คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : That 28th Floor Guy - Prologue (50%)
The 1st time we met.
เธอกดย้ำบนปุ่มเปิดของลิฟท์หลายครั้งเหมือนเด็ก
ประตูโลหะเปิดออก หญิงสาวจึงเดินเข้าไปในกล่องชักรอกใบใหญ่ หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญของมนุษย์ แต่ความจริงคือเธอไม่ชอบมันเลยสักนิด ทั้งอึดอัด คับแคบ และชวนให้เวียนศีรษะ
นิ้วมือเรียวยาวกับสีเล็บแดงจัดที่เริ่มลอกเอื้อมไปกดปุ่มซึ่งเรียงรายเป็นแถวเท่าจำนวนชั้นของตึกสูงระฟ้าแห่งนี้ เลขยี่สิบเก้าสว่างและเครื่องจักรชักรอกก็ดึงตัวขึ้นสูงอย่างนิ่มนวลและเงียบงัน เธอถอดรองเท้าส้นสูงสีดำออก ก้าวลงไปยืนบนพื้นด้วยสองเท้ามั่นคงปล่อยให้ร่างอันเหนื่อยล้าพิงพนังที่มีกระจกกรุอยู่ครึ่งหนึ่งอย่างอ่อนแรง ดวงหน้าหวานคมแหงนหน้าขึ้นมองหลอดไฟสีนวล กล้ามเนื้อบนลำคอระหงขึ้นเป็นเส้นไล่ลงสู่ช่วงไล่ผอมเกร็งที่ยั่วยวน หญิงสาวปัดปอยผมแล้วก้มหน้าลงดังเดิม
เธอที่หลุบตาต่ำดูเศร้าสร้อยขึ้นมา เหมือนสาวทรงเสน่ห์ผู้มากด้วยความลับชวนค้นหา
ดวงตาสีฟ้าเมียงมองใบหน้าครึ่งหนึ่งที่สะท้อนผ่านกระจกเงา ภายใต้เครื่องสำอางมีความอิดโรยแฝงอยู่ เธอไม่กลัวว่าจะมีคนใช้ลิฟท์ร่วมกับเธอในเวลาแบบนี้หรอก บางทีเธอกลับรู้สึกเป็นส่วนตัวด้วยซ้ำยามปล่อยให้เวลาผ่านไปกับกล่องโลหะที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เลขดิจิตอลที่ผ่านแต่ละชั้นเหมือนตัวจับเวลาถอยหลังอย่างไรอย่างนั้น
เข็มนาฬิกาข้อมือบอกเวลาตีสามสิบห้านาที
ยามานากะ อิโนะถอนหายใจ เธอเกี่ยวแอร์เมสในมือด้วยนิ้วชี้ขณะกระชับโอเวอร์โค้ทขนเฟอร์ให้แน่นภายใต้วงแขน ช่วงไหล่กลมกลึงและสะโพกคอดกิ่วถูกขับออกมาเด่นชัดด้วยเดรสรัดรูปสีเลือดหมู – ซึ่งซื้อมาตอนลดราคาสุดตัว – บางครั้งเธอก็ย่ามใจไปกับการอดใจรอที่จะรูดซิปหลังลงมาก่อนถึงห้อง เพราะมันอึดอัดเธอจึงมันปลดตะขอของเดรส หิ้วรองเท้า – ที่บางวันเป็นจิมมี่ ชู ถ้างานสำคัญก็ต้องมาโนโล บราห์นิก – มีแค่สองแบรนด์นี้เท่านั้นสำหรับเธอ – ไปตามโถงทางเดินก่อนถึงห้องชุดของตัวเอง
เธออยู่ชั้นยี่สิบเก้า ชั้นนี้มีแค่สามห้องกับเพนท์เฮ้าส์อีกสอง จากชั้นสามสิบขึ้นไปเป็นเพนท์เฮ้าส์ทั้งหมด ไม่ค่อยมีเรสซิเด้นท์เยอะเพราะผู้เช่าส่วนใหญ่คือบรรดาเศรษฐีซึ่งต้องการถมเงินมหาศาลไว้ที่ไหนสักแห่งเพราะเหลือมากเกินจะใช้ ดังนั้นเรื่องคนในลิฟท์เวลานี้หมดห่วงได้เลย
