ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HALF LIFE ¼ สายกามตามรัก l ลูกเทพ Set

    ลำดับตอนที่ #4 : HALF03 ; แหล่งรวมเรื่องเสียว (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.76K
      137
      27 ธ.ค. 62

    * หากรำคาญเสียงเพลงก็ปิดได้เน้อ *


    EP03

    เวลาต่อมา..

    ฉันไม่รู้ว่าเสียงเจ็บปวดอันแสนไพเราะจากปากคุณพี่กั้งดังอยู่นานแค่ไหน รู้แค่ว่าไม่นานช่วงเวลาของความสุขก็สิ้นสุดลง เมื่อพลาสเตอร์ยาถูกปิดรอบบริเวณบาดแผลของเขาจนเสร็จ จากนั้นทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ระทึกใจให้รู้สึกอย่างตอนแรก

    ขอโทษนะคะ ที่เมื่อครู่ถินทำคุณพี่กั้งเป็นแผล...” ฉันทิ้งตัวนั่งคุกเข่าอยู่บริเวณปลายเตียงในท่า ก้มหน้าสำนึกผิด เพราะเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองนั่นแหละคือต้นเหตุที่ทำให้คุณพี่กั้งเจ็บ

    ฉันเพิ่งรู้ตัวจริงๆ ค่ะ รู้สึกผิดจัง...

    ขอโทษแล้วมันหายเจ็บหรือไง ?” ดูท่าแล้วคุณพี่กั้งยังคงโกรธอยู่และหัวเสียเอามากๆ “ทำอะไรไม่ได้แล้วเนี่ย !

    ยิ่งได้ยินเสียงต่อว่า ฉันก็ยิ่งก้มหน้าหงุดอย่างคนมีความผิด แม้ลึกๆ จะอดโทษไม่ได้ว่า มันเป็นเพราะคุณพี่กั้งเองนั่นแหละที่ผิด หากเขาไม่ไม่กดมือลงมา ก็คงไม่เจ็บตัวแบบนั้นหรอก เพราะเป็นคนชั้นผู้น้อยจึงทำได้แค่ก้มหัวขอโทษ ไม่แฟร์เลยว่าไหมคะ ?

    ถ้าคุณพี่กั้งไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ถินขอตัวก่อนนะคะ...

    เออ จะไปไหนก็ไปเลย” คุณพี่กั้งตะคอกเสียงดุเหมือนกับไม่ต้องการจะเห็นหน้าฉันอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น ฉันจึงก้มหัวลงเล็กน้อย และตัดสินใจลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ กลับหันหลังเดินไปยังประตูห้องแบบไม่สนใจ 

    ทว่า ในตอนที่กำลังใช้มือเอื้อมมือคว้าด้ามจับเพื่อจะเลื่อนประตูให้เปิดออกอยู่นั้น เสียงฮึดฮัดคล้ายกับไม่พอใจก็ดังขึ้น

    โว๊ะ !” และตามมาด้วยเสียงบ่น “ถอดยากฉิบ !”

    เสียงเกรี้ยวกราดของลูกกระต่าย ทำฉันเหลียวหลังมองไปยังเจ้าของเสียงที่ยามนี้ยังคงนั่งยืดขาอยู่บนเตียงของตัวเอง เขาใช้มือข้างที่นิ้วโป้งเป็นแผลจัดการปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเองออกท่าทางเหมือนเด็กที่ทำอะไรเองไม่ได้

    ดูแล้วเอาแต่ใจสุดๆ เลยค่ะ...

    มองไรอ่ะ ?” ราวกับว่าคุณพี่กั้งรอโอกาสนี้มานาน และเหมือนรู้ตัวอยู่แล้วว่าถูกมองอยู่ ถึงได้ส่งเสียงขึ้น “ไม่คิดจะเข้ามาช่วยกันหน่อยหรือไง ?”

    “...” ฉันกำลังคิดว่าควรจะทำยังไงดี แต่ความคิดก็ยังทำงานไม่ถึงไหน เมื่อเดี๋ยวดุแกมสั่งดังขึ้นอีก

    อย่าชักช้าดิ จะอาบน้ำ !

