ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOODIE RETURN ll ผู้ร้ายสวมรอยรัก

    ลำดับตอนที่ #33 : GOODIE31 ll เป็นโจรครั้งที่31 {อัพ100%} เยี่ยมไข้

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.76K
      23
      31 ธ.ค. 60

    EP31
    -เป็นโจรครั้งที่31-


    หนะ หนูชอบสีธรรมชาติค่ะ” คำตอบที่เขาเองน่าจะรู้ว่ามันหมายความอย่างไร

    พูดจบฉันก็ไม่รอให้อ้ายกอล์ฟถามอะไรต่อ รีบใช้กุญแจไขเปิดประตูกลับเข้าของตัวเองทันทีด้วยความกลัว ไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะถูกเขาพูดจาไม่ดีใส่หรือทำร้ายอย่างที่ผ่านมา แต่กลัว..

    กลัวว่าคำพูดที่อ้ายกอล์ฟเอ่ยออกมาหลังจากนั้นจะทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาอีก

    ทั้งที่หนีความรู้สึกเหล่านั้นกลับเข้ามาในห้องพักแท้ๆ แต่ดูเหมือนความรู้สึกที่มีกลับไม่ยอมหายไปไหน ที่แย่ก็คือเหมือนมันจะยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อภาพความทรงจำในหัวหวนนึกถึงภาพของผู้ชายใจดีที่เข้ามาช่วยเอาไว้ตอนเกิดอุบัติเหตุ 

    ทั้งสีหน้าและแววตาของเขาบ่งบอกถึงความใจดี แม้ว่าคำพูดที่ใช้จะโผงผางและผ่าซากไปบ้าง หากแต่ฉันกลับจำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรือนผมสีธรรมชาติ นัยน์ตา ริมฝีปาก คิ้ว และจมูก ไม่ว่าจะมองมุมไหน มันก็ยิ่งตอกย้ำว่า

    เขาน่ะคือผู้ชายคนเดียวกับอ้ายกอล์ฟจริงๆ...

    พอนึกเรื่องเก่าๆขึ้นมา ภาพของใครอีกคนที่เหมือนกันกับอ้ายกอล์ฟในอดีตก็ลอยแว๊บเข้ามา พานให้ต้องรีบเปิดกระเป๋าสะพายออก เพื่อเปิดเช็กข้อความเผื่อว่าข้อมีข้อความหรือสายที่ไม่ได้รับ แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวังซ้ำๆ เหมือนทุกที เมื่อไม่มีสายหรือข้อความจากใครส่งเข้ามาเลยแม้แต่ฉบับเดียว

    พริก :: วันนี้หนูออกไปธุระนะคะ

    ข้อความสุดท้ายที่ฉันส่งไปหาเขาก่อนออกไปข้างนอกวันนี้ ยังไม่ถูกเจ้าของเครื่องเปิดอ่านด้วยซ้ำ ถึงอย่างนั้นปลายนิ้วก็ยังคงพิมพ์บอกถึงความเคลื่อนไหวที่ฉันอยากให้เขารับรู้

    พริก :: หนูกลับหอแล้วนะ

    ไม่รู้เพราะวันนี้ฉันอยู่กับอ้ายกอล์ฟมาตลอดทั้งวันหรือเปล่า มันเลยทำให้สิ่งที่อยู่ในตอนนี้มีแต่เรื่องของเขา อีกทั้งฉันเองก็รู้แล้วว่าการคบกันระหว่างฉันกับอ้ายก็อตคือเรื่องที่ฉันเข้าใจผิด

    แต่เพราะเลือกรักไปแล้ว สิ่งที่ทำได้คือการอยู่กับคนให้ความรู้สึกที่ดีกลับมาด้วยความรักอย่างซื่อตรงและเชื่อมั่น ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกขัดใจอยู่ดี

    ฉันพาตัวเองมายังเตียงนอน ก่อนทิ้งตัวลงสู่ความนุ่มโดยปล่อยความเหนื่อยล้าที่มีมาตลอดทั้งวันให้จางหาย หากแต่นั่นไม่ใช่กับความคิดซึ่งยังคงทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน

    ตั๋วก็เฮียนที่นี่เหมือนกันก่อ?’ มันคือเสียงของฉันที่เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจเคล้าความดีใจและคำตอบจากปากของคนที่ถูกถาม

    ใช่ ดีจัง ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีก

    ตั๋วชื่ออะหยัง? เฮาชื่อพริกเน้อ หากแต่ภาพความทรงจำดีๆซึ่งเคยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจในตอนนั้น ยามนี้กลับเริ่มให้ความรู้สึกที่ต่างไป กลายเป็นความเคลือบแคลงและสงสัย โดยเฉพาะกับประโยคต่อมา

    พี่ชื่อก็อตค่ะ ยินดีที่รู้จักนะ ถ้าหากว่าผู้ชายที่เข้ามาช่วยชีวิตฉันจากอุบัติเป็นอ้ายกอล์ฟ 

    แล้วทำไมล่ะ...

