NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [จบเล่ม4/5] ฉันมีปาร์ตี้ระดับ S ในวันสิ้นโลก *ฮาเร็ม* [มี e-book]

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 67


    ใครไม่อยากรอ สามารถซื้ออีบุ๊กอ่านตอนล่วงหน้าที่เหลือได้นะคะ 149 บาท!

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTkyMDU4OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjMxMDQ1NSI7fQ


     

    ตอนที่ 13

     

    สิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดตาค่อย ๆ เคลื่อนตัวผ่านทางเดินที่คั่นกลางระหว่างร้านค้าสองฝั่งเอาไว้ เจ้าตัวประหลาดนี้เหมือนกับหนอนแมลงที่ยาวเหยียด ใจกลางลำตัวที่ยาวโปร่งใสเหมือนกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก แต่ถึงแบบนั้นที่กลางลำตัวของมันกลับมีเศษซากชิ้นส่วนของศพกองอัดแน่นอยู่ ดูแล้วไม่ต่างอะไรกับเครื่องแกงที่มีเนื้อตุ๋นคละเคลากันจนนุ่ม

    เลือด น้ำเหลือง และสารพัดของเหลวในร่างกายมนุษย์คลุกเคลากันเป็นอย่างดีภายในไส้ไม่ก็...กระเพาะของมัน

    ส่วนเจ้าปากที่ไล่แทะชั้นวางเหล็กในร้านค้าฝั่งตรงข้ามเองก็ไม่ต่างอะไรกับฟันฉลามซี่ใหญ่ที่ซ้อนเรียงรายกันนับพัน ไล่ตั้งแต่ข้างนอกยันข้างในเพดานปากของมัน

    และเมื่อมองที่ขาช่วงล่างแล้ว โรสก็เห็นขามากมายราวกับตะขาบเคาะกุกกักกับพื้นคอยทิ้งคราบเหนียวเหนอะมากมายทั่วบริเวณที่มันใช้ขาค้ำยัน

    แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือกลิ่น...

    กลิ่นนี่...มันเหม็นเหมือนไข่เน่าระยะสุดท้าย โชคดีที่มันไม่มีตาแต่ถึงแบบนั้นหนวดที่กรูกันออกจากแนวสันหลังข้างบนกลับชอนไชตามซอกหลืบไปทั่ว เส้นสายเล็ก ๆ เหล่านี้พยายามมุดเข้ามาในประตูร้านขายยา เพียงแต่ที่คลินิกนี้ประตูออกแบบมาให้ปิดสนิทโดยเฉพาะ

    ดังนั้น...หนวดที่ไม่ต่างอะไรกับลิ้นถึงค่อย ๆ เจาะตามรอยแตกของหน้าต่าง คอยคืบคลานเข้ามาในส่วนที่ลึกของคลินิกให้ได้!

    โรสกับไอแซ็คค่อย ๆ พากันถอยหลังอย่างระมัดระวัง

    ยังดีที่พวกนี้ไม่มีหู ดังนั้นต่อให้เหยียบแผงยาหรือว่าเศษกระจก อย่างน้อยก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของมันนัก แต่...หนวดวพวกนี้ก็ยังชอนไชไปทั่วห้อง ตวัดกวาดไปมาอยู่ครู่ใหญ่

    ตอนนี้ที่หน้าของเธอมีหนวดสามเส้นกำลังโลมเลียที่พื้น โดยที่เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ไม่ได้สนใจเศษกระจกสักนิด น้ำลายเหนียว ๆ จากหนวดทำให้กระจกอ่อนตัวราวกับกระดาษชำระ จนดูเหมือนกรดที่ละลายสารเคลือบภายนอกออกได้

    โรสไม่กล้าหายใจแรง ๆ และแม้จะอยากหลับตาลงแต่เธอก็ไม่ได้ไร้สติถึงขนาดนั้น เธอต้องเฝ้ามองมันเอาไว้ให้ดี ไม่แบบนั้นถ้ามันใกล้จะแตะถึงตัวเธอขึ้นมา เธอก็จะได้ถอยหลังหนีไปสักคืบให้ทันท่วงที