    คะ...ค่ะ..” สมองส่วนรับคำสั่งตอบรับคำเสียงเอาแต่ใจดังกล่าวอย่างปฏิเสธไม่ได้ จำต้องหันหลังกลับไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่อีกครั้ง และเมื่อกลับไปถึง ใบหน้าน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงก็เริ่มปรากฏรอยยิ้มราวกับชอบใจ มิหนำซ้ำยังใช้มือตบเตียงเรียกให้ขึ้นไปหา

    แต่เมื่อเห็นว่ายังยืนนิ่งอยู่มันก็เป็นคุณพี่กั้งนั่นแหละที่เป็นฝ่ายขยับตัวเคลื่อนมาหาฉันบริเวณปลายเตียงอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นก็ใช้มือคว้ามือฉันเอาไว้ด้วยด้วยมือข้างที่เป็นเขาบ่นว่าเจ็บจนทำอะไรไม่ได้และเอ่ยปากขึ้น

    ถอดเสื้อให้พี่หน่อยสิ...มือพี่เจ็บ

    ช่วงที่ฟังเขาพูด สายตาของเราสองคนก็มองสบประสานกันไปด้วย ขณะเดียวกันมือก็ทำหน้าที่ที่ได้รับคำสั่ง เลื่อนปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาให้คนตัวใหญ่ออกอย่างเชื่องช้า ไม่รีบไม่ร้อนทีละเม็ดสองเม็ด

    รู้สึกว่าครั้งนี้มือไม้ของคุณพี่กั้งไม่ได้ซุกซนเหมือนอย่างที่ผ่านมา เขายอมนั่งนิ่งให้ฉันจัดการกับอาภรณ์ท่อนบนของตัวเองอย่างว่างง่าย แต่อย่างไรก็ดี ฉันก็ยังรู้สึกถึงสายตาที่เขาจับอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

    Rrrrr

    เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ซึ่งดังขึ้นในจังหวะที่กระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดออกพอดี ทำให้เจ้าของเสียงโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวเอี้ยวตัวไปหยิบพร้อมทั้งกดรับสายทันที

    ว่าๆ...อยู่บ้านกำลังจะอาบน้ำ...อ่าฮะ...เออเดี๋ยวออกไปหลัง 5 ทุ่ม...มึงก็ขับรถมารับกูแล้วกัน...” แม้ไม่ตั้งใจจะเสียมารยาทแต่ด้วยความที่อยู่ใกล้มากเกินไป นั่นเลยทำให้เผลอได้ยินบทสนทนาของคุณพี่กั้งไปด้วย ฉันไม่รู้หรอกว่าเขากำลังคุยกับใคร ที่รับรู้ได้ก็คือ คืนนี้หลังสี่ทุ่มครึ่งเขาน่าจะออกไปสักที่

    อ้าว..นี่เขาไม่ใช่เด็กอนามัยจริงเหรอเหรอ หลงเชื่อเสียได้ แย่จัง...

    ว่าไงนะ...ใกล้ถึงแล้ว นี่มึงบ้าป่ะไอ้วินทร์ !?” ดูเหมือนว่า ยิ่งคุณพี่กั้งคุยโทรศัพท์นานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งใส่อารมณ์เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น จนแทบไม่เหลือเคล้าความน่ารักของลูกกระต่ายดั่งฉายยาที่เป็น

    เพราะว่าสถานการณ์ภายในกำลังถูกเสียงของเจ้าของห้องปกคลุมและกลบทับ ฉันซึ่งหมดหน้าที่จึงตัดสินใจ ก้มหัวลงเล็กน้อยแทนคำบอกลา ก่อนตัดสินใจหันหลังเดินตรงไปยังประตูห้อง ทว่า

    ฟึ่บ !

    คุณพี่กั้งกลับไม่ยอมให้ฉันทำตามใจตัวเองได้อย่างที่คิด เขาลุกพรวดพราดออกจากเตียง พุ่งมือคว้าแขนฉันไว้ ถ้าสังเกตดีๆ แล้วดูเหมือนจะเป็นมือข้างที่เขาบอกว่าเจ็บปวดหนักจนไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองเสียด้วยสิ

    เออ ! กูขอเวลาเปลี่ยนเสื้อแป๊บ...เดี๋ยวออกไป” แม้ว่าคุณพี่กั้งจะรั้งตัวฉันไว้ แต่ประโยคเมื่อครู่ก็ใช่ว่าจะบอกฉันแต่อย่างใด จนกระทั่งโทรศัพท์ราคาแพงถูกลดลงจากหูนั่นแหละ

    จะไปไหน ?” ดูเหมือนว่าคำถามนี้ จะเป็นทีของฉันที่ต้องแล้วล่ะค่ะ !

