ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOODIE RETURN ll ผู้ร้ายสวมรอยรัก

    ลำดับตอนที่ #24 : GOODIE23 ll เป็นโจรครั้งที่23 {อัพ100%} จริงจัง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.16K
      13
      24 ธ.ค. 60



    EP23
    -เป็นโจรครั้งที่23-


    หอพักรวม A

    เวลา 22.40 นาฬิกา

    (พริกดูนี่สิ!...เห็นสวนนี้หรือเปล่า ดอกไม้ที่สวนนี้สวยมากเลยว่าไหม..แต่ก็สู้ดอกบัวตองที่เหนือไม่ได้หรอกเนอะ...) 

    เสียงของอ้ายก็อตดังผ่านลำโพงของโน๊ตบุ๊กไปทั่วห้องพัก ส่วนฉันนั้นนั่งขัดสมาธิมองภาพเคลื่อนไหวของเขาจากหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆเท่านั้น 

    (พี่อยากให้พริกมาที่สวนนี้สักครั้งจังเลย..รู้ไหมว่าเพราะอะไร..แต่นแต้นนน...)

    คิกๆ..ฉันหลุดหัวเราะเหมือนทุกครั้ง ยามที่นั่งดูภาพวิดีโอเก่าๆที่อ้ายก็อตส่งมาทางเมล์และต่อให้ต้องหลับตา ฉันก็รู้ว่าสิ่งที่ผู้ชายในภาพกำลังบิ้วให้คนที่ชมวีดิโออยู่รู้สึกตื่นเต้นมันคืออะไร

    (น้องพริกเคยปั่นเป็ดไหมคะ...มันต้องเข้าไปนั่งข้างในนี้ แล้วก็ใช้เท้าปั่นๆๆๆไปบนน้ำ...เอาไว้ถ้าเราเจอกันเมื่อไหร่...) และเพราะดูซ้ำมาแล้วหลายรอบ มันจึงไม่แปลกอะไรหากว่าฉันจะสามารถพูดตามผู้ชายที่ปรากฏอยู่ในคลิปวีดิโอตรงหน้าได้

    เรามาปั่นเป็ดตัวนี้ด้วยกันนะคะ... ทันทีเสียงที่ว่าเอ่ยเสียงจากคลิปวีดิโอเงียบลงไปพร้อมๆกับภาพที่ฉายอยู่ พลอยให้ความเงียบปกคลุมภายในห้องพักอีกครั้ง

    ฉันขยับตัวนิดหน่อย ก่อนโน้มตัวหนุนหน้าลงกับเตียง ตะแคงมองภาพหน้าจอที่ปรากฏเป็นสีดำพร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆ บนหน้า ขณะเดียวกันในหัวก็กำลังคิดย้อนไปถึงตอนช่วงเวลาที่มีโอกาสได้พูดคุยกับอ้ายซี

    หนูอยากเจออ้ายก็อต...อ้ายซีช่วยหนูได้ไหมคะ? ตอนนั้นน่ะ อ้ายซีดูจะตกใจนิดหน่อยกับเสียงร้องขอจากฉัน แต่เพราะกลัวจริงๆ กลัวว่าคำขอจะไม่ได้รับการตอบรับ ฉันจึงต้องพูดความในใจออกไปอีกครั้ง หนูอยากเจออ้ายก็อตมากจริงๆ แต่ว่า...

    ไอ้กอล์ฟไม่ให้ไปเจอใช่ไหม? แต่เขากลับพูดแทรกขึ้นมาแบบไม่คิดจะปิดบัง ว่าความจริง นั่นทำให้รู้ว่าอ้ายกอล์ฟคงจะเล่าทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฉันให้เขาฟัง และถ้าเดาไม่ผิด คาดว่าอ้ายซีก็คงรู้เรื่องความสัมพันธ์ผิดพลาดระหว่างฉันกับอ้ายกอล์ฟแล้วเหมือนกัน ด้วยคำพูดประโยคหลัง อ่าไอ้หมอนั่น...ชักทำเกินไปแล้ว

