ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DEMONIC JOKER ll วิปลาสคลั่งรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : Joker00 ll เหตุผลที่ต้องปะทะJOKER {อัพ100%} เป็นตัวอะไรแน่!?

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.พ. 60




    Prologue
    -บทนำ-



    I am silly guy but I am not goofy guy
    เป็นคนตลกแต่ไม่ใช่ตัวตลก





                  สายลมแรงๆ ในช่วงกลางดึกคืนหนึ่ง พัดผ่านร่างของหญิงสาวซึ่งเอาแต่ยืนตัวสั่น จับจ้องสายตาไปยังร่างสูงของชายหนุ่มในสภาพของตัวตลก JOKER ราวกับต้องมนต์

              ผู้ชายซึ่งมักปรากฏตัวในยามวิกาล เขามักจะปรากฏตัวต่อหน้าเหยื่อที่เป็นหญิงสาวเท่านั้น แน่นอนว่าการปรากฏตัวได้ถูกเขากำหนดไว้แล้ว

                   บ้างก็ว่าเขาคือชายโรคจิตแต่งกายประหลาด จิตใจวิปลาสที่คอยล่อลวงหญิงสาวไปทำเรื่องไม่ดี บ้างก็ว่าเขาคือซาตานในร่างจำแลงซึ่งมักลงมาหลอกล่อเหยื่อบริสุทธิ์ให้ทำสัญญาขายวิญญาณแลกกับความปรารถนา ก่อนที่เขาจะพรากทุกสิ่งไปจากชีวิตของเหยื่อ

              แม้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้จะมีชื่อเสียงน่ากลัวและไม่น่าเข้าใกล้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นที่พูดถึงในวงกว้างและเป็นที่สนใจของใครหลายๆ คนที่หวังได้พบตัวตนของเขาสักครั้ง...

              รองเท้าหนังสีดำปลายแหลมย่างเหยียบลงบนพื้นดินพร้อมด้วยเสียงฮัมเพลงที่มักได้ยินกันในโรงละครสัตว์ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายหากเปื้อนเปรอะด้วยรองพื้นสีขาวเหมือนสีชอล์กกับริมฝีปากซึ่งเหยียดยิ้มอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าเขาคือคนที่มีความสุขที่สุดบนโลกไม่น่าพิสมัยใบนี้

              “Well Wellดูสิ ว่าฉันเจอใคร~คำทักทายน้ำเสียงติดตลกอย่างไม่คิดอะไรเอ่ยขึ้นเมื่อชายตัวสูงหยุดเท้าลงบริเวณเบื้องหน้านักศึกษาหญิง

    ร่างเล็กตัวสั่นเทายิ่งกว่าเก่า เมื่อฝ่ามือเย็นเฉียบของชายเบื้องหน้าเอื้อมแตะลงบนแก้มเนียน ก่อนเกลี่ยปลายนิ้วลากไปตามโครงหน้าเรียวสวยจนกระทั่งหยุดลงบริเวณปลายคาง

    คนสวยแห่งคณะบัญชี... พลอยเฌอ...

    อ๊ะ...หญิงสาวหลุดเสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อปลายคางถูกบีบกระชาก บังคับขึ้นให้เงยสบสายตากับนัยน์ตาคมดุจดั่งปีศาจของชายแปลกหน้าแบบตรงๆ

    นั่นยิ่งทำให้เธอสั่นเทิ้มยิ่งขึ้นกว่าเก่า ถึงแม้จะมีนักศึกษาหลายคนต้องการพบตัวตนที่แท้จริงของ JOKER ก็ตาม แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่เธออย่างแน่นอนและการพบกันในเวลานี้ ก็กำลังทำให้เธอกลัวเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อที่เขาหมายตา

    อยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ...เสียงหวานซึ่งเคยมั่นอกมั่นใจมากกว่านี้กำลังสั่น ไม่ต่างอะไรจากร่างกายตอนนี้เลยสักนิด

    ยิ่งเธอแสดงอาการหวาดกลัวมากเท่าไหร่ นั่นยิ่งทำให้คนที่เห็นแสยะยิ้มอย่างคนมีความสุขมากเท่านั้น และปลอบเธอด้วยน้ำเสียงขี้เล่นเดียวกับที่คนทั้งคู่พบกับกันครั้งแรก

    “Everything’s under Control~ OK? (ทุกอย่างเป็นปกติดี เข้าใจนะ?)

