ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยุทธการเปลี่ยนประวัติศาตร์ของสองผู้อาภัพ

    ลำดับตอนที่ #6 : W@L2 0l: Bi:GinNiNg

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 982
      111
      23 เม.ย. 64

    พระราชวัง บัคกิงค์แฮม ลอนดอน 

    ยามเย็นที่อาทิตย์ลับขอบฟ้าไป แสงไฟริบหรี่ตามถนนนหนทาง ราชวังบังค์กิงค์แฮมกำลังครึกครื้นกับงานเลี้ยง งานสรรสรังค์ สนุกสนานกับงานเต้นรำอันเป็นวัฒณธรรมของพวกเขา 

    “ครึกครื้นน่าดูเลยแหะ”ซิการด์กล่าวขณะมองงานเต้นรำอย่างเบื่อหน่าย เช่นเดียวกับวิกตอเรียที่ยืนอยู่ข้างๆ ซิการด์อยู่ในชุด สีดำในชั้นนอก ชุดสีขาวในชั้นใน กางเกงสีดำสนิท 

    “ก็แหงละคะ มีแค่เราที่ไม่ยอมไปสนุกกับเขานี้แหละ”วิกตอเรียกล่าวพร้อมอยู่ในช่วงอารมณ์เดียวกับซิการด์ วิกตอเรียในชุด เดรสกระโปรงยาว สีฟ้า เส้นผมบลอนด์รวบเป็นจุกไว้ด้านหลัง เธอมองงานเต้นรำที่เหล่าบรรดาขุนนางต่างพากันยัดเยียด ลูกชายหรือลูกสาวตนให้กับบุตรหลานของขุนนางคนอื่น 

    “ก็ใครมันจะไปสนุกได้ละ ยืนคุยกับเธอยังสนุกกว่าเลย”

    “ฮะๆ อย่าพูดอะไรตลกๆแบบนั้นสิคะ บางทีนั่งเงียบๆอยู่ตรงนี้อาจจะเป็นการดีกว่าสำหรับเราก็ได้นะ”

    “โธ่ก็แหงนะสิ ไปใจกลางที พวกขุนนางก็กรู่เข้ามาพร้อมกันแน่ๆ แย่ชะมัดว่าไหม”

    “แบบนั้นใครๆก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ น่าขนลุกชะมัด”

    “แต่นั่งแบบนี้ก็น่าเบื่อนะ”

    “หาอะไรเล่นไหมคะ ไหนๆตรงริมระเบียงวังแบบนี้มันไม่มีใครมาเดินดูหรอกคะ”ความจริงที่ว่า งานเลี้ยงตอนรับคณะราชทูตจากปรัสเซียเนี้ยเป็นเพื่อความผ่อนคลายของคณะทูต แต่ไอ้แบบนี้มันก็ไม่ต่างกับงานหาคู่ให้ท่านลูกสาวลูกชายของ่านขุนนางอยู่ดีนะเนี้ย 

    “น่าสนใจดีๆ ฉันว่าเธอเลิกใช้คำลงท้านว่าคะจะดีไหม”

    “ก็นะ มันไม่ค่อยถนัดอะนะ แต่ก็พอพูดได้แหละคะ”

    “นั้นไงพูดคะอีกแล้ว”

    “โถ่ๆๆๆ ก็บอกว่าไม่ถนัดไง! ก็ขอใช้คำแบบนี้ไปละกันนะ ไม่ว่ากันนะ”วิกตอเรีย พองแก้มอย่างน่ารักไม่รู้ว่าทำไมเราถึงทำแบบนั้น แบบนี้แสดงว่าฮอร์โมนเริ่มทำงานแล้ว เห็นทีตอนวัยรุ่นคงจะวายปวงกว่านี้แน่เลย 

    “ฮะๆๆ ได้ๆๆๆ”เอ่ แปลกแหะรู้สึกคุ้นเคยกับเธอคนนี้แปลกๆ คุยแล้วสนุกชะมัด 

    “หมากรุกไหมละคะ”แปลกจริง ไม่ใช่ผลของฮอร์โมนด้วบความรู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด นี้มันไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆ 