กล่องโลหะชักรอกยังคงดึงขึ้นไป มีเพียงความเคลื่อนไหวบนตัวเลขดิจิตอลเท่านั้นที่รู้ว่ามันยังคงทำงานอยู่ แต่ทว่าชั่วขณะที่อิโนะเลื่อนซิปลงมาถึงกลางหลังเพื่อให้ตนได้พอหายใจหายคอ เครื่องจักรสี่เหลี่ยมก็เกิดแรงกระชาก เพียงเล็กน้อยก่อนจะหยุด บนแถบอิเล็กทรอนิกส์กระพริบเป็นเลขสิบสี่
และลิฟท์ก็เปิด
ยามานากะ อิโนะตกใจแทบผงะ มือที่เงื้อมไปข้างหลังแผ่ออกเพื่อปิดแผ่นหลังนวลเนียนโดยฉับพลัน เธอย่อเข่าลงคล้ายสัตว์ร้ายที่กำลังระแวดระวัง และดวงตาสีฟ้าครามก็ฉายแววเอาเรื่อง เหมือนการป้องกันตนเองอย่างหนึ่ง หญิงสาวแยกเขี้ยวใส่ชายหนุ่มที่ประตูลิฟท์เปิดเผยให้เห็นร่างเต็มตัว เธอไม่รู้จักเขาหรอก – นั่นก็ไม่เลว เพราะถ้ารูปการนี้เกิดระหว่างคนสองคนที่ไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อน ก็จะเป็นเพียงการพบเพียงผ่านครั้งเดียว ไม่มีความละอายหรือขายหน้าอีก หรือบางทีมันอาจเป็นแค่เรื่องตลกในวงสนทนาระหว่างหมู่เพื่อนฝูงของชายหนุ่มตรงหน้าเธอหลังจากนี้
แค่นั้นเอง อิโนะหิ้วรองเท้าที่ระเกะระกะบนพื้นมาหลบอยู่มุมกล่องโลหะสี่เหลี่ยมอันอุดอู้ทันที เธอดูลนลานเล็กน้อยและเหมือนจะลืมซิปที่เปิดอ้ามาครึ่งหนึ่งบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าไปชั่วขณะ
ดวงตาสีฟ้าเหมือนแผ่นน้ำแข็งเหนือทะเลสาบฤดูหนาวจ้องมองชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามา เขามีมารยาทพอที่จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น – ซึ่งนั่นดีสำหรับเธอมาก ขอบคุณ – ตัวเลขชั้นยี่สิบแปดสว่าง อิโนะห่อตัวในมุมเครื่องจักรโลหะซึ่งเลื่อนประตูปิดอีกครั้ง ทำให้ภายในอัดล้นไปด้วยความเงียบชวนขนลุกและอึดอัดประหนึ่งห้องฟอกอากาศที่ปราศจากแผ่นกรอง เธอลอบสำรวจผิวขาวซีดอันบอบบางนั่น ชายหนุ่มมากับรอยยิ้มระรื่นซึ่งปรากฏอย่างไม่รู้จักกาลเทศะ – ก็มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะยิ้ม – เพราะอย่างนั้นจึงดูราวกับจะเย้ยหยันกัน ทั้งที่เพิ่งพบหญิงสาวพยายามเปลือยกายในลิฟท์มาหมาดๆ เชื่อเขาเลย
อิโนะกลอกตา