    หญิงสาวเข้าใจความหมายที่โจ๊กเกอร์พูดแต่จากน้ำเสียงและท่าทางที่เขาแสดงออกนั้นมันดูตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง น้ำเสียงขี้เล่นแต่แฝงไว้ด้วยความโกรธแค้นบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ

    “Let’s play~ (มาเล่นกันเถอะ)” เสียงเชื้อเชิญของปีศาจดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อชายในชุดโจ๊กเกอร์โน้มใบหน้าลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กก่อนจรดริมฝีปากจุมพิตบนใบหูแสดงความปรารถนาของตัวเองให้เหยื่อในกำมือได้ทราบ และนั่นคงเป็นวันที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังจะมีรายชื่อของนักศึกษาหญิง พลอยเฌอจากคณะบัญชีปรากฏให้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย

    นับจากคืนนี้สิ้นสุดลง...



    -SUAY TALK-

          @มหาวิทยาลัยเอกชน A

     เวลา 16.40 น.

              “นี่แกรู้ยัง ว่ายัยพลอยเญอ คนสวยคณะบัญชีลาออกไปแล้วนะ

              “เอ้า ทำไมอ่ะ?”

              เขาลือกันว่ายัยนั่นไปเจอกับ JOKER มาน่ะสิ ซวยชะมัดเลยเนอะว่าไหม?

              ข้อดีของการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนระดับชั้นแนวหน้าของเมือง คือการได้อยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้คนที่ชอบพูดเรื่องของชาวบ้านให้ได้ยิน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องข้องเกี่ยวกับสังคมดังกล่าวไปด้วย เพียงแค่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในมุมที่เหมาะสมเท่านั้น ก็สามารถรู้ข่าวสารของผู้คนในมหาวิทยาลัยได้ไม่ยาก

              นี่สวย เมื่อไหร่จะเลิกอ่านหนังสือน่าขนลุกนั่นสักทีอ่ะคำถามที่มักได้ยินประจำนับตั้งแต่เรียนอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ทำฉันลดคู่มือเรียกปีศาจในมือลง เหลือบมองเจ้าของคำถามอย่าง ทิชาและเตรียมที่จะตอบ  

    เออนั่นดิ อ่านอะไรแบบนี้อยู่ได้ ไม่กลัวเหรอ?” ‘เกรซอาศัยจังหวะที่ทิชาพูด เสริมขึ้นมาอย่างเห็นด้วย

    ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน น่าค้นหาจะตายไป ทุกคนพร้อมใจกันเบะปากทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ ก่อนที่ทิชาจะว่าขึ้นเป็นหนที่สองกึ่งประชดประชัน

              เสพเรื่องพวกนี้มาก ระวังเถอะไอ้ที่อยู่ในหนังสือจะมาเอาตัวไปคราวนี้ ยะหยาหญิงสาวอีกคนพูด

              “ถ้ามาจริงก็ดีสิ ฉันอยากเจอตัวเป็นๆ สักครั้งเหมือนกันส่วนข้อเสียของการอยู่ท่ามกลางสังคมแบบนี้ ก็คงเป็นเรื่องที่ เราเองต้องตกเป็นเรื่องที่คนกลุ่มนั้นสอดรู้สอดเห็นไปด้วย

    ให้ตายสิ นี่เธอติดเชื้อโรคจิตมาจากไอ้ติ๋มนั่นมาเหรอ... บอกแล้วใช่ไหมให้ย้ายออกจากหออาถรรพ์นั่นซะทิชาเริ่มต่อว่าโดยอ้างอิงไปถึงใครอีกคนซึ่งถูกคนทั้งมหาวิทยาลัยประณามว่าเป็น ไอ้ โรคจิต ที่ชอบแอบดูและถ้ำมองนักศึกษาหญิงทำกิจกรรมส่วนตัว