    ทั้งที่เขาอาจจะเป็นอีกคนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ลับๆระหว่างฉันกับอ้ายกอล์ฟ แต่รู้ไหม ฉันกลับไม่รู้สึกระแวงหรือกลัวว่าอ้ายซีจะเอาเรื่องที่รู้ไปเล่าถึงหูอ้ายก็อตแบบที่ฉันระแวงอ้ายกอล์ฟเลยสักนิด

    ด้วยเพราะเขาดูเป็นผู้ใหญ่ ทั้งความคิดความอ่าน การวางตัวหรือแม้แต่การพูดจา รวมถึงการแสดงความจริงใจผ่านการตอบคำถามทุกข้อแบบไม่มีอาการลังเลหรือหลีกเลี่ยง มันเลยทำให้ฉันรู้สึกไว้ใจผู้ชายที่ชื่อซีคนนี้ขึ้นมาได้อย่างน่าแปลก

     ‘เอาเป็นว่าต่อจากนี้ไปพริกไม่ต้องคิดมาก ใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะ...ถ้าไอ้กอล์ฟทำอะไรไม่ดีใส่อีก โทรมาบอกพี่ เดี๋ยวพี่จัดการเอง 

    โดยเฉพาะกับคำพูดประโยคสุดท้ายก่อนที่เราทั้งคู่จะแยกกัน

    ส่วนเรื่องไอ้ก็อต...ถ้าพริกอยากเจอพี่ก็จะให้พริกได้เจอ’ ซึ่งการที่ฉันได้พบอ้ายซีเป็นการส่วนตัวแบบนี้ มันเหมือนกับเป็นการเติมเชื้อไฟความหวังในใจให้ส่องสว่างขึ้นมาอีกครั้ง 

    และมั่นใจว่าผู้ชายใจดีอย่างอ้ายซีจะไม่มีทางรับปากส่งๆอย่างเด็ดขาด...

    พอคิดมาถึงตรงนี้ ในหัวก็ดันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จำต้องรีบลุกขึ้นจากข้างเตียงเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้งด้วยความรีบร้อน และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาปลดล็อกหน้าจอ

    บนหน้าจอสี่เหลี่ยมของโทรศัพท์ยังคงว่างเปล่าไร้ซึ่งสายโทรเข้าหรือข้อความ แต่ว่าการที่มันโล่งจนน่าใจหายแบบนี้น่ะ มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกแย่เหมือนที่ผ่านมาตลอดทั้งวันหรอกนะ ตรงกันข้ามเลยล่ะ...

    ปลายนิ้วค่อยๆเลื่อนจิ้มเข้าโปรแกรมแชท ก่อนเลื่อนไปยังรายชื่อของผู้ที่เป็นเป้าหมายและพิมพ์ข้อความลงไป

    พริก :: ช่วงนี้อากาศเปลี่ยน ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ หายป่วยไวๆค่ะ สู้ๆ!

    ฉันยิ้มนิดๆ เมื่อข้อความที่พิมพ์ถูกกดส่งไป และเพราะคิดว่าตอนนี้อ้ายก็อตอาจจะกำลังยุ่งหรือเพราะป่วยอยู่ ฉันจึงไม่ได้คิดที่จะรอการตอบกลับจากคู่แชท และเลือกวางโทรศัพท์มือถือไว้ตามเดิม แต่ว่า...

    ปี๊บ! ปี๊บ!

    เสียงเตือนที่เงียบไปตลอดทั้งวันกลับดังขึ้น พานให้ทุกส่วนหยุดชะงักไปชั่วขณะ หัวใจที่เหมือนจะเต้นช้าลงเพราะความคิดถึงในยามนี้กลับเพิ่มอัตราการสูบฉีดรุนแรงขึ้น ร่างกายเองก็เหมือนหลุดการควบคุม รีบคว้าโทรศัพท์กลับขึ้นมาเปิดดูทันทีแบบไม่ต้องรอสมองสั่ง

    อ้ายก็อต :: คิดถึงพริกจัง

    เพียงข้อความสั้นๆที่ปรากฏต่อสายตาเท่านั้น มันก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยบรรเทาความรู้สึกแย่ๆที่เคยผ่านมาให้หมดไป ฉันกำลังยิ้มแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกอยากร้องไห้ไปด้วย

    ไม่ได้อยากร้องไห้เพราะเสียใจแต่อยากร้องไห้เพราะความดีใจต่างหาก...

