คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Joker00 ll เหตุผลที่ต้องปะทะJOKER {อัพ100%} เป็นตัวอะไรแน่!?
สายลมแรงๆ ในช่วงกลางดึกคืนหนึ่ง พัดผ่านร่างของหญิงสาวซึ่งเอาแต่ยืนตัวสั่น จับจ้องสายตาไปยังร่างสูงของชายหนุ่มในสภาพของตัวตลก JOKER ราวกับต้องมนต์
ผู้ชายซึ่งมักปรากฏตัวในยามวิกาล เขามักจะปรากฏตัวต่อหน้าเหยื่อที่เป็นหญิงสาวเท่านั้น แน่นอนว่าการปรากฏตัวได้ถูกเขากำหนดไว้แล้ว
บ้างก็ว่าเขาคือชายโรคจิตแต่งกายประหลาด จิตใจวิปลาสที่คอยล่อลวงหญิงสาวไปทำเรื่องไม่ดี บ้างก็ว่าเขาคือซาตานในร่างจำแลงซึ่งมักลงมาหลอกล่อเหยื่อบริสุทธิ์ให้ทำสัญญาขายวิญญาณแลกกับความปรารถนา ก่อนที่เขาจะพรากทุกสิ่งไปจากชีวิตของเหยื่อ
แม้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้จะมีชื่อเสียงน่ากลัวและไม่น่าเข้าใกล้
ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นที่พูดถึงในวงกว้างและเป็นที่สนใจของใครหลายๆ
คนที่หวังได้พบตัวตนของเขาสักครั้ง...
รองเท้าหนังสีดำปลายแหลมย่างเหยียบลงบนพื้นดินพร้อมด้วยเสียงฮัมเพลงที่มักได้ยินกันในโรงละครสัตว์
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายหากเปื้อนเปรอะด้วยรองพื้นสีขาวเหมือนสีชอล์กกับริมฝีปากซึ่งเหยียดยิ้มอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าเขาคือคนที่มีความสุขที่สุดบนโลกไม่น่าพิสมัยใบนี้
“Well Well~ ดูสิ ว่าฉันเจอใคร~” คำทักทายน้ำเสียงติดตลกอย่างไม่คิดอะไรเอ่ยขึ้นเมื่อชายตัวสูงหยุดเท้าลงบริเวณเบื้องหน้านักศึกษาหญิง
ร่างเล็กตัวสั่นเทายิ่งกว่าเก่า เมื่อฝ่ามือเย็นเฉียบของชายเบื้องหน้าเอื้อมแตะลงบนแก้มเนียน
ก่อนเกลี่ยปลายนิ้วลากไปตามโครงหน้าเรียวสวยจนกระทั่งหยุดลงบริเวณปลายคาง
“คนสวยแห่งคณะบัญชี... พลอยเฌอ...”
“อ๊ะ...” หญิงสาวหลุดเสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อปลายคางถูกบีบกระชาก
บังคับขึ้นให้เงยสบสายตากับนัยน์ตาคมดุจดั่งปีศาจของชายแปลกหน้าแบบตรงๆ
นั่นยิ่งทำให้เธอสั่นเทิ้มยิ่งขึ้นกว่าเก่า ถึงแม้จะมีนักศึกษาหลายคนต้องการพบตัวตนที่แท้จริงของ JOKER ก็ตาม
แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่เธออย่างแน่นอนและการพบกันในเวลานี้ ก็กำลังทำให้เธอกลัวเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อที่เขาหมายตา
“อยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ...”
เสียงหวานซึ่งเคยมั่นอกมั่นใจมากกว่านี้กำลังสั่น ไม่ต่างอะไรจากร่างกายตอนนี้เลยสักนิด
ยิ่งเธอแสดงอาการหวาดกลัวมากเท่าไหร่
นั่นยิ่งทำให้คนที่เห็นแสยะยิ้มอย่างคนมีความสุขมากเท่านั้น และปลอบเธอด้วยน้ำเสียงขี้เล่นเดียวกับที่คนทั้งคู่พบกับกันครั้งแรก
“Everything’s under Control~ OK?
(ทุกอย่างเป็นปกติดี เข้าใจนะ?)”
