NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [จบเล่ม4/5] ฉันมีปาร์ตี้ระดับ S ในวันสิ้นโลก *ฮาเร็ม* [มี e-book]

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 67


    ใครไม่อยากรอ สามารถซื้ออีบุ๊กอ่านตอนล่วงหน้าได้นะคะ 149 บาท!

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTkyMDU4OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjMxMDQ1NSI7fQ


     

    ตอนที่ 10

     

    โรสตัดสินใจซื้อของที่มีประโยชน์เท่าที่ตัวเองจะตัดสินใจได้ในเวลาอันสั้นมาสามชิ้นด้วยกัน โดยที่แค่กวาดสายตาดูคำอธิบายผ่าน ๆ จากนั้นก็ถ้าเธอคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์และคุ้มกับราคามากที่สุด เธอก็ซื้อมันโดยไม่ลังเลสักนิด

    [รายการสินค้าที่ซื้อสำเร็จ] 

    [ (1) : แว่นตาอัจฉริยะรุ่นที่สิบสอง 1 ชิ้น | ระดับ D | 3,000 ดวงดาว] 

    [ (2) : ชุดของคนงานก่อสร้างสถานีอวกาศ X0-113 1 ชิ้น | ระดับ C | 2,500 ดวงดาว]

    [ (3) : ปืนยิงลำแสงตัดวัตถุ 1 ชิ้น | ระดับ C | 7,000 ดวงดาว] 

    ทำไมถึงเลือกของพวกนี้?

    โรสรู้สึกว่าคำอธิบายมันค่อนข้างสมเหตุสมผลอยู่บ้าง แว่นตาอัจฉริยะไว้มองในที่มืดกับเอาไว้ใช้ส่องรังสีหรือแก๊สอันตราย อันนี้มีประโยชน์อยู่แล้ว ยังไงก็ได้ใช้แน่นอนถ้าเกิดต้องเดินทางตอนกลางคืนหรือว่าอยู่ในที่ที่มืด หรือต้องค้นของในอาคารที่ไม่มีแสงไฟ แว่นนี้คุ้มสุด ๆ แล้ว!

    ส่วนชุดของคนงานก่อสร้างสถานีอวกาศนั่น ถึงไม่รู้ว่ามีประโยชน์ยังไงกันแน่ แต่คำโฆษณาของมันก็คือชุดที่ออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายโดยเฉพาะ ป้องกันอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในไซต์งาน

    อันนี้ฟังดูดีมาก!

    แถมดีไซน์มันก็เหมือนกับชุดบอดี้สูทบาง ๆ อีกด้วย!

    สุดท้ายก็เป็นปืนยิงลำแสงตัดวัตถุ นี่น่าจะต้องมีประโยชน์มากต่อการงัดแงะหรือว่าใช้หลบหนีในที่ที่เป็นทางตัน โรสคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนมีแรงเยอะพอจะใช้ชะแลงงัดประตูหรือเอาขวานทุบหัวลูกบิดได้เหมือนคุณไอแซ็ค ถ้ามีอะไรก็ใช้มันตัดคงจะเข้าท่าสุด!

    รวมแล้วทั้งหมดเธอมีเงินเหลือแต่ 1,900 ดวงดาวเท่านั้น

    ใช้เงินเกินตัวมาก แต่เพราะรู้ว่าจะไม่มีโอกาสใช้งานได้บ่อยก็เลยต้องตัดสินใจซื้อไปให้หมดนั่นล่ะ อีกอย่างคือพวกของราคาแพงระดับ B ขึ้นไปก็คือหลักหมื่นถึงแสนต้น ๆ เชียว ส่วนของราคาระดับ A ก็คือล้าน แน่นอนว่าระดับ S คือล้านขึ้น!

    เพราะงั้นของหลักพันและหลักหมื่นต้น ๆ ก็มีแค่พวกของระดับ C และ D ส่วนพวกของระดับ E และ F จะเหมือนวัตถุดิบหรือวัสดุให้ไปสร้างเป็นชิ้นงานขึ้นมามากกว่าจะเป็นของสำเร็จรูป ราคาก็หลักร้อยนิด ๆ ถึงพันเท่านั้นเอง

    ติ๊ง! ของที่สั่งถูกหนวดยาว ๆ โยนจากช่องมิติรูปวงรีมายังกลางเตียง

    คราวนี้โรสตื่นเต้นอยู่บ้าง 

    แต่...ฮืม?

