คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : GOODIE02 ll เป็นโจรครั้งที่2 {อัพ100%} นี่แฟนไง ตั๋วจำเค้าไม่ได้อ่อ?
-PRIK TALK-
คนเราทุกคนล้วนแล้วแต่มีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้ได้พบเจอในชีวิตกันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ตื้นตัน ตกใจ ดีใจ หรือเสียใจก็ตาม
ฉันเองก็เป็นอีกคนที่ชีวิตนี้ได้ประสบกับเรื่องเซอร์ไพรส์มาบ้างเหมือนกัน
เรื่องเซอร์ไพรส์แรกสำหรับฉันคือการได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งระหว่างเดินทางไปเรียนหนังสือจนเกิดเป็นความรักและคำสัญญา
‘เราจะได้เจอกันอีกไหม?’
‘ต้องได้เจอสิ’ การที่เราคบกันได้นั้นมันเกิดจากพรหมลิขิตที่พัดพาให้เราได้พบกันในวันเปิดภาคเรียน
‘ต่อให้เฮาบ่ฮู้ว่าตั๋ว
แต่เฮามั่นใจว่า ถ้ามีโอกาสได้เจอตั๋วอีก เฮาจะจำตั๋วได้แน่นอน!’
เพราะมันคือเรื่องที่แสนวิเศษเหลือเกิน
ฉันจึงไม่มีทางปล่อยพรหมลิขิตของตัวเองหลุดมือเป็นอันขาด
จนกระทั่งได้พบเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ครั้งที่สอง
‘อ้ายก็อตจะทิ้งน้องย้ายกลับไปกรุงเทพฯจริงๆกา?’
‘ทิ้งอะไรคะ
พี่ไม่ทิ้งพริกหรอก…’ ฉันยังจำเสียงคุ้นเคย ฝ่ามืออุ่นและรอยยิ้มใจดี
กับแววตาที่มองฉันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของเขาได้ไม่ลืม ‘ถึงเราจะอยู่ไกลกัน แต่พี่สัญญา พี่จะไม่มีทางนอกใจพริกเด็ดขาด’
‘อ้ายก็อตอย่ามาขี้จุ๊!
คำอู้คนกรุงเชื่อใจ้บ่ได้!’ ฉันไม่เชื่อคำพูดของหนุ่มเมืองหลวงหรอก
เพราะใครๆ ต่างก็บอกกันว่าคนเมืองกรุงเจ้าชู้ แต่กับอ้ายก็อตมันต่างออกไป
‘ถ้าไม่เชื่อ
เอางี้ไหมคะ ถ้าน้องพริกจบม.6 เมื่อไหร่
ย้ายเข้ามาเรียนมหา’ลัยเดียวกับพี่ เดี๋ยวพี่จะรอ’ เพราะคำพูดของอ้ายก็อตในตอนนั้นนั่นแหละ
ฉันก็เลยพยายามเรียนอย่างหนักเพื่อตามเขามาเรียนในกรุงเทพฯ ตามคำสัญญา
หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันมา 4 ปี
ส่วนเรื่องเซอร์ไพรส์ครั้งที่สามนั้น…
ซ่าา ซ่าาา…
เสียงน้ำฝักบัวภายในห้องปลุกฉันตื่นจากการหลับใหลที่ยาวนาน
วินาทีที่ปรือตาขึ้น อาการปวดหนึบตามร่างกายก็เริ่มจู่โจมเข้าใส่ทันที
และพอเริ่มขยับตัว
แปล๊บ…
อาการจุกเจ็บบริเวณช่วงท้องน้อยก็ออกอาการรุนแรงขึ้น จนต้องหยุดชะงักไปทุกส่วน ก่อนพบว่าร่างกายฉันตอนนี้ตกอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าห่มผืนหนาเท่านั้นที่ช่วยปิดบังความน่าอาย
สภาพของตัวเองที่ปรากฏอยู่ในเวลานี้ เริ่มทำฉันทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มไหลย้อนเข้ามาในหัวเหมือนน้ำหลากและจบลงด้วยเสียงร้องน่าอายของหญิงชายคู่หนึ่ง
ทั้งภาพและเสียงที่ผ่านเข้ามา ทำฉันรีบเหลียวมองพื้นที่ว่างเปล่าบนเตียง
จนได้พบหลักฐานสำคัญที่บอกได้ว่าร่างกายฉันได้ถูกครอบครองเป็นของใครอีกคนในห้องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผิดผี!
