ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [สนพ.SENSE BOOK] รักติดเกม ll GAME ADDICTION

    ลำดับตอนที่ #4 : Addict03 ll ยกที่สาม {อัพ100%}

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.13K
      83
      16 ม.ค. 59

    ***สามารถปิดเพลงตอนอ่านได้นะ***
    แต่ถ้าฟังไปด้วยอาจจะอินมากกว่านะ ฮิๆ


    EP03
    ยกที่สาม








    เคยเป็นไหม อยู่ๆ ก็หน้าชา 

    ร่างกายภายนอกไม่มีบาดแผล

    แต่ภายในกลับรู้สึกเจ็บได้อย่างไม่มีเหตุผล...

    แม่* :: งั้นวันนี้หนูไปหาพี่นัทที่ร้านเกมแบบเมื่อวานนะ

    และสิ่งที่ชัดเจนที่สุดสำหรับฉันตอนนี้ ก็คงไม่พ้นเรื่องที่พี่นัทนอกใจ

    ไม่รู้ว่าฉันเอาแต่นั่งจ้องข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอนานเท่าไหร่ รู้อีกทีหูทั้งสองข้างก็ได้ยินเสียงแปลกใจของเจ๊ตาลกล่าวทักใครบางคนขึ้น

    พี่นัทซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ!?” คำทักทายดังกล่าวของเธอ ทำฉันสะดุ้งเฮือก รีบกดออกจากข้อความแชทดังกล่าว เหลียวหลังไปมองชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาทันที พวกเขาไม่ใช่คนอื่นไกลแต่เป็นพี่นัทกับพี่เกมส์ที่เดินหายไปซื้อน้ำและขนมก่อนหน้านี้นั่นแหละ

     พี่นัทยิ้มเมื่อเราเผลอสบตากัน ฉันจึงแสร้งยิ้มตอบกลับไปเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ฟึ่บ!

    นี่ขนมปังของน้องเมย์ อันนี้ของตาล ส่วนอันนี้…” พี่นัทจัดแจงแจกขนมปังที่ซื้อติดมาส่งให้เพื่อนสนิทของฉันเรียงคน จนกระทั่งเขาหยิบขนมปังไส้ช็อกโกแลตยื่นมาให้ฉันเป็นคนสุดท้าย ขนมปังช็อกโกแลตของโปรดน้องกานต์แฟนพี่ค่ะ

    ขอบคุณนะคะ” พอเห็นสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนคนไม่มีความผิดของพี่นัทแบบนี้ บอกเลย ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะแสดงสีหน้าตอบรับเขาออกไปแบบไหน

    พี่นัทไม่ได้พูดอะไรอะไรกับฉันอีก เขายิ้มเล็กยิ้มน้อยพลางใช้มือข้างถนัดยีหัวฉันอย่างเอ็นดู ก่อนดึงสมาร์ทโฟนของตัวเองไปจากมือพร้อมทั้งกดเปิดหน้าจอราวกับจะเช็กอะไร

    ยิ่งเห็นยิ่งอึดอัด ยิ่งเห็นยิ่งอยากถามออกไปตรงๆ

    จะซื้อมาให้ทั้งที พี่นัทหัดซื้อของแพงๆ ให้พวกหนูบ้างสิคะเมย์ที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวขึ้น และนั่นทำให้พี่นัทละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มองไปที่เธอและพูดหยอกล้อกันเหมือนปกติ

    น้องเมย์ก็เอาตังมาให้พี่สิ จะได้ซื้อให้ ฮ่าๆ

    หูย! พี่นัทอ่ะ ไม่ค่อยจะลงทุนเลยนะ

    เสี้ยววินาทีหนึ่งที่พี่นัทละสายตาจากฉันไปหาเมย์ สายตาฉันก็วอกแวกเหลือบมองไปยังพี่เกมส์ซึ่งยืนหันหลังพิงกับโต๊ะม้าหิน ที่น่าตกใจก็คือ เขาเองก็กำลังมองฉันกลับมาเช่นกัน ปากก็ดูดนมเปรี้ยวในมือไปด้วย แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น เขาก็หันไปทางอื่น เหมือนแค่มองผ่านๆ ไม่ได้สนใจ

    กินขนมปังเสร็จก็รีบเข้าคลาสนะเสียงของพี่นัทที่เอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำประโยคเดิมเหมือนทุกวันแทรกความคิดในหัว ยิ่งทำให้ความรู้สึกของฉันแปรปรวนมากขึ้นเท่านั้น

    ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาจะไปไหน แต่ปากก็ยังพลั้งถามออกไป

    พี่นัทจะไปไหนคะ?!”

    ร้านเกมไง พี่จะไปเล่นเกมรอกานต์เลิกคลาส” เขายิ้ม

    หนูไปด้วยค่ะ!” หัวฉันตอนนี้มันร้อนไปหมด จนแทบไม่ได้สนใจรอยยิ้มใจดีของเขาเลย

    จะไปทำไม กานต์มีเรียนไม่ใช่เหรอ?

    ก็หนูจะไป หนูไม่เรียนก็ได้ หนูอยากไปร้านเกม!” ฉันเริ่มรัวคำพูดเอาแต่ใจเสียงดัง ทั้งที่รู้ว่านิสัยแบบนี้ เป็นอะไรที่พี่นัทเกลียดอย่างสุดๆ

    เขาไม่ชอบคนเอาแต่ใจ แต่ตอนนี้ฉันกำลังเป็น

    นะๆ ให้หนูไปร้านเกมด้วยนะ

    ก็รู้นะ ว่าพี่นัทเป็นห่วงเรื่องเรียนของฉัน เขาอยากให้ฉันตั้งใจเรียน ซึ่งฉันก็อยากทำแบบนั้นให้เขาเหมือนกัน ฉันไม่เคยงี่เง่าเรื่องที่เขาจะไปร้านเกมหรือติดเกม แต่ไม่ใช่กับวันนี้ วันที่ฉันรู้ว่าเขานัดเจอใครอีกคนเอาไว้

