NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [จบเล่ม4/5] ฉันมีปาร์ตี้ระดับ S ในวันสิ้นโลก *ฮาเร็ม* [มี e-book]

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 07

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 67


     

    ตอนที่ 7

     

    ตอนเช้าโรสช่วยคุณไอแซ็คจัดการเคลียร์เส้นทางถนนให้เรียบร้อยเพื่อพาเจ้ารถน้ำมันของอีกฝ่ายมาจอดเทียบหน้าศูนย์อาหาร เจ้ารถน้ำมันที่ซ่อนอยู่ตรอกข้างร้านค้าแฟชั่นและร้านเครื่องนอนตึกข้าง ๆ กัน แต่ติดที่ว่าถนนแถบนั้นมีรถชนกันอยู่สามคัน เธอกับอีกฝ่ายต้องช่วยกันลงแรงกันเพื่อแหวกทางให้รถน้ำมันฝ่าออกมาได้

    เป็นรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ที่ค่อนข้างจะสะอาดเอี่ยมอ่องสีดำ บนหลังรถมีลังเสื้อผ้าคลุมตาข่ายเอาไว้จำนวนมาก เสื้อผ้ากับเครื่องนอนพวกนี้คุณไอแซ็คไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่โรสกลับสนใจมาก สำหรับผู้หญิงแล้ว เสื้อผ้าสวย ๆ กับชุดสำรองเป็นสิ่งสำคัญถ้าสามารถหามาได้

    เธอหาชุดพอดีตัวไปเก็บเอาไว้ที่ชั้นบน ที่เหลือคิดเอาไว้ว่าจะมาฉีกทำเป็นเชือกอย่างง่ายเก็บเอาไว้ ไม่ก็ถักเป็นเปลไว้แขวนนอนก็ไม่แย่นักหรอก

    แต่หลังจากนี้พวกเราก็ตระเตรียมของให้พร้อมเพรียงและออกเดินทางกันอย่างไม่รอช้า รถกระบะคันนี้วิ่งปรื๋อไปตามถนนที่โล่งเตียนปราศจากรถคันอื่นจอดกีดขวางกัน อาจมีบางคันที่จอดดับอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ขวางทางให้ต้องเสียเวลาขนย้ายนัก

    และที่สำคัญคือพวกอสูรนั้นกลับบางตาจนน่าตกใจ...

    “ทำไมพวกมันไม่ไล่พวกเราละคะ เครื่องยนต์สันดาปยังไงก็น่าจะรู้สึกถึงแรงสั่นบ้างนะคะ”

    “ก็จริงของคุณ แต่ตอนนี้เที่ยงแล้วอากาศก็เลยร้อนจัด ความร้อนทำให้พวกมันต้องลดทอนประสาทสัมผัสลงเพื่อรักษาพลังงานในร่างเอาไว้ ที่บ้านเกิดของพวกมันห่างไกลดวงอาทิตย์ พวกมันไม่ชินกับความร้อนและไม่ได้ถูกวิวัฒนาการมาเพื่อสู้กับแดดบนดาวโลก”

    อ้อ...อย่างงั้นเหรอ

    ทำไมอีกฝ่ายรู้ดีจังนะ

    “ระบบบอกคุณเหรอคะ”

    “ครับ”

    ตอบแบบนี้จะเชื่อก็ได้...

    “เพราะแบบนั้นมันถึงอาศัยอยู่ใต้ห้างยังไงล่ะครับ แถมที่ห้างยังมีสถานีรถไฟใต้ดินที่ทำให้พวกมันแพร่ขยายทำรังได้ ที่เมืองของเรารถไฟใต้ดินมีหลายสายครอบคลุมชานเมือง เพราะงั้น...”