ฉันสบถในความคิดด้วยความตกใจ
เมื่อตระหนักได้ว่าเมื่อคืนฉันกับอ้ายก็อตได้พลาดทำเรื่องอย่างว่าลงไป เมื่อคืนนี้
จำได้ว่าเรานั่งคุยกันเรื่องอองตอง จากนั้นก็นึกอะไรไม่ออก ส่วนไอ้เรื่องที่จำออกก็ดันมีแต่เรื่องลามก
ให้ตายเถอะ! มากรุงเทพฯ ยังไม่ถึงหนึ่งวันดี
ฉันก็กลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว ถ้าอีแม่รู้เรื่องนี้ขึ้นมา ต้องถูกเฆี่ยนตายแน่ๆ TOT
“น้องพริกตื่นแล้วเหรอคะ!?” ฉันสะดุ้ง เมื่อมีเสียงหนึ่งตะโกนดังออกมาจากห้องน้ำ และใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีเพื่อตั้งสติรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งตะโกนตอบกลับไป
“คะ…ค่ะ!” ทำยังไงยังดี
ฉันควรจะทำหน้ายังไงตอนคุยกับเขาดี
ถึงเราจะเป็นแฟนกันอยู่แล้วก็เถอะ
แต่เรื่องแบบนี้น่ะ จะให้ทำตัวปกติได้ยังไงกันล่ะ…
“พี่แต่งตัวแป๊บหนึ่งนะคะ
เดี๋ยวออกไปหา” ฉันเม้มปากลงด้วยความลังเล
สายตากวาดมองหาข้าวของของตัวเองอย่างเช่นเสื้อผ้าที่น่าจะถูกถอดกองเอาไว้แถวๆ
นั้นแต่มันกลับว่างเปล่า
ที่เห็นชัดที่สุดก็คงจะเป็นโทรศัพท์มือถือของฉันเครื่องเดียว
เมื่อไม่มีทางเลือกฉันจึงรีบเอี้ยวตัวเอื้อมหยิบโทรศัพท์เครื่องสำคัญมาไว้กับตัว
บนหน้าจาขึ้น Miss call จำนวนหลายสาย
ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอในตอนที่กดเข้าไปนั้นมีรายชื่อของแม่ปนอยู่ประมาณ 2 สาย แต่ทว่า ที่เหลือมันดันเป็นสายที่ไม่ได้รับและข้อความจาก ‘อ้ายก็อต’ ทั้งสิ้น
อ้ายก็อต :: เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเมื่อคืนทำไมไม่รับสาย
คิ้วขมวดย่นชิดเป็นปมโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นข้อความดังกล่าว
แต่ยังไม่ทันได้พิมพ์ข้อความตอบโตกลับไป ฉันก็ต้องเป็นฝ่ายสะดุ้ง เมื่อจู่ๆ
โทรศัพท์ในมือสั่นอย่างรุนแรงซึ่งนั่นตามมาด้วยข้อความใหม่
อ้ายก็อต :: พริกอยู่ที่ไหนเนี่ย ทำไมไม่รับสาย
ไม่ตอบแชทพี่?
อะไรกันของอ้ายก็อตหนา
หรือว่าตั้งใจยะกันให้อาย?
คนบ้า! แค่นี้มันยังไม่น่าอายอีกหรือไง!
แกร๊ก…
เสียงเปิดประตูทำฉันละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มองไปที่ต้นเสียง ก่อนพบเข้ากับผู้ชายที่ฉันคุ้นหน้าดี ในสภาพเปลือยท่อนบนสวมเพียงบ็อกเซอร์สีเข้ม กำลังเดินเช็ดผมออกมา
คนตัวใหญ่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเราเผลอสบสายตากัน
จนต้องเป็นฝ่ายละสายตาด้วยความเขิน รีบกำกระชับผ้าห่มผืนหนาคลุมร่างกายในชุดวันเกิดโดยไม่ลืมถามสิ่งที่สงสัยอยู่ในหัวออกไป
“อะ
อ้ายก็อตเล่นอะไรคะ ส่งข้อความแบบนั้นมาทำไม?” ไม่รู้ว่าตอนพูดหน้าฉันมันแดงไปถึงไหน
ถึงได้ทำให้ผู้ชายตรงหน้าหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมคำตอบ
“อยากส่งค่ะ” ไม่ใช่แค่นั้นแต่อ้ายก็อตยังรีบสาวเท้าเดินตรงมาหาฉัน
เขาปีนขึ้นมาบนเตียงและฉวยโอกาสสวมกอดฉันเอาไว้แน่น
ฟึ่บ! ขวับ!