    [ทักษะพิเศษที่ได้รับ 2 ทักษะ] 

    [ทักษะพิเศษ (1) : มิติเก็บของพิเศษ พื้นที่ 20 ตารางเมตร | ระดับต่ำกว่า < F] 

    [ทักษะพิเศษ (2) : ฝีเท้าเบาราวกับแมว | ระดับ C] 

    อ่า...เป็นทักษะที่ไม่แย่นะ!

    โรสพึงพอใจและยิ่งพึงพอใจกับทักษะมิติลึกลับที่ได้มา มันฟังดูแล้วน่าจะเป็นทักษะที่ดีสำหรับการเก็บสะสมเสบียง แถมขนาดที่ให้มาก็ประมาณอพาร์ตเมนต์ขนาดกลาง ๆ ที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองด้วยซ้ำ

    “นี่คือของที่คุณสั่งมาเหรอ” ไอแซ็คถามจากนั้นก็มองดูเธอหยิบจับของหน้าตาประหลาดดู

    “ค่ะ” เธอว่ารับจากนั้นก็งุนงงอยู่บ้าง “ฉันว่าน่าจะใช้กับสถานการณ์ในช่วงแรกได้ พอสะสมเงินได้มากพอก็จะซื้อของดี ๆ มา ของพวกมันราคาสูงมากเลย แต่ปืนที่ยังขายไม่ออกนี่ยังไงก็แพงสุดในบรรดาของที่เห็นราคาด้วยนะคะ”

    “…”

    “ว่าแต่คุณเห็น...ไอนี่ไหมคะ?” โรสถามถึงหน้าต่าง [ระบบ: มิติเก็บของพิเศษ] ที่เด้งขึ้นมา หน้าของมันเหมือนโปรแกรมจำลองห้องสามมิติที่สมจริงเป็นอย่างมาก ตอนนี้มันยังเป็นห้องกลวง ๆ อยู่ แต่ในอนาคตน่าจะเอาของย้ายเข้าไปเก็บได้ ถึงจะไม่รู้ว่ามันเติมของเข้ายังไงแต่ไว้ค่อยลองก็แล้วกัน

    “ผมไม่เห็นหน้าต่างอะไรเลย”

    “เสียดายจัง...ฉันได้มิติเก็บของมาน่ะ คำอธิบายบอกว่าไว้ใช้สิ่งของอะไรก็ได้ลงไป พื้นที่ยี่สิบตารางเมตร เหมือนห้องห้องหนึ่งเลยค่ะ ฉันอยากให้คุณเห็นด้วยมันเหมือนที่ฉันเห็นเลย”

    “ต่อไปคุณอย่าบอกใครง่าย ๆ นะครับ”

    ฮืม?

    “เอ่อ...ค่ะ!” เธอรับคำและเข้าใจความหวังดีของอีกฝ่าย

    “ของพวกนี้ก็อย่าบอกใครด้วยว่าคุณมี ไม่ใช่ทุกคนจะหวังดีหรือเข้ามาขอคุณง่าย ๆ บางคนอาจจะขโมย บางคนอาจจะปล้นและฆ่าคุณ ถ้าให้เลือกว่าจะตอบยังไงก็ตอบว่าไร้ทักษะยังจะดีกว่า”

    นั่นสินะ…

    “ถ้างั้นเราก็รู้กันสองคนนะคะ”

    “แน่นอน”

    ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ก็เธอก็อยากรู้ทักษะของอีกฝ่ายบ้างเหมือนกัน แต่ไอแซ็คดูจะไม่ค่อยเปิดเผยอะไรง่าย ๆ เหมือนกับคำพูดที่เขาบอกเธอเลย อารมณ์เหมือนกับไพ่ตายที่ไม่มีใครรู้

    “พักผ่อนเถอะครับ คืนพอเข้าวันที่สี่ก็คือช่วงกลางของการรุกรานระลอกแรก ผมไม่มั่นใจว่าเราจะเจอตัวอะไร ยังไงเก็บแรงไว้ดีกว่า”

    พูดแบบนี้ก็แปลว่าต้องมีอย่างงั้นสินะ?

    โรสได้ยินแบบนั้นก็กลัวอยู่บ้าง เธอตัดสินใจเอาของกองไว้ข้าง ๆ จากนั้นก็ห่มผ้าหลับตาลงอย่างว่องไวราวกับเด็กอนุบาลกลัวผีใต้เตียง และพอรู้ตัวอีกทีก็หลับไปด้วยความอ่อนล้าที่สะสมมาทั้งวัน

     

    วันที่ 4 หลังการมาเยือนของคอหอย 

    เวลา 02.13 นาฬิกา

    ครืด...คราด...เสียงขูดไถของตัวอะไรบางอย่างดังขึ้นข้างนอกศูนย์อาหารที่ปิดบานเหล็กลงทั้งหมดแล้ว ถัดมาไม่นานเสียงครางต่ำซึ่งลากยาวก็ค่อย ๆ ดังขึ้นพร้อมกับเสียงพึมพำไม่เป็นภาษาซ้อนกันราวกับว่าสิบปากของมนุษย์กำลังโต้เถียงกันอยู่

    จากนั้นก็...ตึง!

