คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 12
ใครไม่อยากรอ สามารถซื้ออีบุ๊กอ่านตอนล่วงหน้าที่เหลือได้นะคะ 149 บาท!
ตอนที่ 12
คุณไอแซ็คเคยให้โรสวาดแผนผังห้างคร่าว ๆ แล้ว ในหัวของอีกฝ่ายน่าจะจำเส้นทางได้ดี เขานำเธอไปยังโซนมาร์เก็ตของห้าง ตรงส่วนนี้น่าแปลกใจที่อาหารและน้ำยังไม่ถูกค้นไป คงจะเป็นเพราะพวกอสูรเยอะเลยไม่มีใครมาค้นหาทรัพยากรแถวนี้ ดังนั้นเธอก็เลยใช้ทักษะพิเศษที่ได้รับมากวาดเอาของพวกนี้ลงพื้นที่มิติเล็ก ๆ อย่างไม่คิดอะไรให้มากความทั้งนั้น
อาหารสำเร็จรูปทั้งแบบซองและแบบกระป๋องเธอกวาดเกลี้ยงชั้นวาง นมผง นมกล่อง นมขวดเธอเหมาหมดทั้งชั้น พวกน้ำอัดลมหรือน้ำแร่ สารพัดน้ำผลไม้ รวมถึงเหล้าเบียร์ก็วาดไปแบบเดียวกันกับชั้นอื่น ๆ
ขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน...ขนหมดเลย!
ของหวาน ๆ ถึงแคลอรีจะสูง แต่ยังไงมีไว้กินเพิ่มพลังงานฉุกเฉินก็ดีกว่าไม่มีจะกิน เพราะงั้นไม่ต้องพูดเลยว่าพื้นที่มิติเกือบสองส่วนของเธออัดแน่นไปด้วยเสบียงจนครบครัน
พื้นที่ในมิติเก็บของนั้นไม่คาบเกี่ยวกันกับมิติของเวลา เลยไม่ต้องคิดมากว่าของที่เก็บไว้จะหมดอายุ แต่เสียดายที่เนื้อสดและของสดในตู้แช่เริ่มน่าเสียแล้ว เพราะงั้นเธอเลยไม่เก็บพวกมันมา เนื่องจากเสียเวลาคัดแยกเกินควร
“เรื่องนี้ต้องบอกคนอื่นไหมคะ” เธอพึมพำกับไอแซ็คที่ส่องไฟฉายและคอยดูหลังให้ตอนที่เธอใช้งานทักษะอยู่
“ผมว่าไม่ควรหรอก ของนี่คือไพ่ตายของคุณ ไพ่ตายก็คือของที่ใช้ในเวลาสำคัญและใช้ในโอกาสจวนตัว” อีกฝ่ายย้ำและไม่อยากให้เธอคิดหาของเผื่อแผ่ไปยังสมาชิกในฐานมากนัก คงเพราะที่ฐานเองก็มีเสบียงมากพอแล้ว
“แต่ผมรบกวนให้คุณเก็บถ่านกองนี้กับขดลวดให้ผมด้วยนะครับ” คุณไอแซ็คว่าและมองไปยังกองสิ่งของที่ที่อีกฝ่ายไหว้วานให้เธอรับฝาก แน่นอนว่าของพวกนี้เธอย่อมยินดีอยู่แล้ว
“ได้ค่ะ” เธอรับจากนั้นก็ค้นดูของใช้อื่น ๆ อย่างอุปกรณ์แคมปิ้งจำเป็นมาเผื่อเอาไว้ในสถานการณ์ที่เธออาจจะต้องติดอยู่ในป่าหรืออาศัยอยู่นอกฐาน
“ยังเหลือที่อีกเยอะเลยค่ะ” เธอว่าเพราะพื้นที่มิติยังเหลือที่กว้างอีกครึ่งกว่า ๆ เพราะถึงห้องจะแคบแค่ยี่สิบตารางเมตร แต่ความสูงกินอยู่ที่สี่เมตร ความลึกมากเหมือนแก้วทรงสูง
“ไปเอาโปรตีนผงมาเก็บไว้เถอะครับ”
โปรตีนผง?
พวกผงที่ไว้ชงดื่มสำหรับคนที่อยากมีกล้ามน่ะเหรอ?