หญิงสาวเข้าใจความหมายที่โจ๊กเกอร์พูดแต่จากน้ำเสียงและท่าทางที่เขาแสดงออกนั้นมันดูตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
น้ำเสียงขี้เล่นแต่แฝงไว้ด้วยความโกรธแค้นบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ
“Let’s play~ (มาเล่นกันเถอะ)” เสียงเชื้อเชิญของปีศาจดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อชายในชุดโจ๊กเกอร์โน้มใบหน้าลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กก่อนจรดริมฝีปากจุมพิตบนใบหูแสดงความปรารถนาของตัวเองให้เหยื่อในกำมือได้ทราบ และนั่นคงเป็นวันที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังจะมีรายชื่อของนักศึกษาหญิง ‘พลอยเฌอ’ จากคณะบัญชีปรากฏให้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย
นับจากคืนนี้สิ้นสุดลง...
-SUAY
TALK-
@มหาวิทยาลัยเอกชน A
เวลา 16.40 น.
“นี่แกรู้ยัง ว่ายัยพลอยเญอ
คนสวยคณะบัญชีลาออกไปแล้วนะ”
“เอ้า ทำไมอ่ะ?”
“เขาลือกันว่ายัยนั่นไปเจอกับ JOKER มาน่ะสิ
ซวยชะมัดเลยเนอะว่าไหม?”
ข้อดีของการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนระดับชั้นแนวหน้าของเมือง
คือการได้อยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้คนที่ชอบพูดเรื่องของชาวบ้านให้ได้ยิน
โดยที่เราไม่จำเป็นต้องข้องเกี่ยวกับสังคมดังกล่าวไปด้วย
เพียงแค่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในมุมที่เหมาะสมเท่านั้น
ก็สามารถรู้ข่าวสารของผู้คนในมหาวิทยาลัยได้ไม่ยาก
“นี่สวย เมื่อไหร่จะเลิกอ่านหนังสือน่าขนลุกนั่นสักทีอ่ะ” คำถามที่มักได้ยินประจำนับตั้งแต่เรียนอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ทำฉันลดคู่มือเรียกปีศาจในมือลง
เหลือบมองเจ้าของคำถามอย่าง ‘ทิชา’ และเตรียมที่จะตอบ
“เออนั่นดิ อ่านอะไรแบบนี้อยู่ได้ ไม่กลัวเหรอ?” ‘เกรซ’
อาศัยจังหวะที่ทิชาพูด เสริมขึ้นมาอย่างเห็นด้วย
“ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน น่าค้นหาจะตายไป” ทุกคนพร้อมใจกันเบะปากทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ ก่อนที่ทิชาจะว่าขึ้นเป็นหนที่สองกึ่งประชดประชัน
“เสพเรื่องพวกนี้มาก ระวังเถอะไอ้ที่อยู่ในหนังสือจะมาเอาตัวไป” คราวนี้ ‘ยะหยา’ หญิงสาวอีกคนพูด
“ถ้ามาจริงก็ดีสิ
ฉันอยากเจอตัวเป็นๆ สักครั้งเหมือนกัน” ส่วนข้อเสียของการอยู่ท่ามกลางสังคมแบบนี้
ก็คงเป็นเรื่องที่ เราเองต้องตกเป็นเรื่องที่คนกลุ่มนั้นสอดรู้สอดเห็นไปด้วย
“ให้ตายสิ นี่เธอติดเชื้อโรคจิตมาจากไอ้ติ๋มนั่นมาเหรอ... บอกแล้วใช่ไหมให้ย้ายออกจากหออาถรรพ์นั่นซะ”
ทิชาเริ่มต่อว่าโดยอ้างอิงไปถึงใครอีกคนซึ่งถูกคนทั้งมหาวิทยาลัยประณามว่าเป็น
ไอ้ ‘โรคจิต’
ที่ชอบแอบดูและถ้ำมองนักศึกษาหญิงทำกิจกรรมส่วนตัว