    กานต์เป็นอะไร ทำไมวันนี้ดื้อกับพี่จัง…”

    พี่นัทนั่นแหละ เป็นอะไร!” ฉันตะคอกดักอีกฝ่าย เมื่อเขาเอาแต่ปฏิเสธอยู่ท่าเดียวเหมือนคนมีพิรุธ หนูแค่จะไปเล่นเกมกับพี่ มันผิดมากเลยหรือไง

     “กานต์เป็นอะไรเนี่ย ชักจะเริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะพี่นัทพูดอย่างใจเย็น เขาพ่นลมหายใจเบาๆ คล้ายกับเอือมระอา ปากก็เอาแต่บ่นเหมือนฉันผิดอะไรนักหนา ทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลย…”

    หนูแค่อยากเล่นเกมกับพี่บ้าง หนูผิดอะไร?” ฉันย้อนอย่างมีอารมณ์

    นี่คงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีเลยก็ว่าได้ ที่ฉันกับพี่นัทเหมือนจะมีปากเสียงกันเรื่องเกม 

    ถ้าเขาไม่ปิดบังอะไรฉันเอาไว้ เรื่องแบบนี้มันก็ไม่เกิดขึ้นหรอก

    วันนี้กานต์เป็นอะไร ทำไมงี่เง่าแบบนี้ล่ะฉันเม้มปากลงเล็กน้อย จ้องหน้าผู้ชายที่ฉันไว้ใจมาตลอดเกือบ 7 ปี ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก พี่แค่ไปเล่นเกมส์ กานต์มีเรียนก็อยู่เรียนไปสิ” 

    หนูไม่ได้งี่เง่า พี่นัทนั่นแหละปิดบังอะไรหนูอยู่!” ฉันหลุดกระแทกเสียงย้อนเขาอย่างหัวเสีย จากที่ว่าจะใจเย็นไม่หงุดหงิดแต่เหมือนว่าตอนนี้อะไรๆ มันจะยากไปหมด ที่แย่ยิ่งกว่าอะไรก็คงจะเป็นสีหน้าตกใจเหมือนคนมีความผิดที่ปรากฏอยู่บนดวงหน้าของพี่นัทนั่นแหละ

    เลิกงี่เง่านะกานต์ แล้วเราค่อยคุยกันพี่นัททิ้งท้ายเสียงเรียบอย่างใจเย็นเหมือนพยายามกักกลั้นอารมณ์ของตัวเอง พลางวางข้าวของทั้งหมดที่ซื้อมาลงกับโต๊ะ และรีบหันหลังทำท่าจะเดินออกไป

    หนูบอกว่าหนูจะไปด้วย!” ส่วนฉันก็ไม่ยอม รีบลุกออกจากเก้าอี้ม้าหินทำท่าจะเดินตามเขาไป แต่

    พี่พูดคำเดียวกานต์น่าจะรู้เรื่องนะ อย่าให้พี่ต้องทำนิสัยแย่ๆ ใส่กานต์เลย” คำพูดของพี่นัททำเอาทุกส่วนของฉันหยุดชะงักได้อย่างฉับพลัน มือสองข้างกำแน่นโดยอัตโนมัติ น้ำเสียงที่เย็นชาแถมยังพูดแบบไม่หันมามองหน้า ทำฉันตระหนักได้ว่าเขากำลังหงุดหงิด

    พี่นัทไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้น แต่เลือกที่จะกอดคอเดินออกไปพร้อมกับพี่เกมส์ เขาไม่หันมามองฉันอีกเลย แต่นั่นไม่ใช่กับพี่เกมส์ ซึ่งเหลียวหลังมองมาด้วยแววตานิ่งๆ ไม่เหมือนอย่างเคย

    สายตาแบบนั้นน่ะ ไม่บอกก็รู้ว่า เขาคงกำลังมองว่าฉันงี่เง่าไม่ต่างไปจากพี่นัทเลยสักนิด

    กานต์ แกเป็นไรอ่ะ ทำไมวันนี้ทำตัวแปลกๆเจ๊ตาลรีบเอ่ยปากถามหลังจากที่พี่เกมส์กับพี่นัทคล้อยหลังออกไปได้สักพัก และตามมาด้วยคำถามของเมย์ที่ดูจะแปลกใจไม่ต่างกัน

    ฉันไม่เคยเห็นแกงี่เง่าใส่พี่นัทแบบนี้เลยนะ เกิดอะไรขึ้นอ่ะ

    ตึก! ตึก!

    อ้าวกานต์! กานต์! กานต์แกจะไปไหนคลาสเรียนจะเริ่มแล้วนะ!

    ฉันไม่ได้ตอบคำถามของพวกเธอ แต่ก้าวเท้าตามหลังพี่นัทไป หูได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนสนิท แต่ร่างกายกลับไม่ยอมหยุดตาม

    ในหัวตอนนี้มีแต่คำว่า ไม่ยอมต้องรู้และเห็นด้วยตาให้ได้ว่าผู้หญิงที่นัดเจอกับพี่นัทที่ร้านเกมเป็นใคร ฉันไม่สนใจหรอก ต่อให้สิ่งที่ฉันคิดจะทำมันจะเป็นการขัดใจพี่นัทหรือเป็นชนวนที่ทำให้เราต้องเลิกกันก็ตามที 

    ในเมื่อเขาไม่อนุญาตให้ฉันไปด้วย ถ้าอย่างงั้นฉันก็จะไปเอง!

    ตึก! ตึก! ตึก!

    กึก

    เดินพ้นสวนหย่อมหน้าตึกคณะมาได้ไม่เท่าไหร่ เท้าของฉันก็ต้องหยุดลงอีกครั้ง เมื่อเบื้องหน้าปรากฏร่างสูงของผู้ชายในชุดนักศึกษาแสนคุ้นตา ยืนขวางทางอยู่ ท่าทางเขาตอนนี้ดูหาเรื่อง ปากกัดหลอดนมเปรี้ยว ตามองขวางใส่ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า

    พี่เกมส์คงจะถูกสั่งมาห้ามไม่ให้ฉันตามพี่นัทไปร้านเกมสินะ

    จะไปไหนคะ?และคำถามแรกของเขาตรงกับสิ่งที่ฉันคิดไว้ในหัวไม่มีผิด

    “พี่เกมส์หลบไปค่ะ หนูจะเดิน!”