    บ้านเธอก็รวยนี่ ซื้อคอนโดหรูๆ อยู่สักห้องคงไม่กระทบเงินในบัญชีหรอกมั้งนอกจากจะสอดรู้และช่างเม้าท์เรื่องคนอื่นแล้ว พวกเธอทั้งหมดยังเจ้ากี้เจ้าการเสมือนเป็นคนในครอบครัว ทางเดียวที่จะหนีจากเรื่องน่ารำคาญใจนี้ได้คือการพาตัวออกจากวงสนทนาไปซะ โดยทิ้งท้ายไว้อีกวันตามมารยาทว่า

    กลับก่อนนะ เดี๋ยวเจ้าของหอจะบ่นเอา ไม่ต้องรอเสียงตอบรับจากวงสนทนา ฉันรีบเก็บข้าวของของตัวเองลุกออกจากวงจรสวมหน้ากากทันที เหตุผลที่เรียกแบบนั้นก็เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้กลุ่มนี้รวมตัวกันได้คงเพราะหน้าตาอันเป็นที่พูดถึงของคนในมหาวิทยาลัยนั่นแหละ 

    พวกเราเรียนปีเดียวกันแต่ต่างสาขาวิชาที่เรียน ว่าคร่าวๆ ก็ ทิชาเรียนนิเทศฯ ยะหยาเรียนอักษร เกรซเรียนออกแบบดีไซน์ ส่วนฉันเรียนจิตวิทยา ซึ่งไลฟ์สไตล์ของพวกเธอที่วันพูดเรื่องคนอื่นและแข่งขันกันสวย ค่อนข้างขัดแย้งกับความชอบของฉันอย่างมาก สาเหตุที่ฉันต้องมาเรียนที่นี่ก็เพื่อมาเจอปีศาจที่คนทั้งเมืองกล่าวถึงอย่าง คำรามและ โต’ เท่านั้น

    ความหลงใหลในเรื่องสิ่งเร้นลับทำให้ฉันอยากลองมีโอกาสได้ยืนเคียงข้างปีศาจสักครั้งแม้ว่าตลอดเวลาเกือบ 3 ปีฉันจะไม่เคยได้ทำเลยสักครั้งก็ตาม แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแอบซ่อนอยู่ เพราะหอในซึ่งถูกสร้างไว้ภายในมหาวิทยาลัย (ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย) มีข่าวลือเรื่องผีผู้หญิงซึ่งในอดีตถูกคนร้ายฆ่าตาอยู่ภายในหอ จนวิญญาณไม่สามารถไปสู่สุขติได้และเกิดเป็นอาถรรพ์ ทำให้ทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถรื้อหอดังกล่าวออกได้

    พอรู้แบบนั้น ฉันจึงไม่รอช้าที่จะพาตัวเองเข้าไปพักอยู่ที่หอดังกล่าวเพื่อพิสูจน์อาถรรพ์ที่ว่านั่นทันที ถึงไม่เคยเห็นด้วยตา แต่ก็ยังมีข่าวลือที่ช่วยให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งยามที่ได้ยินชื่อของ JOKERอยู่ดี

    ไม่มีใครบอกได้ว่า JOKER เป็นใครมาจากไหน บ้างก็พูดกันว่าเป็นผู้ชายโรคจิตที่ชอบล่อลวงหญิงหญิงสาวไปทำมิดีมิร้าย บ้างก็ลือกันว่าเขาคือร่างจำแลงของซาตานที่ขึ้นมาบนโลกเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้ทำสัญญาขายวิญญาณแลกกับปรารถนาที่เหยื่อต้องการ

              และนี่แหละคือ 3 สิ่งที่ทำให้ฉันยังอยากอยู่ที่นี่ต่อไป...