    ทำไมอ้ายก็อตที่ไม่รู้เรื่องนี้ถึงสามารถพูดทุกอย่างได้ราวกับเราเคยเจอกันมาก่อน ซึ่งหากเขาไม่พูดอะไรแบบนั้นออกมาล่ะก็ บางทีฉันอาจจะเอะใจสักนิดว่าบางทีเขาอาจจะลืมหรือว่าอาจจะรู้สึกได้ว่าเป็นคนละคนกัน

    แล้วถ้าคนที่ทำให้พริกมาเรียนที่มหาลัยดีๆนี้ได้คือพี่ไม่ใช่ไอ้ก็อตล่ะ...พริกจะว่าไง? แต่แล้วเสียงพูดคุยในอดีตก็เริ่มเปลี่ยนไป กลับกลายเป็นคำพูดของอ้ายกอล์ฟที่เอ่ยขึ้นในช่วงเวลาปัจจุบัน จนถึงตอนนี้ฉันรู้สึกแปลกๆต่อคำถามนั่น แม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม 

    แปลกต่อคำถามที่ฉันไม่เข้าใจความหมายจนรู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่า ถ้าหากคนที่คุยกับฉันมาตลอดเป็นอ้ายกอล์ฟไม่ใช่อ้ายก็อตที่นอนป่วยขึ้นมาจริงๆล่ะ ฉันจะทำยังไง...

    กึก! ตึง!!

    แต่แล้วท่ามกลางความมืดและเงียบภายในห้องพักกลับถูกทำลายลงด้วยเสียงโครมครามจากห้องข้างๆ จนเผลอขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอนในท่านั่งด้วยความตกใจ

    ...เลิกพูดถึงมันสักทีได้ไหม?..ทำไมเธอถึงได้น่ารำคาญขนาดนี้!?” 

    ตอนนั้นเองหูทั้งสองข้างก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มห้องข้างกำลังโวยวายเสียงดังคล้ายกับกำลังคุยกับใครอยู่ จากเสียงของอ้ายกอล์ฟซึ่งฟังดูเกรี้ยวกราดและจริงจัง มันทำให้คนข้างห้องที่ได้ยินใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวโดยเฉพาะกับประโยคหลัง 

    ...อย่าคิดจะทำอะไรโง่ๆ...ไม่งั้นฉันฆ่าเธอแน่ชมพู!”

    ร่างกายตอบสนองเสียงสนทนาของคนข้างห้องด้วยการรีบผละตัวลุกออกจากเตียง เดินไปตรงไปยังประตูระเบียบอย่าเงียบ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายเหมือนกันที่เสียงเลื่อนกระแทกประตูระเบียงจากห้องข้างๆก็ดังขึ้นแทบจะพร้อมกันกับที่ฉันพาตัวเองไปยืนอยู่ในจุดนั้นได้สำเร็จ

     “…ผู้หญิงอย่างเธอมีสิทธิ์จะพูดอะไรด้วยหรือไง?...อย่าโง่ไปหน่อยเลย..

    แม้ไม่ได้มองแต่จากลักษณะการพูดของอ้ายกอล์ฟ มันก็พอทำให้รับรู้ได้ว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์กับอยู่ แถมคู่สายที่เขากำลังต่อว่าอย่างไม่ไว้หน้านั้นก็ดูจะเป็นพี่ชมพูเสียด้วย

    คนที่พยายามทำให้คนอื่นเลิกกัน...ตั้งใจทำให้ยัยนั่นเสียใจ..ไม่ควรจะได้รับการพูดดีจากใครก็ตาม

    คนที่พยายามทำให้คนอื่นเลิกกัน พี่ชมพูน่ะเหรอ...

