(Fic Conan | Gin x Sherry) Present the Present
(One-shot | GinSherry) เมอร์รี่คริสต์มาสแด่ผู้หญิงธรรมดาและชายที่แค่บังเอิญเจอกันในบาร์...
ผู้เข้าชมรวม
4,165
ผู้เข้าชมเดือนนี้
22
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
‘ของขวัญคริสต์มาสของนายไง – ไฮบาระ’
บนการ์ดเขียนแบบนั้น ชินอิจิในร่างเจ้าหนูพยายามทำความเข้าใจข้อความเข้ารหัสตรงหน้าก่อนลงมือแก้มันออกมาอย่างง่ายดาย แคปซูลสีแดงหล่นลงมาจากกล่องโลหะ – โอเค ทีนี้ฉันได้ของขวัญเธอแล้ว แต่ตัวเจ้าของนี่ล่ะอยู่ไหนกัน
ภายในบ้านโล่งปราศจากผู้ที่อาศัยอยู่ประจำ ทุกคนเลย
ชินอิจิร่างเล็กจิ๋วเขย่งขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ทรงสูงหน้าเคาน์เตอร์ พยายามอ่านข้อความที่เหลือบนนั้น ‘ของที่นายรอมาตลอดมีลิมิตให้แค่สามชั่วโมง จะไปทำอะไรก็ไปทำ’ เช่นนั้นแล้วตัวเจ้าของของขวัญคงไปทำอะไรที่จะทำอย่างที่เขียนไว้นี่แน่ เขาอดห่วงขึ้นมาไม่ได้ ข้างนอกนั้นมีเงามือที่คอยจะกลืนกินสีเทาเช่นไฮบาระอยู่
เขามองนาฬิกาแขวนผนัง เป็นเวลาสามทุ่ม สามชั่วโมงถัดจากนี้คือเที่ยงคืน
เขาไม่อยากเป็นซินเดอเรลล่าที่ต้องกลับก่อนเที่ยงคืนหากต้องกินยานี่ลงไปหรอกนะ แล้วสามชั่วโมงที่ว่าเขาควรจะทำอะไร
บนถนนมีผู้คนพลุกพล่าน ขอบบาทวิถีมีหิมะที่ยังไม่ละลายกระจุกตัวอยู่ ตามร้านรวงประดับประดาด้วยไฟประดับวูบวาบหลากสี เมื่อเพ่งมองนานเข้าก็พร่ามัวเป็นลูกไฟสลัวราง หญิงสาวกระพริบตาถี่เพราะลมแรงจนดวงตาแห้งมากเกินไป
เธอเดินเข้าไปในบาร์ธรรมดา สวนทางกับคู่รักชายหญิงที่เบียดตัวออกมา
ตอนนี้เธอไม่ใช่ไฮบาระอีกต่อไป แล้วก็ไม่ใช่มิยาโนะ ชิโฮด้วยเช่นกัน
เส้นผมสีดำสนิทที่ตัดสั้นบนศีรษะ นั่นเป็นวิกเหมือนกับคอนแทคเลนส์สีเดียวกัน มันคือการปลอมแปลงตัวตนเล็กน้อยสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ดิ้นรนให้ตัวเองไม่ต้องติดแหง่กอยู่ในร่างเด็กประถมแล้วรอให้ผ่านเทศกาลน่าหมันไส้พรรค์นี้ไปเร็วๆ ตอนนี้เธอจึงเป็นแค่เพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อยากหาสิ่งปลอมประโลมและซ่อมแซมความหวาดกลัวรวมถึงความหวาดหวั่นซึ่งทำใจแข็งเผชิญกับมันมาตลอด
ภายในบาร์ตกแต่งด้วยสีเงิน มีโคมแก้วที่ส่องสว่างเป็นสีฟ้าห้อยลงมา และเคาน์เตอร์ก็ทำด้วยไม้มะฮอกกานีสีเข้ม เบื้องหลังบาร์เทนเดอร์ที่ดูชำนาญก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เรียงรายเป็นแถวตลอดแนวกำแพง