    ไอแซ็คไม่ได้ตอบให้ครบถ้วนแต่ใจของโรสเย็นเยียบเมื่อคิดตามคำพูดของอีกฝ่าย เขาเคยบอกเธอว่าชานเมืองก็มีประตูมิติปล่อยพวกอสูรออกมา ความจริงประตูมิติอาจจะไม่มีหรอก แต่เป็นเพราะพวกมันอาศัยสถานีรถไฟใต้ดินรุกรานเมืองของพวกเรามากกว่า

    เหมือนกับ! ตอนแรกที่มีแผ่นดินไหวอย่างงั้นเหรอ?

    “ถ้างั้นที่เมืองอื่นจะปลอดภัยมากกว่าใช่ไหมคะ”

    “…ใช่ แต่ก็ไม่เสมอไป”

    “ถ้าคุณบอกว่าพวกมันไม่ชอบความร้อน เมืองข้าง ๆ เราไม่ใช่ว่าเป็นเขาภูเขาทะเลทรายเหรอคะ แบบนี้น่าจะปลอดภัยกว่านี่”

    “ทั้งใช่และไม่ใช่” ไอแซ็คไม่ค่อยอยากจะอธิบายหรือทำให้เธอมีความหวังมากเกินไปนัก “ทะเลทรายน่ะกลางวันจะร้อน แต่กลางคืนจะหนาว พวกมันชอบที่หนาวและแห้ง ไม่เหมือนเมืองชายฝั่งที่เย็นแต่ชื้นเพราะอากาศ”

    นี่ฟังขึ้นอยู่ก็จริง...แต่เมื่อไหร่กันที่รัฐบาลกลางจะออกคำสั่งและหาทางจัดการพวกมันได้นะ?

    “ถึงแล้ว” คุณไอแซ็คจอดรถที่ฝั่งของปั๊มน้ำมันตรงข้ามกับหน้าร้านขายอุปกรณ์การช่างขนาดสามคูหา ตึกนี้ใหญ่มากแต่แน่นอนว่าไม่มีวี่แววของคนอยู่เลย ทว่าตามถนนที่ถอดไปยังประตูทางเข้ามีรอยเลือดไหลเป็นทาง คราบเลือดแห้งกรังแล้ว...

    ศพอาจถูกพวกลูกกระจ๊อกขนไป ไม่ก็ถูกกินไปแล้วแน่ ๆ เลย!

    แต่ถึงแบบนั้นร้านประตูร้านก็ถูกล็อกเอาไว้จากข้างใน ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเหล็กชนิดแบบที่เลื่อนซ้ายขวา ยังไงซะถนนเส้นนี้ก็เป็นย่านตึกเก่าที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมือง ระบบเก่า ๆ ยังคงอยู่ไม่เหมือนตึกโมเดิร์นสมัยใหม่

    แต่พอเจอบานเลื่อนซ้ายขวาเข้าไป 

    จะเข้ายังไงกัน?

    “ไปข้างหลังร้านกันครับ”

    “เอ๋?” เธอฉงนแต่ก็ตามอีกฝ่ายไปทันทีพร้อมหอกที่ถือเอาไว้อย่างมั่นคง อาคารพวกนี้ว่ากันตามตรงยังไงก็ต้องมีทางเข้าข้างหลังอยู่แล้ว แต่...ไอแซ็คดูจะมั่นใจมาก เขาพาเธอมาข้างหลังตึกผ่านซอกแคบ ๆ ข้างรั้วกับร้านขายเฟอร์นิเจอร์

    ด้านหลังร้านอุปกรณ์การช่างมีบันไดหนีไฟทรงโบราณที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายดูเหมือนจะเป็นประตูเหล็กหลังร้านเสียมากกว่า

    “คุณเฝ้าข้างหลังให้ผมที มีอะไรคุณก็เรียกผมทันทีเลยรู้ไหม อย่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเล่า” คนผมทองกำชับจากนั้นก็ควักปืนประหลาดออกมาจากประตูมิติสี่เหลี่ยม เขายิงปืนนี้ใส่ประตูเหล็กหลังร้าน

    แสงสว่างจากปืนปรากฏขึ้นไม่นานนัก แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ยังระมัดระวังหลังให้อีกฝ่ายอยู่ดี จากนั้นก็แคร็ก...แกร็ก!