“อยากส่งหาเมียทุกวันไม่ได้เหรอ?” ประโยคต่อมาถูกเอ่ยขึ้นชิดติดใบหู
พานให้ร่างทั้งร่างร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีอย่างห้ามไม่ได้
เมื่อทำตัวไม่ถูก
ฉันจึงรีบใช้มือดันตัวเขาออกห่างและเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะไม่กล้ามอง
ก่อนที่คำพูด การกระทำ
รวมไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราจะทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง
โดยใช้ข้ออ้างที่ว่า
“อย่าเรียกแบบนี้สิคะ
มันผิดผี”
“ไม่ผิดหรอกค่ะ ถ้ายังไม่ได้กัน
พี่ไม่เรียกเราแบบนี้หรอกนะ” ว่าแล้วเขาก็ใช้กำลังดึงฉันเข้าไปกอดไว้อีกครั้ง
แถมยังขโมยหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ ทำเหมือนเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามันอย่างงั้นแหละ
Rrrrrr
แต่จู่ๆ
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เสียงดังกล่าวขัดช่วงเวลาอบอุ่นระหว่างเราลง
พานให้สายตาเหลือบมองไปยังต้นเสียงที่อยู่ในมือ และในตอนนั้นเองบรรยากาศหวานๆ
เคล้าความอบอุ่นในแบบของคนรักระหว่างฉันกับอ้ายก็อตก็ต้องเปลี่ยนไป
เมื่อชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ในตอนนี้มันดันขึ้นว่า
‘อ้ายก็อต’
ฉันเหลียวมองหน้าเจ้าของรายชื่อซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าจอด้วยความแปลกใจ
ส่วนปากก็ขยับถามโดยอัตโนมัติ
“อ้ายก็อตโทรหาหนูทำไมคะ?” แต่ว่าคนถูกถามกลับขยับยิ้มส่งกลับมาให้แทนคำตอบ เขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
แต่เลือกที่จะนั่งนิ่งๆ จนกระทั่งเสียงเรียกเข้าเงียบลงไป
รู้อะไรไหม
ท่าทางของเขาในตอนนี้น่ะ ทำฉันไม่กล้าที่จะลดสายตาไปจากเขาเลย จนกระทั่ง
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นเป็นหนที่สองโดยที่รายชื่อบนหน้าจอปรากฏเป็นชื่อ ‘อ้ายก็อต’ อีกครั้ง
“ไม่รำคาญเสียงเรียกเข้าเหรอ?” คำถามแปลกๆ ของเขาสร้างความแปลกใจให้กับคนฟังแบบฉันเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่แค่นั้นแต่อ้ายก็อตยังฉวยโอกาสดึงโทรศัพท์ออกไปจากมือฉัน
ก่อนกดตัดสายจนเสียงเงียบลง
“โทรศัทพ์อ้ายก็อตรวนเหรอคะ?”
“เปล่านี่คะ
โทรศัพท์พี่ยังใช้งานได้ปกติ…” คำตอบของอ้ายก็อตในคราวนี้นิ่ง
ราบเรียบ หากแต่ทำให้รู้สึกกดดันได้อย่างไม่มีเหตุผล แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเพิ่ม
ก็เป็นเขานั่นแหละที่ออกปากพูดออกมาเอง “หิวน้ำไหม เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้”
ถามจบอ้ายก็อตก็ผละตัวออกจากห่างแล้วลงไปจากเตียง
เขาไม่ได้รอคำตอบจากฉันแต่เลือกจะทำตามใจตัวเอง
เขาเดินปลีกตัวหายเข้าไปในห้องครัวเล็กๆ ที่อยู่ติดกัน
และตอนนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือเริ่มส่งดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ฉันไม่รอให้อ้ายก็อตแกล้งปั่นประสาทได้อีกต่อไปแล้ว
อีกทั้งยังทางสะดวกฉันรีบเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดรับสายทันที
“อ้ายก็อต
เลิกโทรแกล้งหนูสักที!”