เธอนั่งลงตรงหน้าเคาน์เตอร์นั่นแหละ
“ยินโทนิค” อีกฝ่ายพยักหน้ารับออร์เดอร์จากหญิงสาวธรรมดาที่แค่มาดื่มคนเดียวในวันคริสต์มาส ใช่ แค่นั้นเอง ง่ายแค่นั้นเอง แต่หญิงสาวคนนี้จะมีเวลาเหลืออีกเพียงสองชั่วโมงเศษ แล้วเธอจะเป็นเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยายที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อเที่ยงคืนตรง หากไม่มีรองเท้าแก้วสำหรับเจ้าชายคนไหน
เครื่องดื่มสีฟ้าใส พร้อมด้วยมะนาวฝานบางวางลงตรงหน้า เธอยกขึ้นจิบ รสของมันแผ่ซ่านไปทั่วปากและลำคอ มันทำให้เธอไม่อยากคิดอะไรอีก ไม่อยากกลัวอะไรอีก
“มาคนเดียวในคืนอย่างนี้ คงไม่มีนัดใช่ไหมครับ” บาร์เทนเดอร์เป็นฝ่ายเอ่ยปาก แต่เมื่อเห็นเธอปิดปากเงียบทำเพียงพยักหน้ารับจึงไม่กล้าสานต่อบทสนทนา ทว่าเขาทำดรายมาร์ตินี่มาให้อีกแก้วด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร “แก้วนี้ผมเลี้ยง”
“ขอบคุณ” เธอจรดริมฝีปากกับขอบแก้วทรงสูง ลิปสติกสีแดงจึงประทับบนนั้น
“คุณเป็นลูกครึ่งเหรอ”
เธอแค่พยักหน้าตอบเหมือนเดิมพร้อมรับยินโทนิคอีกแก้ว
ยังมีสติสัมปชัญญะดีพอแม้จะดื่มไปหลายแก้ว เธอยังนั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ เหลือบมองนาฬิกาข้อมือเป็นระยะ มันบ่งบอกเวลาสี่ทุ่มครึ่ง เสียงเพลงโฟล์คซองดังคลอเบาๆ แล้วคู่รักบางส่วนก็เกาะกุมกันไปเปิดฟลอร์
“เชอรี่”
ทั้งหมดนั่นทำเธอสะดุ้งเฮือก หัวใจบีบรัดรัวแรงและแขนขาก็พลันอ่อนเปลี้ย เธอค่อยๆ หันหน้าไปมองเจ้าของน้ำเสียงที่เรียกชื่อเธอแล้วใบหน้าที่รู้จักดีก็พลันปรากฏดังคาด
ยินยืนอยู่ข้างเธอ กำลังนั่งลงบนเคาน์เตอร์
“เชอรี่แก้วหนึ่ง” เขากล่าวซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นชา ใบหน้าครึ่งหนึ่งซ่อนอยู่ใต้หมวกเหมือนไม่รับรู้การมีอยู่ของเธอ ไม่สิ ผู้หญิงธรรมดาที่นั่งข้างๆ กันเลยแม้แต่น้อย แต่แค่นั้นก็ทำให้เธอมือสั่นเล็กน้อยขณะแสร้งทำเป็นจับคอแก้วเลื่อนออกจากตัว บาร์เทนเดอร์เองที่เป็นฝ่ายมองแล้วคิดเพียงว่าเธอเริ่มเมาแล้วเท่านั้น
ดนตรีบรรเลงไปเรื่อยๆ และจังหวะก็ดูเนิบนาบ
เธอหยิบกระเป๋าเงินแล้วทำท่าจะลุกขึ้น ระมัดระวังกิริยาอาการไม่ให้มีพิรุธหรือลุกลนจนเกินเหตุ หากอีกฝ่ายกลับเหลือบมองมาก็ตอนนั้น