    คนฟังขยับยืนในท่ากอดอก นัยน์ตาคมจ้องสู้สายตาไม่พอใจของฉันแบบตรงๆ และพูดโดยปากยังคาบหลอดนมเปรี้ยวไว้แบบนั้น

    ปกติก็เห็นน่ารักใส่ไอ้นัทดี ไม่ยักรู้ว่าน้องกานต์จะมีมุมไม่น่ารักแบบนี้ด้วย

    นี่ไม่ใช่เรื่องของพี่เกมส์ค่ะ ถอยไป!” ฉันตะคอกเสียงอย่างไม่สนใจคำพูดแดกดัน พร้อมทั้งรีบสาวเท้าเดินตรงเข้าไปและหวังว่าเขาจะหลบ

    แต่ฉันคิดผิด

    พี่เกมส์ไม่หลบและยังคงยืนอยู่ในท่าเดิม เขาหันไปพ่นหลอดนมเปรี้ยวออกจากปาก ก่อนเลื่อนสายตากลับมามองฉันอีกครั้งนิ่งๆ

    ทำไมต้องถอยละคะ ในเมื่อไอ้นัทมันบอกไม่ให้น้องกานต์ตามมันไป…”

    ถ้าพี่รู้ว่าพี่นัทมีความลับอะไรกับหนู พี่เกมส์จะไม่พูดแบบนี้!” ฉันแย้งเสียงแข็งแบบไม่ฟังให้จบ

    ตอนแรกก็หงุดหงิดพออยู่แล้ว พอสิ่งที่จะทำดันถูกคนอื่นขัดแบบนี้ มันก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ โชคดีซึ่งที่ตรงนั้นไม่ค่อยมีคน การต่อปากต่อคของเราทั้งคู่เลยไม่เป็นที่สนใจของใครมากนัก

    “ไอ้นัทมีความลับเหรอ?” พี่เกมส์ทำท่าสงสัย แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากตอบอะไรออกไป เขาก็ดันแทรกเสียงถามขึ้นอีกครั้ง ความลับอะไร? แล้วมันร้ายแรงเท่ากับเรื่องที่พี่กำลังจะทำกับหนูหรือเปล่า?

    ความฉุนเฉียวในอารมณ์ชะงักงันเมื่อได้ฟังคำถามแบบนั้น พลั้งปากถามเขากลับไปด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน

    พี่เกมส์จะทำอะไรคะ... อ๊ะ!?” ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ผู้ชายน่ารำคาญตรงหน้า พุ่งมือเข้าคว้าไหล่สองข้างฉันอย่างรวดเร็ว 

    ไม่ใช่แค่นั้นแต่เขายังทำเรื่องไม่คาดฝันชนิดไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว ด้วยการโน้มหน้าลงมาหาอย่างรวดเร็ว รู้สึกตัวอีกที บริเวณริมฝีปากก็รับรู้สึกการจรดทับจากเขา ความอ่อนนุ่มของผิวปากอุ่นร้อนของอีกฝ่ายที่บดเบียดแนบแน่น ส่วนฉันทำได้แต่ยืนอึ้ง ตัวแข็ง เบิกตากว้างด้วยความตกใจอยู่อย่างนั้น ก่อนที่รสสัมผัสดังกล่าวจะค่อยๆ ผละออกไปเองในเวลาต่อมา

    เท่านี้ น้องกานต์ก็มีความลับเหมือนกับไอ้นัทแล้วนะ…” 

    คำพูดประโยคต่อมาของพี่เกมส์ยิ่งทำให้สติของฉันเตลิดออกไปไกล จนแทบลืมไปเลยว่าก่อนนี้กำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรอยู่ เพราะที่เห็นตอนนี้มีแค่ท่าทางทะเล้นกะล่อนปลิ้นปล้อนของเขาเท่านั้น

    หลังจากพี่เกมส์ผละตัวออกไป เขาก็เลื่อนปลายนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากตัวเอง ขยิบตาให้ฉันหนึ่งที พร้อมกับคำพูดสั้นๆ

    ให้เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเรา เมียหลวงกับเมียน้อยนะคะ

           เพียะ!

              ร่างกายโต้ตอบคำพูดและการกระทำดังกล่าวของคนตัวสูงตรงหน้าอย่างทันควัน แรงกระทบของฝ่ามือทำให้ใบหน้าหล่อทะเล้นหันไปอีกฝั่งตามแรง

             พี่เกมส์ไม่ได้พูดหรือแสดงทีท่าไม่พอใจที่ถูกฉันตบหน้าจังๆ แบบนั้น ต่างจากฉันที่โกรธจนมือไม้สั่นไปหมด

    พักหลังมานี้เขามักจะแกล้งฉันแรงถึงขนาดเข้าประชิดตัว โอเค! ฉันเขาใจว่านั่นน่ะคือวิธีการแกล้งของเขา แต่การจูบกันแบบนี้มันไม่ใช่จริงๆ ไม่ว่าจะแกล้งหรือจะจริงจังก็ตาม ฉันก็รู้สึกว่ามันไม่สมควร โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายมีคนรักอยู่แล้ว

    ตึก! ตึก! ตึก!