    อะไรบางอย่างกระแทกกับเสาเหล็กกันชนรถหน้าศูนย์อาหาร

    เสียงนี้ดังซ้ำ ๆ หลายครั้งจนโรสตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดที่วังเวง เธอคว้าแว่นตาที่ซื้อมาสวมเอาไว้ ที่ซึ่ง...มันใช้งานได้ดีมาก ภาพตรงหน้ามีสีสันและสว่างขึ้นมาพอสมควร ถึงจะไม่ทำให้สว่างเหมือนตอนกลางวัน แต่ก็ยังดีกว่าไม่รู้ตัวว่าอะไรเป็นตัวอะไรเลย

    ต้องไปที่ดาดฟ้ารึเปล่า?

    โรสคิด..เพราะว่าไอ้เสียงบ้านี่...เอ่อ...แบบว่า...ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไรก็ตาม ก็ไม่ควรจะเผชิญหน้าตรง ๆ อยู่แล้ว!

    คิดจบโรสก็เดินด้วยฝีเท้าที่เงียบงัน ขึ้นบันไดไปยังดาดฟ้า แต่ก่อนจะออกไปทั้งตัวเธอก็ชะโงกหัวออกไปส่องดูว่าข้างบนปลอดภัยดีรึเปล่า

    กึก! ปลอดภัยกับผีสิ!

    ภาพตรงหน้าทำเอาโรสขนหัวลุกยิ่งกว่าประสบการณ์ถูกเจ้านายสิบคนรุมด่ากลางที่ประชุมอีก เบื้องหน้าของเธอคือตัวอะไรสักอย่างที่บิดเบี้ยวและพิศวงยิ่งกว่าอสูรลูกกระจ๊อก มันคือสิ่งมีชีวิตที่ท่อนบนเป็นมนุษย์ แต่ที่ช่วงท้องมีรอยแยกออกเหมือนถูกกรีดผิวแหวกออก ตรงนั้นมีหนวดหรือว่าเส้นสายอะไรสักอย่างงอกออกมาดูน่าสยดสยองยิ่ง

    ที่ช่วงล่างตรงตำแหน่งอวัยวะเพศเองก็มีหนวดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ส่วนบนนั้นไม่ใช่หัวมนุษย์เพียงหัวเดียว มันเหมือนมีหัวมนุษย์หลายหัวถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน เหมือนใช้เครื่องหนีบกระดาษเย็บอะไรทำนองนั้นเลย ยิ่งพอมันหันตัวกลับไป...เธอก็ได้เห็นแขนมากมายที่อยู่ติดกับแผ่นหลังราวกับขาตะขาบ!

    โรสอยากจะอาเจียนออกมาให้หมดไส้หมดพุงแต่ก็เธอไม่กล้า ยิ่งได้กลิ่นเน่าราวกับเนื้อหมดอายุในตู้เย็นเธอก็พะอืดพะอมเกินทน!

    ร่างที่มีขาคู่เดียวเดินโซซัดโซเซชนกับขอบกำแพงดาดฟ้า มือและแขนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ติดอยู่บนแผ่นหลังพากันยกขึ้นคล้ายจะทุบอะไรบางอย่าง

    ฉับพลันที่หน้าท้องก็แหวกออกมา หนวดหรือเส้นสายจำนวนมากไต่เลื้อยราวกับงูเข้ายึดกำแพงดาดฟ้าเอาไว้ก่อนจะคลานออกไปยังด้านนอกตัวกำแพง เพียงแต่หัวที่ซึ่งติดอยู่ด้านข้างกลับเบิกตาโตจ้องมาที่ตำแหน่งเธอไม่วางตา

    มันมองตรงมาแต่จากนั้นก็กลอกตาซ้ายขวาไม่หยุด

    โรสโล่งใจที่มันดูจะไม่ได้เห็นเธอในความมืด สุดท้ายเสียงครืดคราดก็หายไปจากดาดฟ้า แต่เหมือนที่หน้าศูนย์อาหารกลับมีเสียงทำนองนี้เพิ่มขึ้นมา

    พรึบ! มือยาวล่ำสันคว้าบานประตูดาดฟ้าตัดหน้าเธอแล้วปิดมันลงอย่างเงียบเชียบ ครั้นพอเห็นไปก็พบกับคุณไอแซ็คที่มองเธอด้วยสายตาเชิงตำหนิ

    โรสเข้าใจไม่พูดอะไรสักคำ สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจว่าควรจะส่งเสียงหรือว่าชวนอีกฝ่ายคุยเล่นดี...