    กลับห้องค่ะ

    กลับอะไรล่ะ จำไม่ได้เหรอที่พี่บอกว่ามีงานให้ถินช่วยอ่ะ” คำถามกึ่งเสียงดุทำฉันสอดส่องสายตามองคุณพี่กั้งตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าด้วยความสงสัย ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะทวนความคิดไปด้วย

    กางเกงก็ปลดตะขอให้แล้ว...

    เสื้อก็ปลดกระดุมออกหมดแล้ว...

    ถินก็ทำทุกอย่างให้คุณพี่กั้งครบแล้วนี่คะ” คำพูดหลังสิ้นสุดการประมวลความจึงถูกพ่นออกไป

    งี่เง่าน่า...ยืนรอตรงนี้” คุณพี่กำชับเพียงแค่นั้น และยอมเป็นฝ่ายปล่อยมือออก เขาหันหลังพลางถอดเสื้อเชิ้ตนักศึกษา ขณะเดินหายไปยังฉากกั้นสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า

    จากมุมหน้าประตูห้อง ฉันมองเห็นเพียงเงาขุ่นๆ ของคุณพี่กั้งขณะขยับเขยื้อนกายอยู่หลังฉากกั้น รับรู้ได้ว่าเขากำลังถอดกางเกงและจัดการเปลี่ยนเสื้อตามอย่างที่บอกคนในสายไว้ แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ การที่เขาสั่งให้ฉันยืนรออยู่แบบนี้มันเกิดขึ้นเพราะเหตุผลใด

    ไม่นานนักทุกอย่างก็เริ่มกระจ่างชัด เมื่อชุดนักศึกษาที่เคยถูกคนตัวใหญ่สวมใส่ ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นเสื้อยืดคอวีสีขาวโดยภายนอกสวมทับด้วยเสื้อยีนแขนยาว ดูเข้ากันดีกับกางเกงขาเดฟขาดๆ ในภาพลักษณ์ของหนุ่มเท่จนหมดเคล้าลูกกระต่าย

    เดี๋ยวออกไปข้างกับพี่หน่อย...” และนั่นคือคำสั่งแรกหลังจากที่คุณหนูของบ้านแต่งกายจนเสร็จ เขาสั่งทั้งที่กำลังวุ่นวายกับการพับแขนเสื้อยีนทั้งสองข้างให้เท่ากัน “ถ้าใครถาม ถินก็บอกว่าเราจะออกไปหาของทำรายงานด้วยกัน

    คุณพี่กั้งเขากำลังต้องการให้ฉันช่วยโกหกค่ะ !

    แล้วก็...ถอดเสื้อคลุมมูลนิธิออกด้วย เดี๋ยวเพื่อพี่จะหาว่าแช่งมัน” ไม่รู้หรอกว่าที่คุณพี่กั้งพูดนั้นมันหมายถึงอะไร รู้เพียงแค่ว่าฉันต้องทำตามคำสั่งคนลูกชายของผู้มีพระคุณสั่งแต่เพียงเท่านั้น

    หลังจากคุณพี่กั้งเตรียมการทุกอย่างจนเสร็จสิ้น เขาก็เดินนำหน้าฉันพาออกจากห้องนอนของตัวเอง เดินผ่านสวนญี่ปุ่นตรงไปยังหน้าประตูใหญ่ของพระราชวังโพรงกระต่ายทันที แต่ว่ายังไม่ทันเดินไปถึงที่ที่คนตัวสูงต้องการดี เท้าของเราทั้งคู่ก็ต้องมีอันต้องหยุดลง เมื่อเบื้องหน้ามีบรรดาคุณบอดี้การ์ดและผู้ดูแลยืนขวางอยู่

    คุณหนูจะออกไปไหนหรือครับ นี่มันดึกแล้วนะ...” อีกทั้งยังใช้สีหน้าดุดันและเสียงที่ไม่ต่างจากสีหน้าเอ่ยขึ้น

    พอดีผมกับกระถินต้องทำรายงานน่ะครับ แล้วอุปกรณ์ที่ต้องใช้มันขาด เลยว่าจะออกไปเซเว่นหน้าปากซอยสักหน่อย

    คุณนพเก้าสั่งไว้ว่าหลังสี่ทุ่มห้ามให้คุณหนูออกจากบ้าน...หากมีความประสงค์ต้องการอะไร คุณหนูให้ผมไปซื้อให้ก็ได้นี่ครับ” นพเก้า ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นชื่อของคุณแม่ของคุณพี่กั้งที่ช่วยอุปการะให้ฉันมีอนาคตที่ดีค่ะ

    พอได้ยินชื่อแล้ว ร่างกายถึงขั้นยกมือขึ้นพนมเหนือหัวอย่างนึกขอบคุณบุญใหญ่ที่ท่านมีให้ฉันกับแม่เหลือเกิน

    ผมหิวขนมหวานๆ อยากออกไปเลือกซื้อของด้วยตัวเอง

    ขนมหวานอาทิพวกเค้กคุณหนูสั่งให้พ่อครัวทำให้ก็ได้นะครับ หรือหากอยากทานเค้กฝีมือของคุณท่าน คุณหนูให้ผมแวะไปซื้อร้านสาขาใกล้ๆ มาแทนก็ได้...” 

