คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Mr. and Mrs. Nara | Began. (100%)
ที่รัก คืนนี้ฉันจะล่าเธอให้เป็นเหยื่อของฉัน จะจบชีวิตเธอก่อนจะกินเธอทั้งเป็น
เธอคงคิดว่าจะซ่อนตัวพ้น แต่ฉันตามกลิ่นเธอได้เป็นไมล์ๆ เหมือนกับสัตว์ร้าย
ที่รัก เหมือนกับสัตว์ร้าย สัตว์ร้าย สัตว์ร้ายอย่างที่ฉันเป็น ที่รัก – Maroon 5
Began
5 Years ago
Heathrow, London
ปุยเมฆนอกหน้าฟุ้งกระจายเป็นคลื่นเหมือนนกยักษ์ลำนี้ลอยเหนือทะเลอากาศ แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ทอดยาวเหนือระลอกสีขาวอมแดงจัดจ้า ขณะเหนือขึ้นไปนั้นชั้นบรรยากาศกำลังถูกทาทับด้วยสีม่วงช้ำเลือดช้ำหนอง ไทม์โซนเริ่มเปลี่ยนขณะอากาศยานบินเข้าสู่น่านฟ้าสหราชอาณาจักรอังกฤษ ภาคพื้นดินขณะนี้คงเย็นย่ำ เทมาริมองเห็นปีกสีเงินตัดผ่านริ้วเมฆ ทิ้งเส้นขาวเป็นไอขุ่นข้นไว้เบื้องหลัง เที่ยวบินตรงจากโบโกตา โคลอมเบียเริ่มลดระดับลงพร้อมเสียงที่ลอดมาตามอินเตอร์คอม หน้าจอเบื้องหน้าปรากฏแผนที่อังกฤษ เวลาท้องถิ่นรวมถึงอุณหภูมิปัจจุบัน
ตอนเครื่องแลนดิ้งเกิดแรงเหวี่ยงเล็กน้อยทำให้เทมาริรู้สึกมึนศีรษะ เธอเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อลดอากาศหูอื้อ เสียงประกาศให้เปิดหน้าต่าง เก็บอุปกรณ์และรัดเข็มขัดดังผ่านลำโพงบนเคบินชั้นธุรกิจที่หญิงสาวนั่งหลับตาอยู่ หลังทุกอย่างสงบลง อากาศยานลำใหญ่แตะพื้นเทียบอาคารผู้โดยสารขาเข้าสำเร็จ หญิงสาวก็ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีผ่าเผย มือคล้องกระเป๋าถือแอร์เมสขณะหยิบไทม์และการ์เดี้ยนหน้าประตูทางออก ยังไม่ทันจะผ่านงวงช้าง ทางเชื่อมจากรันเวย์สู่ตัวอาคารตอนนั้นเองที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานเดินเข้ามาประกบเธอ ชายหนุ่มผู้สวมโอเวอร์โค้ตอีกคนยิ้มอย่างสุภาพ เธอเดาว่าเป็นยาร์ด และก็ไม่ผิดเสียด้วย
สกอตแลนด์ยาร์ดหนุ่มกล่าวทักทายนุ่มนวลพลางแสดงบัตรประจำตัวตามข้อบังคับการตรวจค้น “คุณผู้หญิง มาคนเดียวหรือครับ”
ชายหนุ่มคนนั้นพยายามกันตัวเธอไว้ สำเนียงของเขาฟังแปร่งหู บางทีอาจเป็นไอริช เทมาริดันแว่นกันแดดลงมา ดวงตาสีเขียวครามมองลอดดิออร์ พอจะคาดเดาได้ว่าเพราะเหตุใดยาร์ดถึงจ้องตะครุบตัวเธอ และเพ่งเล็งนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว จากการฟังข่าวตอนเดินทางหลายไมล์ข้ามน้ำข้ามทะเลมา เธอก็พอปะติดปะต่อได้ อินเทอร์ปอล – ตำรวจสากลอาจติดต่อมายังลอนดอนแล้วว่าผู้กระทำการอุกอาจ ปฏิบัติการก่อการร้ายที่ฆ่านักธุรกิจรายใหญ่ ผู้ลงทุนของเอ็นจีโอเปลี่ยนเครื่องมายังฮีทโธรว์ และปฏิบัติการเพียงลำพัง