    “พวกคุณมีทักษะอะไรบ้าง” ไอแซ็คถาม

    “ละ-โล่ป้องกัน” หัวโจกตอบอย่างว่องไว

    “ระดับอะไร?” ไอแซ็ครีบถามต่อ

    “บี” นายหัวโจกเองก็รีบตอบ จากนั้นก็ตอบแทนพวกที่เหลือซึ่งไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากออกมา “ส่วนพวกนี้อยู่ระดับอี มีทักษะม่านป้องกันขั้นต้น”

    “ผมบอกให้พวกคุณใช้ก็รีบใช้เข้าใจไหม?” ไอแซ็คว่าจากนั้นก็ยืนขึ้นคิดจะทำเรื่องอะไรบางอย่าง โรสมองอีกฝ่ายที่จับลูเครเซียยืนขึ้นมาด้วยอีกคน “ลูเครเซียผมจะยิงเปิดช่อง แล้วคุณจุดไฟเข้าใจไหม?”

    ลูเครเซียที่เริ่มกลัวไอแซ็คผงกหัวรับแต่โดยดี

    “ทุกคนทำตามผม ตั้งสติ อย่ากลัว เชื่อมั่นใจตัวผม”

    ได้ยินแบบนั้นโรสและคนอื่น ๆ ก็ผงกหัวรับอย่างไม่มีทางเลือกอื่น ในเมื่อหนวดพวกนี้มันไม่ถอยร่นออกไปสักที แถมมีแต่จะคว้านจับพวกเราสุดชีวิตแล้ว ถ้าไม่หาทางฆ่ามันแล้วหลบหนี ยังไงก็มีแต่จะโดนเขมือบสถานเดียว!

    “เตรียมตัว...ลุย!” ไอแซ็คให้สัญญาณ

    จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นอย่างว่องไวพลางยกปืนลูกซองสุดทันสมัยนั่นเล็งเป้าไปข้างหน้าด้วยท่าทางขึงขัง และในทันทีที่เจ้าสัตว์ประหลาดแหวกช่วงตัวของมันเปิดออก...ปัง!

    ปัง! ปัง! ปัง!

    เสียงดังเกิดขึ้นหลังจากที่อีกฝ่ายลั่นไกปืนลูกซองจนหมดแมกกาซีน เขายิงไปได้ประมาณสิบสองครั้ง ทำเอาส่วนของช่องว่างที่เปิดออกมาเกิดเป็นรูแหว่งที่ไม่สามารถปิดได้แนบสนิท แน่นอนว่าเจ้าอสูรตรงหน้าคงจะเจ็บมาก มันใช้หนวดบนหลังเข้าอุดรูที่เกิดขึ้นจากกระสุนปืนลูกซองซึ่งไอแซ็คระดมยิงใส่เมื่อครู่ ทั้งยังพยายามใช้หนวดเส้นที่เหลือพุ่งเข้ามาใส่สิ่งแปลกปลอมในห้องนี้อย่างเกรี้ยวกราด

    “จุดไฟ!” ไอแซ็คสั่งจากนั้น...พรึบ! สะเก็ดเปลวไฟเล็ก ๆ สว่างวาบกลายเป็นเปลวเพลิงขุมใหญ่ลุกโชนไปทั่ว ดูไม่ต่างอะไรกับตอนที่แก๊สหุงต้มระเบิดสักนิด

    “โล่!” คำสั่งต่อมาดังขึ้นพร้อม ๆ กับการที่คุณไอแซ็คคว้าตัวเธอและลูเครเซียพุ่งไปหลบอยู่ข้างหลังกลุ่มผู้รอดชีวิตสามคนที่ใช้ทักษะโล่อย่างว่องไว

    แต่แรงระเบิดนั้นคงจะรุนแรงมาก ทำเอาเจ้าอสูรยักษ์ตรงหน้าแตกกระจายเป็นเศษเนื้อนับไม่ถ้วน ไม่ต่างอะไรกับแขนขามนุษย์ที่อยู่ข้างในนั้นสักนิด