    ตอนนี้ไม่ว่าคุณพี่กั้งจะแก้ตัวอย่างไร ก็ดูท่าว่าผู้ดูแลและคนของเขาจะดักทางได้มันเสียทุกครั้ง นั่นจึงทำให้ฉันเผลอแอบลอบมองเสี้ยวหน้าของคุณพี่กั้งเล็กน้อยเพื่อดูท่าที ก่อนพบว่าลูกกระต่ายกำลังพยายามข่มนิสัยเอาแต่ใจของตัวเองเอาไว้โดยขณะเดียวกันก็เหมือนเขากำลังคิดหาทางเอาตัวรอดเพื่อหลบหนีออกจากโพรงกระต่ายยามวิกาลไปในคราวเดียวกันด้วย

    แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ลุงผู้ดูแลหันมาพูดกับฉันด้วยเสียงดุแกมออกคำสั่ง

    หนูกระถิน ไปที่ห้องครัวแล้วสั่งพ่อครัวให้ทำเค้กก้อนใหญ่ๆ ให้คุณหนูทีสิ...ส่วนอุปกรณ์ที่ขาดเดี๋ยวลุงจะให้คนออกไปซื้อให้

    คะ..ค่ะคุณลุง...” ฉันรีบก้มหัวรับคำของผู้ใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยโดยทุกการกระทำที่ฉันแสดงออกนั้น อยู่ในสายตาของคุณพี่กั้งทุกการเคลื่อนไหว

    ฉันช้อนตามองหน้าคุณหนูของบ้านเล็กน้อยเพื่อบอกเขาว่า มันถึงเวลาที่ฉันควรจะต้องแยกจากเขาเสียที ทว่า จังหวะที่กำลังจะหันหลังกลับไปทำตามคำสั่งที่ได้รับมาอยู่นั้นเอง ด้านนอกประตูกลับมีเสียงคำรามกระหึ่มของเครื่องยนต์ดังขึ้นราวกับจะก่อกวน

    บรื้นน บรื้นนนนนน

    อีกทั้งเสียงคำรามของเครื่องยนต์ซึ่งดังอย่างต่อเนื่อง ก็ดูจะทำให้คุณพี่กั้งรู้สึกชอบใจถึงขั้นหลุดยิ้มนิดๆ มุมปาก และแล้วจังหวะที่คนดูแลและบรรดาบอดี้การ์ดเหลียวมองไปยังต้นเสียงอยู่นั้น ลูกกระต่ายที่อมยิ้มในลักษณะเหมือนเตรียมพร้อมอยู่แล้วก็เริ่มเคลื่อนไหว

    ฟึ่บ !

    อ๊ะ !” คุณพี่กั้งฉุดกระชากแขนฉันที่ไม่ทันระวังตัวด้วยความว่องไว ก่อนพาวิ่งแทรกผู้ดูแลที่ไม่ทันระวังตรงไปยังประตูใหญ่ด้วยจังหวะการก้าวที่รวดเร็วสมกับเป็นกระต่าย

    ตึก ! ตึก ! ตึก !

    หยุดนะครับคุณหนู!” ฉันได้ยินเสียงปรามของผู้ดูแล และเดาได้ว่าพวกเขากำลังวิ่งตามหลังเราทั้งคู่มา แม้ไม่ต้องหันกลับไปมอง ซึ่งถ้าคิดว่าคุณพี่กั้งจะหยุดตามคำสั่งล่ะก็ บอกเลยว่าไม่มีทาง

    ฟึ่บ ! ครืดดด !