“ขออะไรให้คุณผู้หญิงสักแล้วสิ” ยินเอ่ยกับบาร์เทนเดอร์ขณะผายมือมาทางเธอ ไปตายซะ ได้แต่สถบในใจเพราะนั่นทำให้เธอต้องนั่งอยู่ที่เดิมอย่างเสียไม่ได้ ถ้าไม่อยากทำให้ผู้ชายโรคจิตช่างระแวงอย่างยินสงสัยแล้วก็มีแต่นั่งลงเท่านั้น
เธอไม่ได้กล่าวขอบคุณออกไปเมื่อมีแก้ววางลงตรงหน้า เพราะกลัวยินจะจับน้ำเสียงได้ จึงเหยียดยิ้มเย็นหากนั่นดูลึกลับน่าค้นหามากขึ้นสำหรับอีกฝ่าย
เขาจุดบุหรี่ขึ้นสูบ พ่นควันสีขาวขุ่นมัวออกมา
เธอนึกถึงครั้งหนึ่งตอนอยู่ในองค์กร คืนนั้นเป็นคริสต์มาสอีฟและเขาก็ลากเธอจากแลปออกมาในสถานที่คล้ายๆ แบบนี้เพื่อดื่มแล้วจากนั้นก็ร่วมรักกันเหมือนวันปกติที่เธอและเขาต่างมีเวลาด้วยกันทั้งคู่
คืนนั้นหนาวจริงๆ นั่นแหละ ลมหายใจเป็นไอตอนเราจุมพิตกัน และตอนเขาเข้ามาในตัวเธอ
ตอนนี้ระหว่างเขาและเธอมีแต่ความเงียบ
เธอนึกสงสัยว่าเขาเกลียดและชิงชังเธอมากขนาดไหนแล้วในตอนนี้ แล้วถ้ายินรู้ว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ กันเป็นคนที่เขาต้องการชีวิตมากที่สุดจะเป็นอย่างไรต่อไป ‘สีแดงของเลือดเหมือนกุหลาบที่เธอชอบยังไงล่ะ’ เสียงเยียบเย็นดังแทรกเข้ามาแช่แข็งหัวใจที่หวาดผวา เธอลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้าคงกำลังซีดจัด สัมผัสจากปลายนิ้วอันเย็นเฉียบเหมือนถูกเคลือบด้วยผลึกน้ำแข็งก็พอจะรู้ได้
ตอนนี้เธอยังเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่วางธนบัตรบนเคาน์เตอร์เพื่อจะได้กลับบ้าน
เพราะถ้าช้ากว่านี้ไม่รู้ว่าเธอจะยังเป็นผู้หญิงอยู่อีกไหม หรือจะกลายเป็นอะไรให้เขาละเลงเลือด
ดวงตาภายใต้คอนแทคเลนส์เหลือบมองผู้ชายคนที่รู้จักกันดีอีกครั้งเธอก็เลื่อนผ้าเช็ดปากที่เปื้อนลิปสติกสีแดงอย่างไม่ได้ตั้งใจไปให้ ลายมือหวัดๆ ที่ถูกเขียนอย่างเร่งรีบบนนั้นปรากฏใจความเพียงคำขอบคุณสั้นๆ สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนึ่งแก้วจากชายที่แค่บังเอิญเจอกันในบาร์ ไม่ใช่คนที่เคยมีอดีตด้วยกันอย่างมากมาย
เธอคว้ากระเป๋าและเดินออกไปทันที
ทุกย่างก้าวจากตรงนั้นดูคลอนแคลนและไม่มั่นคงเหมือนเดินอยู่ริมขอบหน้าผาที่พร้อมจะร่วงหล่นลงทุกเมื่อ เธอนับถอยหลังในใจขณะกลั้นใจก้าวผ่านประตูที่พนักงานต้อนรับเปิดคอยอยู่แล้ว สาม สอง หนึ่ง…