    กานต์มาอยู่นี่เอง แฮ่กๆ อ้าวพี่เกมส์…” เสียงร้องทักของเมย์ที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังฉัน ไม่ได้ทำให้เราทั้งคู่ขยับเคลื่อนไหวร่างกายหันไปมองเหมือนปกติ

    “…”

    “…” สายตาของพี่เกมส์กำลังจ้องมาที่ฉันเพียงคนเดียว เขาเดาะกระพุ้งแก้มข้างที่ถูกตบ สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดออกมาให้เห็น เราไม่ได้พูดกัน เพราะเมย์ที่วิ่งตามหลังมาตรงเข้ามาแทรกกลางระหว่างเราไว้เสียก่อน

    ขอบคุณนะคะพี่เกมส์ที่ช่วยดักกานต์เอาไว้ เธอพูดขอบคุณแบบไม่รู้สถานการณ์ พลางออกแรงกึ่งดึงกึ่งกระชากแขนฉันให้เดินย้อนกลับไปกับด้วย

    รู้ไหม ฉันอยากด่าเขาแทบตายที่กล้าทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้น แต่คำพูดทั้งหมดมันดันจุกอยู่ในลำคอ ฉันไม่ได้ต้องการทำให้ตัวเองมีความลับกับพี่นัทอย่างที่พี่เกมส์ต้องการให้เป็น ฉันไม่ชอบการเอาคืนอย่างไร้ศักดิ์ศรี แต่ชอบที่จะเผชิญซึ่งๆ หน้าให้รู้ดำรู้แดงไปเลยมากกว่า

    และการที่เขาทำแบบนี้กับฉันซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเพื่อนสนิท นอกจากเขาจะไม่ให้เกียรติฉันแล้ว เขายังขึ้นชื่อว่าทรยศเพื่อนตัวเองอีกต่างหาก ที่สำคัญจูบของพี่เกมส์เมื่อกี้ มันทำให้ฉันต้องกลายเป็นผู้ร้ายมีความผิดติดตัวไปแบบไม่ตั้งใจ

    อ่า ฉันเกลียดเขาจริงๆ ให้ตายเถอะ

              เมย์ที่ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไร จับข้อมือฉันเอาไว้แน่นขณะเดินพาฉันกลับไปที่ตึกคณะราวกับกลัวว่าฉันจะหนีไปไหน ตลอดทางเธอก็เอาแต่บ่นไม่หยุด

              เธอนี่มันน่าจริงๆ เลย ทำไมไม่ฟังที่พี่นัทพูดล่ะ ตามไปเดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีกหรอก

              “…” ในหัวของฉันตอนนี้มันเต็มไปด้วยหลายๆ ความรู้สึก

    อึดอัด โกรธ หงุดหงิด สับสน ทุกอย่างปะปนตีกันยุ่งเหยิงจนไม่รู้จะเริ่มแก้จากตรงไหนก่อนดี แต่ถึงอย่างงั้น ระบบประสาทสัมผัสทางการได้ยินของฉันก็ยังใช้งานได้ดี

    แล้วสรุป ที่วันนี้จู่ๆ ก็บ้างี่เง่าใส่พี่นัทมันเพราะอะไรล่ะ?” หูได้ยินคำถามของเมย์ชัดเจน

    เขามีคนอื่นเมย์สะบัดมือฉันทันทีเมื่อได้ฟัง

    พูดบ้าอะไรอีกเนี่ย?และย้อนกลับมาเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

    ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ พี่นัทนอกใจฉันฉันยืนยันคำพูดของตัวเองออกไปอีกครั้ง และหวังว่าจะมีใครสักคนจะยอมเชื่อและให้การช่วยเหลือฉันได้บ้าง

    พูดอะไรแบบนั้นอ่ะ พี่เขาก็ดูรักแกดีออก…”

    “ฉันรู้มาว่าเขานัดเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ร้านเกมวันนี้ฉันขัดแบบไม่ฟัง จนอีกฝ่ายชะงักเงิบหยุดฝีเท้าลง เพราะนั้นฉันก็เลยหยุดการเคลื่อนไหวไปด้วย 

    ฉันหันมองหน้าเมย์ที่ดูเหมือนจะไม่ยอมเชื่อง่ายๆ

    ฉันควรจะทำยังไงดีล่ะเมย์…”

    เพราะเสียงที่อ่อนลงและเต็มไปด้วยความกังวล ทำให้เมย์ซึ่งเอาแต่แขวะเรื่องการคบหาของฉันกับพี่นัทมาตลอด 6 ปี เงียบลงจนผิดสังเกต เธอขมวดคิ้วคล้ายกับครุ่นคิดอะไรบางอย่างในหัว

    ถ้าเรื่องที่ทำให้พี่นัทนอกใจ เป็นสาเหตุที่ทำให้แกงี่เง่าวันนี้จริงๆ ล่ะก็ บอกตรงๆว่า ฉันจะโกรธพี่นัทมากเธอพูดแสดงความคิดเห็นของตัวเอง น้ำเสียงใส่อารมณ์ พลางเอื้อมมือแตะไหล่ฉันคล้ายกับจะปลอบใจ ต่อให้เมย์เป็นคนไม่เชื่อคนง่าย แต่สำหรับคนที่เป็นเพื่อนด้วยกันมานานอย่างฉันกับเจ๊ตาลแล้ว แน่นอนว่าเปอร์เซ็นต์ที่เธอจะเห็นใจและเชื่อใจจะมีให้กลับมาเต็มร้อยเปอร์เซนต์แน่นอน

    การที่ผู้ชายนอกใจเราไปมีผู้หญิงคนอื่นมันมีอยู่ไม่กี่ข้อหรอก

    ฉันที่ไม่เคยมองใคร หรือไม่เคยสนใจเรื่องการนอกใจมาก่อน พอได้ฟัง ก็ได้แต่ย่นคิ้วคิดตาม

    หนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการความจำเจ สองเพราะความไม่รู้จักพอ มักง่ายเป็นสันดาน…” ฉันเหลือบมองหน้าเพื่อนรักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเธอเงียบเสียงลง ก่อนจะพบว่าเธอกำลังมองฉันอยู่

    เมย์ถอนหายใจออกมาเบาๆ ใบหน้าเรียวสวยคลี่ยิ้มเล็กๆ แทนคำปลอบใจ และพูดขึ้น

    แต่ในกรณีพี่นัทของเธอน่ะ เขาดูไม่ใช่ผู้ชายประเภทนั้นเลยใช่ไหมล่ะ?” ฉันเม้มปากแน่น พยักพเยิดตอบคำถามของเธอกลับไป โดยปล่อยให้ในหัวคิดตามคำพูดของเมย์ไปด้วย นั่นเพราะว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เขาได้แต่ทนรอไง

    ทนรอ?ฉันย้อนเธอกลับไปแบบไม่เข้าใจ

    เมย์รีบขยับเปลี่ยนมายืนในท่ากอดอก พยักหน้าอย่างคนมีภูมิความรู้ที่ดี พลางตบไหล่ฉันไปพลาง โดยปากก็พูดไปเรื่อย

    จำที่ฉันพูดเรื่องจิ๊กกิ้วของเธอกับพี่นัทได้ไหมล่ะ?