หรือหมอนี่จะเป็นพวกอ่านบรรยากาศไม่ออก อันที่จริงสำหรับเธอ เขาจะเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่โรคจิตหรือฆาตกรต่อเนื่อง หญิงสาวเริ่มตระหนกเมื่ออีกฝ่ายลอยหน้าลอยตากล่าวขึ้น – “สวัสดีครับ คุณคนสวย” ชายหนุ่มเจ้าของผิวขาวซีดฉีกยิ้มนุ่มนวลมาทางเธอ แต่อิโนะคิดว่ามันทำให้ขนที่คอลุกชันขึ้นมาเลยทีเดียว ท่ามกลางความเงียบของกล่องสี่เหลี่ยมชักรอกและความเคลื่อนไหวของตัวเลขดิจิตอล เธอพบว่าตัวเองเจอคนไม่เต็มเข้าเสียแล้ว
เมื่อลองเงี่ยหูก็คล้ายกับว่าได้ยินเสียงลิฟท์ดึงตัวสูงขึ้นไป แต่กระนั้นคำถามของชายหนุ่มกลับไม่ได้รับการตอบกลับ อิโนะตัดสินใจเม้มปากแน่น กลั้นหายใจขณะมองตัวเลขเปลี่ยนผ่านและภาวนาให้มันไหลไปอย่างเร็วที่สุด
เธอขยับตัวเบียดมุมลิฟท์เข้าไปเรื่อยๆ ราวกับมันจะดูดร่างเธอเข้าไป จะอย่างไรก็ช่าง ขอแค่ให้ห่างจากผู้ชายคนนี้ก็พอ ดวงตาสีฟ้าใสเหลือบมองปุ่มกด เธอเพิ่งสังเกตว่าเขากดชั้นยี่สิบแปด แต่เมื่อตวัดสายตากลับมาก็เห็นมือของเขาเอื้อมมาใกล้อย่างคุกคาม ตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนถูกรีดเอาลมหายใจออกไปหมดปอด อิโนะขยับตัวพลางตั้งการ์ดโดยอัตโนมัติ เพราะเคลื่อนไหวกะทันหันจึงอุปาทานไปเองว่าลิฟท์กำลังสั่นสะเทือน ในหัววาดภาพเส้นสลิงที่กำลังจะขาด ลึกๆ แล้วเธอยังคงมีความหวาดหวั่นต่อนวัตกรรมชักรอกนี่ ใจนั้นรู้สึกกลัวขึ้นมาประหนึ่งอุณหภูมิร่างกายโดนลดฮวบฉับพลัน
“จะทำไรน่ะ” อิโนะตะโกน มือข้างหนึ่งกอดเสื้อขนเฟอร์แนบอก ข้างที่เหลืออยู่ – และถือจิมมี่ ชูลายเสือดาว – จึงยกขึ้นชี้ชายหนุ่มที่ทำหน้างุนงง นั่นยิ่งทำให้เธอทั้งกลัวทั้งโกรธ แถมยังสับสน เหมือนเขายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าตนเองทำอะไรลงไป บางทีความยั้งคิดในสมองเขาอาจผิดเพี้ยนหรือสูญเสียการตีความปฏิสัมพันธ์ทางสังคมไป
“ผมแค่อยากจะช่วยดูซิปของคุณ” ความกลัวของอิโนะถูกความโมโหกลืนกิน เธอเลือดขึ้นหน้า และพบว่าเขาเป็นคนประเภทอ่านสถานการณ์ไม่ออกอย่างเลวร้ายแค่ไหน
นิ้วเรียวยาวหวังจะเอื้อมไปกดปุ่มชั้นถัดไปเพื่อเปิดประตูลิฟท์ออก จะได้หนีให้พ้นๆ จากผู้ชายพิลึกที่ทำให้เธอสะพรึงในหลายๆ แง่พร้อมๆ กัน แต่เจ้ากล่องโลหะก็หยุดดังกึกพร้อมแรงกระชากเล็กน้อยที่ทำให้สมองหวิววูบ ตัวเลขที่ปรากฏคือชั้นยี่สิบแปด จุดหมายปลายทางของชายหนุ่มผิวซีดกับรอยยิ้มเป็นมิตรชวนขนลุกของเขา อิโนะเงอะงะขณะเขาหันมากล่าวลา เธอป้องกันตัวด้วยการกอดตนเองแน่น
