ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยุทธการเปลี่ยนประวัติศาตร์ของสองผู้อาภัพ

    ลำดับตอนที่ #10 : L@l\lD 0I: DesPair @nd SL@\/E Part 1+1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 738
      78
      2 พ.ค. 64

    “แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ”เสียงหอบของเด็กชาชาวผิวสีดังมาไม่หยุดไม่หย่อน เขานำมือที่ถูกหน่วงไว้ด้วยตุ้มเหล็กแสนหนักที่ตอนนี้ไม่แม้แต่จะสามารถยกขึ้นได้ ขาก็เหมือนกัน แต่เมื่อกี้ ทั้งขาและแขนที่ดูเหมือนจะหมดแรงก็สามารถกลับมาวิ่งได้อย่างอิสระ ราวกับไม่ไม่อะไรถ่วงไว้ 

    แต่ตรงหน้าเขาคือคนขาวสองคนที่อายุเท่าเขามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เขามองด้วยสีหน้าราวกับเห็นผี คิดจะพยายามวิ่งหนีอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเด็กชายผิวสีล้มลงตรงหน้าของเด็กชายและหญิงที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา 

    ในขณะที่คิดว่าจะไม่รอดแล้ว เขาเองก็หลับตารอชะตากรรมที่อาจจะเกิดในอนาคตเช่นเดียวกับพ่อและแม่ของเขา แต่ว่าในตอนนั้นเอง 

    มันมีความรู้สึกอื่น 

    ความรู้สึกของการถูกปลดปล่อย โซ่ตรวนของเขาถูกดาบทรงแบนตัดขาดลง โดยที่ไม่รู้สึกว่าเจ็บเลยแม้แต่น้อย เด็กชายในอายุเท่ากับเขาได้ทำการปลดปล่อยเขาออกมาจากโซ่ตรวนนั้น 

    เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมหันหน้าขึ้นมองยังร่างของเด็กชายที่ปลดปล่อยเขา 

    ร่างนั้นมองมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสาร ความเมตตา และ ความอบอุ่น ในขณะที่ร่างของเด็กหญิงก็ก้มตัวลงมาหาพร้อมยื่นนํ็าดื่มให้เขา นั้นคือวินาที ที่เขาเองได้รับความรู้สึกตื้นตันแบบนั้นเป็นครั้งแรก มันเป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะรับใช้สองคนนี้จากใจจริงให้ได้มากพอๆกลับที่พวกเขาช่วยเขาเอง นํ้าตาก็ไหลออกมาจากเป้าของเด็กชายทาสที่น่าสงสาร เขารีบรับนํ้าและยกดื่มอย่างกระหาย 
     

     

     

     

    “เอาไงดี”วิกตอเรียกล่าวขึ้นพร้อมมองเด็กชายทาสที่กำลังดื่มนํ้าอยู่ ซิการด์มองสักครู่ก็ลองถามด้วยภาษาอังกฤษไป 

    “Hello”

    ไม่มีปฏิกริยาตอบกลับ มีเพียงสีหน้าของเด็กชายที่มองอย่างมึนงง ซิการด์ถอนหายใจเบาๆก่อนจะจนปัญญาเรื่องนี้ วิกตเรียจับไหล่ซิการด์พร้อมกับเดินเข้ามาถามเด็กชายคนนี้ ในคำเดียวกันแต่ใน ภาษาซูลู  

    “Sawubona”

    เด็กชายหันหน้ากลับมาพร้อมกับที่ซิการด์จ้องด้วยความตะลึงมึนงง 

    “Unjani(เป็นอะไรไหม)”วิกตอรเรียกล่าวพร้อมนำมือมาจุปากพร้อมหันหน้าใส่ซิการด์ที่ตอนนี้ก็ต้องยืนฟังอยู่เงียบๆ 

    *ต่อจากนี้ใช้ภาษาไทยนะครับ แค่จิณฒนาการว่าใช้ภาษาซูลูพอ 

    “ไม่เป็นไรแล้วครับ ขอบคุณมากจริงๆ”เด็กชายคนนั้นตอบกลับมาในขณะที่ซิการด์ก็เกิดอยากรู้เลยถามมาว่าแปลว่าอะไร วิกตอเรียจึงทำการแปลให้เสร็จ สำหรับสองฝ่ายทันที 