“บ้านเธอก็รวยนี่ ซื้อคอนโดหรูๆ อยู่สักห้องคงไม่กระทบเงินในบัญชีหรอกมั้ง”
นอกจากจะสอดรู้และช่างเม้าท์เรื่องคนอื่นแล้ว
พวกเธอทั้งหมดยังเจ้ากี้เจ้าการเสมือนเป็นคนในครอบครัว ทางเดียวที่จะหนีจากเรื่องน่ารำคาญใจนี้ได้คือการพาตัวออกจากวงสนทนาไปซะ
โดยทิ้งท้ายไว้อีกวันตามมารยาทว่า
“กลับก่อนนะ เดี๋ยวเจ้าของหอจะบ่นเอา” ไม่ต้องรอเสียงตอบรับจากวงสนทนา ฉันรีบเก็บข้าวของของตัวเองลุกออกจากวงจรสวมหน้ากากทันที เหตุผลที่เรียกแบบนั้นก็เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้กลุ่มนี้รวมตัวกันได้คงเพราะหน้าตาอันเป็นที่พูดถึงของคนในมหาวิทยาลัยนั่นแหละ
พวกเราเรียนปีเดียวกันแต่ต่างสาขาวิชาที่เรียน ว่าคร่าวๆ ก็ ทิชาเรียนนิเทศฯ ยะหยาเรียนอักษร เกรซเรียนออกแบบดีไซน์ ส่วนฉันเรียนจิตวิทยา ซึ่งไลฟ์สไตล์ของพวกเธอที่วันพูดเรื่องคนอื่นและแข่งขันกันสวย ค่อนข้างขัดแย้งกับความชอบของฉันอย่างมาก สาเหตุที่ฉันต้องมาเรียนที่นี่ก็เพื่อมาเจอปีศาจที่คนทั้งเมืองกล่าวถึงอย่าง ‘คำราม’ และ ‘โต’ เท่านั้น
ความหลงใหลในเรื่องสิ่งเร้นลับทำให้ฉันอยากลองมีโอกาสได้ยืนเคียงข้างปีศาจสักครั้งแม้ว่าตลอดเวลาเกือบ 3 ปีฉันจะไม่เคยได้ทำเลยสักครั้งก็ตาม แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแอบซ่อนอยู่ เพราะหอในซึ่งถูกสร้างไว้ภายในมหาวิทยาลัย (ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย) มีข่าวลือเรื่องผีผู้หญิงซึ่งในอดีตถูกคนร้ายฆ่าตาอยู่ภายในหอ จนวิญญาณไม่สามารถไปสู่สุขติได้และเกิดเป็นอาถรรพ์ ทำให้ทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถรื้อหอดังกล่าวออกได้
พอรู้แบบนั้น ฉันจึงไม่รอช้าที่จะพาตัวเองเข้าไปพักอยู่ที่หอดังกล่าวเพื่อพิสูจน์อาถรรพ์ที่ว่านั่นทันที ถึงไม่เคยเห็นด้วยตา แต่ก็ยังมีข่าวลือที่ช่วยให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งยามที่ได้ยินชื่อของ ‘JOKER’ อยู่ดี
ไม่มีใครบอกได้ว่า JOKER
เป็นใครมาจากไหน บ้างก็พูดกันว่าเป็นผู้ชายโรคจิตที่ชอบล่อลวงหญิงหญิงสาวไปทำมิดีมิร้าย
บ้างก็ลือกันว่าเขาคือร่างจำแลงของซาตานที่ขึ้นมาบนโลกเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้ทำสัญญาขายวิญญาณแลกกับปรารถนาที่เหยื่อต้องการ
และนี่แหละคือ 3 สิ่งที่ทำให้ฉันยังอยากอยู่ที่นี่ต่อไป...
บรรยากาศรอบหอพักค่อนข้างวังเวง ล้อมรอบต้นไม้สูงใหญ่ราวกับอยู่ในป่า ฉันใช้เวลาเดินจากตัวมหาวิทยาลัยเดินไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง ที่หอแห่งนี้มีนักศึกษาบางจำพวกเท่านั้นที่อาศัยอยู่ ถ้าไม่กลัวเรื่องผีก็เป็นพวกหมกมุ่นกับเรื่องแปลกๆ ไม่ก็โลกส่วนตัวสูงทั้งนั้น
ห้องพักหมายเลข 407
แกร๊ก...
“สะ สวย!”