    ...วันหลังไม่ต้องเสนอหน้าไปที่นั่นอีก..แล้วก็...อยู่ให้ห่างจากพริกไว้..ถ้าเธอเข้าใกล้หรือแตะต้องยัยนั่นอีกเมื่อไหร่...เดี๋ยวเราเห็นดีกัน 

    ฉันยืนอยู่ตรงนั้นแอบฟังบทสนทนาของผู้ชายข้างห้องอย่างเสียมารยาท จนกระทั่งเสียงดุดันแบบเอาจริงเอาจังเงียบลง

    แม้จะประติดประต่อเรื่องราวจากบทสนทนาที่แอบฟังได้ไม่ถนัดนัก แต่อย่างน้อยฉันก็ยังพอจับใจความได้อยู่บ้าง 

    หนึ่งเลยก็คืออ้ายกอล์ฟดูท่าจะไม่ค่อยพี่ชมพูเท่าไหร่ บวกกับทุกการกระทำที่เขาเคยปฏิบัติใส่ต่อเธอแล้วแทบจะเรียกว่าเกลียดขี้หน้าเลยก็ว่าได้ สองอ้ายกอล์ฟดูเหมือนไม่ต้องการให้พี่ชมพุเข้าใกล้ฉันนัก ถ้าจำไม่ผิดดูอ้ายกอล์ฟจะเคยปัดมือเธอที่พยายามจะช่วยพาฉันไปที่โต๊ะลงทะเบียนด้วย

    และสามพี่ชมพูต้องการทำให้ใครสักคนเลิกกัน...

    ผู้หญิงที่ดูอ่อนหวาน น่ารักอย่างพี่ชมพูน่ะเหรอ จะคิดทำอะไรแบบนั้นได้

    ไม่มีทางหรอก...

     

    วันต่อมา...

    วันนี้ฉันตื่นและรีบพาตัวเองออกจากหอพักแต่เช้าตรู่ การเดินผ่านเส้นทางของซอยหอพักในช่วงเช้าของทุกวัน มันทำให้ฉันรู้ว่า ห่างจากซอยไปเพียงเล็กน้อยมีตลาดสดที่เปิดขายของตั้งแต่ช่วงตี4-ตี5 อยู่ด้วย และการออกจากหอแต่เช้าแบบนี้ก็เพราะสถานที่ฉันต้องการจะไปคือตลาดสดนั่นไง

    ข้าวสวยร้อนๆ กับแกงหนึ่งถุง พร้อมด้วยน้ำเปล่าหนึ่งขวด ถูกฉันเจียดเงินที่มีอยู่ที่ตัวซื้อเอาไว้เพื่อใส่บาตรกับพระสงฆ์ที่เดินบิณฑบาตอยู่ภายในตลาด 

    ไม่รู้สิ เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่าชีวิตฉันเจอแต่เรื่องแย่ๆล่ะมั้ง แถมชีวิตนักศึกษาตัวคนเดียวมันก็ไม่ได้สบาย การจะหาเวลาดีๆออกมาใส่บาตรบ้างมันเลยยาก แต่ว่าวันนี้เมื่อโอกาสฉันจึงไม่รอช้าที่จะทำมัน ทำเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจมากกว่าที่เคยอีกทั้งขากลับจะได้แวะซื้อของกินกลับไปด้วย

    หลังจากใส่บาตรเสร็จ ฉันก็เดินร่อนอยู่ภายในตลาดสดนั่นล่ะ ส่วนโซนที่แวะไปเดินแน่นอว่าคงไม่ใช่พวกของสด แต่เลือกเป็นพวกผลไม้ ด้วยเพราะพื้นเพบ้านอยู่บนดอยบนเขา ร้านค้าหรือพวกขนมกรอบแกรบจึงไม่ค่อยมีขึ้นไปขายมากนัก ฉันจึงกลายเป็นพวกที่ชอบกินผลไม้ไปโดยปริยาย ชีวิตตอนอยู่ที่บ้านเกิดมันก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อนู้นซื้อนี่ แต่วันหาได้แค่ไหนก็กินมันแค่นั้น

    ไม่คิดเหรอว่าการใช้ชีวิตแบบนั้นมันสุขสบายกว่ากันเยอะ...

    หลังจากเดินเลือกซื้อของสำหรับตุนไว้บนห้องจนพอใจ เท้าสองข้างจึงพาฉันก้าวเดินออกจากโซนขายของด้านใน ทว่า ยังไปไม่ทันถึงไหน ฉันกลับต้องสะดุดตาเข้าใครคนหนึ่งโดยบังเอิญ

    เขาคนนั้นอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำแบบเดียวกับที่ใส่เมื่อวาน หากแต่กางเกงมีเพียงบ็อกเซอร์ขาสั้นเท่านั้น และการเจอเขาโดยบังเอิญมันก็ทำให้ฉันไม่รอช้ารีบเดินไปหลบยังบริเวณร้านขายของชำทันที