    บรรยากาศรอบหอพักค่อนข้างวังเวง ล้อมรอบต้นไม้สูงใหญ่ราวกับอยู่ในป่า ฉันใช้เวลาเดินจากตัวมหาวิทยาลัยเดินไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง ที่หอแห่งนี้มีนักศึกษาบางจำพวกเท่านั้นที่อาศัยอยู่ ถ้าไม่กลัวเรื่องผีก็เป็นพวกหมกมุ่นกับเรื่องแปลกๆ ไม่ก็โลกส่วนตัวสูงทั้งนั้น

    ห้องพักหมายเลข 407

    แกร๊ก...

    สะ สวย!”

    ทันทีที่ฉันไขประตูห้องพักเข้าไป เสียงเข้มของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างลนลาน เขารีบใช้มือควานหาผ้าห่ม ดึงขึ้นปิดบังร่างกายท่อนล่างของตัวเองในสภาพเหงื่อไหลไคลย้อย ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าก่อนหน้าที่ฉันจะมาถึง เขากำลังทำอะไร

    เนื่องจากหอพักแห่งนี้เป็นหอรวม และมีห้องพักเพียงบางห้องเท่านั้นที่เปิดให้บริการเช่า ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากว่าภายในหนึ่งห้องจะมีนักศึกษาพักอยู่รวมกัน 2 คนไม่เพศเดียวกันก็ต่างเพศ

    ส่วนฉันนั้นพักอยู่ร่วมห้องกับ เกอร์ชายหนุ่มท่าทางขี้ขลาดสวมแว่นตาหนาเตอะ เขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนมากจะอยู่ตัวคนเดียวเพราะเป็นรังเกียจของคนทั้งมหาวิทยาลัย ในตำแหน่งของ โรคจิตและ พวกถ้ำมองวันๆ เขาหมกมุ่นเรื่องเซ็กซ์มากกว่าวิชาที่ต้องเรียนเสียอีก

    และใช่! เขานี่แหละคือไอ้ติ๋มที่ทิชาพูดถึง

    นายเนี่ยไม่รอบคอบเลยนะ ถ้าคนที่เปิดเข้ามาไม่ใช่ฉันจะทำยังไง

    ระ เราขอโทษ” เขาเป็นพวกวิกลจริตก็จริง แต่ถ้าได้ลองคุยด้วยแล้ว เขาก็เป็นผู้ชายที่ติ๋มมากคนหนึ่งขัดกับความชอบของตัวตนเขาโดยสิ้นเชิง

    ถึงฉันกับเกอร์จะอาศัยอยู่ห้องพักเดียวกัน แต่ระหว่างเตียงนอนของเราก็มีข้าวของจำพวกชั้นวางหนังสือรวมไปถึงโต๊ะเครื่องเขียน สำหรับใช้สุมหัวทำการบ้านข้างกลางไว้บริเวณกลางห้อง เตียงของเกอร์ชิดกับผนังทางซ้าย ส่วนเตียงฉันชิดกับผนังทางขวา

    แม้ระยะห่างเตียงของเราจะมีข้าวของกั้นแบ่งอาณาเขตไว้ ถึงอย่างงั้นเราก็ยังมองเห็นทุกอิริยาบถของกันแลกันผ่านช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือ หรือจากมุมโต๊ะเครื่องเขียนอยู่ดี

    ฉันเดินแยกมาทางฝั่งที่นอนตัวเอง วางข้าวของที่สะพายไว้ลงกับเตียงโดยรู้สึกถึงสายตาโรคจิตของเกอร์ซึ่งจับจ้องอยู่ตลอดเวลา เพราะเราอยู่ด้วยกันแบบนี้มาปีกว่าแล้วฉันจึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรกับความชอบของเขา อีกอย่างเขาเองก็ไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจความชอบของฉันเช่นกัน

    วันนี้ได้ไปทำเรื่องโรคจิตใส่เด็กปีหนึ่งมาหรือเปล่า?” ฉันถามและทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงโดยหันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย มองลอดช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือเพื่อดูท่าที

    ปะ เปล่า เราไม่ได้ทำอะไร” เกอร์มักชอบแสดงท่าทีเกร็งๆ เวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิง รวมถึงต่อหน้าฉันเช่นกัน

    ดีแล้ว ฉันรำคาญเวลาต้องฟังเรื่องของนาย…”