    อ้ายก็อต :: ยังไม่นอนอีกเหรอ พรุ่งนี้ไปมหาลัยไม่ใช่หรือไง

    พริก :: เดี๋ยวหนูก็นอนแล้วค่ะ ขออีก 10 นาทีนะ

    อ้ายก็อต :: ถ้ายังไม่นอน งั้นคุยกับพี่ก่อนได้หรือเปล่า

    อ้ายก็อต :: ไม่ได้คุยทั้งวัน คิดถึงจะแย่แล้ว

    พริก :: หนูก็คิดถึงอ้ายก็อตเหมือนกันค่ะ...

    ทว่า ทันทีที่ส่งข้อถูกส่งกลับไป จู่ๆโทรศัพท์ในมือก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรง บนหน้าจอปรากฏรายชื่อของบุคคลที่โทรเข้ามา จนต้องรีบรับสายอย่างรีบร้อน

    เจ้า...ฉันกลอกเสียงผ่านสายไปตามประสา โดยพยายามเก็บอาการดีใจและตื่นเต้นที่มีเอาไว้ให้ลึกที่สุด โดยขณะเดียวกันก็เงี่ยหูรอฟังเสียงตอบกลับจากปลายสายด้วยเช่นกัน

    […เสียงหวานเชียว] แต่กว่าที่ปลายสายจะตอบกลับมาก็กินเวลาไปราวๆ 10 วินาทีเห็นจะได้ [...ทำอะไรอยู่คะ?]

    เสียงของอ้ายก็อตวันนี้ฟังดูไม่สดชื่นเลยสักนิด อีกทั้งเสียงบรรยากาศรอบตัวทางฝั่งเขาก็ค่อนข้างจะเงียบมาก

    หนูก็คุยโทรศัพท์กับอ้ายก็อตอยู่นี่ไง...จนอดถามถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปจากที่เคยรู้สึกยามต้องคุยกันผ่านสายไม่ได้ อ้ายก็อตอยู่ที่ไหนคะ ทำไมเงียบจัง

    [พี่..ไม่ค่อยสบายค่ะ อยู่ในห้องคนเดียว] อยู่ในห้องคนเดียวเหรอ ถึงว่าสิ...

    ช่วงนี้อ้ายก็อตป่วยบ่อยจังเลยนะคะ...ทำไมไม่ดูแลสุขภาพบ้างทว่า ครั้งนี้พอพูดจบปลายสายดันเงียบไป แต่ก็ครู่เดียวเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำที่ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุยค้างเอาไว้

    [พริก...ช่วยเดินออกมาที่ระเบียงหน่อยได้ไหมคะ?]

    ทะ ทำไมคะ?” ฉันย้อนอย่างไม่เข้าใจจนกระทั่งได้คำตอบแปลกๆกลับมา

    [พี่อยาก...เห็นพริก..เสียงเข้มที่ยามนี้ฟังดูอ่อนล้าและอ่อนแรง ทำฉันตาโตด้วยความแปลกใจ สายตารีบตวัดมองไปประตูกระจกทางฝั่งระเบียงด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ทันได้พูดหรือถามอะไร มันก็เป็นอ้ายก็อตนั่นแหละที่เอ่ยเร่ง [ออกมาเร็วๆสิ...]

    แม้จะไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ปลายสายพูด แต่น่าแปลกที่ร่างกายฉันกับแสดงการตอบรับเสียงเร่งดังกล่าวได้อย่างไร้การขัดขืน เท้าสองข้างรีบก้าวเดินตรงไปยังประตูระเบียงก่อนเลื่อนเปิดออกจนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองกรุงยามค่ำคืนได้อย่างถนัดตา

    [เดินออกมาตรงขอบระเบียงสิคะ...] อีกหนที่เสียงเร่งดังลอดผ่านสายให้ได้ยิน หากแต่นั่นทำให้ฉันเกิดความลังเลเล็กน้อยที่จะปฏิบัติตาม

    สายตาแอบชำเลืองมองข้ามไปยังระเบียงห้องข้างๆเพื่อเช็กความเรียบร้อย ก่อนพบว่านอกจากระเบียงแล้วภายในห้องพักของผู้ชายใจร้ายคนนั้นก็ยังถูกปิดไฟจนมืด บอกได้ชัดว่าผู้เป็นเจ้าของห้องคงยังไม่กลับมา