    ทันทีที่ประตูพระรางวัชโพรงกระต่ายถูกเลื่อนเปิดออก สิ่งที่คอยท่าเราทั้งคู่อยู่ด้านนอกคือรถแข่งสุดหรูคันใหญ่ ซึ่งถูกโมดิฟายมาอย่างดี ไม่ว่าจะชุดสีหรือเครื่องยนต์ และต้นเสียงของเครื่องยนต์ที่ดังก็ดูท่าจะมาจากรถคันนี้นี่แหละค่ะ

    คุณพี่กั้งไม่รอช้า รีบพุ่งตัวไปยังประตูหลัง เปิดมันออกก่อนจะผลักฉันเข้าไปนั่งข้างในอย่างรีบร้อน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผู้ดูแลวิ่งตามเราทั้งคู่ออกมาได้ทันอย่างพอดิบพอดี

    ภาพที่เห็นจากภาพในรถ ดูเหมือนว่าคุณพี่กั้งมีสภาพไม่ต่างไปจากผู้ร้ายซึ่งกำลังถูกตำรวจล้อมตัวไว้ไม่ผิด ฉันไม่ได้ยินหรอกว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกัน แต่สิ่งที่เห็นคือภาพของลูกกระต่ายซึ่งถูกต้อนจนจนมุมกำลังค่อยๆ ยกมือสองข้างขึ้นเหนือหัวราวกับยอมจำนน หากแต่ท่าทีที่คุณพี่กั้งแสดงออกนั้นกลับทำให้รถคันใหญ่เริ่มมีการเคลื่อนไหว

    บรื้นนนนนน

    เสียงเบิ้นเครื่องดังขึ้นอีกครั้งราวกับจะขู่คำรามผู้ไม่เกี่ยวข้องให้ถอยห่างไป ซึ่งนั่นมาพร้อมคำสั่งของผู้เป็นเจ้าของรถซึ่งนั่งประจำอยู่บนเบาะคนขับ

    ย้ายก้นมานั่งเบาะหน้า…”

    คะ ?” ฉันย้อน

    บอกให้ย้ายก้นมานั่งเบาะหน้า !” นอกจากเสียงสั่นอย่างดุดันของเจ้าของรถแล้ว ฉันยังรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนภายในรถเมื่อเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้น

    ทว่า ยังไม่ทันที่ฉันจะปีนป่ายพาตัวเองไปยังเบาะหน้าได้สำเร็จ จู่ๆ รถทั้งคันก็เริ่มเคลื่อนที่ก่อนเปลี่ยนบรรยากาศภายในรถให้กลายเป็นรถไฟเหาะ เมื่อจู่ๆ รถทั้งคันพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างแรงก่อนหักเลี้ยวพวงมาลัยทำเอารถทั้งคันหมุนติ้วเป็นวงกลม ส่งเสียงเบรกดังไปทั่วพื้นที่โดยรอบ

    ฟึ่บ ! ตุบ !

    ส่วนฉันน่ะเหรอคะ ก็หน้าคะมำลงไปตั้งแต่รถเริ่มหมุนแล้วล่ะค่ะ

    แม้ว่าฉันจะกลิ้งเป็นลูกขนุนอยู่บริเวณที่วางเท้า หากแต่แรงเหวี่ยงและอาการโคลงเคลงภายในรถก็ใช่ว่าจะหยุดลง เสียงคำรามและเสียงเบิ้นของเครื่องยนต์ดุดันยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ก่อนตามมาด้วยเสียงสั่ง

    เปิดประตูรถ เร็ว !”

    ด้วยสถานการณ์น่าตกใจบวกกับความมึนงงเพราะการหมุนเหวี่ยงไปมา ทันทีที่หูได้ยินคำสั่ง ฉันก็พยายามตะเกียกตะกายตัวเองขึ้นจากที่วางเท้า พลางเอื้อมมือไปไปยังด้านจับเพื่อเปิดประตูรถตามคำสั่ง

    กึก ! ฟึ่บ !

    ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกความน่าตกใจและน่าใจหายก็ถามโถมเข้าอีกครั้ง เมื่อรถทั้งคันเริ่มเกิดแรงเหวี่ยงอย่างแรง ความเร็วของการหมุนทำเอาประตูที่ถูกเปิดออกอ้าออกไปจนสุดก่อนพบว่ารถทั้งคันกำลังหมุนติ้วเป็นวงกลมอีกครั้ง 

    จนตอนนี้ไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าฉันควรจะมองอะไรก่อนระหว่างประตูที่เปิดอ้าท่ามกลางแรงเหวี่ยงหมุนของรถหรือเจ้าของรถซึ่งยังคงประคองพวงมาลัยบังคับรถทั้งคันให้หมุนเป็นวงกลมพร้อมเสียงเอี้ยดอ๊าดจากการเบรกไม่หยุดกันแน่

