็นไปได้คงอาจจะมีการรี แต่ยังคงไม่ใช่ตอนนี้
ยังไงก็ขอให้สนุกนะจ๊ะ
ความคิดเห็น