ทันทีที่ฉันไขประตูห้องพักเข้าไป เสียงเข้มของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างลนลาน
เขารีบใช้มือควานหาผ้าห่ม ดึงขึ้นปิดบังร่างกายท่อนล่างของตัวเองในสภาพเหงื่อไหลไคลย้อย
ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าก่อนหน้าที่ฉันจะมาถึง เขากำลังทำอะไร
เนื่องจากหอพักแห่งนี้เป็นหอรวม และมีห้องพักเพียงบางห้องเท่านั้นที่เปิดให้บริการเช่า ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากว่าภายในหนึ่งห้องจะมีนักศึกษาพักอยู่รวมกัน 2 คนไม่เพศเดียวกันก็ต่างเพศ
ส่วนฉันนั้นพักอยู่ร่วมห้องกับ
‘เกอร์’ ชายหนุ่มท่าทางขี้ขลาดสวมแว่นตาหนาเตอะ เขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
ส่วนมากจะอยู่ตัวคนเดียวเพราะเป็นรังเกียจของคนทั้งมหาวิทยาลัย ในตำแหน่งของ ‘โรคจิต’ และ ‘พวกถ้ำมอง’
วันๆ เขาหมกมุ่นเรื่องเซ็กซ์มากกว่าวิชาที่ต้องเรียนเสียอีก
และใช่! เขานี่แหละคือไอ้ติ๋มที่ทิชาพูดถึง
“นายเนี่ยไม่รอบคอบเลยนะ
ถ้าคนที่เปิดเข้ามาไม่ใช่ฉันจะทำยังไง”
“ระ เราขอโทษ” เขาเป็นพวกวิกลจริตก็จริง
แต่ถ้าได้ลองคุยด้วยแล้ว
เขาก็เป็นผู้ชายที่ติ๋มมากคนหนึ่งขัดกับความชอบของตัวตนเขาโดยสิ้นเชิง
ถึงฉันกับเกอร์จะอาศัยอยู่ห้องพักเดียวกัน
แต่ระหว่างเตียงนอนของเราก็มีข้าวของจำพวกชั้นวางหนังสือรวมไปถึงโต๊ะเครื่องเขียน
สำหรับใช้สุมหัวทำการบ้านข้างกลางไว้บริเวณกลางห้อง
เตียงของเกอร์ชิดกับผนังทางซ้าย ส่วนเตียงฉันชิดกับผนังทางขวา
แม้ระยะห่างเตียงของเราจะมีข้าวของกั้นแบ่งอาณาเขตไว้
ถึงอย่างงั้นเราก็ยังมองเห็นทุกอิริยาบถของกันแลกันผ่านช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือ
หรือจากมุมโต๊ะเครื่องเขียนอยู่ดี
ฉันเดินแยกมาทางฝั่งที่นอนตัวเอง
วางข้าวของที่สะพายไว้ลงกับเตียงโดยรู้สึกถึงสายตาโรคจิตของเกอร์ซึ่งจับจ้องอยู่ตลอดเวลา
เพราะเราอยู่ด้วยกันแบบนี้มาปีกว่าแล้วฉันจึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรกับความชอบของเขา
อีกอย่างเขาเองก็ไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจความชอบของฉันเช่นกัน
“วันนี้ได้ไปทำเรื่องโรคจิตใส่เด็กปีหนึ่งมาหรือเปล่า?” ฉันถามและทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงโดยหันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย มองลอดช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือเพื่อดูท่าที
“ปะ เปล่า เราไม่ได้ทำอะไร” เกอร์มักชอบแสดงท่าทีเกร็งๆ เวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิง
รวมถึงต่อหน้าฉันเช่นกัน
“ดีแล้ว ฉันรำคาญเวลาต้องฟังเรื่องของนาย…”
“อะ อื้อ... เราเข้าใจ เราจะพยายาม”
“อ๋อแล้วก็...” เสียงของฉันเงียบลงในช่วงหนึ่งของประโยค
และหรี่ตามองสายตาลับๆ ล่อๆ ของอีกฝ่ายที่แอบลอบมองเป็นพักๆ
ก่อนจงใจขยับขาอย่างช้าๆ ในท่าไขว่ห้าง
จนดึงดูดสายตาของรูมเมทซึ่งอยู่อีกฝากของห้องให้หันมอง “วันหลังรอให้ฉันกลับมาก่อน แล้วค่อยทำเรื่องงี่เง่าแบบนั้นในผ้าห่มเข้าใจไหม?”
