NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [จบเล่ม4/5] ฉันมีปาร์ตี้ระดับ S ในวันสิ้นโลก *ฮาเร็ม* [มี e-book]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 02

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 67


     

    ตอนที่ 2

     

    ผู้ชายผมทองตรงหน้าพาเธอไปยังตรอกข้าง ๆ ที่เป็นย่านการค้าของอาคารสำนักงานแถบนี้ ส่วนใหญ่แล้วมีแต่ร้านอาหารราคาถูกไว้สำหรับให้พนักงานบริษัทออกมากินมื้อกลางวันกัน นอกนั้นก็เป็นร้านรวงทั่ว ๆ ไปที่อาศัยเช่าพื้นที่ตามตึกสูง ช่วยกันยกระดับพื้นที่การค้าของโซนนี้ให้ดีขึ้นไปอีกขั้น

    “ฉันว่าเราไปหลบที่สถานีตำรวจใกล้ ๆ นี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ”

    “คุณคิดว่าตอนนี้ว่าที่แบบนั้นจะมีคนไปแล้วกี่คนกัน เยอะจนวุ่นวายแน่ แล้วจะหนีไปได้ยังไงในเมื่อพวกอสูรมันวิ่งเร็วกว่ามนุษย์ แทนที่จะหนีไปอย่างไร้จุดหมาย ไม่สู้อยู่ในย่านที่มีเสบียงกับอุปกรณ์เอาตัวรอดล่ะ”

    ทำไมคนคนนี้ถึงพูดจามีเหตุผลจัง

    เขาจะไม่สะทกสะท้าน...แบบว่าจะไม่ได้เป็นเหมือนมนุษย์ทั่วไปที่หวั่นวิตกและสักแต่จะวิ่งหนีอย่างเดียวเลย

    “แล้วทำไมจึงวิ่งมาจูงมือแบบนี้ละคะ?”

    “…”

    นั่นไง!?

    “คุณมีขวานดับเพลิงที่ใช้งัดแล้วก็จามประตูร้านค้าได้นี่”

    ขวานนี่น่ะเหรอ?

    โรสแอบมอบขวานที่กำเอาไว้อยู่บ้าง เป็นขวานดับเพลิงที่ด้ามจับเป็นสีแดงนี่มีหัวสองแบบ หัวแบบขวานที่ใช้จามไม้ทั่วไปกับส่วนของหงอนเหล็กอีกฝั่งที่ไว้ใช้เจาะงัด แน่นอนว่ามันมีประโยชน์จริง ๆ ถ้าจะใช้งัดแงะหน้าต่างประตูร้านค้าทั่วไปน่ะ

    “อีกอย่างน่ะ คนทั่วไปคิดไม่ถึงหรอกว่าจะหยิบขวานหรือหาอาวุธแบบคุณ แสดงว่าคุณต้องหัวไวประมาณหนึ่ง ไม่งั้นจะหยิบของพวกนี้มาทำไมกัน”

    ก็จริงของเขา แต่ถึงแบบนั้นโรสก็ลังเลที่จะเชื่ออยู่บ้าง

    “งั้นคุณจะไปหลบที่ไหน?” โรสถามแต่อีกฝ่ายไม่ตอบ ได้แต่วิ่งพาหล่อนมายังหน้าร้านสะดวกซื้อที่บัดนี้ว่างเปล่าปราศจากคนข้างใน ตัวร้านได้ทำเลที่ตั้งเป็นสองคู่หาแคบ ๆ เบียดเสียดกับศูนย์รวมร้านอาหารข้างใน

    “คุณก็ได้ยินเสียงในหัวเหมือนกันเหรอ”

    “ไม่ทุกคนหรอก แต่คุณน่ะรีบช่วยผมดึงม่านเหล็กลงมาเร็ว” ชายผมทองจัดการทุกอย่างด้วยความเร็วสูง เขาสั่งการเธอเหมือนหัวหน้าทีมที่วางแผนเอาไว้หมดแล้ว แน่นอนว่าเธอไม่ขัดข้องหรอกน่ะ เพราะยังไงซะเราก็ต้องหลบพวกอสูรไปสักระยะก่อน

    “ถ้างั้น...” โรสลังเลแต่ก็รู้สึกได้ถึงเสียงฝีเท้าสะเปะสะปะจากข้างหน้าร้านสะดวกซื้อนับไม่ถ้วน เสียงเหมือนตัวอะไรบางอย่างที่ขาของมันแข็งจนเคาะกับคอนกรีตออกมาเป็นเสียงกุกกัก