    “เสร็จแล้วครับ” อีกฝ่ายเก็บขวานสะพายไว้ข้างหลังกระเป๋าดังเดิม แล้วค่อย ๆ ประคองประตูเหล็กพิงไว้กับกำแพงร้านข้างหลัง

    ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ทำลายประตูร้าน...

    เขาทำอะไรบางอย่างกับตัวข้อพับตัวยึดบานประตู เหมือนจะทำให้มันเปราะหรืออ่อนตัวแล้วค่อยทุบให้แตกง่าย ๆ

    แปลกที่อีกฝ่ายไม่ทำมันกับประตูทางเข้าด้านหน้าของร้าน...

    มันมีเหตุผลไหมนะ?

    “ไฟติด?” คราวนี้โรสฉงนกว่าเดิมเพราะเห็นว่ามีไฟในห้องด้านข้างสว่างอยู่ แสงนั้นลอดผ่านช่องใต้ประตูอย่างชัดเจน ข้างในมีเสียง...เอ่อ...เสียงกระแทกกับผนังห้องอย่างรุนแรง พร้อมกับเสียงครางต่ำของผู้ชายที่ฟังยังไงก็เหมือนกำลังมีเซ็กซ์อยู่ชัด ๆ

    แต่...เสียงของผู้หญิงดูจะไม่ยินยอมนัก ดูหวาดกลัวและอ่อนเพลียเต็มประดา

    แน่นอนว่าโรสฟังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เธอก็เลยเลือกที่จะเอาหูแนบด้วยความสงสัย นั่นเพราะว่าถ้าคนสองคนนี้ทำกันอย่างระมัดระวังไม่ให้อสูรได้ยิน ทำไมเสียงผู้ชายทั้งดังและหยาบคาย ส่วนเสียงของผู้หญิงดูจะไม่...เข้าขากันนักล่ะ มันแปลกก็จริง แต่รสนิยมเซ็กซ์ของคู่รักคงค่อนข้างหลากหลาย และเธอก็ไม่อยากจะเป็นคนขี้เสือกนักหรอก

    “ชู่ว…” คุณไอแซ็คแล้วกวักมือให้เธอเลิกเอาหูแนบกับกำแพง เขาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ท่าทางเหมือนจะรอคนด้านในเอากันจนเสร็จสมยังไงยังงั้น

    จริงสิ! จู่ ๆ โรสก็คิดขึ้นมาได้กะทันหันว่า...ถ้าร้านนี่มีเครื่องให้กำเนิดพลังงานไฟฟ้า ไม่ใช้ถ้าสิ! ยังไงซะร้านอุปกรณ์การช่างร้านใหญ่ ๆ ก็ต้องมีขายอยู่แล้ว ดังนั้นในตอนนี้ไฟฟ้ายังคงทำงานอยู่บางส่วนของตึก แน่นอนว่าระบบสัญญาณกันขโมยก็จะดังขึ้นถ้าเกิดว่าพวกเราทำอะไรกับประตูข้างหน้าร้าน คนข้างในก็จะรู้สึกตัวแน่นอน!

    อีกอย่างสัญญากันขโมยรุ่นเก่าจะติดตั้งไว้ทางด้านหน้า เพราะทางด้านหลังร้านสามารถล็อกเอาไว้ได้ และคงจะสะดวกสำหรับให้ขนส่งนำสินค้าเข้ามาเติมในห้องโกดังข้างหลังด้วย

    “กะ...แกหยุดนะ! อึก!” 

    “ยัยกะหรี่นี่ยังจะปากมากอีกเรอะ!” 

    เสียงข้างในเหมือนจะเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นมา

    “ปล่อยฉัน ได้โปรด...ได้โปรด!” 