    “ก็ดีนะ เบื่อๆอยู่เหมือนกัน”พูดจบเขาก็จัดท่านั่งของตนให้เรียบร้อยก่อนที่ วิกตอเรียจะเดินไปนำกระดานหมากรุกที่วางอยู่ไก้ลๆพอดี เธอนำมันมาวางไว้ตรงกลางของทั้งสอง และเริ่มจัดหมากให้เรียบร้อย 

    “ขอถามหน่อยได้ไหมซิการด์”วิกตอเรียพูดขึ้นขณะเริ่มเดินเบี้ยตรงหน้าม้าไปก่อน 

    “หืม มีอะไรละ ว่ามาสิ”ซิการด์ตอบพร้อมเดินหมากของตนไปเผชิญหน้ากับของวิกตอเรีย 

    “ที่ปรัสเซียนะเป็นยังไงบ้าง”วิกตอเรียเดินหมากตรงหน้าคิงออกไปหนึ่งช่อง 

    “ถ้าจะบอกว่าผู้คนกินดีอยู่ดี มีความสุขในการใช้ชีวิตและขุนนางปกครองอย่างเป็นธรรมเนี้ยเธอก็คงไม่เชื่อใช่ไหมละ”ซิการด์เลื่อนบิชชอบออกไปที่  A6 

    “ก็แน่ละ ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงตัวน้อยที่นายจะหลอกได้หนิ”วิกตอเรียพูดพร้อมเลื่อนม้าไป A3 

    “ฉันก็กะไว้อยู่แล้วละ ว่าเธอจะตอบแบบนี้”ซิการด์เดิน หมากตรงหน้าควีนออก1ช่อง 

    “แล้วรู้ไหมที่ฉันชวญนายมาเล่นหมากรุกเพื่ออะไร”พูดจบเธอก็เดินหมากตรงหน้าควีนออกมาหนึ่ช่อง 

    “หรอ งั้นก็ดีเรามาคุยอะไรสนุกๆกันระหว่างเล่นดีกว่านะ”ซิการด์เดินม้าออกจากตำแหน่งไปที่ H6 

    “ก็ได้คะ งั้นเริ่มเลยนะ”วิกตอเรียเดินเบี้ยตรงหน้าบิชชอบไปสองตำแหน่ง 

     

     

     

     

     

    ซิการด์ถอยบิชชอบออกไปยังB7 

    วิกตอเรียเดิน เบี้ยกิน เบี้ยของซิกการด์ที่B5 

    ซิการด์เดินม้ามาที่c6 

    วิกตอเรียเดินม้ามาC4 

    ซิการด์เดินม้าตนมากินเบี้ยที่B4 

    วิกตอเรียเดินเบี้นตรงหน้าเรือมาหนึ่งช่อง 

    เบี้ยสองตัว และม้าตัวหนึ่งประกบที่ม้าของซิการด์ เขาจึงถอนม้าของเขาออกมาที่A6ตามเดิม 

    “นี้ เธอคิดว่าเราสองคนสามารถทำให้ประชาชนอิ่มท้องได้ไหม”วิกตอเรียเดินเบี้ยตรงH2 ไปยัง H4 

    “ได้สิ พวกเราทำได้”ซิการด์เดินเบี้ยมาที่G5 

    “นายพูดแบบนี้กับผู้หญิงที่เจอกันครั้งแรกหรอ”วิกตอเรียเดินควีนไปB3 

    “ไม่หรอก เท่าที่เล่นมา3เกมฉันก็รู้แล้วหละเธอเป็นคนยังไง แปลกกับผู้หญิงทุกคนที่ฉันเคยเจอเลยละ”ซิการด์ มองกระดานสักครู่ก่อนจะเดินเบี้ยไปC6 

    “เหรอ นี้ก็3เกมแล้วสินะ เร็วจังแหะ”วิกตอเรียจับคิงเขี่ยๆเพียงครู่เดียวเธอก็เดินควีนไปA4  