    แม้ว่าในช่วงหลายปีที่อุดอู้อยู่ในวัง จะมีการจดข้อมูลที่รู้ในอนาคตไว้หลายเล่ม แต่ตอนนี้ก็ยังพอฝึกภาษาต่างประเทศอื่นๆไว้ด้วยลับ ส่วนมากก็ฝึกกับพวกทหารที่เคยไปที่นั้นมาละนะ แต่ก็ทำให้ได้ภาษาใหม่ๆมาเพียบเลย รวมทั้งวิชาที่แอบขอร้องให้พวกทหารฝึกแบบลับๆ ทั้ง ศิลปะการป้องกันตัวยุโรปโบราณ ด้วย ดาบ หอก ขวาน ก็เลยพอมีฟื้นฐานเรื่องแบบนั้นอยู่บ้าง และก็อะไรอีกน่า ใช่ๆ เรื่องการใช้ปืน หรือการขี่ม้านี้ก็โดนฝึกมาเหมือนกันถึงฉันจะไปบังคับพวกทหารให้ฝึกให้ก็ตามละนะ 

    จากการถามคร่าวๆ ก็ทำให้พอรู้ว่า เด็กคนนี้ไม่มีชื่อ นามสกุล หรืออะไรเลย ทำให้มันก็ยังเกิดปัญหา แถมเรียกว่าเด็กก็ไม่ดีนะสิ อายุเขาก็เท่าเรา และ ก็ จากการฟังสำเนียงท่าทางการพูดหรือทุกองค์ประกอบของคนๆนี้ ทำให้เราสามารถรวมข้อมูลได้หลายอย่าง 

    1.เขาน่าจะเป็นชาวซูลูจาก แอฟริกาใต้โดยตรง ลักษณะทางเส้นผม สีตา และ ที่สำคัญร่องรอยการเบือดเียดในเรือ มันบอกผ่านร่างกายของเขา ทำให้เราพอรู้เรื่องแบบนั้นขึ้นมาได้ 

    2.อาการ PTSD เมื่อเห็นเสียงดัง แบบนี้บำบัดยากนะเนี้ย แย่ละ 

    3.เขาฉลาดมาก ทั้งลักษณะการพูด ที่เลียนแบบปากฉันได้แล้วทั้งๆที่คุยกันมาไม่ถึงสามนาทีเลย รวมถึงพูดคำทักทายภาษาอังกฤษที่ซิการด์พูดแบบบเมื่อกี้ได้แล้ว เหลือเชื่อ ถ้าเราสามารนำคนคนนี้มาเป็นพวกได้ละก็ น่าจะเหมาะกับตำแหน่งที่ฉันวางไว้พอดีเลยสินะ บังเอิญจริงๆ บังเอิญจริงๆ 

    ซิการด์เองก็เหมือนจะมองออกเหมือนฉัน แบบนี้มันน่าจะแปลกไปแล้วนะ ถ้าเป็นเด็กอายุเท่ากันจริงๆเขาไม่น่าจะมองเราออกขนาดนี้สิ ไม่สิ มันไม่ปกติตั้งแต่ใช้ดาบตัดโซ่อยู่แล้วนี้หว่า 

     “เอาไงดีละซิการด์”ซิการด์เองก็ทำหน้าครุ่นคิด เขาพยักหน้าออกมาที่หนึ่งก่อนจะควักกระเป๋าตังค์ของเขาออกมา 

    “ขั้นแรก ปัจจัย 4”

    “อืม”วิกตอเรียพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกไป เสียงตะโกนก็ดังขึ้นจากหน้าตรอก 

    “นี้พวกเธอทำอะไรกันหนะ”เสียงชายวัย 18ถึง 22 ตะโกนขึ้นถามไถ่ วิกตอเรียและซิการด์หันไปมองอย่างรวดเร็ว พวกเขาเบิกตาโฟลงอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง ดวงตาทั้งสองจับจ้องไปยังผู้มาใหม่ขณะที่เด็กชายผิวสีก็มองอย่างหวาดกลัว 

    โครงหน้านั้น ลักษณะแบบนั้น 

    สีผม สีตา 

    นั้น มัน 

    อับราฮัม ลิมคอหน์  

     