    สิ่งที่อ้ายกอล์ฟทำตอนนี้ดูไม่ค่อยแตกต่างจากฉันเท่าไหร่ เขาซื้อข้าวและแกงหนึ่งถุงและน้ำหนึ่งขวดต่อแถวเตรียมใส่บาตร ที่ดูไม่ชินตาก็คงเพราะนิสัยร้ายๆที่เขาชอบแสดงออกให้เห็นอยู่ตลอดเวลานั่นล่ะ มันดูไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมล่ะ ว่าผู้ชายนิสัยแบบนั้นจะเป็นคนธรรมมะธรรมโมใส่บาตรเป็นเหมือนกับคนอื่นเขาด้วยน่ะ

    เกือบ 15 นาทีที่ฉันเอาแต่แอบยืนมองอ้ายกอล์ฟจากทางด้านหลังร้านของชำ จนกระทั่งเขาทำธุระของตัวเองจนเสร็จแล้วออกไปจากบริเวณนั้น 

    เมื่อพบว่าทางตรงหน้าปลอดโปร่งจึงเองก็ไม่รอช้าที่จะพาตัวเองออกไปเช่นกัน แต่ก่อนจะได้กลับหอพัก อยู่ๆในหัวมันก็ดันคิดอะไรขึ้นมาได้ พลอยให้ต้องเปลี่ยนเป้าหมายของสิ่งที่จะทำอีกครั้งเพื่อร้านๆหนึ่ง

    35 นาทีต่อมา...

    ช่อดอกไม้สำหรับเยี่ยมผู้ป่วยถูกฉันถือติดมือเดินออกจากตลาด โดยที่ครั้งนี้เป้าหมายที่จะไปดูเหมือนจะไม่ใช่หอพักเหมือนอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก เพราะระยะห่างระหว่างตลาดและโรงพยาบาลเอกชน A มันไม่ได้อยู่ไกลกันเท่าไหร่ ช่วงเวลาที่ยังมีโอกาสจึงไม่รอช้าที่จะทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้ครบครันภายในวันเดียว

    ทันทีที่พาตัวเองมาถึงโรงพยาบาล เท้าทั้งสองข้างก็รีบตรงดิ่งไปยังลิฟต์ จากนั้นก็กดพาตัวเองไปยังชั้นที่เป็นเป้าหมาย

    รู้ไหม ตลอดเวลาที่ยืนรอลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปชั้นบน ใจฉันเต้นผิดจังหวะอยู่ตลอดเวลา เพราะตอนนี้มันเต็มไปด้วยหลายๆความรู้สึก ไม่ว่าจะกลัวพบคนรู้จัก กลัวเจออ้ายกอล์ฟ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่คาดฝัน ดังนั้นฉันจึงภาวนาอยู่ในใจตลอดเวลา ขอให้คนบนฟ้าเห็นใจช่วยบรรดาลให้ทุกอย่างที่ฉันตั้งใจทำในวันนี้สมหวัง

    กริ้ง!

    เสียงเตือนของลิฟต์ทำฉันพ่นลมหายใจหนักๆออกมาอย่างนึกหวั่นๆ ถึงอย่างนั้นเท้าก็ยังพาตัวเองก้าวออกไปอย่างกล้าหาญบนพื้นที่ของชั้นพักฟื้นผู้ป่วยชั้น 15 รู้ตัวว่าการแอบมาหาอ้ายก็อตที่โรงพยาบาลแบบนี้มันอาจทำให้เจ้าตัวรู้สึกไม่พอใจ 

    อีกทั้งถ้าหากอ้ายกอล์ฟรู้เขามีหวังเขาทำไม่ดีใส่ฉันเหมือนที่ผ่านมาอีกแน่ๆ ดังนั้นฉันจึงไม่อยากอยู่ที่นี่นานสักเท่าไหร่ รีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังเคาน์เตอร์พยาบาลทันที

    มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?เสียงหวานๆของนางพยาบาลเอ่ยถามทันทีที่ฉันพาตัวเองมายืนเก้ๆกังๆอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์

    เอ่อ...คุณจิรกร พักอยู่ห้องไหนเหรอคะ?เพราะรู้แค่เพียงชั้นที่พักแต่ไม่รู้ห้อง การถามหาห้องด้วยชื่อคนไข้คือทางเดียวที่ฉันจะทำได้ 

    และใช่ค่ะ...จิรกร คือชื่อของอ้ายก็อต

    To Be Continued...

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต #ผู้ชายสายโจร

    ll Character ll












    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ติดตามเรื่องนี้จิ้มที่หน้าอ้ายกอล์ฟโลด

    ^

     รักกันชอบกันกดติดตามข้างบน 
     ส่งฟีดแบ็กทางทวิต เพจ คอมเม้น
     หรือโหวตข้างล่างเต็ม100นะเออ 
    v
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×