“อะ...อื้อ... เข้าใจแล้ว เข้าใจ...อะ” ฉันส่ายหน้าเมื่อน้ำเสียงของอีกฝ่ายทำให้รู้ว่าเขาได้เริ่มทำเรื่องทุเรศทุรังใต้ผ้าห่มอีกครั้งโดยมีร่างกายฉันเป็นที่พึ่ง
มือข้างถนัดเอื้อมหยิบโทรศัพท์ต่อเข้ากับเฮดโฟนและสวมมันเพื่อให้เสียงเพลงดังกลบเสียงอื้อในลำคอของผู้ชายร่วมห้อง
ขณะมือเปิดหนังสือที่ชอบขึ้นอ่านเพื่อละความสนใจใจจากสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังทำ
ซึ่งฉันไม่คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่คือเรื่องอุบาทว์แต่คิดว่ามันคือการช่วยรักษาและเยียวยามากกว่า
จากที่พูดคุยกับเกอร์มา ทำให้รู้ว่า
เขาเป็นผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศสูงหรือโรคสไตเรียซิส[1] (Satyraiasis) และเขาสามารถปลดปล่อยความต้องการของตัวเองได้ทุกที่ ไม่ว่าจะภายในห้อง
ห้องน้ำ ในมหาวิทยาลัยหรือแม้แต่ร้านขายของ ทางรักษาคนวิกลจริตอย่างเขา
คือการชวนเขาซึ่งน่าจะมีแค่ฉันคนเดียวนั่นแหละที่คุยด้วย
หรืออีกวิธีก็คือช่วยให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยความสุขของตัวเอง
ก่อนที่ความต้องการของเขาจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอย่างที่แล้วมา...
กระนั้นแล้ว
ฉันก็ไม่ได้ช่วยรักษาเขาถึงขนาดใช้ร่างกายเข้าแลกแบบเนื้อแนบเนื้อหรอกนะ
พูดให้ถูกก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นเพียงนัก(พยายาม)บำบัด กับคนไข้ทางจิตก็เท่านั้น เมื่อใดที่เขาบรรลุความต้องการของตัวจนเสร็จสิ้น
เราทั้งคู่ก็จะกลายเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่ต้องใช้ห้องห้องนี้ร่วมกันเท่านั้น
เขาใช้ชีวิตของเขา ส่วนฉันก็ใช้ชีวิตของฉันไม่เกี่ยวข้องกันอีก
ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุย มีเพียงความเงียบราวกับว่าเราอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง...
ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้
ฉันมักหาข้ออ้างพาตัวเองออกจากหอตอนดึก
ไปร้านสะดวกซื้อหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อซื้อของอะไรสักอย่างและกลับเข้ามาในเวลา 4
ทุ่มนิดๆ ที่เรียกว่าเป็นข้ออ้างนั่นก็เพราะที่ทำไปทั้งหมดก็แค่อยากเจอสิ่งที่คนทั่วไปไม่ต้องการที่จะพบเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณที่ใครๆ
ล่ำลือหรือแม้แต่ชายปริศนาซึ่งถูกเรียกว่า JOKER ต่อให้สิ่งที่ทำยิงยาวมาเป็นระยะเวลาปีกว่าจะไม่ช่วยให้ฉันได้พบในสิ่งที่ต้องการเลยก็ตาม
เรื่องการพบเห็นวิญญาณอาจเพราะโชคไม่เข้าข้าง แต่การที่ไม่เคยพบกับ JOKER นั่นคงเป็นเพราะฉันคงไม่ใช่เหยื่อที่เขาหมายตา
จากที่เคยรับรู้เรื่องของชายปริศนาคนนี้
เขามักจะปรากฏตัวต่อหน้านักศึกษาหญิงที่ตกเป็นเหยื่อ
อาจเป็นใครก็ได้ไม่เจาะจงรายบุคคล ซึ่งทุกคนบอกกันว่าใครที่ได้เจอกับ JOKER ล้วนแล้วแต่มีอันเป็นไป จำต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยทุกราย
ยกตัวอย่างเช่นอดีตสมาชิกในกลุ่มสังคมใส่หน้ากาก ‘พลอยเฌอ’ ทุกคนจึงตั้งกฎว่าหากใครที่ได้พบเขาเข้า ให้รีบหนีไปซะ
อย่าหลงพูดคุยหรือเชื่อคำพูดล่อลวง มิเช่นนั้นจะพบเจอกับเรื่องแย่ๆ
หลายคนบอกว่าฉันโชคดีที่เดินเข้าออกตอนกลางคืนและไม่พบเขา
แต่ฉันว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องน่าเบื่อ
ความรู้สึกก็ประมานว่าเรากำลังเล่นเกมซ่อนแอบ ฉันทำหน้าที่หา
ส่วนชายปริศนาทำหน้าที่ซ่อน ไม่ว่าพยายามหาตัวเขามากเท่าไหร่ ก็ไม่เจอ
ยิ่งนานวันไปเกมที่เล่นก็ชักจะหมดความสนุก
คืนนี้ก็คงเป็นอีกคืนที่ฉันคิดว่าเกมซ่อนหาไม่ได้สนุกอย่างคิดที่คิด
ทว่า ดูเหมือนฉันจะคิดผิด!
