ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [สนพ.SENSE BOOK] รักติดเกม ll GAME ADDICTION

    ลำดับตอนที่ #20 : Addict19 ll ยกที่สิบเก้า {อัพ100%}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.77K
      49
      16 ก.พ. 59

    ***สามารถปิดเพลงตอนอ่านได้นะ***
    แต่ถ้าฟังไปด้วยอาจจะอินมากกว่านะ ฮิๆ


    EP19
    ยกที่สิบเก้า







    เพราะความเร็วของรถที่นั่งมาดูจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวและเพิ่มเรื่อยๆ เหมือนไม่ขีดสุด ตลอดการนั่งซ้อนท้ายรถฉันก็เลยนั่งหลับหลับตาปี๋ หวีดเสียงร้องด้วยความกลัวพลางกอดรอบเอวของพี่เกมส์เอาไว้แน่น แนบหน้าซบลงกับแผ่นหลังกว้างของเขาเพื่อลดการปะทะของลมและความหวาดเสียวนั่นลง

    ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ฉันต้องทนนั่งเกร็งกอดเอวพี่เกมส์ไว้ตลอดการเดินทางที่คล้ายกับการนั่งรถไฟเหาะ รู้อีกที ความเร็วของรถก็ค่อยๆ ลดลงอย่างเรื่อยๆ จนกระทั่งเอื่อยลงจนคล้ายกับการขับรถกินลมชมวิวธรรมดาๆ

    เมื่อสถานการณ์น่าตกใจดังกล่าวจบลง ฉันเองก็ถึงเวลาที่ต้องปล่อยกอดจากเอวเขาด้วยเช่นกัน 

    เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อตั้งหลัก จู่ๆ ที่มือของฉันก็รู้ถึงสัมผัสอุ่นของฝ่ามือกว้างที่จงใจกุมทับลงมาอย่างถือโอกาส

    หมับ!

    หวาดเสียวดีไหมคะ?การที่รถขับช้าลง มันทำให้ฉันได้ยินคำถามของเขามากขึ้น แต่ฉันไม่ตอบและพยายามที่จะชักมือกลับ แต่ว่าพี่เกมส์กลับไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เขายังคงกุมมือฉันต้านแรงยื้อของฉัน แล้วพูดออกมาอีก

    ช่วยฮีลให้พี่แบบนี้ต่ออีกสักพักไม่ได้เหรอ…” คำถามสั้นๆ ของเขาทำฉันนิ่งไป 

    ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูร้องขอต่างจากตอนที่อยู่ในร้านเกม แม้ไม่ได้เห็นหน้าแต่ก็พอเดาออกว่าวันนี้ตลอดทั้งวัน คนพูดรู้สึกเหนื่อยล้ามากแค่ไหน

    จากที่พยายามชักมือกลับกลับกลายเป็นนั่งนิ่งให้เขากุมมืออยู่อย่างงั้นโดยไม่ได้แสดงทีท่าปฏิเสธคำขอดังกล่าวออกไป

    ถ้าถามเหตุผล ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

    บรืนน บรืนนนน

    เฮีย! ไอ้บอสพากุ๊กกลับไปส่งร้านแล้วนะเสียงของพี่เซินทำฉันสะดุ้งเล็กน้อย เผลอกระตุกมือตัวเองกลับ แต่ก็ไม่สำเร็จอยู่ดี เมื่อพี่เกมส์ยังจับมือฉันไว้แน่น แบบไม่สนใจสายตาเซินที่ขับรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่มาขนาบข้าง

    อ๋อ เออ!” พี่เกมส์หันไปยิ้มทะเล้น

    “วันนี้เฮียจะกลับบ้านหรืออยู่หอวะ?