โรสคิดไม่ทัน…
“โปรตีนมีอยู่ในเนื้อสัตว์ แต่ตอนนี้เนื้อสัตว์เน่าแล้ว แถมยังจะหาเนื้อตอนนี้ก็ยาก แต่ว่าคนเราถ้าไม่มีโปรตีนร่างกายก็จะไม่แข็งแรง อาการบาดเจ็บก็จะหายช้าน่ะครับ”
ถ้างั้นก็รีบเถอะ!
โรสพยักหน้าแล้วหาเรือกับอีกฝ่ายว่าเราจะไปที่ร้านขายของเกี่ยวกับอาหารเสริม มันอยู่ไม่ไกลนักแต่อยู่แถบโซนกีฬา ทำเลแถว ๆ กับทางออกที่สองหลังห้าง เพราะงั้นยิ่งลึกก็ยิงมืดและมีแสงน้อย เธอกับไอแซ็คถึงได้ย่างก้าวอย่างระมัดระวังตอนที่ผ่านบันไดเลื่อนลงไปยังชั้นล่างของห้าง
บันไดเลื่อนอยู่ตรงกลาง พวกลิฟต์จะอยู่ทางซ้ายสุดที่มุมของห้างเสมอ ลิฟต์จะไม่อยู่ตรงกลางเพื่อให้คนเดินไปมาสะดวก เพราะตามหลักการออกแบบแล้วเจ้าของห้างอยากให้ลูกค้าวนเวียนในห้างและเชิญชวนให้จับจ่ายใช้สอยมากกว่า
“เราเอาอาหารสัตว์ไปด้วยดีไหมคะ?” จู่ ๆ เธอก็หยุดตัวแล้วกระซิบถามอีกฝ่ายที่นำอยู่ข้างหน้า
“คุณจะกินอาหารหมาเหรอครับ?”
“กินได้นะคะ พวกเกรด ๆ ดีนี่ให้คนชิมก่อนเลยนะคะ ฉันก็เคยกินขนมสุนัขนะคะ รสชาติไม่แย่เลย” เธอว่าจากนั้นก็หยิบอาหารสัตว์ติดไปด้วยสักเล็กน้อย สุงใหญ่สองถุง อาหารเปียกและอาหารแบบซองพกพาไว้บางส่วนเท่านั้น เธอไม่ได้กะขนเอาไปแบบอาหารคนหรอก แค่มีไว้สักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
“...” แต่คุณไอแซ็คก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาไม่ได้ห้ามแต่กลับเฝ้าระวังให้เธอแทน อาจเพราะว่ามิติห้องเก็บของนี่เป็นของเธอ เขาจะห้ามอะไรได้กัน…ล่ะมั้ง?
“แล้วคุณคิดว่านมผงเด็กกับของใช้เด็กเราควรมีไว้ไหมคะ เผื่อช่วยใครสักคน ไม่ก็เผื่อไว้น่ะ” เธอถามเมื่อคิดว่าถ้าสัตว์เลี้ยงไม่ต่างอะไรกับลูก งั้นถ้าผู้รอดชีวิตที่มีลูกหรือเป็นเด็กทารกล่ะ?
อนาคตต้องมีไว้เผื่อไหม?
“นมผงเด็กก็ไม่แย่นะครับ ถึงสัดส่วนโปรตีนจะน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่พวกวิตามินและแร่ธาตุสำคัญน่ะดื่มทดแทนได้ คุณเลือกกล่องสีทอง ๆ ราคาแพง ๆ พวกนั้นได้เลย อีกอย่างการมีนมผงไว้ชดเชยในกรณีเราขาดสารอาหารบางส่วนไม่แย่นัก ถึงจะไม่สู้สูตรนมผงของผู้ใหญ่ก็เถอะ”
ทำไมอีกฝ่ายฉลาดจังนะ!
“มีดีกว่าไม่มีสินะคะ” เธอว่าเพราะไหน ๆ ที่ก็ว่างอยู่แล้ว มีติดไว้ก็ไม่เสียหายหรอก ถ้าเกิดโปรตีนผงหมดหรือว่ายาเสริมแร่ธาตุขาด ก็อัดพวกนี้แทนไปก็สิ้นเรื่อง ถึงจะไม่เท่ากันแต่ว่ายังดีกว่าไม่มี!