“แล้วพบกันใหม่ ดีใจที่ได้คุยด้วยนะครับ” ประโยคนี้ของชายหนุ่มจะทำให้เขาดูมีมารยาทมากทีเดียวถ้าบริบทรอบด้านไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ควรจะใช้เลยแม้แต่น้อย หญิงสาวหน้าเหวอกับผู้ชายไม่เต็มเต็งที่ก้าวออกจากลิฟท์ ใบหน้าสะสวยกับเครื่องสำอางราคาแพงที่ประตูค่อยๆ เคลื่อนมาปิดทับเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลายที่เธอยังไม่ทันเรียบเรียงหรือตั้งตัวได้ติด ชายผู้นำพาความรู้สึกเหล่านั้นมาให้ก็จากไปรวดเร็วพอๆ กับตอนปรากฎตัวมาปั่นป่วนความกลัวของเธอ
‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย’ ในสมองของเธอดังก้อง สะท้อนไปมาในกะโหลกที่บรรจุความรู้สึกมึนงง
ไม่กี่อึดใจถัดมา ลิฟท์ก็หยุดอีกครั้งที่เลขยี่สิบเก้า
ประตูเลื่อนเปิด อากาศในตัวอาคารที่ปลอดโปร่งกว่าลิฟท์อับทึบพวยพุ่งเข้ามาแทนที่กลิ่นเทคโนโลยีชวนเวียนหัว หญิงสาวรู้สึกเหมือนโพรงจมูกโปร่งโล่งขึ้น ความรู้สึกในลิฟท์ราวกับสุญญากาศและเธอก็เกลียดมัน อิโนะจำใจลากตัวเองออกจากเจ้ากล่องโลหะด้วยเท้าเปลือยเปล่าที่หุ้มถุงน่องสีดำ เธอไม่ได้ทิ้งความงุนงงและความสงสัยไว้ในกล่องชักรอกสี่เหลี่ยม แต่นำมันติดตัวมาด้วย
หญิงสาวหอบรองเท้า เสื้อคลุม เดรสที่ซิปรูดลงอยู่อย่างนั้น และร่างหนักอึ้งอันเหนื่อยล้าทั้งยังเครียดเขม็งกับเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบมาหน้าประตูพัก เธอหยิบคีย์การ์ด หลังสัญญาณไฟที่ลูกบิดเปลี่ยนเป็นสีเขียว ระบบล็อคอัตโนมัติก็ปลดออก
รองเท้าถูกวางทิ้งอยากลวกๆ กองรวมกับคู่อื่นๆ ตรงชานพักหน้าประตูที่ระเกะระกะ เธอโยนเสื้อคลุมขนฟูฟ่องลงบนโซฟาแบบโมเดิร์น ขณะเลื่อนซิปลงจดสุดแล้วถอดกองกับพื้น หญิงสาวยกขาขึ้นแล้วเขวี้ยงเดรสสีแดงไปโดยไม่สนใจจุดหมาย อิโนะทำอย่างเดียวกันกับถุงน่อง จนเหลือเพียงท่อนล่างกับทรวงอกเปล่าเล่าเปลือยสะท้อนบนกระจกกว้างที่กรุแทนหน้าต่าง ราตรีกาลคืออีกด้านที่กำลังละเลงเมืองทั้งเมืองด้วยแสงสี ร่างสะโอดสะองเดินอย่างยั่วยวนไปอีกด้านของห้องชุด