    “ดูก่อน อาจจะหอ” ฟังจากน้ำเสียงที่พวกเขาคุยกัน ดูท่าแล้วเขาสองคนสนิทกันมากจริงๆ

    พี่เซินเองก็ดูรักและเคารพพี่เกมส์เอามากๆ ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไมฉันถึงเห็นเขาอยู่กับพี่นัทเพียงแค่สองคนล่ะ

    “เฮีย เดี๋ยวผมโชว์ท่ายากให้ดูป่ะ ที่ผมบอกเฮียวันนั้นอ่ะพี่เซินเกริ่นขึ้น พลางขยับตัวถอยก้นมาจนเกือบสุดเบาะหลัง การกระทำดังกล่าวทำฉันที่มองเห็นย่นคิ้วมองสิ่งที่เขากลังจะทำด้วยความสงสัย

    บรืนนน บรืนนนน

    พี่เซินบิดคันเร่งหนักอยู่สองสามที ก่อนเขาจะทำเรื่องอันตรายและน่าตกใจด้วยการกระชากแฮนด์รถรถติดมือและขับรถนำลิ่วไปบนถนนเพียงล้อเดียว ไม่ใช่แค่นั้นแต่เขายังโชว์ความสามารถสุดหวาดเสียวด้วยการปล่อยมือข้างหนึ่งออกจากแฮนด์อีกด้วย

    อะ อันตราย!” ฉันร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ

    โคตรเจ๋งเลยเซิน!” ส่วนพี่เกมส์กลับตะโกนชมเปราะ ต่างจากฉันที่ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่พี่เซินทำเลยสักนิด โชคดีที่ถนนทางตรงเส้นนี้ค่อยข้างโล่งไม่ค่อยมีรถมากนัก พี่เซินถึงได้ปลอดภัย ลองคิดดูสิ ถ้าตรงนี้มีรถเยอะๆ ล่ะจะเป็นยังไง!

    พี่ไม่น่าไปให้ท้ายเขาแบบนั้นเลย ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไงคะ!” ยิ่งคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าพี่เกมส์ที่ดันให้ท้ายน้องแบบนั้น

    ไอ้เซินมันเซียนแล้ว น้องกานต์ไม่ต้องห่วงมันหรอกค่ะ

    สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้งนะคะ!” ฉันเถียง

    พอดีพี่ไม่ใช่นักปราชญ์แต่เป็นพี่ Gamer ค่ะ!” ทั้งที่เตือนด้วยความเป็นห่วง แต่พี่เกมส์ก็ยังพูดจาเถียงไม่เลิก คำพูดที่ฟังไม่เข้าหูแบบนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกหัวเสีย จนต้องชักมือที่ถูกเขากุมไว้ออกอย่างแรง

    ทว่า พี่เกมส์ดันหัวเราะออกมาซะอย่างงั้น และไม่ได้ทำท่าทีจะรั้งมือฉันเอาไว้เหมือนในตอนแรก

    โกรธเหรอคะที่พี่เถียง” 

    ฉันไม่ได้ตอบในสิ่งที่เขาถาม และเลือกที่นั่งจะจับกับราวกั้นเบาะหลังเงียบๆ แต่แล้วมันก็เป็นพี่เกมส์เองนั่นแหละที่พูดออกมา

    “พี่ไม่ได้อยากเถียงหรอกค่ะ แค่อยากให้น้องกานต์รู้ว่า เรากำลังอยู่ในโลกอีกใบของพี่ที่ไม่ใช่ร้านเกมค่ะ โลกที่ไร้สาระและไร้แก่นสารใบเนี่ย ทำพวกพี่เจ็บมาเยอะ ดังนั้นไม่ต้องห่วง…”

    แล้วพวกพี่ชอบเหรอคะ เรื่องเจ็บตัวเนี่ยปากฉันน่ะต่อว่าขัดเขาไป แต่สายตาก็ยังคอยชำเลืองมองพี่เซินที่ยังคงโชว์ฝีไม้ฝีมือในการบังคับรถด้วยท่าทางหวาดเสียวไม่เลิก