    ลมแรงที่ถาโถมเข้ามาภายในตัวรถทำฉันพยายามไขว้คว้าข้าวของบางอย่างภายในไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองผลัดตกลงไป แต่แล้วในตอนที่กำลังตะเกียกตะกายไขว้คว้าหาที่ยึดเหนี่ยวอยู่นั้นเอง รถทั้งคันที่เคยหมุนเป็นวงก็หยุดลงอย่างกะทันหันโดยหันเหทิศทางของประตูที่เปิดอ้าไปยังบริเวณหน้าประตูรั้วขนาดใหญ่แสนคุ้นตา

    ไวกว่าจะทันได้เตรียมตัวหรือตั้งหลัก ร่างสูงของลูกกระต่ายที่น่าจะถูกผู้ดูแลบ้านพาตัวกลับเข้าไป ก็โผกระโดดเข้ามาภายในตัวรถท่าทางรีบร้อน ซึ่งการที่ฉันยังกลิ้งเป็นลุกขนุนอยู่บริเวณที่วางเท้านั้น  ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นตัวปัญหาให้แก่ใครอีกคนซึ่งกระโดดเข้ามาในรถแต่อย่างใด เมื่อทุกการเคลื่อนไหวของคุณพี่กั้งนั้นอยู่ในสายตาของคนขับที่ให้การช่วยเหลือ

    บรื้นนนน

    เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่รถทั้งคันจะกระชากตัวออกจากบริเวณหน้าประตูพระราชวังโพรงกระต่างอย่างแรง ทั้งที่ยังไม่ปิดประตู คุณพี่กั้งใช้เวลาจัดระเบียบสังคมอยู่บนเบาะข้างคนอยู่ครู่หนึ่ง เขาคว้าเข้ากับราวจับเหนือหัวเล็กน้อย ก่อนเอนตัวใช้มืออีกข้างเอื้อมคว้าด้านจับประตูที่เปิดอ้าอยู่ปิดกระแทกลงทั้งที่รถทั้งคันเคลื่อนที่ไปบนถนนด้วยความเร็ว

    ตึง !

    วู้ ! มันเป็นบ้า !” แต่แล้ววินาทีที่บานประตูถูกเคลื่อนปิดลงได้สำเร็จ เสียงโห่ร้องคล้ายกับชอบใจ ผู้โดยสารก็ดังขึ้น นั่นจึงทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่า เจ้าของรถแต่งคันหรูคันนี้มีชื่อว่า ‘วินทร์

    คุณวินทร์ไม่ได้พูดอะไรตอบรับเสียงชอบอกชอบใจของลูกกระต่าย เขาทำเพียงแค่หัวเราะบ่งบอกความรู้สึกที่มีไม่ต่างกันมากนักขณะประคองพวงมาลัยรถขับไปบนถนนชนิดที่ไม่ลดความเร็วลงเลยแม้แต่นิด แต่เมื่อเหตุการณ์ภายในและนอกรถสงบลง คุณพี่กั้งก็ไม่ลืมที่จะช่วยดึงฉันให้ลุกออกจากที่วางเท้าด้วยเช่นกัน

    ตื่นเต้นป่ะถิน ฮ่าๆ” เขาถามทั้งที่หัวเราะ ขณะดึงฉันให้กลับลุกขึ้นมานั่งพื้นที่ว่างระหว่างช่วงขาทั้งสองข้าง

    จากที่งงอยู่แล้ว ฉันยิ่งรู้สึกงงหนักเข้าไปใหญ่ อีกทั้งยังไม่รู้ถึงเหตุผลที่คุณพี่กั้งพาฉันหลบหนีด้วยซ้ำ

    เราจะไปร้านค้าหน้าปากซอยกันใช่ไหมคะ ?” เพราะจำได้ลางๆ ว่าพี่กั้งเคยเปรยไว้ว่าอยากกินขนม ปากเลยถามออกแบบนั้น ทว่า

    เปล่า” คนถูกกลับส่ายหน้า แล้วตอบกลับมา เพราะที่ที่เราจะไป มันคือแหล่งรวมเรื่องเสียว

    ________________________________

    ไปไหนกันน้อ

    ไม่เม้นไม่ว่าแต่กดให้กำลังใจเค้าด้วยน้าา ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะงับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและการชี้แนะดีๆในหน้านิยายน้าา

    ติดแท็กในทวิต #กระต่ายกินเต่า

      

     

    FEAT.

      


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×