ซินเดอเรลล่าจากเทพนิยายสีเทาคนนี้จะกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ภายในบาร์ เสียงเพลงบรรเลงเอื่อยจากเปียโนหยุดลง ไวโอลินขึ้นคันชักแล้วเริ่มสีเป็นเพลง
ยินมองผ้าเช็ดปากที่เขียนถ้อยคำสั้นๆ ไว้ หาใช่เบอร์โทรศัพท์ตามที่เขาคาดไม่ รอยยิ้มเย็นเหยียดยาวอย่างสมเพชขณะหยิบมันขึ้นมาพินิจดูใกล้ๆ หากเมื่อเขาพลิกมันขึ้นมองอีกด้านรอยยิ้มของผู้เหนือกว่าบนใบหน้าเหี้ยมเกรียมก็เลือนหายไปโดยพลัน
‘คุณอยากได้ตัวฉันมากแค่ไหน’ ลายมือที่แค่เห็นปราดเดียวก็จำได้ – เชอรี่
เขาลุกขึ้น มือกำแน่นด้วยรู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกลูบคม ดวงตาโชนแสงเป็นประกายแรงกล้าขณะสาวเท้าอย่างรวดเร็วไปยังประตูทางออก
เธอหายไปราวกับภาพในความฝัน
เช่นนั้นแล้วเขาก็หวังจะให้เธอเป็นเพียงภาพฝันที่เขาโหยหาเมื่อหลับตา เพราะเธอจะหายไปได้ทันก่อนเขาจะดึงความโกรธเกรี้ยวออกมาฟาดฟันให้เธอย่อยยับคามือ ความโกรธที่เธอเลือกจะทรยศเขา ปัดป้องสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ทั้งหมดออก แล้ววิ่งหนีไปตลอดกาล เธอทอดทิ้งเขา และนำแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตเขาไปด้วย
เชอรี่
เสียงที่สะท้อนในความคิดนั้นปะปนด้วยความแค้นเคือง จะมีก็เพียงแค่นิดเดียว แฝงอยู่เพียงเล็กน้อยสำหรับความเศร้าล้ำลึกของชายผู้ถูกลักพาดวงใจจากไป
แท็กซี่จอดยังจุดรับผู้โดยสาร เธอเดินมาตามทางโดยไม่หันหลังกลับ ด้วยกลัวใบหน้าโกรธขึ้งที่เปี่ยมด้วยความเคียดแค้นจะปรากฏขึ้น หัวใจเต้นเป็นจังหวะรัวแรงมาตลอด และอะดรีนาลินก็ฉีดพล่ายไปทั่วร่างกาย แต่เมื่อเธอก้าวเท้าขึ้นไปบนรถพร้อมบอกจุดหมายปลายทาง อุณหภูมิอุ่นๆ จากเครื่องทำความร้อนภายในยานพาหนะช่วยให้เธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย
‘คุณอยากได้ตัวฉันมากแค่ไหน’ คุณได้ไปแค่หัวใจของฉันเท่านั้นก็มากพอแล้ว
ลึกลงไปในความจริงแท้ที่ซ่อนอยู่ในตัวตนของเธอ มันช่างเจ็บปวดมากเหลือเกิน
เมอร์รี่คริสต์มาส เสียงจากวิทยุหน้าคอนโซลดังผ่านเข้ามา คริสต์มาสสำหรับคนอย่างเธอก็ได้แค่นี้เอง หิมะสีขาวโรยตัวลงมาและละลายเมื่อแตะกับพื้นถนน แสงไฟจากส่วนต่างๆ ของเมืองดูจะเลื่อนไหลผ่านไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
Fin.
ผลงานอื่นๆ ของ McBoffin. ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ McBoffin.
ความคิดเห็น