    “โอ้แย่ละ งานเต้นรำเริ่มแล้ว พวกนั้นคงสงสัยเราแย่เลยถ้าเราหายไปแบบนี้”พูดเสร็จเขาก็ลุกขึ้นมองดู ประตูด้านหลังที่ปิดอยู่ 

    “ใครสนละ เล่นต่อไหม”วิกตอเรียยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตามเดิม พร้อมมองกระดานอย่างเบื่อหน่าย เพราะว่าพวกเขาเล่นกันมา3เกม ที่เสมอทั้งสามตา รู้การตัดสินใจของคนตรงหน้าทั้งหมดแล้ว เหมือนว่าการเล่นเพียงครั้งเดียวมันทำให้รู้ไส้รู้พุงการตัดสินใจของทั้งสองคน 

    “เล่นไปอีกกี่ตาก็เสมอ เบื่อแล้วละเต้นรำไหม?”พูดเสร็จซิการด์ก็ลุกขึ้นพร้อมเก็บหมากบนกระดานของตน 

    “งั้นเหรอ ก็ได้ ไม่รู้จะเต้นกับใครเหมือนกันไปข้างล่างก็คงโดนจับบังคับเต้นกับใครก็ไม่รู้ ตรงนี้เลยไหม”วิกตอเรียเก็บกระดานหมากของตนให้เรียบร้อย ก่อนจะเก็บมันไว้และจัดกระโปรงของตนให้เรียบร้อย 

    ดวงจันทธ์ส่องแสงเต็มระดับอัตรา สว่างอันสร้างบรรยกาศอันดีให้ทั้งสอง การเต้นรำดำเนินไปอย่างต่อเนื่องทั้งคู่เต้นไปพร้อมๆกันโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ไม่มีใครสั่งมา ทั้งคู่ตัดสินใจทำเรื่องแบบนี้ด้วยตนเอง เด็กอายุ5ขวบในสายตาคือผู้ใหญ่อายุ16ที่มีระดับความคิดสูง ทั้งคู่กลับเผลอตัวปล่อยความรู้สึกออกมาโดยที่ไม่รู้ว่ตรงหน้าคือคนที่พวกเขาโหยหามากที่สุด 

    ใบหน้าของวิกตอเรียแดงฉานจากเลือดที่สูบฉีด ฮอร์โมนเพศหญิงในวัยเด็กหลั่งออกมา จนมันอาจจะทำให้เขาลืมไปแล้วว่าตนเคยเป็นผู้ชายไม่ลังเลที่จะตกหลุมรักหรืออะไรที่เป็นเพศเดียวกับชาติที่แล้ว จิตใต้สำนึกก็ไม่สามารถทนต่อฮอร์โมนได้ ร่างกายเริ่มจะตอบสนองต่อฮอร์โมนมากขึ้น ใบหน้าแดงเขินอายอย่างน่ารักน่ากอด จนทำให้คู่เต้นรำของเธอสังเกตุได้ 

    “แหมๆองค์หญิง ท่านเขินอายก็น่ารักไปอีกแบบนะ”ซิการด์พูดหยอดไปหน่อย ตาม ทฤษฎีดีของคาซาโนว่า นี้น่าจะเป็นการสร้างความประทับใจได้สบายๆอยู่แล้ว ฉันชนะในการจีบ 

    “อึก”วิกตอเรียหลบตาอย่างเห็นได้ชัด ซิการด์แม้ภายนอกจะเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นแต่ภายในใจของเขาคือรยยิ้มจากวามสนุกที่ได้แกล้งหญิงสาวตัวน้อยตรงหน้า แต่ความรู้สึกประหลาดที่เกิดขึ้นมันเรียกว่าความรักได้ไหม ได้ แต่ความรู้สึกอีกแบบที่รู้สึกคือ ความคุ้นเคย เหมือนว่าเคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน คล้ายๆญานิสา ไม่หรอกอย่างไอ้หมอนั้นคงไม่กลายเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักขนาดนี้ได้หรอก 