     

     

     

     

     

     

    “แบบนี้เองสินะ”ลิมคอหน์กล่าวขึ้นพร้อทสักถามเด็กหญิงตรงหน้าเขา ในขณะที่เด็กชายก็ยืนบังเด็กชาวผิวสีคนนั้นไว้ 

    “ใช่คะ ยังไงก็ไม่ควรมีใครเป็นทาส คุณก็คิดแบบนั้นใช่ไหมคะ”เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาราวกับอ่านใจเขาได้ ลิมคอหน์ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะไอกระแอ่มออกมาหนึ่งครั้ง 

    “ก็แบบนั้นแหละ แล้ววิธีที่จะไม่ให้เด็กคนนี้เป็นทาสต่อละทำไงดี เธอพอมีวิธีไหมแม่หนู”ลิมคอหน์มองไปยังเด็กชาวผิวสีคนนั้นพร้อมคิด 

    “ก็ซื้อมาสิคะ ซื้อเสร็จแล้วก็ปล่อยเชาเป็นอิสระ ง่ายๆเพียงหยิบมือก็แค่นั้นคะ”เด็กสาวตรงหน้าพูดขึ้น ไม่ได้มีความไร้เดียงสาอยู่ในนั้นเลย นี้เด็กแปดขวบจริงๆใช่ไหม 

    “งั้นเหรอ แล้วฉันจะเชื่อเธอได้ยังไงว่จะไม่หลอกฉันละ”ลิมคอหน์กล่าวขึ้นพร้อมได้ตระหนักแล้วว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา 

    “ค่าใช้จ่าย เดี้ยวหนูให้เอง คุณลิมคอหน์เอาเงินนี้ไปให้พวเขาเถอะคะ”เด็กสาวตรงหน้าพูดพร้อมยัดเงิน 150 ดอลลาร์ให้มือของลิมคอหน์ ลิมคอหน์หัวเราะเบาๆคั้งหนึ่งก่อนจะรับเงินไป 

    “ได้ๆ เดี้ยวฉันจะไปซื้อมาเองพอใจใช่ไหม”

    “คะ ตามนั้น คะ แต่ขอตามไปด้วยนะคะ”

    “หืม ทำไมละ ”

    “จะได้รู้ว่าคุณจะทำจริงไหมละคะ”วิกตอเรียกฃ่าวพร้อมกวักมือเรียก ทั้งสองมา ซิการด์ถอดเสื้อคลุมตัวนอกให้เด็กชาวผิวสีคนนี้ ก่อนจะพยักหน้าให้ตามมา ซึ่งเขาก็เดินตามมาแต่โดยดี 

    แม้ว่าซิการด์กำลังจะคิดว่าเอาไงต่อดี กับอับราฮัม ลิมคอหน์แต่ดูเหมือนว่าเขาจะโดนตัดหน้าเสียแล้ว ซึ่งมันทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่ว่า เราโดนแซงไปครั้งหนึ่ง แต่เพราะเป้าหมายหลักของเขาไม่ใช่อับราฮัม ลิคอหน์อีกแล้ว แต่เป็นอีกเรื่องมากกว่า 

    “ซิการด์”ในขณะที่กำลังครุ่นคิดเสียงของวิกตอเรียก็เรียกให้เขาตื่นจากพวัง ตรงหน้าเขาคือร่างของชายพ่อค้าชาวอเมริกัน ผมบลอนด์สั้น ร่างกายอ้วนจุ มีของประดับเต็มไปด้วยทองคำและของมีค่าต่างๆ 

    “อืม เงินที่เรามีไม่พอที่จะซื้อพวกเขาได้ทั้งหมดสินะ”เขามองไปยังเหล่าทาสที่อยู่ข้างหลัง ไอ้พ่อค้าจังไรนี้มันโกงราคา ช่วยไม่ได้ ยังไงก็อดทนอีกสักสี่สิบปี เราก็จะมาที่นี้อีกครั้งแน่นอน ขอโทษนะเหล่าทาสทั้งหลาย นั้นคือสิ่งที่วิกตอเรียและซิการด์คิดพร้อมกันในตอนที่ตกลงจ่ายเงินที่มีไป 