    แต่...เมื่อไหร่ที่เสียงเพื่อนมนุษย์กรีดร้องและวิ่งสุดตัว ฝีเท้าที่กุกกักและรวดเร็วก็พุ่งไปยังต้นตอของเสียงนั้นทันที จากนั้นเพื่อนมนุษย์ก็คล้ายกับว่าจะนอนแดดิ้นไปแล้ว

    ตายแล้วล่ะมั้ง? โรสคิดจากนั้นก็มองชายผมทองกวักมือให้เธอซ่อนตัวไปยังชั้นวางสินค้าข้างหลัง เขาชี้ไปที่ประตูข้างซึ่งเชื่อมต่อกับศูนย์อาหารขนาดใหญ่

    ตรงหน้าเธอเห็นสิ่งมีชีวิตประหลาดคล้ายก้อนอะไรบางอย่างที่มีหน้าตาเหมือนกับแมลงแต่ว่ามีหกขา โดยที่สองขาหน้ายกขึ้นเหมือนตั๊กแตน ส่วนสี่ขาหลังเหมือนเท้าไว้เดินเคาะทำเสียงกุกกักกับพื้น ทว่าเหนือสิ่งอื่นใดนอกจากรูปลักษณ์ก็คือ...พวกมันเหมือนจะไม่มีตาแต่มีหนวดหลายเส้นที่ปากแทนคมเขี้ยว

    ในศูนย์อาหารมีพวกมันสามตัวเท่าที่โรสจะสังเกตเห็นได้...เอ๊ะ!

    ในลำตัวของพวกมันเหมือนมีหินสีม่วงเรืองแสงวูบวาบด้วย?

    ป๊อง! ชายผมทองโยนกระป๋องปลาทูน่าไปยังประตูที่เปิดอ้าเอาไว้ กระป๋องกระแทกแล้วกลิ้งไปไกลพอสมควร และ...ลูกสมุนอสูรก็พากันไปรุมตามจุดที่กระป๋องกระเด้งเป็นทอด ๆ อย่างว่องไว สี่ขากระแทกพื้นกุกกัก ปากก้มลงใช้หนวดดูด ๆ ลูบหาวัตถุที่ตกพื้นหลายครั้ง

    ไม่มั่นใจว่าพวกมันมีหูหรือประสาทรับรู้ทางเสียงไหม หรือว่าพวกมันอาศัยการจับสัมผัสฝีเท้าหรือแรงที่กระแทกจากพื้นกันแน่

    “ผมจะตะโกนดู”

    เสียงกระซิบของชายผมทองดังขึ้น

    “บ้าไปแล้ว เราลองหาอย่างอื่นทดสอบดูสิ” เธอกระซิบกลับจากนั้นก็คิดว่าถ้าต้องทำอะไรเพื่อทดสอบให้มันรู้แล้วรู้รอดจริง ๆ ล่ะก็ทำไมไม่ใช่ของเล่นที่มีเสียงล่ะ “ลองใช้ของเล่นที่มีเสียงสิ”

    โรสมองไปยังชั้นวางสินค้าที่มีโซนของเล่นเด็กเล็กอยู่ จำได้ว่าในนี้จะมีพวกกล่องเสียงที่กดปุ่มแล้วเพลงจะดังขึ้นน่ะ

    อยู่ไหนนะ? อ๊ะ! เจอแล้ว!

    โรสหยิบมันขึ้นมาก่อนจะถอดรองเท้าออกแล้ววางสัมภาระที่เกะกะไว้กับพื้นพรมหน้าประตูอย่างระมัดระวัง

    “เพื่อนที่ทำงานเคยเอาของเล่นลูกพกมาด้วย เจ้านี้คือกล่องเพลงนางเงือก กดแล้วนางเงือกจะเต้นก่อนแล้วค่อยขึ้นประมาณห้าวิ เพราะงั้นฉันจะลองเอาออกไปวางดู”

    “ผมว่านี่มันเสี่ยงกว่าการที่ผมคิดจะตะโกนอีกนะ”

    “ฉันเดินเบามาก คล่องตัวกว่าชุดสูทของคุณ แล้วถ้าไม่สำเร็จฉันจะวิ่งกลับ คุณอาศัยประตูแคบ ๆ นี่เอาขวานจามมันได้นี่” เธอเสนอและคิดว่านี่อาจจะเป็นความคิดที่ดี แต่พอเสียงกุกกักนั่นเคลื่อนไหว ทั้งเธอและชายผมทองก็พาหันโผล่หัวออกไปสอดส่องเจ้าอสูรทันที

    เจ้าอสูรลูกกระจ๊อกกำลังทำอะไรบางอย่าง...