    พี่เป็นพวกซาดิสม์ค่ะ ซี๊ดด อ่าส์...เขาทำเสียงซี๊ดซ๊าดพลางเขย่าตัวไปมาจนทั้งคันส่ายไม่ตรงแนว พาฉันผวาวูบเลื่อนมือเข้าสวมกอดเอวเขาอีกครั้งด้วยความตกใจ

    “ฮ่าๆ น้องกานต์เนี่ยอย่างกับเด็กเลยนะคะ ขี้กลัวไปหมดดูเหมือนการที่เขาทำแบบนั้นจนทำให้ฉันต้องเป็นฝ่ายสวมกอดเขาเองจะทำให้พี่เกมส์รู้สึกตลก ถ้ากลัว ก็กอดพี่เอาไว้แน่นๆ นะ

    ใครเขาอยากกอดพี่กัน!” ฉันแย้งเสียงแข็งพร้อมกับรีบปล่อยมือที่กอดเอวออก ทว่า พี่เกมส์ดันใช้จังหวะในช่วงนั้นบิดกระชากรถ จนฉันเสียหลักเอนตัวกระแทกเบียดแผ่นหลังเขาทันที

    อุ๊ยนม!” คนตัวใหญ่อุทานออกมาเบาๆ อย่างมีจริต

    พี่เกมส์!!

    แต่ยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งทำดุเขายิ่งเอาใหญ่

    ตลอดทางพี่เกมส์แกล้งฉันด้วยการขับกระชากรถไม่ก็เบรกกะทันหันอยู่หลายที ทำฉันที่ไม่ชินกับการนั่งรถเบียดกายกระแทกเขาอยู่หลายหน

    โอ๊ยๆ นม นม นม นม นมน้องกานต์เต็มไปหมดเบยยยย!”

    พี่เกมส์ พี่นี่มันทะลึ่งอ่ะ!!”

    ถึงแม้ว่าเขาจะขี้แกล้งและไม่ยอมฟังฉันเลยก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันสัมผัสและรับรู้ได้ ในช่วงเวลาที่นั่งซ้อนอยู่บนเบาะหลังตลอดเวลาการขับรถเล่นก็คือ สายลมเย็นๆ ที่พัดผ่านร่างกายของเราทั้งคู่ไป

    ทั้งที่ตอนแรกฉันรู้สึกกลัว แต่พอมีเสียงหัวเราะ เสียงเฮฮาของพี่เกมส์ร่วมประสานมากับสายลมเอื่อยๆ ด้วยแล้ว เหมือนกับว่าร่างกายฉันตกอยู่ในสภาวะผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้ชอบ แต่ฉันก้รู้สึกจริงๆ ว่าการได้นั่งรถเล่นแบบนี้ มันทำให้ความเหนื่อยล้า ความเครียด และความเป็นกังวลที่สั่งสมมาหลายวันคล้ายกับจะถูกสายลมอ่อนๆ เหล่านั้นพัดผ่านออกไป

             23.40 .

                    คืนนั้นพี่เกมส์พาฉันขับรถเล่นอยู่กับพี่เซินจนดึก ก่อนพวกเขาจะพาฉันกลับมาส่งที่หน้าหอพักอย่างปลอดภัย  รู้ไหม ตลอดเวลาที่ฉันคบกับพี่นัทมา ฉันไม่เคยกลับมาหอดึกแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้แก่นสารแบบนี้มาก่อนเลย นี่น่ะคงจะเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้

            พอรถที่นั่งมาจอดสนิท ฉันก็รีบขยับตัวลงจากเบาะหลังทันที แต่พอกำลังจะเดินกลับเข้าหอ มันก็ดันมีเสียงกระแอมของใครคนหนึ่งดังขัดขึ้นมา

            ไม่เอากระเป๋าเงินไปด้วยเหรอคะ?ก่อนตามมาด้วยคำถามซึ่งฉันเกือบจะลืมไปแล้วว่าตอนนี้กระเป๋าเงินไม่ได้อยู่กับตัว

    ฉันรีบหันขวับยื่นมือส่งไปหาพี่เกมส์โดยไม่ต้องพูดให้เสียเวลา ส่วนเขานั้นก็หันไปรับกระเป๋าเงินของฉันจากพี่เซินอย่างว่าง่าย 

    ใช่! เขาทำท่าทางเหมือนว่าง่าย แต่เรื่องส่งกระเป๋าคืนฉันน่ะดูท่าจะยาก!