    เงินที่มีตอนนี้ซื้อได้แค่เด็กชายผิวสีนี้คนเดียวเท่านั้น เพราะถ้าซื้อหมดเลย เงินสำหรับเดินทางกลับและค่าใช้ชีวิตต่างๆในอเมริกาก็จะหมดไป ก็คงต้องทำแบบนี้ไปก่อน 

    ทั้งสี่เดินออกมาจากร้านพร้อมถอนหายใจเบาๆแค่นั้น ลิมคอหน์บอกว่าตอนนี้ก็เที่ยงๆแล้ว เขาขอตัวไปก่อนซึ่งมันก็สร้างความเสียดายให้ทั้งคู่เป็นอย่างมาก แต่ก็ดีอย่างหนึ่งคือเขาบอกว่าถ้าว่างจะมาหาพวกเรา ตราบใดทีเรายังอยู่ทีนี้ละนะ 

    “ซิการด์ นายคิดวา่าเราควรจะทำอะไรก่อนอย่างแรกดีละ”วิกตอเรียหันไปถามเขา ซิการด์ก้มหน้าลงพร้อมมองไปยังเด็กชายผิวสีที่ตอนนี้นั่งเงียบมาตลอดทาง 

    “ปัจจัยสี่ สำหรับเขาคนนี้”ซิการด์พูดเบาๆก่อนจะหันไปยังร้านเสื้อผ้าข้างๆ วิกตอเรียพยักหน้าเห็นด้วยแต่ก่อนที่จะจูงมือของเด็กชายผิวสีคนนั้นไป ก

    ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ตระหนักเห็นอะไรบางอย่างซิการด์มองไปที่ด้านหน้าของเขา กลุ่มฝูงชนกำลังมองอะไรบางอย่างดูซิการด์เองในตอนนั้นก็หันหน้าไปหาวิกตอเรียทั้งคู่หยักหน้าตอบพร้อมกันก่อนจะจูงมือของเด็กชายผิวสีคนนี้ไปด้วย พร้อมกับเบียดเสียดกันไปกับฝูงชน เพื่อพยายามมองดูว่าเหล่าฝูงชนกำลังดูอะไรอยู่ 

    ซิการด์และวิกตอเรียเมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็มองด้วยความสงสัยปนตกใจ นั้นคือร่างของชาวอินเดียแดงห้าคนที่ตายโดยที่มีสภาพร่างกายที่ครบถ้วนไม่มีรอบขาดหรือบาเจ็บสำหรับอวัยวะภายนอกเลยศพเป็นแบบนั้นหนึ่งศพ ร่างของศพนี้แห้งกร่องราวกับถูกสูบของเหลวออกจากร่างกาย แต่ก็เห็นว่าร่างของศพนี้ีมีรอยเลือดอยู่เต็มไปหมด ในากยังคงมีก้อนเนื้อสดๆที่ดูน่าสยดสยอง กลิ่นของศพบ่งบอกว่ามันผ่านมาราวสัปดาร์ได้แล้ว มันสร้างบรรยกาศอันแสนชวนอ้วกเต็็มไปทั่วลานที่กำลังยืนมุงกันอยู่ 

    แต่กลับร่างอีกสี่ศพกลับเละจนสภาพดูไม่ได้ คอถูกกัดจนเหวอะหวะ หลอดลมโผ่ลออกาพร้อมๆกับเลือดที่เจ่องนองเต็มเกียวนที่ถูกขนมา เช่นเดียวกับอวัยวะร่างกายส่วนอื่นๆที่ถูกกัดเสียจนดูไม่ได้ บางคนก็แขนขาด บางคนก็ขาขาด สยดสยองสุดคือเครื่องในทั้งตับไต ไส้พุง กองเต็มฟื้นเกวียนไปหมด 

    ในตอนนั้นเองที่เขาก็บังเอิญเหลือบตาไปเห็นพ่อค้าทาสชาวอเมริกาคนนั้นยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่ ความผิดปกตินั้นยังปรากฏในหน้าของเหล่าพ่อค้าหลายคนที่มามุงดู 

    “ซิการด์นายคิดเหมือนฉันไหม”

    “อ่าใช่”

    “เรื่องนี้มันเริ่มแปลกๆขึ้นมาแล้วสินะ ”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×