    หนวดพวกมันขยับเหมือนปลาหมึก สองขาหน้ากระแทกพื้นแรง ๆ กุกกักเหมือนคนใช้นิ้วเคาะที่โต๊ะเสียงดังเป็นหมู่คณะ กึก...หนวดของพวกมันชี้ไปที่เคาน์เตอร์ร้านอาหารด้านหลังทั้งที่ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาเลยด้วยซ้ำ

    โรสไม่เข้าใจพฤติกรรมของเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้นัก แต่พอเห็นชายผมทองค่อย ๆ ย่องออกไปพร้อมกับขวานที่เธอเอามาจากที่ทำงาน เธอก็ย่างกรายออกไปพร้อมกับหยิบเหล็กเกี่ยวบานเลื่อนเหล็กพกติดมือไปด้วย

    ยังไงซะก็ควรจะรู้ว่าพวกมันให้ความสนใจอะไร?

    แล้วค่อยหาทางกำจัดมันคงดีกว่าไม่ใช่เหรอ...ถึงจะเสี่ยงอันตราย แต่สถานการณ์ตอนนี้พวกเราต่างก็เสี่ยงอันตรายอยู่ทั้งนั้น

    ชายผมทองชี้ไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ร้านขายเบเกอร์รี่เจ้าดัง ด้านในเคาน์เตอร์พนักงานครัวมีเจ้าอสูรสามตัวกำลังให้ความสนใจอยู่กับบางสิ่งซึ่งตั้งอยู่ที่พื้น มันคืออุปกรณ์ทำครัวหน้าตาคล้ายกับเครื่องนวดแป้งขนาดใหญ่ ในนั้นมีไม้นวดที่เสียบในเครื่องนวดกำลังยกขึ้นลงฟาดกับแป้งที่แน่นฟูในถังเหล็กอยู่

    น่าแปลกใจที่ไฟฟ้าดับไปแล้วแต่เจ้าเครื่องนี้ยังไงทำงานได้?

    เพราะมีเครื่องสำรองไฟรึเปล่ามันถึงได้ทำงานดีแบบนี้…แต่พอสังเกตให้ดีแล้วสายเสียบของเครื่องมันกลับต่อไปยังหลังร้าน และข้างหลังร้านก็มีไฟส่องสว่างผิดไปจากมุมอื่น ๆ ของศูนย์อาหารที่ค่อนข้างมืดทึบอย่างชัดเจน

    เครื่องนวดแป้งส่งเสียงแต่ไม่ได้ดังขนาดนั้น ทว่าที่มันสัมผัสได้ก็คือแรงตึง ๆ ของไม้นวดที่กระทำกับแป้งตอนมันยกฟาดขึ้นฟาดลงอย่างผิดทิศทางมากกว่า

    “มันสนใจแรงกระแทก...” ชายผมทองว่าจากนั้นก็ย่องเข้าไปด้วยฝีเท้าที่เบาหวิวจนไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นแมวรึว่าเป็นผีกันแน่ ขวับ! ด้ามขวานถูกจามลงไปยังหัวของอสูรจนขาดออกจากกันเป็นสองส่วน ทำเอาเจ้าอสูรอีกสองตัวแตกตื่น แล้วพุ่งตัวออกไปหาชายผมทองด้วยความอาฆาต

    แต่เหมือนมันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายผมทองสักนิด เปลือกแข็ง ๆ นั่นถูกด้ามขวานจามไปอีกสองทีก็แดดิ้นไปกับพื้น

    ซากของพวกมันมีของเหลวสีดำไหลย้อมออกมา ทว่าไม่นานก็แห้งกรังกลายเป็นผงสีเทาคล้ายขี้เถ้า...กึก!

    ในนี้มีผลึกสีม่วงแวววับชิ้นเล็ก ๆ จริง ๆ ด้วย!

    “พวกมันเหมือนแมลงที่จับสังเกตผ่านการเคลื่อนไหวที่พื้นดิน ไม่มีตาและไม่ได้ยินเสียง แต่ว่าถ้ายิ่งวิ่งพวกมันก็ยิ่งจะไล่ตามได้แม่นยำมากขึ้น...”

    นับว่าข้อมูลที่ชายผมทองอธิบายนี่ถูกต้องไหมน่ะ

    “คุณ...ดูจะเก่งจัง” หล่อนพึมพำเบา ๆ “ฉันชื่อโรส เอ่อ...โรสทอร์นลีฟ”

    “ผมไอแซ็ค” อีกฝ่ายแนะนำแค่ชื่อ “การมาระลอกแรกคงจะเป็นพวกลูกสมุนที่ไม่ได้เก่งมากนัก ระดับของพวกมันคงจะเป็นเอฟไม่ก็อี ผมคิดว่าเราอาศัยจังหวะนี้ช่วยกันช่วงชิงผลึกพวกนี้ดีกว่า”

    ผลึกแวววับ...!