เพราะงั้น...โรสเลยเข้าไปร้านขายของใช้สำหรับเด็ก กวาดนมผงและอาหารบำรุงลูกน้อยและของใช้สำหรับเด็กบางส่วนติดไปด้วย พวกผ้าอ้อมและของใช้เด็กส่วนใหญ่ยังไงก็เป็นของดี บอบบางต่อผิว อาจมีประโยชน์ตอนช่วยทำแผลหรือซับเลือดก็ได้...
งั้นยัดไว้ด้วยเลยก็แล้วกัน!
“จะว่าไปถ้าเกิดท้องตอนนี้คงลำบากแย่...” เธอชวนอีกฝ่ายคุยหลังมองเห็นหุ่นสวมเสื้อคลุมท้องตัวสวยตรงหน้า จากนั้นก็นึกถึงเรื่องในฝันที่ตัวเองแท้งลูกกระทันหันโดยไม่รู้ตัว สีหน้าถึงเผยความกลัดกลุ้มใจออกมา
“สีหน้าของคุณ...”
“แค่คิดอะไรน่ากลัวน่ะ” เธอยิ้มจากนั้นก็บอกให้อีกฝ่ายนำไปข้างหน้าต่อเพื่อกวาดเอาผงโปรตีนมาเก็บเอาไว้ให้มากที่สุด จากนั้นไม่นานเราก็เคลื่อนตัวกันมาถึงส่วนท้ายของห้างแล้ว
ด้านข้างร้านขายผงทดแทนสารอาหารมีลิฟต์อยู่ ข้าง ๆ ลิฟต์กระจกใสมีบันไดด้านข้างที่ชอบตั้งเอาไว้แบบเดียวกับที่ห้างเก่า ๆ ในยุคก่อน
ในจุดนี้มืดมาก ไฟฉายของเธอและคุณไอแซ็คส่องเท่าไหร่ก็ส่องไม่ทั่ว ดังนั้นอีกฝ่ายจึงเดินนำเข้าไปสำรวจแทนเธอก่อนด้วยความระมัดระวัง
จะว่าไป...ร้านนี้เล็กพอสมควรด้านข้างมีชั้นขายผงโปรตีนหลากรสชาติ ฝั่งขวามีตัวอย่างเครื่องออกกำลังตั้งเรียงรายอยู่
โรสกวาดมือเก็บกระปุกผงโปรตีนเข้าไปยังมิติของเธอ
กุกกัก! เสียงแปลก ๆ นี่ดังขึ้นจากห้องเก็บของของร้าน เห็นแบบนี้เธอจึงถอยหลังออกมาหาไอแซ็คอย่างรู้งาน
ไอแซ็คแนบหูฟังที่ประตูและให้เธอจับไฟฉายส่องตรงไป ครั้นพอเขาเปิดประตูลูกบิดออกมา เขาก็พบกับชายคนหนึ่งที่ดูอ่อนเพลียถลนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ชายคนนี้ไม่มีบาดแผล รูปร่างสูงใหญ่ตามประสาพวกบ้าออกกำลังกาย แต่คงเพราะขาดน้ำและอาหารมาสี่วันเขาก็เลยดูซูบซีด
“เขาน่าจะติดอยู่ในห้องตอนที่ไฟฟ้าดับ” ไอแซ็คว่าพลางใช้ไฟฉายอันน้อยส่องไปที่กลอนประตูไฟฟ้า
“ก็อาจจะเป็นโชคดีก็ได้นะคะ” เธอว่าแล้วช่วยคุณไอแซ็คประคองชายคนนี้ออกมาอย่างทุลักทุเล
“เราพาคนคนนี้ไปนอนไว้หลังท้ายรถเถอะครับ” เขาเสนอแล้วจากนั้นพวกเราก็ช่วยกันหามชายกล้ามโตออกมาข้างนอกห้างที่ยังคงปราศจากร่องรอยของอสูร ซึ่งกินเวลาไปมากพอสมควร
“แล้วของของคุณล่ะ ต้องการของอยู่ที่ชั้นไหนกัน”
“ชั้นสาม”
“…” โรสเงียบเพราะว่าชั้นสามเป็นชั้นไว้จัดแสดงนิทรรศการ อีกอย่างการจะลงไปก็ต้องอาศัยบันไดเลื่อนไม่ก็บันไดข้าง ๆ ลิฟต์ แถมยังต้องผ่านชั้นสองที่ทางเชื่อมไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอีก
แต่...พอเงยหน้าขึ้นดี ๆ กับพบกับป้ายโฆษณางานนิทรรศการเกี่ยวกับ ‘สิ่งประดิษฐ์ในสหัสวรรษที่สิบ’ อยู่เข้าเต็มสองตาแม้ว่าตัวป้ายจะไม่มีแสงขับให้สีสันคมชัดก็ตามที
ไม่ใช่ว่าช่วงนี้จะต้องจัดแสดงพวกเครื่องปั้นดินเผาโบราณทั่วโลกหรอกเหรอ?
โรสฉงนแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป...
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะค่ะ” เธอฝืนยิ้มทั้งที่ยังกังวลอยู่บ้าง
“คุณรอผมที่นี่ก็ได้ครับ ไม่ต้องตามลงไปหรอก” อีกฝ่ายเสนอแต่กลับเป็นเธอที่ปฏิเสธและเลือกจะตามลงไปข้างล่างด้วยกัน เพราะงั้นพวกเราสองคนเลยกลับเข้าไปในห้างอีกครั้ง แต่คราวนี้แน่นอนว่าในเมื่อไม่ต้องแวะกวาดของมาตุนไว้แล้ว การเดินทางถึงรวดเร็วมาก
มาถึงชั้นสองคุณไอแซ็คพาเธอไปหาลูเครเซียที่คลินิก แต่ว่าที่หน้าร้านคลินิกกลับไม่เห็นร่องรอยของสาวพังก์ร็อกสักนิด แม้ว่าแผงขายยามีร่องรอยการถูกรื้อค้นอย่างชัดเจนก็ตาม แถมที่เคาน์เตอร์ชำระเงินก็ดันมีปืนลูกซองของแม่สาวเจ้าวางทิ้งเอาไว้อีก
ดังนั้นสีหน้าของโรสเลยเคร่งเครียดมาด้วยความเป็นห่วงผู้หญิงด้วยกัน...
อีกอย่างแถวนี้ไม่มีร่องรอยของอสูรลูกกระจ๊อกเลย แต่ว่าที่พื้นที่มีแต่รอยเท้าเปื้อนของเหลวสีม่วงตุ๋น ๆ คล้ายกับเมือกหรือว่าโคลนเต็มไปหมดในชั้นนี้
แผงยาบางส่วนเองก็ถูกกวาดไปโดยเฉพาะตัวยาสำคัญ ๆ
“มีคน” คุณไอแซ็คว่าจากนั้นพอมองให้ดีก็รู้สึกได้ว่าในชั้นสองมีรอยรองเท้าอยู่สามคู่ ๆ ซึ่งไม่ใช่รอยตีนเปล่าของพวกอสูรที่เกิดจากซากศพมนุษย์ หรือเท้าเล็ก ๆ ที่เกิดจากขาอสูรลูกกระจ๊อกซึ่งมักจะเป็นรอยบุ๋มที่พื้น
แน่นอนว่านาทีนี้คุณไอแซ็คหยิบปืนลูกซองที่วางอยู่ขึ้นมาถือเอาไว้คู่กับไฟฉาย สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างชัดเจน กระทั่งแววตาของอีกฝ่ายก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างฉับพลัน
“ชู่ว...อย่ายิง…พวกเรามาดี” เสียงทุ้มของผู้ชายดังขึ้นจากข้างหน้า แน่นอนว่าเธอที่สวมแว่นตามองเห็นในที่มืดอยู่ก็เริ่มมองเห็นร่างของคนที่ค่อย ๆ ก้าวอย่างระมัดระวังมาทางคุณไอแซ็คซึ่งยังคงยกเล็งปืนจ่อคนกลุ่มนั้นเอาไว้
ดูเหมือนฝีมือการยิงปืนของไอแซ็คและประสาทสัมผัสของอีกฝ่ายจะยอดเยี่ยมมาก เขาขยับปืนและเคลื่อนตัวขยับตามทิศทางของคนกลุ่มนั้นอย่างแม่นยำ ทำเอาพวกที่มองอยู่ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
“คุณเอาคนในกลุ่มผมไปไว้ไหน?” ไอแซ็คเอ่ยขึ้นเสียงเย็นเยือก
“อยู่นี่!” ลูเครเซียเอ่ยขึ้นเสียงดังสุดชีวิต พลางดิ้นจนไปชนกับชั้นเหล็กบาง ๆ จนร่วงกระแทกพื้นเป็นแถบ ๆ จากชั้นด้านหน้าในร้านขายของฝั่งตรงข้ามกัน ทำเอาเสียงชั้นเหล็กที่ล้มลงและข้าวของที่หล่นกระแทกพื้นดังก้องไปทั่วบริเวณร้านค้าแทบนี้
“โธ่เว้ย! ดิ้นทำบ้าอะไรยัยโง่!” ชายในความมืดตะคอกลูเครเซียแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรมากกว่านั้น ที่ใบหน้าของเขานั้นหันไปยังทางเดินที่มืดมิดเบื้องหลัง สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ส่วนอีกสองคนที่ตามหลังมาติด ๆ ก็พากันยกอาวุธบ้าน ๆ อย่างไม้เบสบอลขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
กุกกัก...กุกกัก..