อันที่จริง หญิงสาวค่อนข้างรู้สึกเหมือนถูกลบหลู่เมื่อต้องบอกว่าเธอไม่ได้รับงานสังหารนักธุรกิจคนนั้น แม้เบื้องหลังมันหยิบจับการค้าฝิ่นและใบโคคาผิดกฏหมายที่โคลอมเบีย ต้นสังกัดเคยติดต่อมาครั้งหนึ่งแต่เธอปฏิเสธเพียงเพราะติดภารกิจซึ่งรับมาก่อนหน้าแล้วที่ลอนดอนนี้ เทมาริฉีกยิ้ม ริมฝีปากแดงได้รูปพยายามทำให้ตัวเองน่าเชื่อถือ บลัดดี้แมรี่ที่เธอสั่งบนเครื่องเพิ่มระดับแอลกอฮอล์ในเลือด แต่นั่นไม่ได้เป็นสาเหตุที่ผลักดันให้เธอโกหก มือสังหารผู้ซึ่งอินเทอร์ปอลกับยาร์ดตามตัวอยู่จะเป็นใครก็ช่าง แต่ถ้าบังเอิญทำให้มือสังหารร่วมอาชีพอีกคนหนึ่งอย่างเธอตกกระไดพลอยโจนด้วยก็ต้องเขม่นกันหน่อยแล้ว “ฉันไม่ได้มาคนเดียวค่ะ”
สำเนียงของเทมาริไม่มีที่ติ เป็นความจริงว่าทันทีที่นักฆ่าระดับพระกาฬอย่างเธอลงเครื่องบินเพื่อจะปฏิบัติการตามแผนก็ถูกยาร์ดหมายหัวทันที สกอตแลนด์ยาร์ดต้องการตัวนักฆ่ามีชนักติดหลัง แต่เหมือนจะได้นักฆ่าอีกคนที่ยังไม่ทันลงมือไปแทนกระมัง
“แต่คุณผู้หญิง เลขที่นั่งคุณ…” ยังไม่ทันเอ่ยจบดี ชายหนุ่มประจำสกอตแลนด์ยาร์ดแห่งเกาะอังกฤษก็งุนงง เทมาริก็เช่นกัน เพราะโดยไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มอีกคนก็เดินเข้ามาเกี่ยวแขนเธอไว้แน่น ผู้โดยสารจากเครื่องบินค่อยๆ ทยอยออกมาผสมโรงหนาแน่นทางเดินเชื่อมรันเวย์ ชายหนุ่มผู้ปรากฎตัว ถือวิสาสะเกาะเธออย่างไม่สนใจอะไรก็เป็นหนึ่งในนั้น ดวงตาสีเขียวครามของหญิงสาวเบิกกลมอย่างสวนท่าที และเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตหญิงสาวก็รีบซ่อนมันไว้ด้วยสีหน้าทรงเสน่ห์ยั่วยวนตามปกติ เธอกลมเกลื่อนอาการตกใจพลางยิ้มหวาน บุรุษที่จับแขนเธอแน่นเป็นคนเชื้อชาติเอเชียแน่ ตัดสินจากดวงตาชั้นเดียวที่หน่ายเซ็ง กับใบหน้าเหนื่อยหน่ายนั่น
เหมือนว่าจะมาคนเดียวด้วย เพราะเบื้องหลังเขาก็มียาร์ดนอกเครื่องแบบสองคนติดตามอยู่
“เอาละเลิกซักเธอได้แล้ว ผมมากับเธอ เธอเป็นคู่หมั้นผม” ปราศจากสัญญาเตือนล่วงหน้า ชายหนุ่มกล่าวเรียบๆ ติดจะรำคาญ สำเนียงเขาเป็นแบบออกซ์ฟอร์ด เงื่อนเน็คไทที่ผูกอยู่ก็บ่งบอกเช่นกัน เทมาริทำได้เพียงร้องอย่างตกตะลึงอยู่ในใจ โดยไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มที่เกาะแขนเธอแน่นขึ้นอีกก็สรรหาเรื่องประดังเข้ามาหาภายในไม่กี่วินาที เธอไม่เคยพบเขามาก่อนด้วยซ้ำ ทว่าหญิงสาวก็กระทำสิ่งที่ตรงข้ามกับใจคิดออกมา ด้วยไหวพริบอันฉับไว