    ใช่แล้วไอ้ความรู้สึกรักนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เราแพ้เสร็จกัน ตามหลักคัมภรีกามสูตรแล้ว ถ้าเราโตกว่านี้หน่อยก็เกมละนี้ เฮ่อ โชคดีไปที่ยังอายุน้อยอยู่ แต่ไอ้ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับเราเคยโดนมาก่อนจากอะไรสักอย่าง ดิเรกหรอ ไม่ใช่หรอกมั้งไอ้บ้านั้นมันจะกลายเป็นเจ้าชายขี้เก็กนี้ได้ยังไง 

    “พอเถอะ ฉันอายละ”วิกตอเรียกล่าวก่อนจะเลิกเต้นรำออกมาเพราะว่าทางซิการด์เขาเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน 

    “เอาเถอะขอโทษด้วยละกัน ที่ทำให้อาย ถึงจะอยู่กันสองคนก็เหอะ”ซิการด์กล่าวพร้อมกับหอบเฮือกใหญ่ 

    “ไม่เป็นไรหรอกก็สนุกดี”วิกตอเรียหอบออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองไปเบื้องล่างและได้ยินเสียงหัวเราะมาพร้อมกับเสียงด่าสถบบางย่าง  ทั้งสองมองหน้ากันครู่เดียวก่อนจะพยักหน้าพร้อมกันและวิ่งลงไปข้างล่างทันที 

     

     

     

     

     

     

     

     

    “นี้มันบ้าอะไรกัน”วิกตอเรียกล่าวอย่างตกอกตกใจ เด็กชายขุนนางชาวเยอรมันอายุมากกว่าพวกเขากับพวกเขากำลังโดนรุมทำร้ายจากเด็กชายขุนนางในรุ่นเดียวกันอยู่ 

    “เฮ้ยนั้น”ซิการด์กล่าวอย่างเป็นห่วง ก่อนจะมองไปทางกลุ่มขุนนางปรัสเซียที่ยืนหัวเราะชอบใจอยู่ ในขณะที่พ่อและแม่ของเด็กคนนี้ต่างก็โดนพวกขุนนางอีกลุ่มจับล็อคไว้ 

    “พวกท่านทำอะไรนะ”ซิการด์เดินเข้าไปใจกลางวงก่อนจะถามไปยังขุนนางที่อยู่ไก้ลที่สุด 

    “องค์ชายครับ เจ้าเด็กนั้นมันพยายามจะต่อย ลูกชายของท่าน ดยุคกริสเบริค์ครับ เลยโดนท่านลูกชายของดยุคซ้อมซะน้วมเลย ดูสิครับทำอะไรโง่เง่าจริง”ขุนนางคนนั้นเป็นคนที่โดนดันตำแหน่งโดยดยุคกริสเบริค์การที่เขาจะพูดชมฝ่ายที่ผิดให้เป็นถูก ก็สมควรจะเป็นแบบนั้น 

    เอาไงดี เอาไงดี เอาไงดี ถ้าเข้าไปช่วยละ จะกลายเป็นแบบแต่ก่อนไหม หรือแบบไหน ไม่สิเราไม่เข้าใจเลย ขามันไม่ขยับ ทำไม ทำไมละ ช่วยดีไหม หรือไม่ช่วยดี ซิการด์เหมือนเห็นภาพซ้อนทับ ตัวเองในอดีตที่เข้าไปช่วยญานิสา วิกตอเรียที่เห็นดังนั้นจึงเข้าไปแตะไหล่ มันทำให้เขาใจเย็นได้อย่างน่าประหลาดใจ 

    ซิการด์ถอนหายใจก่อนจะคลุมฮูตและเดินเข้าไปหาเด็กชายที่อายุมากกว่าเขาคนนั้น เขาตะโกนออกมาในภาษาเยอรมัน ก่อนจะเดินเข้าไปประจันหน้ากับเด็กชายที่เป็นลูกของดยุคคนนั้น 

    ในขณะที่เท้าของเด็กชายคนหนึ่งจะเตะไปทีหน้าของเด็กชายผู้ที่ถูกกระทำ ร่างของซิการด์ก็เดินมาบังและใช้มือปัดเท้านั้นออกไปทันที 