เสียงฝีเท้าของอสูรที่เคาะกับพื้นห้างดังขึ้นรัว ๆ ราวกับเสียงของสัตว์เลื้อยคลานที่กำลังพุ่งตรงมาตำแหน่งที่พวกเรายืนอยู่
“พวกคุณมานี่” ไอแซ็คกวักมือเรียกคนกลุ่มนั้นให้มาหลบในคลินิก และแน่นอนว่าเมื่อเขาเปิดประตูอ้าขึ้น คนกลุ่มนั้นก็พากันกรูเข้ามาแทบจะทันทีทันใด แล้วพอคนครบเขาก็ปิดประตูทันที
คราวนี้เสียงกุกกักดังขึ้นถี่รัวพอ ๆ กับเสียงของพื้นที่สั่นไหวอย่างรุนแรง
“ขอบคุณ” ชายที่เป็นหัวโจกเอ่ยขึ้นแล้วโยนลูเครเซียมาทางโรส “ยัยนี่มันโง่ รีบจะหาของแต่กลับทำให้เกิดเสียงดังไม่หยุด พวกฉันเลยต้องลากไปด้วย ไม่งั้นก็คงหลบไม่พ้นไอ้ตัวนี้” ชายหัวโจกว่าจบก็ถ่มน้ำลายใส่หน้าของลูเครเซีย
“เฮ้ย! เดี๋ยวยิงทิ้งซะหรอก!” ลูเครเซียคิดจะแย่งปืนลูกซองของเธอมาจากไอแซ็ค แต่แน่นอนว่าคุณไอแซ็คมีเหรอจะยอมให้สาวสติแตกมาทำเสียเรื่อง
“เงียบ!” คุณไอแซ็คตวาดเสียงเข้ม “นี่...คุณขาดยาเหรอ?” เขาว่าจบก็ส่องไฟฉายมองลูเครเซียที่หน้าซีดและเบ้าตาลึก แถมที่กรอบหน้ายังมีแต่เหงื่อไคลไหลโชกราวกับคนที่ตกอยู่ในภาวะกระสับกระส่าย
“ใช่สินะ เหอะ!” ไอแซ็คสรุปจากนั้นก็... “มาช่วยกันมัดเธอที่” เขาว่าแล้วโยนเชือกจากกระเป๋าเป้ให้แก๊งผู้มาเยือนทั้งสามหน่อ
ส่วนโรสน่ะเหรอ...เธออึ้งเพราะคิดไม่ถึงว่าที่แท้ลูเครเซียไม่ได้มาเพราะอยากหายาไปให้น้องสาวหรือยายของตัวเองหรอก สาวเจ้าแค่ต้องการมาคลินิกเพื่อค้นหายาเสพติด ไม่ก็ตัวยาที่ไว้ใช้ในการบำบัดรักษาอาการติดยาของตัวเองต่างหาก!
แต่อึ้งได้ไม่นานนักเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ทุกคนพากันหวาดกลัวก็มาถึง...กึก!
นะ-นี่มันตัวอะไรกันแน่?
ความคิดเห็น