    “ลูกสาวอดีตนายจ้างนี่ก็เด็ดซะจริง ฉันจะเย็ดกะหรี่อย่างเธอแล้วก็กินอยู่ที่นี่ไปอีกหลายวัน จากนั้นค่อยฆ่ากะหรี่โสโครกอย่างเธอทิ้งเอาบุญ หรือว่า...ถ้าเธอยอมให้ฉันเย็ดดี ๆ ฉันอาจเมตตาปล่อยเธอกับครอบครัวด้วยดีไหม?” 

    “ได้...ฮือ...ฉันยอมแล้ว...อย่าทำพ่อกับพี่ชายของฉันเลยนะ!” 

    ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ใช่อย่างที่เธอคิดแหะ...

    ผู้หญิงในห้องกำลังถูกข่มขืน...ต้องช่วยแล้วสิ!

    “เอ่อ...” ไม่ทันได้กระซิบกระซาบกับคุณไอแซ็ค อีกฝ่ายก็ทำสัญญาณมือให้เธอถอยไปหลบด้านข้าง ในเวลานี้เขาง้างขวานยกขึ้นสูงเตรียมจะทุบลงไปยังลูกบิดเก่า ๆ ให้แตกยับในหนเดียว

    ผลัวะ!

    ลูกบิดประตูหลุดกระเด็นไปในการฟาดครั้งเดียวพร้อมกับเท้าของคุณไอแซ็คที่ถีบประตูเข้าไปในห้อง แน่นอนว่าโรสไม่พลาดฉากสำคัญถึงได้รีบโผล่หัวไปสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งไอ้ภาพที่เห็นนั้นไม่ค่อยจะดูดีนัก

    ผู้หญิงที่ดูจะเด็กไม่เกินสิบเจ็ดสิบแปดถูกฉีกทึ้งเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่า ร่างกายมีแต่รอยฟกช้ำ และที่สำคัญคือ...ช่วงล่างของเธอมีเลือดและบวมแดงเป็นอย่างมาก แต่คุณไอแซ็คไม่ได้เฝ้ามองเด็กสาวตัวน้อยเลยสักนิด ดูราวกับว่าไม่อยากจะล่วงเกินเด็กสาวผมแดงที่ถูกล่ามไว้กับโซ่ติดผนังเลย

    เขาตรงไปยังชายผิวขาวที่ดูบึกบึนด้วยท่อที่ซื้อมาจากร้านค้าของเธอ จากนั้นก็อาศัยแค่แรงฟาดลงไปบนหัวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ชายผิวขาวที่ชั่วร้ายก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้นในทันที

    “พะ-พวกคุณ...เอ่อ-อะ!” เด็กสาวหายใจไม่ออกและไม่สามารถพูดคำศัพท์ให้ชัดเจนได้ โรสรู้สึกสงสารถึงได้ถอดเสื้อคลุมตัวนอกห่อร่างของเธอเอาไว้พร้อมกับกอดด้วยความรู้สึกห่วงใยในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง

    วันสิ้นโลกนั้นโหดร้ายจริง ๆ!

    กฎหมายบ้านเมืองไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างที่คิดเลย!

    “ผมรบกวนคุณดูแลเด็กคนนี้ก่อน เดี๋ยวผมจะกลับมา” ไอแซ็คหยิบกุญแจปลดโซ่ตรวนให้เธอ สีหน้าท่าทางดูจะไม่ค่อยดีนัก เหมือนจะทนมองเด็กสาวที่ถูกล่วงเกินไม่ไหวเขาถึงได้ออกไปข้างนอกห้อง

    คนดี ๆ ก็ต้องเป็นแบบนี้แหละนะ

    โรสคิดจากนั้นก็ปลดโซ่ตรวนให้เด็กสาว แล้วหันมามองชายชั่วที่หมดสติ เธอเอาโซ่พวกนี้มาล่ามชายคนนั้นป้องกันเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง ด้วยกลัวว่ามันจะฟื้นขึ้นมาหาเรื่องกันอีก!