    อะ อื้อ... เราเข้าใจ เราจะพยายาม

    อ๋อแล้วก็...” เสียงของฉันเงียบลงในช่วงหนึ่งของประโยค และหรี่ตามองสายตาลับๆ ล่อๆ ของอีกฝ่ายที่แอบลอบมองเป็นพักๆ ก่อนจงใจขยับขาอย่างช้าๆ ในท่าไขว่ห้าง จนดึงดูดสายตาของรูมเมทซึ่งอยู่อีกฝากของห้องให้หันมอง “วันหลังรอให้ฉันกลับมาก่อน แล้วค่อยทำเรื่องงี่เง่าแบบนั้นในผ้าห่มเข้าใจไหม?”

    อะ...อื้อ... เข้าใจแล้ว เข้าใจ...อะ” ฉันส่ายหน้าเมื่อน้ำเสียงของอีกฝ่ายทำให้รู้ว่าเขาได้เริ่มทำเรื่องทุเรศทุรังใต้ผ้าห่มอีกครั้งโดยมีร่างกายฉันเป็นที่พึ่ง

    มือข้างถนัดเอื้อมหยิบโทรศัพท์ต่อเข้ากับเฮดโฟนและสวมมันเพื่อให้เสียงเพลงดังกลบเสียงอื้อในลำคอของผู้ชายร่วมห้อง ขณะมือเปิดหนังสือที่ชอบขึ้นอ่านเพื่อละความสนใจใจจากสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังทำ ซึ่งฉันไม่คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่คือเรื่องอุบาทว์แต่คิดว่ามันคือการช่วยรักษาและเยียวยามากกว่า

    จากที่พูดคุยกับเกอร์มา ทำให้รู้ว่า เขาเป็นผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศสูงหรือโรคสไตเรียซิส[1(Satyraiasis) และเขาสามารถปลดปล่อยความต้องการของตัวเองได้ทุกที่ ไม่ว่าจะภายในห้อง ห้องน้ำ ในมหาวิทยาลัยหรือแม้แต่ร้านขายของ ทางรักษาคนวิกลจริตอย่างเขา คือการชวนเขาซึ่งน่าจะมีแค่ฉันคนเดียวนั่นแหละที่คุยด้วย หรืออีกวิธีก็คือช่วยให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยความสุขของตัวเอง ก่อนที่ความต้องการของเขาจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอย่างที่แล้วมา...

              กระนั้นแล้ว ฉันก็ไม่ได้ช่วยรักษาเขาถึงขนาดใช้ร่างกายเข้าแลกแบบเนื้อแนบเนื้อหรอกนะ พูดให้ถูกก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นเพียงนัก(พยายาม)บำบัด กับคนไข้ทางจิตก็เท่านั้น เมื่อใดที่เขาบรรลุความต้องการของตัวจนเสร็จสิ้น เราทั้งคู่ก็จะกลายเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่ต้องใช้ห้องห้องนี้ร่วมกันเท่านั้น

              เขาใช้ชีวิตของเขา ส่วนฉันก็ใช้ชีวิตของฉันไม่เกี่ยวข้องกันอีก ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุย มีเพียงความเงียบราวกับว่าเราอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง...

              ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ฉันมักหาข้ออ้างพาตัวเองออกจากหอตอนดึก ไปร้านสะดวกซื้อหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อซื้อของอะไรสักอย่างและกลับเข้ามาในเวลา 4 ทุ่มนิดๆ ที่เรียกว่าเป็นข้ออ้างนั่นก็เพราะที่ทำไปทั้งหมดก็แค่อยากเจอสิ่งที่คนทั่วไปไม่ต้องการที่จะพบเท่านั้น

              ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณที่ใครๆ ล่ำลือหรือแม้แต่ชายปริศนาซึ่งถูกเรียกว่า JOKER ต่อให้สิ่งที่ทำยิงยาวมาเป็นระยะเวลาปีกว่าจะไม่ช่วยให้ฉันได้พบในสิ่งที่ต้องการเลยก็ตาม