    เมื่อรู้สึกว่าทางสะดวก ฉันจึงไม่รอช้ารีบสาวเท้าตรงไปเกาะกับขอบระเบียงห้องพักทันที โดยไม่ลืมที่จะบอกปลายสายไปด้วย

    หนูออกมายืนที่ระเบียงแล้วค่ะ

    [...เห็นแล้วค่ะ] ทว่า คำตอบจากปลายสายกลับทำให้ฉันเริ่มรู้สึกแปลกใจเป็นหนที่สอง จนอดกวาดตามองไปรอบตัวไม่ได้ เผื่อว่านี่อาจเป็นเซอร์ไพรส์ที่อ้ายซีจัดเตรียมไว้ให้ และยิ่งเชื่อเข้าไปใหญ่เมื่อปลายสายที่คล้ายกับเฝ้าจับตาดูฉันตลอดเวลาเอ่ยถามขึ้นเสียงติดตลกราวกับจะแกล้งกัน [พริกมองไม่เห็นพี่จริงๆเหรอ?...เราอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง...]

    มะ ไม่เห็นค่ะ...อ้ายก็อตอยู่ไหนคะ อย่าแกล้งกันแบบนี้สิ

    [พี่ไม่ได้แกล้งพริกสักหน่อย...พี่กำลังมองพริกอยู่จริงๆ...] เขาแย้งเสียงต่อว่าของฉันซึ่งเต็มไปด้วยอาการตกใจและงุนงงให้เงียบลง อีกทั้งยังเป็นฝ่ายเสนอ [มองตรงมาข้างหน้าสิคะ]

    เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้อ้ายก็อตกำลังแกล้งหรือว่ากำลังพูดเรื่องจริงอยู่กันแน่ การแสดงออกของฉันตามคำสั่งที่อีกฝ่ายมอบให้จึงเต็มไปด้วยอาการลังเลและไม่เข้าใจ ซึ่งสิ่งที่รออยู่ตรงหน้าคือตึกสูงและวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืน มันดูสวยแตกต่างจากที่บ้านเกิดฉันมากนัก แต่ขณะเดียวความสวยของมันกลับทำให้คนที่มองเห็นรู้สึกเหงา ไม่รู้สึกอบอุ่นเหมือนตอนอยู่บ้านเกิด

    ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่คะ...อาจฟังดูโง่ที่พูดใส่เขากลับไปแบบนั้น ถ้าหากว่านี่คือการแกล้งกันเล่น แต่เชื่อเถอะว่าที่สายตาฉันกำลังมองหาอย่างจริงจังท่ามกลางการล้อเล่นมันก็คือตัวเขาที่ซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งในเมืองกรุงนั่นล่ะ

    [พริกเห็นป้ายเครื่องหมายบวกสีแดงตรงหน้าไหมคะ?]

    แต่ดูเหมือนว่าการมองหาของฉันจะไม่เสียเปล่าเมื่อปลายสายกล่าวออกในรูปแบบนั้น สายตารีบเลื่อนมองหาป้ายเครื่องหมายบวกสีแดงตามอย่างที่หูได้ยิน ก่อนหยุดลงที่ป้ายชื่อของโรงพยาบาลเอกชนAเบื้องหน้า ซึ่งฉันเคยพาตัวเองเข้าไปหาเขามาแล้วครั้งหนึ่ง

    แม้ไม่มีคำเฉลยว่าตัวตนของอ้ายก็อตตอนนี้อยู่ที่ไหน แต่จิตใต้สำนึกของฉันกลับรับรู้ได้เป็นอย่างดีว่าคนที่ฉันเฝ้ารอคอยที่จะพบหน้าต้องอยู่ที่นั่น

    พักหลังมานี้ ไอ้ก็อตมันป่วย เข้าออกโรงพยาบาลบ่อย...ยิ่งวันนี้อ้ายซีพูดออกมาแบบนั้นด้วยแล้ว ฉันก็ยิ่งเชื่อความรู้สึกของตัวเองเข้าไปใหญ่