    จะ จำได้(มั้ง)พอเมย์พูดเรื่องน่าอายแบบนั้นออกมาตรงๆ ฉันก็เริ่มจะทำตัวไม่ถูก

    การจิ๊กกิ้วกันของคนรักก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายเปลี่ยนไปนะเอออน้ำเสียงจริงจังของเมย์เริ่มเปลี่ยนไป เธอลากเสียงยาวคล้ายกับว่าสิ่งที่พูดเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ไม่ใช่กับสีหน้าที่ดูจริงจังผิดปกติ ลองคิดดูนะ แกคบกับพี่นัทมาตั้ง 6 ปี ไม่เคยจิ๊กกิ้วกันเลยสักครั้ง ไหนจะใกล้จะเข้าสู่ช่วงอาถรรพ์คู่รัก 7 ปีเลิกอีก บรื้อๆ

    งั้นก็แปลว่า…”

    ดวงความรักของเธอกำลังอยู่ในช่วงปีชง เพราะความอืดอาดยืดยาดของตัวเธอเองนั่นแหละ!” เมย์ว่า

    แล้วฉันควรจะทำยังไงที่ย้อนถามเมย์กลับไปแบบนั้น ไม่ใช่เพราะฉันเชื่อคนง่ายหรอกนะ แต่เป็นเพราะ ฉันเองรู้สึกว่าบางสิ่งที่เธอพูดออกมามันก็มีส่วนถูกต้องเหมือนกัน ไหนจะข้อมูลเรื่องของอาถรรพ์คู่รัก 7 ปีที่ฉันค้นเจอทางอินเตอร์เน็ตอีก

    ชีวิตของผู้คนมักมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในทุกๆ 7 ปี หลายคนอาจได้เริ่มคบหากับคนรู้ใจ เมื่อเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนวัยพอดี และเมื่อคบกันไปได้เป็นเวลา 7 ปี ก็จะถึงช่วงเปลี่ยนวัยอีกครั้ง ชีวิตก็อาจเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เช่น อาจได้เข้าสังคมใหม่ๆ ไปรู้จักคนใหม่ๆ ทำให้ต้องห่างเหินกับคู่รัก จนอาจลงท้ายด้วยการแยกทาง

    บางทีความรักระหว่างฉันกับพี่นัทอาจจะขาดสีสันในแบบที่ควรจะมีจริงๆ ก็ได้ พอเขาได้เจอสังคมใหม่ คนใหม่ เขาก็เลยต้องทำแบบนี้

    ฉันมีแผน แต่บอกไว้ก่อนนะว่าแผนนี้ถ้าเธอทำไปแล้ว มันก็รับประกันไม่ได้หรอกนะ ว่าพี่นัทของเธอจะกลับมาเป็นคนดีคนเดิมเหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า

    “…”

    เธอจะลองเสี่ยงดูไหมล่ะ กานต์?


    -GAME TALK-

              ฝ่ามือของน้องกานต์ที่พุ่งตบเข้าใส่หน้าผมก่อนหน้านี้ ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นไร้อารมณ์ขัน แถมยังมือหนักเป็นบ้า ผมถูฝ่ามือแนบแก้มตรงจุดที่แสบ เท้าย้ำเดินตรงไปที่หน้ารั้วประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัย ซึ่งผมบอกให้ใครอีกคนยืนรอไว้

              ไอ้นัทยังยืนรอผมอยู่ตามที่บอก มันทำหน้าบึ้ง ไร้อารมณ์ขันเฉกเช่นเดียวกับแฟนของมัน ตอนนี้มันคงกำลังหงุดหงิดเรื่องที่เพิ่งทะเลาะกับน้องกานต์ไปก่อนหน้านี้นี่แหละ

              ช้านักนะมึง มัวทำไรอยู่วะ?ไอ้นัทบ่นทันทีเมื่อผมโผล่หัวเข้าไปให้มันเห็น

              โทษที ระหว่างทาง กูบังเอิญเจอคนรู้จักว่ะส่วนผมก็ตอบไปส่งๆ ไม่ได้บอกมันตรงๆ หรอกว่าเพิ่งไปทำอะไรมา

    วันนี้กูไม่อยากไปร้านเกมเลยว่ะอีกครั้งที่ไอ้นัทกล่าวขึ้นสีหน้าเคร่งเครียด คล้ายกับว่าตั้งแต่ที่มันมีปากเสียงกับน้องกานต์ที่โต๊ะม้าหิน มันจะเอาแต่คิดเรื่องนั้นอยู่ตลอดเวลา

    ผมรู้จักกับไอ้นัทมาหลายปี และรู้ว่ามันเป็นพวกชอบย้ำคิดย้ำทำ

    ทำไมวะ?ถึงจะรู้จักมันดี แต่ผมก็ยังถามกลับไป ทำเหมือนไม่เคยรู้จักนิสัยมันเลย

    เรื่องกานต์ไงมันตอบสั้นๆ

    ด้วยท่าทางเหมือนเลี่ยงที่จะพูด ผมก็เลยไม่สนใจ โอบแขนคล้องรอบคอมันเหมือนทุกทีและออกแรงบีบบังคับพาเพื่อนสนิทตรงไปยังร้านเกมประจำหน้ามหาวิทยาลัย และในตอนนั้นเองที่ไอ้นัทพึมพำพูดอะไรบางอย่างออกมา