    ไหนอ่ะคะ รางวัลของพี่?

    เขาจงใจเท้าแขนนาบไปตามแนวแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่แค่นั้นแต่ยังแกล้งทำแก้มป่อง ช้อนตามองฉัน

    ดูจากท่าทางแล้วไม่บอกก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร

            บังคับให้คนอื่นไปด้วยแล้วยังจะมาขอรางวัล มันไม่มากไปหน่อยเหรอคะ?ฉันเบ้ปากถามอย่างนึกหมั่นไส้ แต่ว่าเขาดันหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ พร้อมทั้งยื่นกระเป๋าเงินส่งมาให้ ผิดจากที่คาดเอาไว้

            นั่นสินะ พี่นี่มันบ๊องจริง!” เขาทำเป็นต่อว่าตัวเองพลางทำท่าน่ารักซึ่งดูไม่เข้ากันอย่างสุดๆ ใส่ฉันต่อหน้าพี่เซินแบบไม่เกรงใจ แล้วพูดขึ้นอีก แค่เห็นน้องกานต์ไม่เครียดเท่าตอนที่อยู่มหาลัย ก็ถือว่าพี่ได้รางวัลแล้วค่ะ

            รอยยิ้มจริงใจของพี่เกมส์ทำฉันเม้มปากลงเล็กน้อย และอดคิดไม่ได้ว่าวันนี้ทั้งวันตั้งแต่เขาบังคับพาฉันออกจากรั้วมหาวิทยาลัยจนถึงตอนนี้ มันคือการทำให้ฉันหยุดคิดและเลิกเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น

            พอคิดแบบนั้นแล้ว

            ขอบคุณนะคะสำหรับคืนนี้…” คำพูดขอบคุณสั้นๆ จึงถูกเอ่ยออกไป

    ปกติแล้วเราสองคนเอาแต่กัดกันอยู่ตลอดเวลา และฉันก็ไม่เคยพูดดีๆ กับเขาเลยสักครั้ง คอยทำตัวเป็นนางมารร้ายหวงแฟน จนถูกเขาตั้งฉายาว่าเมียน้อย พอต้องมาพูดอะไรที่ต่างออกไป มันก็ดันเป็นฉันเสียเองที่ตื่นเต้นจนไม่กล้ามองหน้าเขากลับไปตรงๆ

    พี่เซินก็ด้วยนะ คราวหลังห้ามขับรถอันตรายอีก…” ฉันพยายามรัวคำพูดเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกประหม่า แต่ยิ่งพูดเยอะ ฉันยิ่งไม่เป็นตัวของตัวเอง โดยเฉพาะคำพูดประโยคสุดท้ายของ ขอบคุณนะคะที่ช่วยให้หนูคลายเครียด

    “…”

    หละหลังจากนี้หนูจะยอมสงบศึกและเป็นสายฮีลให้พี่ก็ได้…”

            ฉันไม่ได้มองหน้าเขารู้แค่ว่าทั่วหน้ามันร้อนไปหมด ฉันตอนนี้มีหลายความรู้สึกทั้งอายที่ต้องพูดอะไรแบบนั้น ไหนจะรู้สึกตลกตัวที่เองที่กล้ารับปากเขาออกไปแบบนั้นทั้งที่ไม่รู้ความหมาย

    แต่เพราะรู้ว่าสิ่งที่เราทั้งคู่ต้องเผชิญหลังจากนี้มันอาจจะหนักหนา ฉันจงไม่มีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธเขาเหมือนกับทุกที

            ขะ ขอบคุณมากนะคะพี่เกมส์!” ทางเลือกสุดท้ายคือการคว้ากระเป๋าเงินจากมือเขา แล้ววิ่งหันหลังเข้าหอพักโดยไม่หันกลับไปมองอีกก็แค่นั้น

    อ่าบ้าจริง แค่พูดขอบคุณเองนะกานต์ ทำไมถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้นะ

    ถึงจะบอกว่าสิ่งที่พี่เกมส์ทำให้ฉันเห็นในวันนี้มันจะช่วยทำให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้ก็จริง แต่พอได้กลับมาอยู่ในห้องพักของตัวเอง ความเหงาก็เริ่มแทรกซึมทั่วทุกรูขุมขน

    ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เคยมีเสียงหัวเราะ เคยมีเสียงเป็นห่วงเป็นใยและจริงใจว่า 

    กินอะไรมาหรือยัง?

    จะอาบน้ำเลยไหม? 

    คืนนี้นอนพร้อมกันนะ

    ตอนนี้มันได้หายไปหมดแล้ว

    ทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิม มีแค่ฉันและสภาพจิตใจเท่านั้นที่ไม่เป็นปกติ ยิ่งรู้ว่าพรุ่งนี้คือวันครบรอบของเราด้วยแล้ว ใจฉันมันก็เริ่มรู้สึกเจ็บจนทนไม่ไหว นับตั้งแต่วันที่บอกเลิกพี่นัทไป เขาก็ไม่เคยโทรมาหาหรือส่งข้อความมาอีกเลย ถ้าหากว่านั่นน่ะเจ็บที่สุดแล้ว ฉันบอกเลยว่ามันไม่ใช่

    ไม่ใช่แค่ข่าวลือของแกกับพี่เกมส์นะ แต่เขายังลือกันว่าพี่นัทกับเจ๊ตาลเปิดใจลองคบกันด้วย!’ จะบอกว่าไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เมย์ส่งข่าวเลยมันก็คงไม่ใช่ แต่ในทางกลับกันฉันก็อดนึกถึงเรื่องของตัวเองเมื่อหลายปีก่อนไม่ได้

    นี่แกรู้ยัง น้องกานต์ม.3 กำลังคุยๆ อยู่กับพี่ต๊อดม.6 โรงเรียนเราแหละ

    เอ้า! ก็ไหนว่าพี่ต๊อดคบกับเพื่อน She ที่ชื่อลูกตาลไม่ใช่อ่อ

    ก็ไม่รู้สินะ ยัยน้องกานต์อะไรนั่นก็มีแฟนอยู่แล้วคือนัทที่อยู่ม.5ไงแก สงสัยงานนี้อาจมีศึกรักสามสิบหกเศร้าก็ได้มั้งแก ฮิๆ

    ฉันไม่เคยรู้เลยว่าตอนนั้นเจ๊ตาลรู้สึกยังไงกับการที่ต้องได้ยินข่าวลือบ้าๆ พวกนั้น แต่พอลองมองย้อนกลับมาดูตัวเองในตอนนี้ฉันก็รู้ทันทีว่า เธอในตอนนั้นคงมีสภาพไม่ต่างไปจากฉันนัก

    กานต์ไม่ต้องบอกตาลนะ ให้เรื่องนี้เป็นความลับของเราต่อไป เมื่อพี่พร้อมเมื่อไหร่ พี่จะบอกเขาเองยิ่งนึกถึงคำพูดของพี่ต๊อดขึ้นมาด้วยแล้ว ฉันก็ยิ่งเหมือนกับว่าจะเข้าใจเหตุผลของพี่นัทขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน

    ฮึก…” ฉันนั่งในท่าชันเข่าอยู่มุมหนึ่งของห้องพักและปล่อยน้ำตาให้ไหลเพื่อระบายทุกความรู้สึกที่เริ่มก่อตัวขึ้น ทั้งเสียใจ ทั้งรู้สึกผิด ทั้งอึดอัด และอดคิดว่า การที่ฉันยอมทนนั่งหวาดเสียวอยู่บนท้ายรถมอเตอร์ไซค์พี่เกมส์หรือยอมให้บอสด่าว่ากากแบบตอนอยู่ในร้านเกมส์จะดีกว่า