ประตูห้องน้ำเหวี่ยงออก หญิงสาวจุดเทียนหอมก่อนกดปุ่มเหนือจากุชชี่แล้วน้ำก็ไหลลงเติมเต็มความว่างเปล่าในอ่างอย่างรวดเร็ว เธอผละมาอีกส่วนของห้องน้ำด้วยร่างเปลือยที่ทุกส่วนเว้าโค้งคล้ายประหนึ่งรูปปั้นอันปราณีต งดงามทุกสัดส่วน คลีนเซอร์ถูกบีบใส่สำลีถนอมผิว อิโนะเช็ดเครื่องสำอางหน้ากระจกขณะฟังเสียงน้ำไหลวนอยู่ในอ่าง มือไล้ลงตามใบหน้า ขนตาที่งามงอน ผิวแกมเนียนนุ่มและลำคอระหงที่ผอมเกร็งแบบเซ็กซี่ เธอหยุดคิดถึงผู้ชายในลิฟท์ไม่ได้
วังวนความคิดของเธอไหลเวียนไม่ต่างจากน้ำที่เปิดทิ้ง แล้วเธอก็ตัวสั่นเมื่อตระหนักได้ว่าเพิ่งหลุดพ้นจากพวกโรคจิตมาหวุดหวิด
อิโนะหยิบโทรศัพท์ข้างอ่างล้างหน้า
เธอโยนผงอาบน้ำใส่น้ำที่ไหลวนขณะหย่อนตัวลงไป ทรวงอกอวบอิ่มโผล่พ้นฟองสีขาวที่ลอยฟ่องมาครึ่งหนึ่ง เรือนผมสีบลอนด์สว่างยาวสยายบนกระแสน้ำสะท้อนกับแสงไฟนวลๆ และเปลวไฟวับแวบเหนือเทียนหอม หมายเลขที่เธอกดโทร. ออกแสดงชื่อนารา ชิกามารุ แม้หน้าจอจะปรากฏเวลาตีสามสี่สิบสามนาที แต่เธอก็แทบจะหายใจไม่ออกเมื่อคิดว่าเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนตัวเองติดอยู่ในลิฟท์กับผู้ชายสติฟั่นเฟือน
จนถึงเวลานี้ หญิงสาวก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
เธอหยุดคิดท่ามกลางเสียงน้ำไหลภายใต้การเคลื่อนไหวของตน มือเรียวยาวยกขึ้นเหนืออ่างพร้อมเสียงวักน้ำแผ่วๆ คราบสบู่และฟองเป็นมันเงาอยู่บนเนื้อเนียนละเอียด โครงร่างแข็งเกร็งขึ้นเป็นส่วนๆ ทำให้เห็นว่าเบื้องหลังร่างระหงนั้นผอมบางกว่าภายนอก อิโนะครางออกมาอย่างสบายตัวขณะเสียงที่กรอกกลับจากปลายสายดังขึ้น ท่อนขาสมส่วนยกขึ้นพาดขอบอ่างส่วนปลาย นิ้วเท้าสีแต่งเติมแดงลงไปคือสิ่งเดียวที่เด่นชัดบนดวงตาเธอ
“กดเบอร์ผิดแล้วเธอน่ะ ดูเบอร์ซะบ้างสิ ฉันไม่ใช่คู่ขาไว้เล่นเซ็กส์โฟนของเธอ”
“ฉันตั้งใจโทร. มาคุยกับนายย่ะ” อิโนะแหวใส่เสียงเหนื่อยหน่ายที่กรอกผ่านปลายสายมา เขาคงบังเอิญได้ยินเสียงเธอครางพอดี แต่กับนารา ชิกามารุที่ไร้อารมณ์ ทั้งด้านชาและตายด้านแบบนั้น เธอมั่นใจว่าต่อให้ผู้หญิงถอดตรงหน้าเขาก็ยังนั่งมองอย่างเฉยชาแน่ๆ หากความจริง มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่พวกเราถูกฝึกมาเพื่อแฝงตัว เธอยอมรับด้านนั้นของตัวเองด้วยเช่นกัน หญิงสาวชิงเปิดประเด็นอย่างตื่นเต้นก่อนชายหนุ่มจะทันได้บ่นอุบอิบ – “ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง!”