หญิงสาวนักลอบสังหารมือฉมังพยักหน้ายิ้ม เออออตามชายหนุ่มหน้าตายผู้อ้างตัวว่าเป็นคู่หมั้นเธอ สกอตแลนด์ยาร์ดหนุ่มแสดงสีหน้าประหลาดปนความคลางแคลงที่สื่อชัดว่าไม่วางใจตามวิสัยตำรวจ เทมาริแอบพินิจเครื่องกายชายหนุ่ม – คู่หมั้นจำเป็นเร่งด่วน ก็พบว่าเขาสวมสูทขนสัตว์ของทอม ฟอร์ดและถือกระเป๋าหนังแบบนักธุรกิจมืออาชีพหรือนักลงทุนตลาด
“เอาอย่างนี้…” เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่สกอตแลนด์ยาร์ดยังคงไม่เชื่อใจ ชายหนุ่มสำเนียงรื่นหู บางทีอาจเป็นศิษย์เก่าอีตัน ดูจากวิธีสวมเสื้อสูทพับปกก็กล่าวขึ้น พลางส่งหนังสือเดินทางปกสีแดงประทับดอกคิคุ – ตราแผ่นดินญี่ปุ่น – กับหนังสือแนบบอร์ดดิ้งพาสของตัวเองให้แก่เจ้าหน้าที่หนุ่ม “ผมกับเธอเองก็เป็นนักท่องเที่ยวปกติ ไม่รู้ทำไมพวกคุณถึงเข้ามาแบบนี้ แต่ถ้าคุณตามหาใครอยู่ล่ะก็ บอกได้เลยว่าไม่ใช่พวกเราแน่นอน ถ้ามีอะไรสงสัยติดต่อสถานทูตฯ ญี่ปุ่นเลยก็ได้ พวกเรารอได้ แต่สุดท้ายคุณก็จะเสียเวลาเปล่ากับการตามตัวคนที่คุณต้องการ ไม่แน่ ระหว่างที่ซักถามพวกเราอยู่แบบนี้ คนๆ นั้นอาจลอยลิ่วตัวปลิวไปแล้วมั้ง” เป็นคนญี่ปุ่นเหมือนกันนี่เอง เทมาริเก็บเกี่ยวข้อมูลของอีกฝ่ายอย่างนิ่งเฉย สุ้มเสียงเขานุ่มหูและฟังน่าเชื่อถือมากทีเดียว
มีเพียงความเงียบคลุมเครือ ชายหนุ่มจากยาร์ดชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยออกมา หลังตรึกตรองแล้วว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมขอสถานที่ติดต่อกับหนังสือรับรองระหว่างพวกคุณพักอยู่ที่นี่ด้วยครับ”
“ที่รักคะ รีบๆ ทำให้จบๆ ไปสักทีเถอะค่ะ” ครั้งนี้เทมาริเป็นฝ่ายเล่นละครขึ้นบ้างหลังจากปล่อยให้ชายหนุ่มออกฉากอยู่คนเดียว เธอดึงแขนเขาอย่างแรงจนร่างสูงเกือบจะถลาเพราะไม่ทันรับมือ ชายหนุ่มรีบทรงตัวอย่างรักษามาด หญิงสาวเห็นดวงตาคมกริบปราดมองมาชั่วแวบหนึ่ง ก่อนเขาจะหันไปสนใจปะมือกับเจ้าหน้าที่ยาร์ดต่อ ระหว่างหนุ่มยื่นบอร์ดดิ้งพาสแก่สกอตแลนด์ยาร์ดอีกรอบ เทมาริก็เห็นนามบัตรเขา – นารา ชิกามารุ โปรแกรมเมอร์ควบคุมซอร์ฟแวร์หลักของบริษัทโปรแกรมคอมพิวเตอร์ข้ามชาติที่ทรงอิทธิพล