[อะไรนะ?] น้ำเสียงที่ตอบกลับมาจากปลายสาย
ทำฉันชะงักนิ่งไปโดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายย้อนกลับมา [พริกพูดถึงเรื่องอะไร?]
“อ้ายก็อตนั่นแหละอู้อะหยังอยู่?”
[พริกนั่นแหละ
พูดอะไร?] น้ำเสียงของพี่ก็อตที่ได้ยินจากปลายสายทำฉันนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก
เสียงของเขาฟังดูโกรธแบบแปลกๆ [พริกกำลังเล่นตลกอะไรกับพี่อยู่คะ?]
ได้ยินเพียงเท่านั้น
สายตาก็เหลือบมองไปยังห้องเล็กที่ผู้ชายซึ่งถูกเรียกว่าอ้ายก็อตเดินหายเข้าไปทันทีอย่างไร้เหตุผล
เงาไหวๆ ของเขาที่เดินผ่านไปมาภายในห้องนั้นยิ่งสร้างความแปลกใจให้ฉันเข้าไปใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปลายสายเอ่ยปากถามขึ้น
[ตอนนี้พริกอยู่ไหน
เมื่อคืนทำไมไม่รับสายพี่?]
“คือหนู…” เสียงของฉันที่พยายามจะอธิบายให้ปลายสายได้ฟังเงียบหายเข้าไปในลำคอ
ก่อนเปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในหัวด้วยคำถามใหม่ “ตะ
ตอนนี้อ้ายก็อตอยู่ที่ไหนคะ?”
[ทำไมชอบยอกย้อนนักนะ] ปลายสายพูดเสียงเหนื่อยหน่าย ก่อนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังแอบใครคุยสอดคล้องกับคำตอบที่อีกฝ่าย
[พี่อยู่ในห้องประชุมที่มหา’ลัย
นี่แอบอาจารย์คุยอยู่ แล้วพริกล่ะอยู่ไหนกันแน่?]
กึก!
เสียงกระแทกประตูทำฉันสะดุ้งตัวโยน
รีบละโทรศัพท์ลงจากหู หันมองไปยังต้นเสียง ก่อนต้องพบเรื่องที่น่าตกใจ
เมื่อผู้ชายที่ฉันเข้าใจว่าเป็นอ้ายก็อตกำลังยืนเอนหลังพิงกับขอบประตู
พร้อมด้วยคำถามสั้นๆ
“มองทำไมคะ
ไม่คุยธุระต่อให้เสร็จล่ะ?” อ้ายก็อตที่ฉันมองเห็นจากตำแหน่งบนเตียงนอนไม่ได้ถือโทรศัพท์ไว้ข้างหูอย่างที่ควรจะเป็น
เพราะแบบนั้นฉันก็เลยก้มมองโทรศัพท์มือถือที่คุยค้างเอาไว้ ช่วงวินาทีเดียวที่ละสายตาไปจากหน้าจอโทรศัพท์
พอหลุบสายตากลับไปมองก็พบว่าอ้ายก็อตได้วางสายไปแล้วเหมือนกัน
ตึก... ตึก... ตึก…
สายตาถูกดึงดูดให้มองร่างสูงของผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง
เมื่อหูได้ยินเสียงฝีเท้าและเขาที่เริ่มก้าวเดินตรงกลับมาที่เตียงพร้อมคำถาม
“เมื่อกี้ใครโทรมาเหรอคะ” ความแคลงใจในประโยคที่ได้ยินผ่านสายโทรศัพท์เมื่อครู่
เผลอทำฉันกระชับผ้าห่มคลุมกายแน่นพร้อมทั้งถดตัวถอยห่างอย่างอัตโนมัติ
เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
เขาเองก็คงรับรู้ถึงการตอบสนองของฉันล่ะมั้งถึงได้ถามออกมาอีกครั้ง
เสียงเดิม
“เป็นไรไปคะ พี่ถามทำไมไม่ตอบ”
ฉันอาศัยโอกาสในตอนนั้นกวาดสายตาสำรวจไปทั่วใบหน้าหล่อเหลาแสนคุ้นเคยอย่างพิจารณา