อีกเพียงไม่ถึง 5 ก้าวฉันก็จะสามารถพาตัวเองเข้าหอพักได้สำเร็จ
แต่แล้วสิ่งที่ทำให้เท้าสองข้างหยุดลงโดยชะงักมันดันเป็นเสียงฮัมเพลงของละครสัตว์
ขณะที่ลมเอื่อยๆ ในยามค่ำคืนจะเริ่มกระโชกแรกพลอยให้ปลายผมยาวพัดปลิวไปตามแรงจนต้องใช้มือเกี่ยวเส้นผมที่ปรกหน้าลงและมองไปยังต้นเสียงด้วยความสงสัย
ท่ามกลางแสงสว่างอันน้อยนิด ปรากฏร่างสูงในชุดสูทสีทึบ
จังหวะนั้นเสียงฮัมเพลงก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
ในทุกจังหวะฝีเท้าที่ชายคนดังกล่าวก้าวเข้ามาหา
ใบหน้าของเขาขาวเหมือนสีชอล์คตามอย่างที่ใครๆ พูดไว้
ริมฝีปากสีแดงสดลากยาวไปจนถึงใบหูสองข้างราวกับว่าเขากำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลา
นัยน์ตาถูกแต้มด้วยสีดำจนคล้ายกับลึกโบ๋ลงไปจนเห็นเพียงแววตาซึ่งสะท้อนกับแสงไฟ
และเขากำลังปรบมือดังแปะๆ ตามจังหวะก้าวเดิน ด้วยมือหนึ่งที่สวมถุงมือแต่อีกมือเป็นมือเปล่า
“เอ๊ะโอ่~” เสียงเข้มออกแนวทะเล้นดังขึ้น
ฟังแล้วรู้สึกตลกขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก
เพราะนั่นฟังดูไม่ต่างอะไรไปจากรายการเด็กที่เคยดูสมัยเด็กเลยสักนิด
แม้จะคิดแบบนั้นแต่ฉันก็ยังยิ้มมุมปากด้วยความดีใจ
ที่คืนนี้มีโอกาสได้ถูกบุคคลปริศนาที่ใครๆ ต่างกลัวบุกเข้าทักทายแบบนี้
“ทายสิว่าคืนนี้ฉันเจอใคร~” เขาเอ่ยขึ้นเมื่อรองเท้างุ้มปลายแหลมหยุดลงตรงหน้า
จนพอเห็นหน้าคร่าตาอีกฝ่ายชัดขึ้นพร้อมๆ
กับหัวใจที่เริ่มเต้นรัวผิดจังหวะในยามที่ถูกนัยน์ตาคู่คมจับจ้องมา
“คิดว่าฉันเป็นใครล่ะ?” และในเวลาแบบนี้ฉันก็มีเพียงแค่คำถามเดียวเท่านั้นที่อยากเอ่ยถามเขากลับไปเป็นคำถามแรกเพื่อลดอาการตื่นเต้น “แล้วนายล่ะเป็นใคร...”
“...”
“JOKER
หรือเทเลทับบี้?”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%
1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย
ติดแท็กในทวิต #ฟิคเมียโจ๊กเกอร์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น