‘ใช่ย่อยนะเนี่ยนายคนนี้’ แถมยังฉลาด หัวไวไม่น้อยด้วย ข้อหลังหญิงสาวยอมรับชื่นชม เนื่องจากการเดินทางเข้าประเทศคนเดียวกำลังเป็นหมุดตัวใหญ่ที่สกอตแลนด์ยาร์ดมีเพื่อจับผู้ปฏิบัติการร้ายยังโคลอมเบีย ดังนั้นถ้าไม่มาลำพังก็พอมีข้ออ้างอยู่บ้าง ชายหนุ่มจึงเข้าถึงตัวเธอที่มาคนเดียวเหมือนๆ กันเพื่อผลประโยชน์ร่วม และเธอก็แค่แสดงละครตามน้ำเพื่อเอาตัวรอดอย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณนารา ชิกามารุสำหรับโอกาสที่หยิบยื่นมาให้คนไม่เคยรู้จักซึ่งบังเอิญประสบชะตากรรม ร่วมสถานการณ์ยุ่งยากเดียวกัน เทมาริหมุนตัวผละจากเจ้าหน้าที่ยาร์ดขณะยังเกาะแขนชายหนุ่มเพื่อตบตาให้สมบูรณ์ที่สุด ใบหน้าคู่หมั้นแค่เพียงไม่กี่นาทีของเธอยังคงเรียบเฉย ไร้ซึ่งอารมณ์ดังเดิม ตอนเดินถึงอาคารผู้โดยสารขาเข้า เขาก็เพิ่งพูดกับเธอครั้งแรกด้วยภาษาญี่ปุ่น คงทราบแล้วว่าเป็นคนชาติเดียวกัน
“คงต้องทำแบบนี้ไปจนกว่าจะออกจากสนามบินล่ะนะ” ชายหนุ่มที่เทมาริรู้จักผ่านนามบัตรว่าชื่อนารา ชิกามารุกล่าวเรียบๆ ตอนหันมามองเธอก็มีประกายบางอย่างในดวงตาคมกริบ ถัดจากนั้นไม่กี่อึดใจ เขาก็แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ “ขอโทษที่ช้าไปหน่อย แต่คุณช่วยผมได้มากเลย ผมนาราครับ นารา ชิกามารุ”
“ซาบาคุโนะค่ะ ซาบาคุโนะ เทมาริ ยินดีที่ได้รู้จัก” กล่าวพลางจับมืออีกฝ่ายที่ยื่นออกมา เทมาริยิ้มขณะความประทับใจที่มีต่อชายหนุ่มมากกว่าที่เคยรู้สึกผ่านๆ มาทั้งหมด เธอเดาว่าอีกฝ่ายก็เช่นกัน บนสายตาคู่นั้นเหมือนผู้ชายที่มักตกหลุมพรางของเธอ หากเขาแปลกจากบรรดาหนุ่มพวกนั้นตรงที่ดูฉลาดเท่าทันมากเหลือเกิน ท่ามกลางอาคารผู้โดยสารหลากหลายเชื้อชาติที่พลุกพล่านจอแจ บางภาษาก็ฟังไม่ได้ศัพท์ อุณหภูมิเครื่องทำความร้อนภายในตัวอาคารก่อนถึงจุดตรวจคนเข้าเมืองแทบจะไม่ทำหน้าที่ อากาศเริ่มเย็นทีละนิด แต่หญิงสาวแทบไม่ใส่ใจ เธอกำลังตกหลุมเหมือนดังเช่นชายที่ตรงหน้าลงไปเกือบเต็มตัวแล้วทั้งที่พวกเราเพิ่งพบกันไม่กี่นาทีก่อนหน้า ด้วยเหตุชุลมุนฉุกละหุก
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนพร่างพรายด้วยความรู้สึกลุ่มลึก ครั้งหนึ่งมาร์ค เทวนเคยพูดว่าตกหลุมรักอาศัยเพียงวินาทีเดียวก็เกินพอ ชิกามารุเริ่มเชื่อ เขาแค่เกี่ยวแขนหญิงสาวเพื่อเอาตัวรอดเฉพาะหน้าหลังไปละเลงเลือดเสียประเจิดประเจ้อที่โคลอมเบียมาหมาดๆ แถมยังถูกอินเทอร์ปอลกับสกอตแลนด์ยาร์ดหมายหัว เพราะเห็นว่าหญิงสาวก็ตกอยู่ใต้สถานการณ์คล้ายคลึงกัน ได้ประโยชน์สองฝ่ายเห็นๆ แต่ผู้หญิงที่ชื่อเทมาริคนนี้กลับน่าสนใจและดึงดูดอย่างมากทีเดียว เธอฉลาดถึงตามเขาทันว่ากำลังมีแผนการสลัดพวกยาร์ดทิ้งอย่างไร ชิกามารุไม่อาจปฏิเสธได้หลังลงเรือลำเดียวกับเธอเมื่อไม่กี่อึดใจก่อนว่าเขาถูกดวงตาสีเขียวครามคู่นั้นดึงให้ถลำลึกจนแทบหายใจไม่ออก
นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน
.