“รู้ไหมว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว” ถึงเสียงจากปลายสายจะฟังดูหงุดหงิดแต่กลับไม่มีสัญญาณของความงัวเงียแฝงอยู่เลย อิโนะรู้ว่าวันนี้เพื่อนหนุ่มอยู่เวรดึกและคงนั่งดูเทปที่ตั้งเวลาอัดการแข่งขันโชหงิทิ้งไว้ระหว่างได้พักเอนหลังในห้องออนคอล ชิกามารุแทบจะมีช่วงเวลาทำงานเหมือนเธอในบางครั้ง ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกแรกหากจะโทร. ไปบ่น ก่นด่าลูกค้าหรือหาเพื่อนคุยยามเหงา
แม้อีกฝ่ายจะรำคาญแทบตาย อิโนะก็ไม่ยี่หระ ครั้งหนึ่งเขาแกล้งวางโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วให้เธอพูดคนเดียวเกือบชั่วโมงโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
แต่วันนั้นเขารอดตัวเพราะถูกเรียกไปห้องฉุกเฉินกะทันหัน
“นี่รู้มั้ยว่าเมื่อกี้ฉันไปเจออะไรมา ฉันเพิ่งรอดตายมาจากพวกโรคจิตนะ!” บางทีปลายสายอาจจะกำลังยื่นโทรศัพท์ให้ห่างจากหู เพราะเสียงของอิโนะกรอกลงไปเต็มๆ อย่างตื่นเต้นระคนตระหนก – “ไม่ใช่ว่าเขาหนีไปเพราะเข้าใจว่าเธอนั่นแหละที่โรคจิตเหรอยัยฮีสทีเรีย” อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างไร้อารมณ์ เธอแทบจะได้ยินเสียงนับเวลาระหว่างตาหมากผ่านเข้ามาด้วยซ้ำ ถ้าโจจิว่างเธอก็คงจะเลือกเขาแทนหมอเบื่อโลกที่คุยด้วยแล้วประสาทเสีย เสียงตะโกนตอบของเธอคลอเสียงน้ำกระเพื่อมจากความเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ – “ฉันเจอในลิฟท์ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องแถมยังยิ้มตลอดเวลาอีก นายคิดว่าไง”
“นี่ฟังฉันอยู่รึเปล่า นี่! …นี่ชิกามารุ!” เธอได้ยินเสียงรีบร้อนของนางพยาบาลพร้อมสรรพสำเนียงไม่ได้ศัพท์หลังเสียงประตูเปิด
“นี่ชิกามารุ เคสด่วนเหรอ…” ถ้าไม่นับความวุ่นวายจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ ด้านของเธอก็จะเงียบงันมากทีเดียว เธอได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆ ของตนกับความว่างเปล่าซึ่งเหมือนจะส่งเสียงอันเงียบงันตอบกลับมาจากปลายสาย อิโนะรู้สึกว่าเสียงตัวเองเบาและเหงาอย่างน่าตกใจจึงตะโกนขึ้นอีกครั้ง “เออจำไว้เลยนะ แกล้งมีเคสด่วนอีกแล้วใช่มั้ย ฝากไว้ก่อนเถอะ มิน่าเมียนายถึงทิ้งไป”
เหมือนโทรศัพท์ในมือเป็นเครื่องรองรับอารมณ์และน้ำเสียงขุ่นเคืองของเธอ อิโนะกดวางสายก่อนแหงนหน้าผิงขอบอ่างอย่างเฉื่อยชา เพราะอะไรตัวเองถึงได้เลือกทางเดินนี้กันนะ เธอเกือบจะเห็นเพดานเป็นความเหงาอันว่างโหวงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
(UP50%) 16/01/16 - ก่อนอื่นขอบคุณที่กดเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะะ
บทเกริ่นนำไม่มีอะไรมาก แค่เรื่องของสาวชั้นยี่สิบแปดคนหนึ่งที่บังเอิญเจอ
ผู้ชายชั้นยี่สิบเก้าในลิฟท์ ส่วนเรื่องราวที่จะดำเนินจากนี้ต้องติดตามเองค่ะ :D
ติดตามข่าวสารการอัพเดทของฟิคเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ ได้ทางเพจ (จิ้ม)
อนึ่ง #Mcฟิค ติดแฮชแท็คนี้ เพื่อทวีตถึงฟิคของ McBoffin. ได้ทุกเรื่อง
และแฮชแท็ค #ฟิคนี้มีเมฆมาก สำหรับ fic shikatema - Beyond the Horizon
ไว้พูดคุย ข่มขู่ทวงฟิค หรือติชมได้ทั้งทาง Fb และทวิตเตอร์ค่ะ
ทั้งนี้ขอฝากฟิคหนุ่มชั้นยี่สิบแปดกับสาวชั้นยี่สิบเก้า
ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ : )
ความคิดเห็น