    แต่...ถ้าฆ่าไปเลยพวกคนชั่วจะไม่ทำชั่วอีกถูกไหม ยิ่งอีกฝ่ายใส่ชุดนักโทษแบบนี้ มองยังไงก็รู้ไม่ใช่คนดีอะไรเลย!

    โรสลังเลเรื่องของศีลธรรมในใจของตนเอง แต่สิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือเด็กสาวก่อน เธอประคองเด็กสาวออกมาจากนั้นก็มองหากล่องปฐมพยาบาลและทำแผลเบื้องต้นให้อีกฝ่าย

    ป้อนน้ำให้กินยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบที่พกมาไปพร้อม ๆ กันเลย...

    ไม่รู้ว่าเธอทำถูกขั้นตอนไหม แต่ตอนนี้เธอคิดได้เท่านี้จริง ๆ นั่นล่ะ ดีที่ในห้องน้ำยังมีถังที่รองน้ำเอาไว้บางส่วนอยู่ เธอเลยเช็ดเนื้อเช็ดตัวช่วยเด็กสาวชำระร่างกายและหาเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายสวมใส่

    “ขอบคุณค่ะ” ในที่สุดเด็กสาวก็พูด

    “พี่จะไม่ถามเรื่องที่เกิดขึ้นหรอกนะ ไม่ต้องเล่าหรอก...แล้วก็นี่เป็นขนมปังที่พี่พกเอาไว้ เธอค่อย ๆ กินเอาแรงก่อน” เธอตอบอย่างลนลาน แต่เด็กสาวผมแดงก็ผงกหัวให้อย่างซาบซึ้ง

    ตอนนี้พวกเราเลยนั่งกันอยู่ที่เก้าอี้รับรองหน้าเคาน์เตอร์ชำระเงินของร้าน ถึงไม่รู้ว่าคุณไอแซ็คหายไปไหน แต่เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะไปหาพ่อและพี่ชายของเด็กสาวคนนี้แน่ ๆ นอน ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงจะสำรวจข้าวของในร้านไปพลาง ๆ ด้วยล่ะมั้ง

    แต่...ตึกเก่ามีห้องใต้ดินเสมอ สมัยก่อนแถบชายฝั่งเคยมีสงครามเกิดขึ้น ห้องใต้ดินพวกนี้คือหลุมหลบภัยในยุคสงคราม กันเสียงและมีโครงสร้างที่แข็งแรงมาก เพราะงั้นสุดท้ายถึงได้ยุ่งยากที่จะรื้อถอนออกมา

    บางทีครอบครัวของเด็กสาวอาจจะถูกขังก็ได้...ฮืม?

    เดี๋ยวนะ...แล้วร้านสะดวกเสื้อมีห้องใต้ดินไหม?

    โรสคิดแค่คิดได้ไม่นานไอแซ็คก็กลับมาพร้อมกับคนสองคน เป็นผู้ชายที่เริ่มแก่ชราและชายอีกคนที่ยังดูหนุ่มอยู่ ทั้งสองคนมีผมสีแดงเหมือนเด็กสาวและอยู่ในสภาพร่างกายที่ฟกช้ำอยู่บ้าง

    “คาเรน!” ชายชราร้องเสียงไม่ดังนั้นก่อนจะเข้ามาสวมกอดเด็กสาวพร้อมกับชายหนุ่มผมแดงข้าง ๆ ซึ่งน่าจะเป็นครอบครัวกัน

    “พ่อ! ฮือ...พี่ ฉัน..ฉัน...” เด็กสาวปล่อยโฮและมีแต่ผู้เป็นพ่อมาคอยปลอบโยนอย่างเอาใจใส่ ส่วนคนที่น่าจะเป็นพี่ชายปลีกตัวออกมาทางคุณไอแซ็คและเธอที่ด้านข้างแทน