    “ไปข้างล่างกันครับ” ไอแซ็คกระซิบแล้วถอยตัวลงนำลงไป

    “…” โรสไม่พูดอะไรแต่จมูกยังจำกลิ่นเน่าเหม็นและภาพเบื้องหน้าของสิ่งมีชีวิตพิกลพิการนั่นได้อย่างชัดเจน

    ในตอนนี้เธอตามอีกฝ่ายมาหลับยังบังเกอร์ใต้ดินแล้ว ที่นี่ทุกคนรวมตัวกันด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวและตื่นตระหนกยิ่งกับการมาของสิ่งมีชีวิตข้างนอกบานเหล็ก

    “ครบแล้ว” ป้าหลุยเซียน่าโล่งอกที่ทุกคนปลอดภัย

    “ข้างนอกนั่นคือตัวอะไร...” ลูน่าที่กอดพี่สาวต่างวัยเอาไว้ด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา จากนั้นก็พูดเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว “ฝีเท้าของมันดูจะหนัก ตัวต้องใหญ่แน่ ๆ เลย นะ-หนูกลัว”

    ลูน่า...ท่าทางจะกลัวมาก ส่วนลูเครเซียนั้นไม่กลัวสักนิด สาวพังก์ร็อกถือปืนลูกซองแฝดเอาไว้อย่างมุ่งมั่น เตรียมจะยิงใส่ตัวประหลาดที่เข้ามาใกล้ ๆ ในทันที

    “คุณไอแซ็ค คุณเห็นมันใช่ไหม” ตาแก่เคเนดี้สอบถามและไอแซ็คก็พยักหน้ารับ

    “มีอยู่สี่ตัวในเขตนี้” อีกฝ่ายว่า “มันคือซากศพมนุษย์ที่พวกอสูรใช้น้ำลายยึดต่อเข้าด้วยกันแล้วฝังไข่ปรสิตของพวกมันลงไป ศพมนุษย์ถูกบังคับและทำหน้าที่เป็นหูกับตาให้พวกมันได้มองเห็นและได้ยิน”

    เอ่อ...น่ากลัวแฮะ!

    “พวกมันต้องการมนุษย์ที่ศพสมบูรณ์เพื่อฝังปรสิตลงไป มนุษย์ตัวเป็น ๆ จะทำให้พวกมันใช้ร่างได้ดีกว่าศพ เพราะร่างของพวกเราคล่องแคล่วและทนทานกว่า ไม่เน่าเสียเหมือนซากศพด้วย”

    มีเหตุผลอยู่นะ...ถึงไม่รู้ว่าทำไมไอแซ็คจะเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้ก็เถอะ!

    “ระบบเรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่าปรสิตควบคุมศพ แต่ละร่างไม่เหมือนกันและมีรูปแบบไม่ตายตัว ลักษณะเหมือนมนุษย์พิกลพิการยากจะจินตนาการได้...ก็...ทำนองนั้น...”

    “มีวิธีจัดการไหม” เคน เรดฟิลด์ถามขึ้น

    “มี แต่ก็ต้องรู้ตำแหน่งที่ปรสิตที่ฝังตัวในร่าง เพราะงั้นที่ผมไม่แนะนำก็เพราะต้องรอมันเปิดช่องถ่ายของเสียออกมา อีกอย่างพวกนี้อยู่ได้ไม่ถึงสามอาทิตย์เท่านั้น ปรสิตในจะมองหาร่างใหม่ ไม่ก็ศพใหม่ที่สภาพดีกว่า”

    ฟังมาถึงตรงนี้โรสอยากจะอาเจียนอีกหน...ศพและศพเต็มไปหมด!

