คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : HUNT10 l สั่งรักครั้งที่10 ตอน ความวาบหวิว {อัพ40%}
X : ไม่ต้องห่วง ผมระวังตัวอยู่แล้ว
X : อีกอย่างป้ายทะเบียนที่ผมขับเฉี่ยวคุณวันนี้
X : มันคือป้ายทะเบียนปลอม
ได้เห็นตัวอักษรไม่ยืดยาวหลายบรรทัดถูกคู่สนทนาพิมพ์ตอบกลับมาแบบนั้น
รอยยิ้มเล็กๆ ก็ผุดขึ้นอย่างไร้ควบคุม
มันคือรอยยิ้มที่แสดงถึงความพึ่งพอใจแต่ขณะเดียวกันมันก็บอกถึงความโล่งใจที่ความลับระหว่างเรานั้นจะไม่ล่วงหูไปถึงหูผู้ใด
เพราะฉันต้องการให้ทุกอย่างดำเนินไปเช่นนั้นจนกว่าอาการและความรู้สึกแปลกๆ
ที่มีมาเนิ่นนานจะได้รับการเยียวยา
กึก...
สมาร์ทโฟนในมือถูกวางลงบนพื้นความนุ่มของที่นอน
ขณะสมองสั่งการให้เปลือกตาหนักอึ้งปิดลง ก่อนทิ้งดิ่งร่างกายดำดิ่งลงสู่ความมืดซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง
‘นี่แข...อีกปีสองปี ฉันจะกลับไปหาแกนะ’
‘จะ จริงเหรอ!?
ทางนั้นเขาอนุญาตให้แกกลับมาได้แล้วเหรอ?’
‘ใช่ กลับได้แล้วก็ฉันหายเป็นปกติแล้วนี่...’ ฉันได้ยินเสียงของตัวเองและเพื่อนสาวคนสนิทกำลังพูดคุยกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ฉันจะกลับมายังเมืองเกิดแห่งนี้
‘ดีจังเลย ฉันเป็นห่วงแกมาตลอดเลยรู้ไหม?’ เสียงซึ่งบอกถึงความดีอกดีใจของแขยังคงดังให้ได้ยินมาจนถึงช่วงเวลาปัจจุบัน
ก่อนก่อนบรรยากาศเหล่านั้นจะเปลี่ยนไป ‘แฟน...ไหนๆ แกก็จะกลับมาแล้ว ฉันอยากคุยเรื่องพี่ศอว์หน่อยได้หรือเปล่า?’
‘คุยอะไรล่ะ?’
เปลี่ยนไปเพราะชื่อของผู้ชายคนนั้นถูกเปล่งให้ได้ยิน
‘เรื่องที่เกิดวันนั้นเมื่อ 6 ปีก่อนน่ะ...’
อาการที่ควรหายดีตามคพสั่งและใบรองแพทย์ยิ่งแสดงอาการซึ่งถูกซ่อนไว้ภายในราวกับต้องการบอกให้จิตใต้สำนึกรับรู้ว่าฉันยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์
‘มันเกิดมาจากเรื่องเข้าใจผิด
ฉันอยากให้เธอกลับมาแล้วพูดคุยกับเขาดู’
‘เธอรู้จักกับเป็นการส่วนตัวเหรอ?’
‘เปล่า ฉันรู้จักเขาผ่านๆ
ช่วงที่ต้องเข้าให้ปากคำกับศาลและตำรวจน่ะ…’ ความรู้สึกช่วงเวลานั้นยังคงติดแหง่กมาถึงช่วงเวลาปัจจุบันเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะหาย
ตรงกันข้าม กลับยิ่งเพิ่มระดับความรุนแรงผ่านทางกายยามต้องพูดถึงผู้ชายคนนั้น ‘ตอนอยู่ในศาล ผู้ชายคนนั้นไม่พูดเรื่องอื่นเลย เขารับสารภาพว่าเป็นคนวางแผนแทงคนร้ายจนบาดเจ็บสาหัสเพราะอยากฆ่า
ทั้งที่ถ้าเขาพูด บางทีคำพูดของฉันอาจจะช่วยให้เขาหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาก็ได้...’
‘หลุดจากข้อกล่าวหางั้นเหรอ?’
อีกสิ่งที่ตามหลอกหลอนจนอาการป่วยที่ซ่อนอยู่ไม่สามารถหายขาดได้
คงเป็นคำพูดของแขที่บอกเล่าเรื่องราวในวันนั้นไว้นั่นแหละ
‘ใช่
แต่เธอคงจำไม่ได้ว่าวันนั้นฉันเองก็ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน’
เธอเล่าว่าช่วงเวลาเกิดเหตุภายในบ้านผีสิง
เธอถูกใครคนหนึ่งทุบหัวหมายให้สลบ
ซึ่งฉันเองก็จำภาพเหตุการณ์เลวร้ายนั่นได้เช่นกัน
หากแต่ภาพเหตุการณ์ที่ฉันไม่อาจรับรู้ได้ก็คงเป็นเหตุการณ์หลังถูกพวกสารเลวในคราบตัวตลกลากออกไปทางประตูหลังของบ้านผีสิงนั่นต่างหาก
แขเล่าว่าผู้ชายคนนั้นเขามาช่วยเธอ
ก่อนพลาดท่าถูกไม้ฟาดจนพลาดท่าเสียทีและถูกจับกรอกยาบางอย่างเช่นเดียวกับเธอที่ไม่อาจต้านแรงจากหนึ่งในผู้ร้ายที่ยังเหลืออยู่ได้
พวกเขาต้องการให้ผู้ชายคนนั้นข่มขืนเธอ
แต่ว่า...