แค่ใช้เวลาร่วมกันไม่ถึงเศษเสี้ยวหนึ่งของวัน ชิกามารุก็พบว่าหญิงสาวน่าสนใจเป็นที่สุด นอกเหนือจากความฉลาดและมนต์สะกดล้นเหลือพวกนั้น เธอมีทั้งความดึงดูด คารมและอารมณ์ขันแบบที่บรรดาผู้ชายคาดหวังจะได้รับจากสาวทรงเสน่ห์ หลังออกนอกเกต พวกเขายังจำเป็นจะต้องทำทีเป็นคู่หมั้นดังเช่นที่ปั้นเรื่องไว้ เพราะอย่างนั้นเขาจึงมีข้ออ้างดึงตัวเธอให้นั่งรถออกไปด้วยกัน ในคราแรกหญิงสาวทำท่าจะปฏิเสธด้วยอากัปกิริยาเย่อหยิ่งมากทีเดียว ด้านนอกประตูทางออกของท่าอากาศยานมีผู้โดยสารยืนเข้าแถวรอแท็กซี่แคปบนจุดเฉพาะ ผู้คนวุ่นวาย ทั้งงุ่นงานอยู่กับสัมภาระหรือลงจากรถ ไม่ก็ขนกระเป๋าใบใหญ่ ในเลาจ์มีรถเข็นบรรทุกกระเป๋าเดินทางเคลื่อนผ่านไปมาพลุกพล่าน
ท่ามกลางเสียงซึ่งเจืออยู่ทั่วอากาศโปร่งโล่งของอาคารผู้โดยสารขาออก ก็มีเพียงเสียงหวานๆ เท่านั้นที่ดังขึ้นอย่างชัดเจนที่สุดในโสตประสาททของชิกามารุ เขาตั้งใจฟังเธอพูดแม้มันจะเป็นประโยคสุดท้ายที่ตนอยากได้ยิน ณ เวลานี้
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณนะคะ ฉันดีใจมาก” หลังแสร้งทำเป็นต่อแถวบนจุดรอรถอยู่พักใหญ่ เทมาริก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องแยกจากชายหนุ่มผู้ปราดเปรื่อง แม้ว่าลึกๆ แล้วใจจะบิดเร้า ร้องเตือนบอกว่านั่นไม่ใช่การกระทำที่ตัวเธอต้องการก็ตาม แค่เพียงเวลาไม่ถึงชั่วโมงซาบาคุโนะ เทมาริกลับพบว่าตัวเองลุ่มหลงในความเฉลียวฉลาดและรู้เท่าทันของชายหนุ่ม ทุกคำพูดดึงดูดเธอเข้าไป แม้จะเพิ่งพบหน้า – และอีกฝ่าย ถ้าว่ากันตามตรงก็แค่คนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักเบื้องลึกเบื้องหลังมาก่อน แต่นารา ชิกามารุกลับทำให้เธอรู้สึกพร่าพรายด้วยความพิศวงสนเท่ห์ในรักแรกพบ
หากเทมาริไม่อยากเรียกความรู้สึกที่ตนกำลังประสบอยู่ว่ารัก เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้น ทว่าเธอก็หาคำนิยามที่ดีกว่านี้ไม่ออกอีกแล้ว บางทีอาจจะเป็นลุ่มหลงกระมัง หญิงสาวกลบกลืนอารมณ์มากมายที่ไม่ควรมีแต่แรกลง เธอรีบกล่าวลาเนื่องจากกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้ มันจะทำให้เธอพูดไม่ออกและไม่อยากไป
“ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันอีก” ดวงหน้าสวยคมมองชายหนุ่มที่ไม่ละสายตาไปจากเธอเลย เทมาริกล่าวอย่างไว้ตัวเพื่ออำลาเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งที่ในอกกลับร่ำร้องงอแงเหมือนเด็ก ริมฝีปากแดงระเรื่อฉีกยิ้มหวานจนชายหนุ่มชะงักงัน หญิงสาวก้มศีรษะให้เล็กน้อยเพื่อรักษามารยาทตามแผ่นดินเกิดแทนการจับมือครั้งสุดท้าย เพราะถ้าเผลอจับ – ก็จะไม่ปล่อยอีก – หญิงสาวอยากจะคิดแค่เพียงว่านับเป็นโชคดีอย่างมากแล้วกับการพบเขา ความรู้สึกที่เป็นของแถมนั้นขอไม่รับไว้ ถ้ารีบล่ำรากันไป สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็จะเป็นเพียงความรู้สึกดีซึ่งเธอคงจะเต็มใจเก็บไว้ระลึกถึงในทุกครั้งเวลามาที่แห่งนี้