    กลิ่น...กลิ่นเหมือนแก๊สรั่วเลย

    “มีแค่ตัวเดียวใช่ไหม” ไอแซ็คถามและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในห้าง ทว่าพอเห็นสีหน้าของหัวโจกแก๊งผู้รอดชีวิตสามหน่อแล้ว โรสเดาได้เลยว่ามันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว

    “มีสามตัว แต่ตอนนี้เห็นแค่สองตัวนี้ นี่คือตัวใหญ่สุด ตัวที่สองเล็กลงเกือบครึ่ง ส่วนตัวที่สามเหมือนจะยังไม่ฟัก”

    ไม่ฟัก?

    “ผมเข้าใจแล้ว...” ไอแซ็คทอนหายใจออกมา “นี่คืออสูรระดับบี จอมมารดาตัวสำรอง ตัวหลักน่าจะอยู่ใต้ดินลึก ส่วนตัวเล็ก ๆ จะออกมาทำรังแล้วสร้างอสูรยิบย่อยพวกนั้น เดี๋ยวนะ? คุณบอกผมว่ายังไม่ฝัง คุณเห็นรังมันเหรอ?”

    “ผมริกซ์ เป็นยามรักษาความปลอดภัยของชั้นที่สาม เมื่อสี่วันก่อนช่วงที่ไฟดับ แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง พวกเราหมดสติไปจากนั้นชั้นที่สามก็กลายเป็นเหมือนรังอะไรสักอย่าง...ผมไม่รู้ว่าใช้คำถูกไหม แต่มันเต็มไปด้วยเมือกและอสูรตัวเล็กตัวน้อย ผมกับคนอื่นถูกพวกมันฝังในเมือกเอาไว้ แต่โชคดีที่เหมือนพวกมันหายไปเกือบวัน เพราะงั้นผมเลยช่วยคนอื่น ๆ ออกมาจากเมือกอีกแรง”

    หัวโจกอย่างริกซ์ว่าจากนั้นก็สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นสิ้นหวังและหดหู่

    “ผมช่วยคนมาได้ประมาณสามสิบกว่าคน แต่ว่าพออสูรกลุ่มใหม่มาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินโผล่ออกมา คนมากมายก็ถูกฆ่าและถูกพวกมันจับไป มีแต่พวกผมสามคนที่รอดและหลบในห้องพักพนักงานมาหลายวัน ได้แต่รอโอกาสดี ๆ หนีขึ้นไปชั้นที่หนึ่งให้ได้”

    และแล้วโอกาสก็มาถึงสินะ...

    ดูเหมือนผู้รอดชีวิตบางกลุ่มที่ล้างบางอสูรทำให้พื้นที่ของห้างปลอดการเคลื่อนไหวสักระยะหนึ่ง

    “พวกคุณรีบขึ้นไปที่ชั้นหนึ่งเถอะ ในนั้นมีรถกระบะสีดำใช้ขับไปที่ศูนย์อาหารอีสโคตส์ได้ นี่คือกุญแจรถของผม...” ไอแซ็คหันมาทางโรสจากนั้นก็พูดกับเธออย่างตรงไปตรงมา “โรส คุณกลับไปกับสี่คนนี้ก่อน ยังไงที่ชั้นสามผมจะจัดการเอง”

    จัดการเอง?

    ลุยเดี่ยวนะเหรอ??

    โรสไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะจัดการกับพวกอสูรยังไง?

    “ไม่เอาฉันอยากอยู่กับคุณ...” เธอเป็นห่วงอีกฝ่าย “ไอแซ็ค...ให้ฉันไปกับคุณนะ” โรสขอร้องและรู้สึกว่าไม่อยากปล่อยคนตรงหน้าทิ้งไว้เพียงลำพัง

    “ปรากฏการณ์นี้เรียกว่ากลับคืนสู่จอมมารดา หลังที่มีพวกเราเริ่มกำจัดอสูรได้และพวกอสูรก็เริ่มเข้าใจพฤติกรรมของเรา พวกมันทั้งหมดจะรวมฝูงครั้งใหญ่ กัดกินพวกกันเองเพื่อวิวัฒนาการระดับขั้น ดังนั้น...ผมคนเดียวทำงานสะดวกกว่า”

    สะดวกกว่า?