    “จะเจอได้ทุกช่วงเวลา พวกตัวที่ก่อจากศพประสาทสัมผัสอาจไม่แม่นยำเท่าตัวที่เป็นศพมนุษย์เดียว ๆ เพราะงั้นระวังนะครับ เรื่องเสียง แสง กลิ่น...ทุกอย่างให้คิดเหมือนว่ากำลังสู้กับมนุษย์อยู่จะดีกว่า ต้องไม่ประมาทนะครับ”

    “ไม่มีเหตุผลเลย ปืนฆ่าไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?” ลูเครเซียที่ฮึกเหิมว่า “ถ้างั้นใช้พลังไฟของฉันจะเผามันได้ไหม”

    สาวร็อกว่าและนำเสนอถึงทักษะแผดเผาของอีกฝ่ายที่ทรงพลังอยู่บ้าง ลูเครเซียถูกเลือกโดยระบบและจัดอยู่แรงก์ A และเป็นเหตุผลที่ทั้งป้าและน้องสาวของตัวเองปลอดภัยในสามสี่วันแรกของการรุกราน

    พวกอสูรไม่ถูกกับไฟ การที่มันโดนไฟทำให้พวกมันอ่อนแอและถูกเผาไหม้ราวกับฟืนไม้ แต่พอเป็นผิวหนังของมนุษย์น่ะก็น่าจะทนไฟระดับหนึ่ง ผิวหนังอาจโดนไฟคลอกจนเกรียม แต่ว่าศพไม่รู้สึกอะไร แค่ควบคุมกล้ามเนื้อกับเส้นใยต่าง ๆ ได้ ยังไงพวกอสูรก็ยังเคลื่อนไหวต่ออีกอยู่ดี ต่อให้มันจะช้าลงก็ตาม

    หรือถ้าเจออสูรลูกกระจ๊อกขั้นกว่า แบบชนิดที่มีเปลือกหนาก็จะยุ่งยากขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะว่าทักษะไม่สามารถใช้งานตลอดเวลาได้ ค่าเอพีเป็นข้อจำกัดของการใช้ทักษะกับทุกคน

    “ไฟของคุณลูเครเซียจะช่วยกระตุ้นให้ปรสิตโผล่ออกมา จุดหลักคือพวกมันไม่ชอบไฟและที่ร้อน ไม่ชอบแดดจ้า ดังนั้นพวกมันถึงต้องระวังมุมอับและที่ร่มเข้าไว้” คุณไอแซ็คอธิบายจากนั้นก็กางกระดาษแผ่นใหญ่ออกมา

    มันคือแผนที่ของเมืองนี้พร้อมกับวงสีแดงที่วาดเอาไว้ตามตำแหน่งของสถานีรถไฟ...

    “ทำไมผมถึงต้องลงไปในห้าง ง่าย ๆ ก็คือห้างนี้เป็นรังของพวกมัน โครงข่ายรถไฟฟ้าใต้ดินก็คือเส้นทางที่พวกมันใช้ลำเลียงศพคนและเคลื่อนไหว ตัวแม่จะมีห้องเก็บศพที่มีอสูรมดงานฝังไข่และใช้ศพมนุษย์เชื่อมต่อกัน”

    “…” ทุกคนเงียบราวกับว่าไม่อยากจะเข้าไปในห้าง

    “ในนั้นมีหลายอย่างที่ยิ่งกว่าทุกคนจะคิดได้ แต่ว่าผมแค่ต้องการวางระเบิดปิดตายรังของพวกมันเท่านั้น ความคิดของผมคือการทำลายทางขึ้นสถานีต่าง ๆ โดยที่ถ้าเริ่มทำจากจุดนี้พวกเราจะปลอดภัยมากขึ้น”

    วางระเบิด?

    “ระเบิดนี่นะ เราจะวางระเบิดได้ยังไงกัน ต้องใช้ของแบบนั้นเท่าไหร่ล่ะถึงจะทำถล่มสถานีรถใต้ที่ติดกับห้างนั่นได้กัน” คุณเคเนดี้ตกใจให้กับความคิดของไอแซ็ค

    ระเบิดสงครามหายากจะตาย!

    ถ้าจะทำก็ต้องมีอุปกรณ์ถึงจะสร้างระเบิดแสวงเครื่องบ้าน ๆ ได้...แต่ถึงทำได้อานุภาพมันจะรุนแรงพอที่จะล้มตึกทั้งหลังได้เหรอ?

    ยิ่งคิดโรสยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่เข้าไปใหญ่เชียว ตึกสมัยใหม่ในยุคนี้ก็ค่อนข้างจะคงทนพอสมควร คอนกรีตหนา เหล็กเส้นใหญ่ผสมโลหะจนได้โลหะผสมที่มีประสิทธิภาพสูงและทนกับความร้อนโดยเฉพาะ อีกอย่างต่อให้ข้างใต้เป็นห้างเก่า แต่ก็ใช่ว่าโครงสร้างจะอ่อนปวกเปียกด้วยซ้ำ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×