    “พวกท่านคิดจะทำอะไร นี้มันไม่ใช่งานเลี้ยงเล่นๆที่เบอร์ลินนะ”

    “อะไรของแก เห้ยๆดูแล้วไอนี้น่าจะเป็นแค่ขุนนางยศตํ่าๆวะ พ่อกับแม่ของแกก็คงจะเป็นแค่ขุนนางโง่ๆใช่ไหมละ หึ ให้พ่อกับแม่พวกแกมากราบเท้่าพ่อข้าสิ แล้วข้าจะทำเป็นไม่เห็นการกระทำในครั้งนี้”นํ้าเสียงการพูดสุดจองหองนั้น มันทำให้เขารู้สึกคันไม่คันมือแปลกๆ 

    “ท่านโปรดใจเย็นก่อนเถิดเรามาที่นี้เพื่อ เจริญความสัมพันธ์ทางการทูตนะ”

    “ใครสนละวะ พวกอังกฤษมันตํ่าเตี้ยเรื่อยดินกว่าเชื้อชาติของพวกเราอยู่แล้วเว้ย ทำไมต้องไปสนพวกมันด้วย”สิ้นคำพูดพ่อของเด็กน้อยคนนี้ที่เขาภูมิใจนัก ก็เบิกตาโฟลง เหล่าญาติผู้ใหญ่และขุนนางต่างก็จ้องเขม็งไปที่เด็กชายคนนี้ทันที แตไอ้เด็กปากดีนี้ก็ยังไม่รู้ตัว เขายังคงบรรยายถึงฐานะของพ่อเขาต่อไปพร้อมเหยีดหยามเหล่าขุนนางอังกฤษในบริเวณด้วย ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่เขามองเหล่าลูกของขุนนางทั้งหมดในงานตํ่ากว่าเขาหมด อาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่รู้ว่ามีสองคนในงานที่เป็นรัชทายาทด้วยละมั้ง 

    “เอ่ วิกตอเรียเขากล่าวถึงดินแดนของเธอนะ”

    “ฉันรู้แล้ว นายจัดการตามสบายเลย เดี้ยวจัดการด้านการแปลภาษาเอง”พูดเสร็จวิกตอเรียก็แปลคำพูดของเจ้าเด็กปากดีนี้เป็นภาษาอังกฤษแต่ความหมายไปตรงกันข้ามแทยเพื่อลดการเกิดความบาดหมางทางการเมือง 

    “อืม”เห็นทีต้องให้ท่านพ่อจัดคนให้ดีก่อนจะมาทำการทูตละไม่เป็นแบบนั้นแย่แน่ๆทูตเรามีแต่อะไรแบบนี้เหรอ เล่นเอาลูกมาด้วยนี้ไม่เกรงกลัวประเทศเราโดนทำลายเลยใช่ไหมนี้ 

    “ท่านดยุค กริสเบริก์ข้าขอโทษนะ”ชายร่างถ้วมผู้เป็นพ่อของเด็กชายจอมหองนั้นตกใจทันทีเช่นเดียวกับเหล่าขุนนางเยอรมันและอังกฤษทุกๆคนเมื่อซิการด์เปิดหน้าตาของเขาออก 

    “เจ้ากล้าดียังไงมาว่าพ่อข้าละ เจ้าหมิ่นซึ่งศักดิ์ของพ่อข้าและปรัสเซียของเราเหรอ”เด็กชายร่างอ้วนนั้นก่อนจะได้พูดต่อก็โดนขัดโดย เสียงอันเต็มไปด้วยบารมี จากเด็กชายที่เขาพึ่งด่าไปเมื่อกี้ เมื่อได้เห็นหน้าของเขา เด็กชายร่างอ้วนก็ถึงกับทรุดลงกับฟื้นทันที 

    “อะ อะ  องค์-”เขาล้มลงพร้อมตะเกียดตะกายไปหาพ่อของเขา แต่ทว่าเด็กทีตามเขามาทั้งสองคนไม่ได้ฟังเขาทั้งสองพุ่งตรงเข้ามาหมายจะทำร้าองค์รัชทายาททันที 