ปกติแล้ว นารา ชิกามารุจะไม่ตัดสินใจปุบปับ หรือกระทำไปโดยไม่กลั่นกรองผ่านสติปัญญาอันเฉียบแหลม หากทว่าเวลานี้ชายหนุ่มพูดได้เต็มปากเลยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ร่างกายเคลื่อนไหวไปก่อนความคิด
ถ้าปล่อยโอกาสครั้งนี้ก็จะไม่มีทางได้เจอกันอีก – เขาไม่เห็นหนทางเลย – ชิกามารุคว้าข้อมือหญิงสาวเชื้อชาติเดียวกันไว้โดยฉับพลันเมื่อเธอบิดตัวทำท่าจะเดินจากไปอย่างไม่ไยดีหลังกล่าวคำลาเพียงสั้นและคำขอบคุณกับรอยยิ้มที่เขาเห็นว่ามันยิ่งหล่อหลอมบุคลิกเจ้าหล่อนให้ดูลึกลับน่าค้นหา เพราะเธอไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆ เลยนอกเสียจากเสน่ห์อันเย้ายวนที่มีตัดตัวโดยธรรมชาติ ปราศจากการประดิษฐ์ ทุกอย่างบนตัวซาบาคุโนะ เทมาริถูกผลักดันมาแก่นแท้ของจิตใจจากภายใน เขาตระหนักอย่างแจ้งแก่ใจว่าจะไม่มีทางเจอผู้หญิงแบบนี้ได้ที่ไหนหรือ – หรือถ้าเจอ ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่เธอคนนี้
ไม่มีทางเป็นเธอคนนี้ได้
หญิงสาวถูกหน่วงเหนี่ยวไว้ตรงนี้เอง – เขาไม่ต้องการให้เธอไป ความจอแจรอบด้านเหมือนถูกดูดกลืนเสียงเข้าสู่สุญญากาศ มีเพียงชายหนุ่มที่พูดกับหญิงสาวอย่างเอียงอายเล็กน้อย และในความนิ่งขรึมก็ดูเงอะงะแบบที่เป็นเสน่ห์ “ถ้าไม่รังเกียจผมคิดว่าเราควรออกไปด้วยกัน แล้วผมจะไปส่งคุณก่อน ทำแบบนี้จะไม่ได้น่าสงสัยนะครับ” – มันเต็มไปด้วยข้ออ้างที่ทำให้คู่สนทนาต้องเลิกคิ้ว
คำตอบของเทมาริไม่ได้ใช้อารมณ์ตัดสินใจ แต่มันผ่านการตริตรองมาก่อนแล้ว เธอมาลอนดอนเพราะรับภารกิจสำหรับลอบสังหารหุ้นส่วนหลักของบริษัทเคมีภัณฑ์ที่ปลุกปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เสียย่อยยับ ดังนั้นผู้จ้างวานจึงค่อนข้างเซอร์วิสไม่อั้น มีโรลส์รอยซ์ปี 60s คอยท่าไปส่งที่พักอยู่แล้ว ทว่าเธอไม่ต้องการให้เป็นที่สนใจมากเกินไปสำหรับเหล่าสายสืบตัวเล็กตัวน้อยของเหยื่อ จึงหวังจะหลบเลี่ยงด้วยการโดยสารแท็กซี่แคปธรรมดายังจุดหมายเป็นทุนเดิม ส่วนอีกเหตุผลอันเห็นแก่ตัวคือ เธออยากคว้าโอกาสที่จะได้อยู่กับผู้ชายคนนี้อีก
หญิงสาวตอบอย่างเคร่งขรึมเพื่ออำพรางวัตถุประสงค์ตนเอง “ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณว่าอย่างนั้น”