    มึงว่ากานต์ช่วงนี้น่ารักขึ้นนะว่าไหม

    เออผมตอบกลับแบบไม่คิดอะไร แต่พอได้แอบลอบมองเสี้ยวหน้ามันแล้ว กลับพบว่าไอ้นัทมันกำลังยิ้ม

    กานต์โตขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะ สวยขึ้น น่ารักขึ้น และฉลาดขึ้น…”

    อ๋อเหรอ?ผมย้อนอย่างคนไม่รู้ ทั้งที่เอาเข้าจริงผมก็พอจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไอ้นัทว่ามาบ้างเหมือนกัน

    กูคิดว่าอีกไม่นาน ความลับของกูคงใกล้จะแตกแล้วว่ะ และถ้าความลับแตกขึ้นมา กูกับกานต์อาจต้องเลิกกัน ไอ้นัทเงียบลงไปชั่วขณะหนึ่งแถมยังหยุดเท้าลงโดยชะงักจนผมต้องพลอยหยุดตามไปด้วย

    ผมเหลียวมองมันด้วยความสงสัย ก่อนพบว่ามันเองก็กำลังมองผมกลับมาเช่นกัน

    เฮ้ยเกมส์ ถ้าวันหนึ่งกูกับกานต์เลิกกัน กูขออะไรมึงอย่างได้ปะ?

    ว่ามา?ผมยักไหล่แบบไม่ยี่หระ

    กูขอให้คนที่กานต์คบต่อจากกูเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่มึง ได้ปะวะ?

    คำขอของไอ้นัททำให้ระหว่างเราเกิดเป็นช่องว่างแทบจะในวินาทีนั้น แววตาจริงจังของมันกำลังจ้องลึกเข้ามาในตาผม ราวกับว่านั่นคือคำขอที่มันต้องการจากผมเพียงข้อเดียว

    มึงก็รู้ ว่ากูรักกานต์มาก กูคงทำใจไม่ได้ถ้าคนที่กูรักมากสองคนจะคบกันเอง…” อีกครั้งที่ไอ้พูด และนั่นทำผมเลื่อนแขนที่คล้องรอบคอมันออกทันที แล้วกูก็รู้นะเกมส์…”

    รู้ว่า?ผมย้อน โดยพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

    “ว่ามึงเองก็ชอบกานต์...

    อ่า แล้วแบบนี้ ผมควรจะตอบมันกลับไปว่ายังไงดี

    แต่เพราะมึงเป็นเพื่อนสนิทกู กูเลยไม่ได้อะไร... แต่เรื่องนี้ถือว่ากูขอได้ไหม?

    “...

    “ถ้ากูต้องเลิกกับกานต์ มึงอย่าคบกับกานต์ต่อจากกูได้ไหมไอ้เกมส์?” คำพูดประโยคเดิมเชิงร้องขอของมัน ทำผมไม่สามารถพูดเป็นอย่างอื่นได้จริงๆ นอกจากวลีสั้นๆ 

    อืม

    ถ้าหากวันหนึ่งผมต้องเสียเพื่อนดีๆ แบบไอ้นัทไป ผมเองก็คงจะแย่เหมือนกัน...

     

    -KARN TALK-

             ตลอดเวลาที่อยู่ในคลาสเรียน ฉันแทบไม่มีสมาธิที่จะฟังอาจารย์เลยสักนิด เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับพี่นัทที่โต๊ะม้าหิน สองที่ลืมไม่ลงเลยก็คงจะเป็นการฉวยโอกาสที่พี่เกมส์ปฏิบัติใส่ฉันนั่นแหละ และสามเรื่องที่ฉันคุยกับเมย์เอาไว้ก่อนเริ่มคลาส

              หลังเลิกเรียนฉันเดินออกจากห้องตามปกติ และพาตัวเองมาหยุดลงที่เสาต้นใหญ่ เมื่อพบว่าที่หน้าทางขึ้นตึกคณะปรากฏร่างของพี่นัท พร้อมด้วยรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจกำลังจอดรออยู่เหมือนอย่างทุกวัน

              ขั้นตอนแรก วันนี้หลังเลิกเรียนห้ามเจอหน้าพี่นัทเด็ดขาดแล้วมาหาฉันที่ร้านนั่งชิลพีพีลี บนหัวมุมถนนซอย4’

            ฉันเม้มปากลงเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของเมย์ดังแว่วเข้ามาในหัว พร้อมทั้งรีบเคลื่อนตัวหลบไปอยู่ด้านหลังเสา เมื่อพี่นัททำท่าจะเงยหน้ามองตรงเข้ามา 

             ไม่รู้หรอกว่าเขามารอนานเท่าไหร่แล้ว ที่รู้ๆ ก็คือวันนี้กว่าอาจารย์จะปล่อยออกจากห้องก็กินเวลานานอยู่พอสมควร ถ้าหากพี่นัทมายืนรอฉันตามเวลาปกติ เขาคงจะเสียเวลาในการนั่งคอยแบบนั้นราวๆ ครึ่งชั่วโมงก็ว่าได้

             ปี๊บ! ปี๊บ!

    ที่รัก :: พี่รอกานต์อยู่หน้าคณะนะ เลิกเรียนหรือยัง?

    เสียงเตือนโทรศัพท์ดังขึ้น พร้อมด้วยข้อความสั้นๆ จากเบอร์พี่นัทซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าจอ ทำฉันเม้มปากลงเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับไป

    กานต์ :: วันนี้หนูมีทำรายงาน พี่นัทไม่ต้องรอนะคะ

    พอข้อความถูกส่งออกไป ฉันก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองทีท่าของคนรัก พี่นัทก้มมองข้อความของฉันบนหน้าจอสมาร์ทโฟน ขณะทำมือขยุกขยิกเหมือนกับกำลังพิมพ์ตอบโต้กลับมา

    ปี๊บ! ปี๊บ!

    ที่รัก :: กานต์โกรธอะไรพี่หรือเปล่า?