ไม่ว่าจะนัยน์ตาเรียวรีมีเสน่ห์ คิ้วเข้ม จมูก ริมฝีปากหรือเรือนผมที่ยามนี้ถูกทำสีเหมือนเปลือกมะนาวนั่น
ต่อให้จะมองมุมไหนเขาก็คืออ้ายก็อตจริงๆ แต่ว่า
‘พี่อยู่ในห้องประชุมที่มหา’ลัย นี่แอบอาจารย์คุยอยู่ แล้วพริกล่ะอยู่ไหนกันแน่?’ อ้ายก็อตที่มักจะส่งข้อความและโทรมาฉันสม่ำเสมอดันพูดผ่านสายออกมาแบบนั้น
“ว่าไงคะ
สรุปแล้วใครโทรมา” คำถามเดิมถูกพ่นออกจากปากคนตัวสูงตรงหน้าอีกครั้ง
เตียงทั้งหลังยวบลงเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าทิ้งตัวลงนั่งขณะใช้สายตาจ้องมองฉันราวกับจะเค้นเอาคำตอบ
ที่กระตุกใจฉันให้สับสนยิ่งเข้าไปใหญ่ก็คงจะเป็นรอยยิ้มร้ายๆ
ของเขาในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
ฉันชั่งใจอยู่ครู่สั้นๆ
กับหลายคำถามและข้อสงสัยที่เริ่มประดังประเดเข้ามาในหัว ทำฉันไม่มีทางเลือก
จำต้องกลั้นใจตอบเขากลับไปสั้นๆ
“อ้ายก็อต…” พูดจบบรรยากาศระหว่างเราก็เงียบลงทันที
ผู้ชายตรงหน้าที่ฉันคิดว่าเขาคือแฟนสุดที่รักนิ่งไป
ไม่ได้แสดงท่าทางตกใจหรือออกอาการใดให้เห็น
แต่ท่าทางทั้งหมดนั่นไม่ได้รวมถึงการเหยียดยิ้มมุมปากซึ่งแสดงออกถึงความพึงพอใจคำตอบที่ได้รับ
“แล้ว…ไอ้ก็อตมันโทรมาว่ายังไงบ้างคะ?” หัวใจฉันกระตุกวูบตกไปอยู่ที่ตาตุ่มอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเขาเอ่ยถามเสมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ
ยิ่งต้องสบตากับเขาด้วยแล้วฉันก็ยิ่งสั่นไปหมด
พยายามกักกลั้นความสับสนที่มีให้สงบลง ทว่า
อีกฝ่ายดันถามขึ้นอีกหนเหมือนจงใจจะแกล้งและตอกย้ำกัน
“ไอ้ก็อต
มันได้ถามถึงพี่หรือเปล่า” แถมยังถามย้อนกลับมาเหมือนว่าเขารู้จักกับอ้ายก็อตดี
หน้าฉันมันตึงไปหมด
ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังแสดงสีหน้าออกไปแบบไหนด้วยซ้ำ หลังจากที่ได้ฟังคำถามนั่น
รู้อีกทีปากของฉันก็กำลังขยับถามเขาออกไปด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า
“คะ คุณเป็นใคร…”
ช่องว่างระหว่างเราถูกความเงียบเข้าแทรกเป็นหนที่สอง
ผู้ชายที่ฉันเชื่ออย่างสนิทใจว่าเป็นแฟนสุดที่รัก ขยับยิ้มละมุนละไม พลางขยับเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้
จนอีกฝ่ายสามารถลูบฝ่ามือลงบนเรือนผมได้ในที่สุด
“ทำไมถามแบบนี้ล่ะคะน้องพริก…” ซึ่งนั่นตามมาด้วยคำตอบที่ฟังแล้วคล้ายกับอยากทำให้ฉันสบายใจ
“นี่ก็ผัวไง
ที่เราได้เสียกันเมื่อคืนอ่ะ...”
ซะที่ไหนล่ะ…
“ตั๋วจำเค้าไม่ได้เหรอ?”
To Be Continued...
ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%
1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย
ติดแท็กในทวิต #ผู้ชายสายโจร
ความคิดเห็น