ในช่วงเวลาระหว่างชายหนุ่มรอฟังคำตอบ เขาคิดว่ามันเนิ่นนานทั้งที่ความจริงนั้นแสนสั้น หญิงสาวตอบอย่างไว้ตัวอีกแล้ว ชิกามารุลอบพิจารณาใบหน้าชวนพิศมองของอีกฝ่ายแล้วก็ตกลงสู่หลุมซึ่งมีชื่อว่าความลุ่มหลงอีกครั้ง ตอนแท็กซี่แคปสีดำเคลื่อนมาจอดตรงหน้าเมื่อถึงคราวที่การรอแถวสิ้นสุด เขาก็เปิดประตูเชิญให้เธอเข้าไปนั่งรอทันทีด้วยกลัวว่าจะมีการเปลี่ยนใจเกิดขึ้น หลังขนสัมภาระที่มีพอประมาณเสร็จ ชายหนุ่มก็อยู่บนรถซึ่งเคลื่อนออกสู่ตัวถนนนอกท่าอากาศยานกับเธอผู้เย่อหยิ่งเรียบร้อย ผืนนภานอกหน้าต่างสลัวรางตามเอกลักษณ์ของลอนดอน และทิวไม้ที่ไล่ยาวตลอดทางก็หลงเหลือเพียงกิ่งก้านแข็งเกร็งสีน้ำตาลประหนึ่งโครงกระดูกหงิกงอเงื้อมมือหวังจะแตะท้องฟ้ากว้าง จึงคะเนได้เลยว่าอากาศข้างนอกคงแห้งและเริ่มมีลมหนาว
รถยนต์แล่นฉิวสู่การจราจรที่ค่อนข้างคล่องตัว อาคารซึ่งคงสถาปัตยกรรมเก่าแก่เริ่มผุดพรายขึ้นสองข้างทาง เทมาริกับใบหน้าที่เหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่างในใจเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา เธอชวนเขาคุยเพื่อหลีกเลี่ยงบรรยากาศอึดอัดที่อาจจะมี – “คุณมาเที่ยวหรือคะ หรือมาทำงาน” – หญิงสาวปลอบอาการเอาแต่ใจของตนขณะรอคำตอบ เทมาริโกหกตัวเองไม่ได้ว่าแอบภาวนาให้ถนนสายนี้ยืดยาวออกไปเพื่อเวลาที่อยู่ด้วยกันจะได้นานแสนนานจนไม่มีการกล่าวลาอีก – แต่นั่นก็เป็นเพียงความหวังอันทับถมอยู่เบื้องล่างความรู้ตัวต่อความเป็นจริงเบื้องหน้า หญิงสาวเป็นผู้ใหญ่พอ – อันที่จริงเธอจะขอหนทางติดต่อชายหนุ่มไว้ก็ได้ เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลดังเช่นที่คนทั่วไปทำกัน
หากสำหรับเธอ การไม่ริเริ่มความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าคือการกระทำที่ฉลาดสำหรับอาชีพของตน แค่แบ่งปันช่วงเวลานี้ เทมาริคิดว่าเพียงพอแล้ว
“อันที่จริงผมมาทำงาน แต่เหมือนมันจะเรียบร้อยไปแล้วล่ะครับ เพราะงั้นจะว่าแวะมาเที่ยวก็คงได้มั้ง” น้ำเสียงสำหรับคำตอบดูผ่อนคลายทั้งยังเปิดเผยและยังคงติดจะหน่ายๆ ตามนิสัยแบบที่เทมาริได้ยินเขาพูดกับพวกยาร์ด ชิกามารุเกือบลืมว่าตนเองมีเบื้องหลังเช่นไรเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาว เขากลับมาเป็นตัวของตัวเอง แม้ว่างานที่พูดถึงเมื่อครู่จะหมายถึงการละเลงเลือดในโคลอมเบียก็ตาม เมื่อจ้องมองดวงตาสีเขียวครามซึ่งรอยยิ้มแฝงอยู่นานเข้า ชายหนุ่มก็เจอข้อเท็จจริงว่าตนสบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ฉันก็มาทำงานเหมือนกันค่ะ” ขณะที่บอกออกไป ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่รุนแรงด้วยอารมณ์หลากหลายคล้ายจะสะกดผู้มองให้หลงมองอย่างนิ่งงันนั้นก็ดึงดูดเทมาริอย่างไม่อ่อนข้อ เธอโยนเหตุผลทิ้งโดยไม่ไยดีไปเมื่อไหร่ไม่อาจทราบ