    แปลกที่เธอไม่ชอบใจคำพูดนี้เลย!

    นี่เขาทำท่าจะออกไปจัดการเรื่องราวมากมายด้วยตนเองอีกแล้วสินะ?

    “ถ้ามันไม่อันตรายพวกเราก็ไปด้วยกันนะครับ” ริกซ์เอ่ยขึ้นมาและลูกน้องอีกสองคนก็เห็นชอบด้วย “ยังมีคนที่น่าจะมีชีวิตอยู่ แต่ถูกฝังลึกเกินไป...ผมอยากลงไปช่วยภรรยาของผม เธอทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ชั้นที่สาม”

    ริกซ์ที่ดูอายุไม่มากนักเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง แน่นอนว่าลูกน้องสองคนก็อยากตามลงไปหาคนที่ตัวเองรู้จักมักคุ้นด้วยเช่นกัน

    พวกเขาสามคนต่างก็เป็นคนดีในความคิดของโรส

    “ถ้างั้นเราหายาให้ลูเครเซียก่อนดีไหมคะ ไม่งั้นเธอไม่ค่อยมีสตินัก” โรสเสนอความเห็นและแน่นอนว่าทันทีที่ไอแซ็คเห็นชอบด้วย ทุกคนก็ช่วยกันหาห่อยาที่อีกแม่สาวเจ้าพึมพำทันที

    ซองยาเตรียมไว้สำหรับนัดหมายนั้นหาไม่ยาก มันมักจะวางอยู่ในเคาน์เตอร์ที่ห้องยาข้างหลังอยู่แล้ว พอได้มาเธอก็ให้ริกซ์เอาไปฉีดที่ข้อพับของลูเครเซียทันที

    ส่วนตัวเธอเองนั้น...แอบกวาดเอาหยูกยาทั้งหมดลงมิติโดยไม่ให้ใครเห็นอย่างแนบเนียน ยังไงซะที่ว่างก็มีมาก ของสำคัญแบบนี้ก็ต้องรีบเก็บกวาดมาให้หมดเลย!

    “ลูเครเซีย ไหวไหม?”

    “อือ...ดีแล้ว หัวมันโล่งแล้ว!” สาวพังก์ร็อกดูดีขึ้นมาทันใดหลังจากได้ยาที่จำเป็นสำหรับการบำบัด ดูเหมือนยารักษาอาการติดสารเสพติดจะมีประสิทธิภาพมาก ตามข่าวที่โรสฟังนั้นยาแบบใหม่นี้ดีกว่าวิธีโบราณอย่างการค่อย ๆ ลดตัวสารเสพติดลงเป็นเท่าตัวเลย

    แต่ถึงแบบนั้นคนก็ไม่ได้เลิกเสพยาแต่กลับมาติดตัวยาพวกนี้แทน...ยาชนิดใหม่ที่ดีกว่ายาเสพติดและไม่ส่งผลเสียอะไรแบบนั้นน่ะ?

    “พูดรู้เรื่องแล้วใช่ไหม คุณอ่านข้อความบนกระดานสิ” คุณไอแซ็คเอาไฟฉายส่องไปที่ป้ายวัดสายตา แน่นอนว่าลูเครเซียอาการดีขึ้นมามากแล้ว ดังนั้นสาวเจ้าจึงไล่อ่านได้อย่างถูกต้องและแม่นยำทุก ๆ ตัวอักษร

    โล่งอกไปที!