‘เขาไม่ได้ทำร้ายฉันอย่างที่พวกมันอยากให้เป็น
แต่กลับช่วย...ช่วยทั้งที่ตอนนั้นเราทั้งคู่แทบจะไม่ไหว...’ เธอกลับปลอดภัย
และไม่มีตรงไหนพุพังหรือบุบสลายเหมือนที่ฉันเผชิญ
‘เธอควรเปิดใจแล้วลองคุยกับเขา
พี่ศอว์น่ะเขาไม่ใช่คนเลวอย่างที่เธอเข้าใจหรอกนะ...’
ไม่ใช่คนเลวงั้นเหรอ?
‘ฮัลโหล เธออยู่ไหน?’
[ตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าสวนสนุก Dream
Land เพื่อขับรถชนคุณ ตามคำสั่งผู้ชายคนนั้นครับ แล้วคุณล่ะ
ตอนนี้อยู่ที่ไหน?]
‘..ฉันกำลังรอรถประจำทาง....กำลังจะแวะไปทำธุระ..’
[กำลังจะออกมาสินะครับ
ถ้าอย่างนั้นระวังตัวด้วย ผมจะพยายามบังคับรถให้เฉี่ยวห่างจากคุณน้อยที่สุด]
‘อืม…แค่นี้ก่อนนะ รถมาแล้ว…’
ไม่ใช่คนเลว
ทั้งที่พยายามให้คนอื่นทำร้ายฉันอย่างงั้นน่ะเหรอ?
ทั้งที่ภายโดยรวมมองเห็นการทำของชายคนนั้นแสดงออกมาในรูปแบบนั้นทว่า
ฟึ่บ!
หมับ!
‘เดินระวังๆ
หน่อยสิ…’
เขากลับเป็นฝ่ายช่วยฉันออกจากแผนการงี่เง่าของตัวเอง...
แปล๊บ...
อ่า ยิ่งนึกถึง กลางอกซ้ายมันก็เริ่มปวดขึ้นมาอีกแล้ว
ต้องรักษา ใช่
ฉันต้องได้รับการรักษา
เขาต้องรับผิดชอบ...
วันต่อมา...
ฉันตื่นเพราะเสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นติดต่อกันร่วมห้านาที
หากมองวิถีของคนที่ต้องการใช้ชีวิตสงบสุขบนเตียงนอน
อาจเห็นว่านี่คือการก่อกวนอย่างหนึ่งซึ่งไร้มารยาท ซึ่งตรงกันข้ามกับฉันที่นั่งเฝ้ารอการมาของเสียงดังกล่าวอยู่บนที่นอนอย่างใจจดใจจ่อแม้จะอยู่ในวังวนหลับใหล
ต่อให้ไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงเคาะเรียกจากอีกฟากของบานประตูจะเป็นใคร
อย่างไรเสีย
การมาของใครคนนั้นก็น่าจะมาพร้อมกับเรื่องตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้นภายในวันนี้สำหรับฉันอยู่ดี
“ตื่นนานหรือยังคะ?” เสียงทักทายดังขึ้นเมื่อสิ่งกีดขวางตรงหน้าระหว่างเราถูกเปิดอ้าออก
พี่จ๋าถามเหมือนดูไม่ออก
ทั้งที่นัยน์ตาคู่นั้นสามารถมองทุกสิ่งได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เพราะงั้นฉันจึงต้องตอบเพื่อต่อยอดบทสนทนาระหว่างเราให้ดำเนินไปยังทิศทางที่สมควร
“ฉันเพิ่งตื่นสักพัก” เขาในวันนี้แต่งกายด้วยชุดสีทมิฬเช่นวันที่ผ่านมา
ที่แตกต่างไปจากปกติดูเหมือนเป็นมือข้างหนึ่งซึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผลไว้
เห็นแล้วมันก็อดถามไม่ได้ “มือนาย ไปโดนอะไรมา?”
คนถูกถามหัวเราะ
กระนั้นแล้วเกลับไม่ตอบคำถามฉัน และเฉไฉไปเรื่องอื่น
“รีบอาบน้ำแต่งตัวนะคะ
เดี๋ยวพี่ลงไปรอข้างล่าง”
ในเมื่อเขาไม่ยอมตอบสิ่งที่ถูกถาม
ฉันก็ไม่มีเหตุผลต้องถามซ้ำเป็นหนที่สอง ยิ่งด้วยพูดจบ
พี่จ๋าคือฝ่ายผละตัวออกห่างจากหน้าห้องไปด้วยตัวเองด้วยแล้ว
เหตุผลที่จะรั้งตัวเขาไว้เพื่อพูดคุยก็ไม่จำเป็น ต่อให้ไม่ได้ถามถึงเหตุผลที่ทำให้เขาเคาะเรียกกันแบบนี้
แต่จากการทิ้งท้ายก่อนออกห่างไป มันก็มากพอ จะทำให้เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร
รักษาฉันตามข้อตกลงที่เขาเสนอ
นั่นล่ะหน้าที่ของผู้ชายคนนั้น
ไม่เม้นไม่ว่าแต่กดให้กำลังใจเค้าด้วยน้าา ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะงับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและการชี้แนะดีๆในหน้านิยายน้าา
ความคิดเห็น