    มันยังรู้สึกดีกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ

    ฮือออ


    สุดท้ายตลอดทั้งคืนฉันก็แทบไม่ได้นอน ไม่ต้องบอกสภาพกพอจะเดาออกใช่ไหมว่าในเช้าวันต่อมาฉันจะเป็นยังไง

    ดูไม่ได้เลย…” ฉันพึมพำบอกตัวเองเมื่อได้เห็นสภาพหน้าศพของตัวเองผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง ตาทั้งสองข้างบวมปูดเหมือนกับปลาทองเพราะผ่านการร้องไห้ แถมยังช้ำเหมือนกับหมีแพนด้า

    ดูไม่ได้ ดูไม่ได้เลยจริงๆ

    ฉันถอนหายใจเบาๆ ก่อนผละตัวออกจากหน้ากระจกคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกจากห้อง ต่อให้ใจฉันจะรู้สึกเจ็บมากแค่ไหน แต่ยังไงซะเวลาก็ยังหมุนต่อไปข้างหน้า ถึงอยากจะนอนนิ่งๆ ไม่ทำอะไรเหมือนคนหมดอาลัยตายยากคนอื่นๆ แต่ฉันก็ไม่อยากให้อนาคตตัวเองเสียเพียงเพราะแค่การเลิกกับแฟนหรืออกหักหรอกนะ

    กึก!

    ฉันพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าหอ พลางกวาดตามองหาใครบางคนตามความเคยชิน แต่พอคิดได้ว่า ใครคนนั้นที่ฉันกำลังมองหาอยู่เขาคงไม่มาอีกแล้ว ในอกมันก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมา

    และมันทำให้ฉันตระหนักได้ว่าต่อจากนี้ฉันควรจะต้องทำอะไรด้วยตัวเองแบบที่นักศึกษาคนอื่นทำกันสักที

    เฮ้อ…” ขณะกำลังตัดสินใจจะก้าวเท้าเดินออกออกจากหออยู่นั้น พื้นที่ถนนหน้าทางเข้าหอก็ปรากฏร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังยืนอยู่พร้อมด้วยมอเตอร์ไซค์เก่าๆ คู่ใจ

    เขาแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีดำสวมทับด้วยชุดช็อปสีกรมท่าประจำคณะวิศวฯ ในมือกำลังถือหมวกกันน็อกต่างขนาดเอาไว้ในมือสองใบ ใบหน้าหล่อทะเล้นฉายแววความขี้เล่นตลอดเวลาของเขา ฉีกยิ้มกว้างทันทีเมื่อเราสองคนมีโอกาสได้สบตากันตรงๆ  

    ไม่ใช่แค่นั้น แต่ผู้ชายคนนั้นยังรีบเดินก้าวยาวๆ ตรงเข้ามาหาฉันอีกด้วย

    ตึก ตัก... ตึก ตัก... หัวใจฉันมันกำลังเต้นแรง เมื่อเขาคนนั้นกำลังเดินเข้ามาใกล้

    พี่เกมส์...

    To Be Continued...

    หูยยย มารับกันแต่เช้าเลยนะเอออ!

    ฝากกุ๊กน้องพี่เกมส์ด้วยนะครับ ตอนนี้คัมแบล๊คและอัพความฟินบทนำให้อ่านกันแล้ว Let's Go!!!

    VVV 

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต

    #รักติดเกม 

    #ฟิคแฟนติดเกม

    #ฟิคเมียหลวงได้เมียน้อย

    จิ้มหน้าพี่เกมส์ไว้รอเจอกันชาร์ปหน้านะเออ
    VVVV
    VV

    { เรื่องอื่นของหนุ่มๆ ในสังกัด }

    ไม่เคยส่องหรือลองอ่านเรื่องไหน จิ้มได้น้า

          

         





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×