    “ผมเคน เรดฟิลด์ นั้นน้องสาวของผมคาแรน ส่วนพ่อของผมเคเนดี้” เคนเอ่ยขึ้นแนะนำสมาชิกในครอบครัวให้พวกเรารู้จักสั้น ๆ สีหน้าท่าทางยังคงสับสนและงุนงง “ไอ้เวรนั้นมันอยู่ไหนกันครับ”

    คุณไอแซ็คชี้ไปที่ห้องข้างหลัง คอยเฝ้ามองชายหนุ่มผมแดงที่ตรงไปยังเคาน์เตอร์และหยิบบางอย่างขึ้นมาจากช่องลับข้างใต้แจกันบนเคาน์เตอร์

    มันคือปืนลูกซองกระบอกโต...

    “คุณคงไม่ว่าอะไรใช้ไหมถ้าผมจะจัดการมันแทนพ่อกับน้องของผม” เคนพูดแต่ท่าทางดูจะไม่ได้สอบถามความเห็นของพวกเราสองคนนัก

    “ผมแนะนำว่าไม่ควรให้เกิดเสียงดังเกินไป” คุณไอแซ็คเหมือนจะห้ามแต่กลับโยนหมอนอิงให้อีกฝ่ายรับไปไว้ด้วยความปรารถนาดี

    ใช้วิธียิงทะลุหมอนเพื่อลดเสียงหรือ...เอาหมอนกดจนขาดอากาศหายใจตายกันนะ?

    โรสคิดอะไรชั่วร้ายเงียบ ๆ จากนั้นก็เรียกสติกลับคืนมา

    “ขอบใจ” หนุ่มผมแดงบอกแล้วเดินจับชายซี่โครงตรงไปยังห้องทางนั้นทันที ในจุดนี้พอดูให้ดีแล้วก็พบว่าคนพ่อกับลูกชายน่าจะถูกซ้อมมาอย่างหนัก ไม่แน่ใจว่าทำไมพวกเขาถึงตกอยู่ในสถานการณ์นี้กัน แต่สถานการณ์คงจะไม่ดี ๆ

    “ฉันมีคำถามค่ะ” เธอเอ่ยขึ้นและจ้องตาของคนผมทองด้วยท่าทีจริงจัง

    “ผมตอบให้เลยก็แล้วกัน” คุณไอแซ็คสรุปรวบรัดในทันที “ก่อนจะเกิดเหตุผมได้ยินข่าวประกาศแจ้งเหตุรถนักโทษคว่ำ ข่าวว่าเป็นอดีตลูกจ้างร้านขายอุปกรณ์ช่างที่มีพฤติกรรมใคร่เด็กวัยรุ่นใกล้ ๆ ปั๊มน้ำมันฝั่งตรงข้ามกัน ผมเลยระมัดระวังน่ะครับ แถมยังได้รู้ถึงสถานที่สองแห่งนี้อีก”

    ข่าวนี้ที่เพิ่งแจ้งเหตุตอนเย็นในมือถือน่ะเหรอ...

    อาศัยแค่ข่าวนี้อีกฝ่ายก็ระมัดระวังตัวขนาดนี้เชียว?

    “ที่ทางเข้าถ้าคุณสังเกตดี ๆ ก็จะมองเห็นสิ่งผิดปกติแล้ว ตอนที่ส่องผ่านช่องบานเหล็กเข้าไปข้าวของข้างในเละเทะ แต่ที่นี่กลับไม่มีมีร่องรอยของอสูรเลย ยังไงซะพวกอสูรมักจะใช้สี่ขาเคาะกับพื้น การเคาะก็ต้องทิ้งรอยเอาไว้ ไม่ก็พวกรอยขูดกะเทาะกับคอนกรีต แต่ในร้านน่ะไม่มีรอยจำพวกนี้เลย”

    นั่นสินะ...คราวหลังเธอต้องสังเกตให้รอบคอบแบบคุณไอแซ็คแล้ว!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×