    ที่รัก :: พี่ขอโทษนะ

    ข้อที่สอง ถ้าหากแกเจอพี่เขาโดยบังเอิญแล้วเขาพยายามจะอธิบาย ให้แกพยายามเปลี่ยนเรื่องแล้วชิงหนีออกมา แล้วมาหาฉันตามที่นัดเอาไว้

              สิ่งที่เมย์บอกไว้ดังเข้ามาในหัว ฉันรู้ตัวดีว่าตัวเองน่ะเป็นพวกใจอ่อน เมย์เองก็คงจะรู้นิสัยนี้ของฉันเช่นกัน ถึงได้พูดกำชับเอาไว้แบบนั้น ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าแผนที่เมย์คิดเอาไว้ มันจะช่วยให้ความรักของเราสองคนดีขึ้นได้หรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อยากที่จะลองเสี่ยงดู

              เพราะฉันคิดว่าฉันรู้จักพี่นัทดีกว่าใคร และมั่นใจว่าเขาไม่น่าจะใช่ผู้ชายมักง่ายที่จะนอกใจแบบไม่มีเหตุผล และถ้าหากว่าสิ่งที่เมย์วางแผนไว้มันจะมีสักเปอร์เซ็นต์หนึ่งทำให้ชีวิตคู่ของเรากลับมาดีได้เหมือนก่อน ฉันก็คงต้องลองดูกันสักตั้ง

              เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันก็รีบเก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงกระเป๋า ไม่ได้ตอบข้อความที่พี่นัทส่งมาให้ และตัดสินหันหลังเดินไวตรงไปยังด้านหลังของตึกคณะตามอย่างแผนการที่ได้วางไว้

              คำขอโทษของเขาน่ะ เอาไว้เมื่อเราทั้งคู่มีโอกาสได้อธิบายเรื่องของกันและกัน แล้วค่อยหยุดรับฟังหรือใช้คำๆ นั้นจะดีกว่า เพราะฉันไม่ได้โง่ อีกอย่างที่ฉันรู้อยู่ตอนนี้มันก็เกิน 60% ไปแล้ว ส่วนพี่นัทก็ไม่เคยเลว ถึงขนาดที่ขอโอกาสแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองจนฉันรู้สึกเบื่อหน่าย

              ที่สำคัญฉันไม่สามารถทิ้งคนที่ฉันรักมาตลอด 6 ปีลงได้จริงๆ

     

           คืนนั้น

         @ร้านนั่งชิวพีพีลี

              กานต์ เจ๊ตาล อยู่ทางนี้!”

              เสียงของเมย์ดังขึ้นทันทีที่ฉันและเจ๊ตาลพากันเดินเข้าไปในร้านนั่งชิลตามนัด วันนี้เจ๊ตาลอย่ๆ ก็เกิดเบื่อๆ นอยด์ๆ ขึ้นมา ฉันก็เลยชวนเธอมาด้วย อีกอย่างเราสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกันแถมยังเป็นรูมเมทกันอีกต่างหาก จะปล่อยให้เธอนอนกร่อยอยู่ที่ห้องคนเดียวมันก็ยังไงๆ อยู่

              เพราะวันนี้เป็นคืนวันศุกร์ล่ะมั้ง ที่ร้านนั่งชิลแห่งนี้ถึงอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เจ๊ตาลจับมือฉันพาเดินแทรกผู้คนภายในร้านนั่งชิลตรงไปยังโต๊ะเล็กที่เมย์นั่งจองเอาไว้ ก่อนจะพบว่า บนโต๊ะมีเครื่องดื่มมึนเมาหลายแขนงจัดวางตั้งท่ารออยู่อย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเหล้าหรือเบียร์

    พอเห็นของอันตรายแบบนี้มันก็เลยอดถามไม่ได้

              ใครสั่งเครื่องดื่มพวกนี้มาน่ะ

              “ก็ฉันอ่าดิ ถามอะไรโง่ๆ นะกานต์เมย์ต่อว่าฉันกลับมาอย่างทันควัน สร้างความฉงนให้กับฉันแต่ไม่ใช่กับเจ๊ตาลซึ่งกำลังทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับเธอด้วยท่าทางสบายๆ

              “สั่งมาทำไมอ่ะฉันถามแบบไม่เข้าใจ พานให้คนฟังเลิกคิ้วสูงก่อนตอบออกมาคล้ายกับยียวน

    สั่งมากินอ่าดิไม่ใช่แค่พูดแต่เมย์ยังจัดเต็มด้วยการกระดกเหล้าสีเพียวๆ โชว์ต่อหน้าหนึ่งช็อตแล้วกล่าวเสริม นี่น่ะคือขั้นตอนที่สามของแผนการที่เราวางเอาไว้

    พอได้ฟังฉันก็เริ่มรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบขึ้นมาแปลกๆ

              “นี่อย่าบอกนะว่า…” เมย์พยักหน้ารัวๆ แบบไม่รอฟังให้จบประโยค พลางรินเหล้าสีใส่แก้วช็อตเลื่อนส่งมาตรงหน้า ก่อนกล่าวเสริมแกมสั่ง

    กินไอ้นี่ให้เมาปลิ้นไปเลยเพื่อนรักว่าแล้วเธอก็หันไปจัดแจงรินเหล้าสีใส่แก้วของตัวเอง กับเจ๊ตาลด้วยท่าทางเหมือนตายอดตายอยาก ชีวิตขาดแคลนเหล้า

    เจ๊ตาลเองก็ใช่ย่อย พอเธอได้รับเหล้ามือก็รีบคว้าแก้วช็อตยกขึ้นกระดกลงคอเสมือนว่ามันคือน้ำเปล่าบริสุทธิ์ ส่วนฉันพอได้มอง มันก็รู้สึกขมคอแทนเธออย่างพอไม่ถูก เผลอดันแก้วเหล้าของตัวเองออกห่างตัว