    อ้ายก็อต...นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลนี้จริงๆเหรอคะ?เพราะคิดได้แบบนั้น ปากจึงขยับถามออกไปตามอย่างที่สมองคิด ทว่า คราวนี้ปลายสายกลับไร้ซึ่งเสียงใดที่ใช้ตอบกลับมา ที่ฉันได้ยินตอนนี้มีแค่ความเงียบ จนต้องเรียกเขาอีกครั้ง เผื่อว่าสัญญาณการติดต่อระหว่างเรามันขาดหายจนเขาไม่ได้ยิน

    อ้ายก็อต...และดูเหมือนว่ามันจะได้ผล เพราะหลังเสียงเรียก ปลายสายก็เริ่มมีเสียงตอบรับกลับมา

    [ฮึก...] หากแต่ว่าเสียงดังกล่าวดันเป็นเสียงกลั้นสะอื้นจนพานให้คนฟังรู้สึกใจคอไม่ดี จนต้องถามออกไปอย่างร้อนรน

    “อะ อ้ายก็อตเป็นอะหยัง!?” 

    [ปะ เป็นหวัด...นิดหน่อยค่ะฮึก...ขอเวลาพี่..แป็บนะคะ] ซึ่งเขาก็ยอมตอบ หากแต่ฉันกลับรู้สึกว่าคำตอบที่ได้นั้นดูเหมือนพยายามปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้ 

    บางอย่าง อย่างเช่นเสียงสะอื้นที่ได้ยินเมื่อครู่น่ะ มันไม่ใช่เสียงของคนเป็นหวัดแต่เหมือนเสียงของคนที่กำลังพยายามกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองเอาไว้ต่างหาก

    พระเจ้าคะ...

    ทั้งที่หนูอยากเจอเขาขนาดนี้ แต่ท่านกับบันดาลให้หนูทำได้แค่ยืนมองเขาที่กำลังป่วยจากที่ไกลๆ แถมในตอนที่เขากำลังร้องไห้ หนูก็ทำได้แค่ยืนฟังเสียงเขาท่ามกลางความเงียบเท่านั้นน่ะเหรอ

    ท่านเนี่ย...ใจร้ายจังเลยนะคะ

    [พริก...] หลังจากที่อ้ายก็อตเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆเขาก็เรียก เสียงของเขาฟังดูดีขึ้นกว่าในตอนแรก อาจเพราะเขาได้ใช้ช่วงเวลาขณะที่เราสองคนต่างเงียบ ระบายความอึดอัดบางอย่างที่มีออกไปบ้างแล้วก็ได้ [วันนี้พี่ซีโทรมาหาพี่...บอกว่ามันไปนั่งคุยกับพริกที่ร้านกาแฟมา...]

    อ้ายซีบอกอ้ายก็อตแล้วงั้นเหรอ...

    [มันบอกว่าพริกตัวจริงดูไม่ค่อยสดใสเลย เหมือนป้าแก่ๆอมทุกข์ตลอดเวลา..] ฉันยู่ปากขมวดคิ้วดุๆใส่เจ้าของคำพูดโดยอัตโนมัติ แม้จะรู้ว่าเขาอาจะมองไม่เห็นสีหน้าของฉันในตอนนี้จากทางฝั่งของโรงพยาบาลก็ตาม พร้อมกันนั้นก็แย้ง

    หนูไม่เหมือนป้าเน้อ!”

    [ฮ่ะๆ] และนี่คงเป็นครั้งแรกของการมาเมืองกรุงที่ฉันมีความสุขที่สุดที่ได้ยินเสียงอ้ายก็อตหัวเราะแบบนี้

    อ้ายก็อตขำอะหยัง? หนูพูดจริงเน้อ ตั้งแต่มาถึงเมืองกรุง หนูก็เครียดมาตลอด

    [เครียดอะไรคะ เรื่องที่เราไม่ได้เจอกันสักทีน่ะเหรอ?]

    อ้ายก็อตกะฮู้อยู่แก่ใจ๋ แล้วจะอู้ทำหยังก่อ?ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก ถึงได้โวยวายใส่เขาผ่านสายแบบนั้น เพราะรู้ว่าการที่ฉันโวยวายเป็นภาษาบ้านเกิดของตัวเอง มันจะทำให้อ้ายก็อตมีอารมณ์ขันได้เสมอ 

    แต่ไม่ใช่กับตอนนี้ ตอนที่เขาพูดเหมือนรู้อะไรมา...