เหมือนเราเป็นแม่แหล็ก
แม่เหล็กต่างขั้วที่มีพลังมหาศาลดึงดูดเข้าหากัน อารมณ์ความรู้สึกที่กักเก็บไว้ทะลักทลายออกมาพุ่งพล่าน เหมือนใจเราแสร้งวางเฉยและหมอบรอโอกาสนี้มานานผ่านการสนทนาอันราบเรียบเพื่อหยั่งความรู้สึกตัวเอง และเมื่อใจหักห้ามไม่ได้อีกต่อไป มันก็ระเบิดออก ท้องฟ้าขมุกขมัวของมหานครเคลื่อนตัวตัวเรา โดยปราศจากถ้อยคำใดๆ ชายหนุ่มโน้มศีรษะลงมา จูบเธออย่างลุ่มลึกพลางป้อนความปรารถนาซึ่งปราศจากความรู้ผิดชอบจนแทบลืมหายใจ ทั้งเอาแต่ใจระคนโหยหา ชั่ววินาทีที่โลกเกือบหยุดแทบเท้า เทมาริกอดรอบคอเขาพร้อมปล่อยร่างกายไปกับจุมพิตที่สุขล้ำ ราวกับเป็นการขายวิญญาณให้ปิศาจ เธอดื่มด่ำความหวานกับลมหายใจที่แลกเปลี่ยนกัน แล้วจุดหมายปลายทางที่มีไว้ในใจของคนทั้งคู่ก็ถูกเปลี่ยนตอนนี้เอง
.
ลิฟท์ไต่ขึ้นสู่คอนโดสูง ผนังสี่ด้านเป็นไม้มะฮอกกานีขัดเงา ทั้งคู่นัวเนียผ่านทางเดินบุพรมก่อนแตะคีย์การ์ดหน้าห้องพักและเกือบทำรูปปั้นประดับตก หลังประตูกระแทกปิด คนตัวสูงก็อุ้มร่างเพรียวระหงขึ้น ชิกามารุเดินเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์ส่วนตัวขณะลุ่มหลงอยู่กับดวงตาสีสวยอันยั่วยวน บนโต๊ะมีสตรอว์เบอร์รี่วางคู่แชมเปญในอ่าง เราไม่ได้ยับยั้งช่างใจแต่ปล่อยเรื่องทั้งหมดลื่นไหลไปตามที่ใจอยากจะให้มันเป็น ความสัมพันธ์ที่พวกเราตั้งใจให้มันเกิดทั้งยังเต็มใจจะสานต่อหลังจากนี้ ตอนเขาเข้ามาในตัวเธอและแนบร่างประสานกัน เทมาริก็ไม่ได้คิดถึงความจริงข้อใดอีก
นั่นเป็นจุดเริ่มต้น
TBC.
(17/01/16) มาอัพแล้วค่ะ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามกันนะคะ
ขอบคุณทุกยอดวิว คอมเม้นท์ คะแนนโหวต ดีใจมากๆ เลยค่ะ ; w ;
ตอนนี้ฟิคมีแฮชแท็คให้เล่นแล้วด้วยนะคะ #Mcฟิค
ติดแฮชแท็คนี้ได้ทั้งทาง Fb และทวิตเตอร์เพื่อข่มขู่ทวงฟิค ตามติดข่าวสาร
พูดคุยหรือติชมหรือจะเพื่อจุดประสงค์ใดก็ตามจิตศรัทธาค่ะ (ฮา)
อันไลค์เพจเก่าไปได้เลยค่ะ เพราะมันใช้ไม่ได้แล่ว ; u ;
สำหรับแฟนๆ ชิกาเทมา ข้าพเจ้ากำลังจะโฆษณาฟิคอีกแล้ว (ฮา)
ใครสนใจฟิคชิกาเทมาน่ารัก อบอุ่น ไม่เร่งรีบและละมุนละไม (จิ้ม)
ดำเนินเรื่องโดยอิงจากมังงะ เอื่อยเฉื่อยและละเมียดละไมเกินไปจนลงติดต่อมาสามปี
แต่ไม่มีวี่แววจะจบสักที (/// u ///) สามารถเข้าไปซึบซับความรู้สึกดีๆ ได้ทุกเมื่อ
อ่านแล้วจะรู้สึกดีเหมือนมีใครสักคนมากอดไว้ แล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ X))
………………………………………………………………………………....................
ความคิดเห็น