    สถานการณ์ในตอนนี้พวกเราไม่ได้ต้องการคนสติไม่ดีมาอยู่ในกลุ่ม

    ถ้าเกิดลูเครเซียเป็นบ้าแล้วโวยวายจนทำเสียเรื่องอีก พวกเราคงสิ้นเปลืองกระสุนปืนโดยใช่เหตุ แถมไม่แน่อาจเกิดภาพหลอนยกปืนมายิงพวกกันเองอีกด้วย!

    “ผมไอแซ็ค ทอร์นลีฟ ส่วนนี้ภรรยาผมโรส ทอร์นลีฟ นั่นลูเครเซียพวกคุณรู้อยู่แล้ว”

    “ผมริกซ์ สองคนนี้คือฝาแฝดจอร์จกับโจ ทั้งคู่เป็นลูกน้องผม” ริกซ์แนะนำตัวจากนั้นก็แลกเปลี่ยนข้อมูลทักษะให้กันและกัน

    พวกเขามีแต่ทักษะโล่และม่านป้องกัน ตอนนี้ใช้ได้อีกสองครั้งเท่านั้น ส่วนลูเครเซียมีทักษะใช้ไฟใช้ได้อีกครั้งเดียว

    ส่วนเธอในตอนนี้เปิดใช้ทักษะร้านค้าเพื่ออำพรางตัวได้อยู่ แต่คุณไอแซ็คไม่ได้ให้เธอใช้ทักษะนี้ หมายถึง...ทักษะที่คนอื่นเข้าใจว่ามันคือทักษะที่ไว้ใช้อำพรางตัวน่ะ

    เพราะงั้นในตอนนี้พวกเราเลยเคลื่อนพลไปที่ชั้นสามโดยไม่รอช้า

    ชั้นที่...มืด...มีกลิ่นเหม็นหึง

    แถมยังมีเศษแขนขาของคนกองเต็มไปหมดเลย!

    ที่หน้าประตูบานใหญ่สามบานซึ่งเปิดให้คนเข้าไปยังฮอลข้างในเองก็มีสภาพไม่ต่างกับห้องร้างที่ถูกใยแมงมุมปกคลุมจนหนาทึบ เพียงแต่ใยพวกนี้เป็นอะไรบางอย่างที่เหนียวและยืดหยุ่นได้ดีกว่าเท่านั้น

    และพอมองไปข้างในโรสก็ไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปที่บานไหนดี

    “ตรงกลางมีคนถูกฝังอยู่เป็นโพรงใหญ่ ส่วนประตูบานอื่นพวกผมไม่รู้นะครับ เราไม่ได้อยากเข้าไปสำรวจขนาดนั้น”

    “ถ้างั้นก็ไปตรงกลางกัน” ไอแซ็คไม่ได้ลังเลที่จะช่วยเหลือคนอื่น ๆ เขานำเราเข้าไปพร้อมปืนลูกซองกระบอกโตซึ่งเปลี่ยนแมกกาซีนใหม่แล้ว

    ข้างในเป็นโพรงขนาดพอดีกับอสูรยักษ์เมื่อก่อนหน้านั้นมาก แต่ยังมีโพรงเล็ก ๆ ยิบย่อยขนาดประมาณมนุษย์และอสูรลูกกระจ๊อกอีกด้วย

    ในตอนนี้แถวของพวกเราแบ่งเป็นแถวตอนลึก ท้ายสุดมีริกซ์ดูหลังให้ ส่วนคุณจอร์จกับนั้นกวาดตามองซ้ายขวาด้วยความระมัดระวัง

    “ถึงจะดูเหมือนผนังแต่บางส่วนมันเปิดนะครับ มีหนวดออกมาคว้าตัวเอาไปได้เลย ระวังอย่าแตะมันจะดีกว่าครับ” ริกซ์ว่าและเล่าถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงสร้างประหลาดรอบ ๆ ตัว

    อะไรน่ะ? ผนังพวกนี้แหวกออกได้ด้วยน่ะเหรอ?

    โรสที่ได้ฟังก็กลืนน้ำลายจากนั้นก็ระมัดระวังมากยิ่งขึ้นกว่าเก่า!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×