    [ไอ้กอล์ฟนี่ก็จริงๆเลย ทำไมชอบแกล้งพริกก็ไม่รู้ ตั้งแต่วันที่เรานัดเจอกันที่มหาลัยแล้ว น่าโมโหชะมัด…] สิ่งที่ได้ยินทำฉันเงียบลง ได้แค่นิ่งและฟัง [ทนหน่อยนะ ถึงมันจะชอบแกล้ง แต่มันก็เล่าให้พี่ฟังตลอดเลยนะคะว่าพริกเป็นยังไงบ้าง]

    เล่าตลอดเลยงั้นเหรอ...

    ระ เหรอคะ?วัวสันหลังหวะ...ไม่ว่าอย่างไรคำเปรียบเปรยนี้ก็เหมาะกับฉันจริงๆ “อะ...อ้ายกอล์ฟเล่าอะไรให้ฟังบ้างคะ?

    [ก็เรื่องทั่วๆไปน่ะ ไม่เรื่องที่พริกขาดเรียน ก็เรื่องที่พริกไปรับน้องที่มหาลัย...

    ตลอดเวลาที่ฟังอ้ายก็อตเล่า ใจฉันเต้นโครมครามด้วยอาการลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าทั้งหมดที่ได้ยินจะไม่มีเรื่องของความลับระหว่างฉันและอ้ายกอล์ฟเล็ดลอดออกจากปากเขาเลยก็ตาม

    [ตอนนี้พี่ไม่สามารถดูแลพริกได้ใกล้เหมือนเมื่อก่อน พี่เลยมีแค่ไอ้กอล์ฟเท่านั้นแหละที่คอยเป็นหูเป็นตาให้…] ทุกครั้งไม่ว่าฉันจะไปไหนมาไหนแล้วต้องเจออ้ายกอล์ฟ เป็นเพราะเขาคอยเป็นหูเป็นตาให้อ้ายก็อตงั้นเหรอ...

    [พริกต้องมีความสุขมากๆระหว่างที่พี่ไม่อยู่เข้าใจไหม อย่าให้พี่ซีหรือไอ้กอล์ฟเอามาฟ้องอีกว่าเราเอาแต่ทำหน้าอมทุกข์ ไม่งั้นพี่โกรธจริงๆด้วย] แต่แล้วการเล่าเรื่องจากปากอ้ายก็อตก็เริ่มเปลี่ยนไป จนฟังดูคล้ายกับคำสั่ง [ส่วนเรื่องไอ้กอล์ฟน่ะ ถ้ามันแกล้งอะไรพริกอีก พริกก็จัดการมันได้เลย]

    ซึ่งขณะเดียวกันก็ตามมาด้วยคำสัญญา

    [และถ้าวันไหนพี่พร้อม...พี่สัญญาว่าจะออกมาเจอพริก...]

    อ้ายก็อตอย่ามาขี้จุ๊...ซึ่งฉันก็ไม่รอช้าที่จะประชดประชันเขากลับไปแบบไม่รอฟังให้จบ ด้วยคำพูดที่บอกถึงความน้อยใจเดี๋ยวเราก็คลาดกันอีก ไม่อ้ายกอล์ฟแกล้ง ก็อ้ายก็อตนั่นแหละที่หายตัว ทิ้งหนูไป...

    เหมือนกับการโดนเอาคืน เมื่อปลายสายเองก็ไม่รอให้ฉันพูดจนจบ

    [ไม่ค่ะ...ครั้งนี้เราจะไม่คาดกัน

    แย้งกลับมาด้วยเสียงหนักแน่นและดูจริงจังไม่ต่างกัน

    [พี่จะไม่ทำให้พริกรอเก้ออีก พี่สัญญา...]

    To Be Continued...

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต #ผู้ชายสายโจร

    ll Character ll












    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ติดตามเรื่องนี้จิ้มที่หน้าอ้ายกอล์ฟโลด

    ^

     รักกันชอบกันกดติดตามข้างบน 
     ส่งฟีดแบ็กทางทวิต เพจ คอมเม้น
     หรือโหวตข้างล่างเต็ม100นะเออ 
    v
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×