    เรื่องการพบเห็นวิญญาณอาจเพราะโชคไม่เข้าข้าง แต่การที่ไม่เคยพบกับ JOKER นั่นคงเป็นเพราะฉันคงไม่ใช่เหยื่อที่เขาหมายตา จากที่เคยรับรู้เรื่องของชายปริศนาคนนี้ เขามักจะปรากฏตัวต่อหน้านักศึกษาหญิงที่ตกเป็นเหยื่อ อาจเป็นใครก็ได้ไม่เจาะจงรายบุคคล ซึ่งทุกคนบอกกันว่าใครที่ได้เจอกับ JOKER ล้วนแล้วแต่มีอันเป็นไป จำต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยทุกราย ยกตัวอย่างเช่นอดีตสมาชิกในกลุ่มสังคมใส่หน้ากาก ‘พลอยเฌอ’ ทุกคนจึงตั้งกฎว่าหากใครที่ได้พบเขาเข้า ให้รีบหนีไปซะ อย่าหลงพูดคุยหรือเชื่อคำพูดล่อลวง มิเช่นนั้นจะพบเจอกับเรื่องแย่ๆ

    หลายคนบอกว่าฉันโชคดีที่เดินเข้าออกตอนกลางคืนและไม่พบเขา แต่ฉันว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องน่าเบื่อ ความรู้สึกก็ประมานว่าเรากำลังเล่นเกมซ่อนแอบ ฉันทำหน้าที่หา ส่วนชายปริศนาทำหน้าที่ซ่อน ไม่ว่าพยายามหาตัวเขามากเท่าไหร่ ก็ไม่เจอ ยิ่งนานวันไปเกมที่เล่นก็ชักจะหมดความสนุก

    คืนนี้ก็คงเป็นอีกคืนที่ฉันคิดว่าเกมซ่อนหาไม่ได้สนุกอย่างคิดที่คิด ทว่า ดูเหมือนฉันจะคิดผิด!

    อีกเพียงไม่ถึง 5 ก้าวฉันก็จะสามารถพาตัวเองเข้าหอพักได้สำเร็จ แต่แล้วสิ่งที่ทำให้เท้าสองข้างหยุดลงโดยชะงักมันดันเป็นเสียงฮัมเพลงของละครสัตว์ ขณะที่ลมเอื่อยๆ ในยามค่ำคืนจะเริ่มกระโชกแรกพลอยให้ปลายผมยาวพัดปลิวไปตามแรงจนต้องใช้มือเกี่ยวเส้นผมที่ปรกหน้าลงและมองไปยังต้นเสียงด้วยความสงสัย

    ท่ามกลางแสงสว่างอันน้อยนิด ปรากฏร่างสูงในชุดสูทสีทึบ จังหวะนั้นเสียงฮัมเพลงก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ในทุกจังหวะฝีเท้าที่ชายคนดังกล่าวก้าวเข้ามาหา

    ใบหน้าของเขาขาวเหมือนสีชอล์คตามอย่างที่ใครๆ พูดไว้ ริมฝีปากสีแดงสดลากยาวไปจนถึงใบหูสองข้างราวกับว่าเขากำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลา นัยน์ตาถูกแต้มด้วยสีดำจนคล้ายกับลึกโบ๋ลงไปจนเห็นเพียงแววตาซึ่งสะท้อนกับแสงไฟ และเขากำลังปรบมือดังแปะๆ ตามจังหวะก้าวเดิน ด้วยมือหนึ่งที่สวมถุงมือแต่อีกมือเป็นมือเปล่า

    เอ๊ะโอ่~” เสียงเข้มออกแนวทะเล้นดังขึ้น ฟังแล้วรู้สึกตลกขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะนั่นฟังดูไม่ต่างอะไรไปจากรายการเด็กที่เคยดูสมัยเด็กเลยสักนิด

    แม้จะคิดแบบนั้นแต่ฉันก็ยังยิ้มมุมปากด้วยความดีใจ ที่คืนนี้มีโอกาสได้ถูกบุคคลปริศนาที่ใครๆ ต่างกลัวบุกเข้าทักทายแบบนี้