    จู่ ๆ หน้าต่างก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับข้อมูลของผลึก

    [ระบบ: ผลึกอสูรชั้นต่ำ | ราคาขายต่อชิ้น 20 ชิ้นส่วนดวงดาว] 

    ชิ้นส่วนดวงดาว?

    “คุณเห็นหน้าต่างข้อมูลผลึกนี่ไหมคะ” หล่อนถามเพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเห็นหน้าต่างข้อมูลเหมือนกันรึเปล่า “ของฉันมันบอกราคาด้วย ราคาต่อหน่วยได้ยี่สิบชิ้นส่วนดวงดาวแหนะ”

    “ผมเห็นแค่ชื่อ คุณเห็นราคาและสกุลเงินด้วยอย่างงั้นเหรอครับ”

    “ค่ะ...ทักษะของฉันน่าจะเกี่ยวกับการค้า”

    “สกิล?” ชายผมทองตาฟ้าเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางหลับตาลงข้างหนึ่ง ท่าทางครุ่นคิดทำให้โรสรู้สึกไม่ค่อยไว้วางใจเลย “จะดีถ้าคุณช่วยอธิบายสกิลของคุณกับผม ทางที่ดีพวกเราแลกเปลี่ยนข้อมูลของกันเพื่อเอาตัวรอดจะดีกว่า”

    ต้องบอกหมดเลยเหรอ?

    แล้วถ้า...อีกฝ่ายบอกไม่ครบล่ะ?

    “ฉันมีสองสกิล สกิลแรกระบบร้านค้าลึกลับ ระหว่างใช้สกิลนี้ฉันกับคู่ค้าจะอำพรางตัวจากอสูรที่ต่ำกว่าระดับของฉันได้ ระยะเวลาสามชั่วโมง ใช้ยี่สิบแต้ม...ฉันอยู่ระดับดีด็อก ส่วนสกิลที่สองจะเริ่มทันทีหลังสกิลแรกจบลง มันช่วยมองหาของที่ขายได้กับลูกค้าที่สมควรจะซื้อของที่มีน่ะ”

    “ผมมีของที่ควรซื้อใช่ไหม”

    อะ-เออะ!

    รู้ได้ยังไง?

    “มีจังหวะหนึ่งที่คุณหยุดตัวไม่ตามผมไป ผมเห็นว่าตาของคุณกำลังอ่านอะไรบางอย่างที่ตัวผมอยู่ ถูกไหมครับ?”

    ถูกต้องที่สุดเลย!

    “คุณเหมาะกับสินค้าของฉันชิ้นหนึ่งน่ะ...เพราะงั้นก็เลยยอมตามมาน่ะ”

    “…”

    “เอ่อ...แล้วคุณคิดว่าเราควรทำยังไงต่อกันละคะ?” โรสมองจากนั้นก็ว่าต่อเสียงเบาลง “พวกเราจะเอาบานเหล็กลงก่อนหรือว่าจะ...”

    “บานเหล็กพวกนี้ช่างมันก่อน เราดึงมันมาในเวลาอันสั้นไม่ทันหรอกครับ ข้างนอกยังวุ่นวาย ถ้าคิดว่าดีก็ไปหลบในร้านสะดวกซื้อที่เดิมก่อน ยกชั้นแล้วจัดระเบียบใหม่...เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที”

    ก็ตามนั้น!

    ไว้จัดที่หลบภัยฉุกเฉินเสร็จแล้วเราค่อยมาทดสอบความสามารถต่อก็แล้วกัน ความจริงมันก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง ถ้าถึงคราวที่ต้องพักหลบแล้วล่ะก็ การเปิดพื้นที่การค้าน่าจะเป็นแผนที่ไม่เลวอยู่

    โรสคิดจากนั้นก็รีบจัดการปรึกษากับไอแซ็คทันที...

    แต่ยังอดสงสัยในใจไม่ได้ว่า [ปืนเลเซอร์ของวิศวกรลึกลับ ระดับ (S) ] นี่จะมีความสามารถอะไรกันแน่?

    แต่ถ้าเกิดระบบบังคับขายราคาที่ตั้งไว้...คุณไอแซ็คจะมีปัญญาซื้อได้ไหมนะ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×