    แต่ก็โดนองค์ชายตรงหน้าจับข้อมืิอข้างไว้ทั้งสองคนก่อนจะประเคนเข่าให้คทางขวา และมอบหมัดที่ท้องให้คนทางซ้ายและโยนร่างทั้งสองของขุนนางที่เข้ามาหาเรื่องทิ้งไปกงอกับฟื้นทันที 

    “เจ้าไม่มีสิทธิ์เรียกข้าแบบนั้นหรอก ท่านดยุค ข้าขอโทษด้วยนะที่อาจจะลงมือแรงกับลูกชายของท่าน”

    “ได้เลยครับ องค์ชาย”เจ้าเด็กจองหองหันมามองพ่อของตนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยนํ้าตา ก่อนที่เขาจะโดนองค์ชายทีเขาพึ่งเหยีดหยามไปจับคอเสื้อขึ้นและตะคอกใส่หน้า 

    “เจ้าจงจำไว้ หากเจ้าทำแบบนี้อีก พ่อเจ้าจะโดนลดจากดยุคไปเป็นบารอน จงจำไว้ เมื่อวันนั้นมาถึงเจ้านั้นแหละจะต้องไปกราบเท้าพวกที่เจ้าเหยีดหยามไป เข้าใจไหม”ทันทีที่พูดตะคอกเสร็จก็ปล่อยร่างอ้วนเอาไว้ก่อนจะเดินไปดูอาการของเด็กชายที่โดนรุมทำร้ายไว้ว่าเป็นเช่นใดบ้าง 

    “เจ้าเป็นอะไรไหม”เด็กชายคนนั้นอายุมากกว่าข้า4ปี เขาเต็มไปด้วยรอยจากการถูกทำร้าย เขาที่เห็นดังนั้นก็กำลังจะทำความเคารพแต่ซิการด์ก็ห้ามไว้ก่อน 

    “ปล่อยหนูนะ ปล่อย บิสมารค์เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า”เสียงหญิงสาวในวัยเดียวกับชายที่บาดเจ็บ ได้ฝ่าวงเข้ามาจากการที่เธอโดนจับตัวเอาไว้ 

    “อ่าไม่เป็นไร อันนา”บิสมารค์พูดตอบเช่นนั้นแต่ปฏิกริยาของทั้งสอง คือ วิกตอเรีย และ ซิการด์คือค้างไปแล้ว 

     

    ใบหน้าของซิการด์ตรึงขึ้นทันที เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับบิสมารค์เร็วขนาดนี้ ช็อคและตกใจเป็นอย่างมาก 

    ในด้านของวิกตอเรียที่พยายามแปลจากภาษาเยอรมันที่เด็กปากเสียคนนั้นพูดเป็นภาษาอังกฤษในความหมายตรงกันข้าม ทำให้ไขข้อสงสัยของเหล่าขุนนางฝั่งอังกฤษไปได้ด้วยดี แต่ทันทีที่เธอได้ยินชื่อของขุนนาวที่ถูกรังแกคนนั้น เธอก็เบิกตาโฟลง ด้วยความตกใจ นั้นคือ ออตโต้ฟอนต์บิสมารค์ แน่ๆ  

    ภายในใจของซิการด์และวิกตอเรียเริ่มปะติปะต่อทุกอย่างก่อนที่จะสแยะยิ้มในใจออกมา ซิการด์ยิ้มในใจอย่างชัดเจนก่อนจะถามไปตรงๆกับเด็กชายตรงหน้าเขา 

    “เจ้าชื่ออะไร”ซิการด์ถามอย่างสงบนิ่งและน่าเกรงขาม แต่ภายในใจคือความตื่นเต้นมากถึงมากที่สุดโลกมันช่างกลมเหลือเกิน 

    “ขอประธานอภัยครับองค์ชาย ผมออตโต ฟอนต์ บิสมารค์ ขอประธานอภัยเป็นอย่างยิ่งครับ”

     

     

     

     

     

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×