    ทายสิว่าคืนนี้ฉันเจอใคร~” เขาเอ่ยขึ้นเมื่อรองเท้างุ้มปลายแหลมหยุดลงตรงหน้า จนพอเห็นหน้าคร่าตาอีกฝ่ายชัดขึ้นพร้อมๆ กับหัวใจที่เริ่มเต้นรัวผิดจังหวะในยามที่ถูกนัยน์ตาคู่คมจับจ้องมา

    คิดว่าฉันเป็นใครล่ะ?” และในเวลาแบบนี้ฉันก็มีเพียงแค่คำถามเดียวเท่านั้นที่อยากเอ่ยถามเขากลับไปเป็นคำถามแรกเพื่อลดอาการตื่นเต้น “แล้วนายล่ะเป็นใคร...

    ...

    “JOKER หรือเทเลทับบี้?

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    หมายเหตุ
    [1] ที่จริงแล้ว โรคขาดผู้ชายไม่ได้นั้น ก็คือลักษณะของโรคนิมโฟมาเนีย (Nymphomania) ซึ่งเป็นอาการป่วยทางจิตประเภทหนึ่ง ที่ผู้ป่วยจะมีความผิดปกติในการควบคุมพฤติกรรมในเรื่องเพศ ทำให้เกิดความต้องการทางเพศมากกว่าปกติ (Hypersexuality)  คำว่า นิมโฟมาเนีย นั้นมาจากคำว่า "นิมโฟ (Nympho)" หมายถึงผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูง และ "มาเนีย (Mania)" ซึ่งหมายถึง ความคลั่งไคล้หรือความบ้าคลั่ง และเมื่อนำมารวมกัน "นิมโฟมาเนีย" จึงหมายถึงผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูงเกินปกติ หรือมีความคลั่งไคล้ในเรื่องเพศนั่นเอง สำหรับโรคนิมโฟมาเนียนี้ถูกจัดอยู่ในอาการป่วยขั้นรุนแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในหญิงและชาย
    แต่ผู้ป่วยชายจะถูกเรียกว่า "สไตเรียซิส (Satyriasis)" โดยนิมโฟมาเนียนั้นจะพบได้มากในผู้หญิง และผู้ชายที่เป็นพวกรักร่วมเพศ นอกจากนี้ ผู้ป่วยทางจิต หรือคนในครอบครัวมีประวัติป่วยทางจิต ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคดังกล่าวเช่นกัน ส่วนสาเหตุของโรคนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด 
    To Be Continued...

    เออ เป็นโจ๊กเกอร์หรือเทเลทับบี้ ตอบ! ความไม่กลัวอะไรของนางเอกน่ากลัวกว่าโจ๊กเกอร์อีกนะบอกเลย 55555

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต #ฟิคเมียโจ๊กเกอร์

    ll DIMONIC SET ll


        


    ll Character ll



    “อือ...เราชอบ
    เกอร์ {Ker}
    Cast by : Park Chanyeol

    “Why so Serious?
    โจ๊กเกอร์ {Joker}
    Cast by : Park Chanyeol



    “ฉันบ้าได้มากกว่าที่นายคิด”
    สวย {Suay}
    Cast by : Do Hweji


    “ไม่มีใครไว้ใจได้หรอกนะ
    ทิชา {Ticha}
    Cast by : Seo Seri

    “นังตัวร้าย!
    ยะหยา {Ya-ya}
    Cast by : Jungroo

    “งูเห่าเลี้ยงไม่เชื่องหรอก...
    เกรซ {Grace}
    Cast by : Park Sora



    “พี่ช่วยเธอได้นะ
    ตี๋ {Tee}
    Cast by : Xiumin
    “จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน งั้นก็จับตาย
    เพียงฟ้า {Piangfar}
    Cast by : Xiumin


    “ขอบใจที่อยากเจอ
    โต {Dtoh}
    Cast by : Kim Jisung

    “ไว้โอกาสหน้า...
    คำราม {Khamram}
    Cast by : Zico Block B

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้จิ้มที่หน้าพี่เกอร์ข้างล่าง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×