              อ้อ! ลืมบอกไปอย่างหนึ่ง ฉันน่ะ เป็นมนุษย์ที่ไม่นิยมแตะต้องเครื่องดื่มมึนเมา ไม่ใช่เพราะที่บ้านสอนมาดีหรอกนะ แต่เป็นเพราะฉันแพ้แอลกอฮอล์ ทุกครั้งที่ร่างกายได้รับเครื่องดื่มจำพวกนี้เข้าไป ฉันจะเริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนคนเป็นไข้ อาการแบบนั้นน่ะทรมานมากเสียจนฉันไม่คิดจะแตะเครื่องดื่มประเภทนี้อีกเลย

              พวกเธอคุยอะไรกันเหรอ? แผนอะไรกัน? จู่ๆ เจ๊ตาลที่นั่งอยู่ด้วยเอ่ยปากขึ้นด้วยความสงสัย เธอกวาดมองกน้าฉันกับเมย์สลับไปมาด้วยท่าทางสงสัยอย่างสุดๆ

              ก็ไอ้กานต์อ่ะดิ วันนี้มันทะเลาะกับพี่นัทไงเจ๊ มันก็เลยอยากปรับความเข้าใจกัน

              “อ้าว กานต์กับพี่นัทยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันอีกเหรอ?เจ๊ตาลหันมาถามเสียงห่วงๆ ฉันก็เลยพยักหน้าตอบกลับไป

    ทำไมล่ะ?เพราะแบบนั้นคำถามที่สองก็เลยหลุดรอดจากปากของเจ๊ตาลอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เมย์ที่นั่งอยู่ด้วยก็ชิงตอบแทนเสียก่อน

    ก็แผนไงเจ๊

    แผนเหรอ?เจ๊ตาลเองก็คงแปลกใจไม่ต่างกัน ที่ได้ฟังเมย์ตอบแบบนั้น

    เมาแล้วปล้ำเมย์ยิ้มก่อนเริ่มสาธยาย กานต์กับพี่นัทไม่เคยมีความลึกซึ้งต่อกันเลยถูกป่ะ แล้วคือเหมือนกานต์มันกำลังจะจับได้ว่าพี่นัทนอกใจควงคนอื่นอยู่ ฉันก็เลยคิดว่าที่พี่นัทมีคนอื่น เพราะชีวิตคู่ของพวกมันขาดเรื่องนี้หรือเปล่า…”

    แต่พี่นัทเขาดูไม่ใช่คนฝักใฝ่เรื่องใต้สะดือเลยนะเมย์ เจ๊ว่าไม่น่าใช่หรอกเจ๊ตาลแย้ง

    ก็ใช่ไงล่ะ เพราะเราไม่รู้เหตุผลแน่นอน ฉันเลยจะให้กานต์มอมตัวเองแล้วจัดการเก็บแต้มพี่นัทซะ!” เมย์กล่าวเสียงหนักแน่น โต้ตอบกับเจ๊ตาลไปมา โดยมีฉันเป็นตัวประกอบร่วมโต๊ะ

    เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเสียหายสักหน่อย อีกอย่างพี่นัทกับกานต์ก็มีกำหนดงานหมั้นกับงานแต่ง ตอนเข้าสู่ปีที่ 7 ด้วยใช่ไหมล่ะ?เมย์พยายามชักแม่น้ำทั้ง 5 ออกมาพูด เพื่อโน้มน้าวและชักจูงให้เจ๊ตาลที่ดูจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ที่สุดเห็นด้วย

    เจ๊ตาลพอได้ฟังแบบนั้นเธอก็เอาแต่พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร มือไม้จัดแจงชงเหล้าให้ตัวเอง ก่อนหันมามองฉันแล้วเอ่ยปากคล้ายกับถามความเห็นแกมสอนไปด้วย

    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเจ๊ แต่เวลาทำไปแล้วมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะกานต์ ลองคิดดูดีๆ ว่าตัวเองพร้อมหรือเปล่า ลองคิดดูว่าถ้าทำไปแล้วทุกอย่างมันไม่ดีขึ้นจะเป็นยังไง…”

    ใช่! ฉันคิดอยู่ ฉันกำลังคิดว่าถ้าหากตัดสินใจทำไปแล้ว สุดท้ายพี่นัทเลือกคนอื่นฉันควรจะทำยังไง แต่พอมาคิดตามที่เมย์บอกมันก็อดไขว้เขวไม่ได้ เนื่องจากแม่ฉันกับแม่พี่นัทสนิทกันยิ่งกว่าอะไร

    คิดให้ดีๆ นะกานต์เสียงของเจ๊ตาลยังคงดังเตือนสติเป็นระยะๆ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อทำตามแผ่นหนึ่งกับแผนสองมาถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ล้มเลิกกลางครันตอนนี้มันก็คงไม่ใช่ถูกไหม?

    เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน

    ขวับ!

    ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือเอื้อมคว้าแก้วเหล้าของตัวเองตรงหน้า ท่ามกลางสายตาตกอกตกใจของเพื่อนสนิททั้งสองคน ไม่ต้องมีคำพูดใดให้มากเรื่อง ฉันรีบกลั้นใจกระดกเหล้ารสชาติขมเฝื่อนชวนอ้วกลงคอทันที ก่อนกระแทกก้นแก้วลงกับโต๊ะ แล้วเอ่ยขึ้นเสียงหนักแน่น

    คืนนี้มีเหล้าเท่าไหร่ รินใส่แก้วฉันมาให้หมด!”

    To Be Continued...

    น้องกานต์คนจริง 55555 

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ไม่เม้นไม่ว่าแต่โหวตให้ข้าด้วย อะเฮือกกก

    ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต

    #รักติดเกม 

    #ฟิคแฟนติดเกม

    #ฟิคเมียหลวงได้เมียน้อย

    จิ้มหน้าพี่เกมส์ไว้รอเจอกันชาร์ปหน้านะเออ
    VVVV
    VV

    { เรื่องอื่นของหนุ่มๆ ในสังกัด }

    ไม่เคยส่องหรือลองอ่านเรื่องไหน จิ้มได้น้า

        



    -พี่เกมส์-


    -น้องกานต์-


    -พี่นัท-


    -ลูกตาล , เมย์-


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×