คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Deception Love - 5 - อยาก 100%
“แรดเสร็จแล้วหรือไง?” น้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงเต็มไปด้วยความโกรธที่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม กับสายตาที่เต็มไปโดยความไม่พอใจ นั่นทำให้แบมแบมตกใจได้ไม่ยาก ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้!!
“พี่มาร์ค!!!” ผมตะโกนออกไปด้วยความตกใจ แต่กลับกันมาร์คทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ เขาไม่ได้ไปกับแจบอมหรอกเหรอ?
“ใช่ ฉันเองทำไมเหรอ? กลัวฉันจะไปบอกไอ้เจบีรึไง ว่าน้องมันไปอ่อยผู้ชาย” มาร์คพูดขึ้นทั้งยังแค่นหัวเราะออกมา ขณะที่แบมแบมยังคงตกใจอยู่ คนตัวสูงก็ก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนหยุดอยู่ตรงหน้า ก่อนจะแนบฝ่ามือหนาทั้งสองข้างไว้กับบานประตู นี่ก็เท่ากับเป็นการปิดกั้นไม่ให้ผมหนีไปไหนได้
“ใช่สิ... ผมมันร่าน แล้วพี่จะทำไมเหรอ?”
ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าผมทำอะไรผิดทำไมถึงต้องคอยด่าว่าผมตลอดทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยซ้ำ ทำไมกันนะ...
แบมแบมได้แต่ตัดพ้ออยู่ในใจที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพราะความน้อยใจ และถึงจะพูดความจริงออกไปคนอย่างมาร์คน่ะเหรอจะเชื่อ?
แต่หารู้ไม่เลยว่าประโยคนั้นบวกกับที่ร่างสูงปรายตามองก็เห็นว่าในมือเล็กนั่นถือถุงกระดาษที่ไม่ต้องเดาว่าในนั่นคืออะไรกับมือเล็กอีกข้างที่กอดตุ๊กตาสีชมพูหวานแว๋วนั่นอีก เฮอะ ไอ้เด็กคนนั่นอีกแล้วสินะพอคิดได้แบบนั้นก็นึกย้อนไปเมื่อตอนเย็นในห้องพยาบาล ที่เห็นแบมแบมกับไอ้เด็กตัวโตนั้นกำลังอยู่ในท่าล่อแหลม ยิ่งทำให้มาร์คที่อารมณ์รุนแรงขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัวทั้งยังเริ่มจะควบคุมสติของตัวเองไม่ได้
‘นายมันเป็นแบบนี้ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ’
“ใช่ นายมันร่านไม่เปลี่ยนจริงๆ” ร่างสูงพูดลอดไรฟันเหมือนจะอดกลั้นสุดฤทธิ์ ประโยคเมื่อครู่ทำให้ผมสงสัยไม่น้อย แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรออกไปมาร์คก็พูดแทรกขึ้นมาอีก
“ไม่มีปัญญาซื้อของเองรึไง ถึงได้ไปเอาตัวเข้าแลกกับของกระจอกๆแบบนี้น่ะ ถ้าอยากมากก็มาบอกฉันสิ... ชอบฉันมากนักไม่ใช่เหรอ” คนตัวสูงยังพูดออกมาไม่หยุดก่อนจะปรายสายตามองมาอย่างเหยียดยาม อยู่ๆ มาร์คก็ดันตัวเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนเราจะรวมเป็นร่างเดียวกันอยู่แล้ว ผมที่ตกใจกับการกระทำของมาร์คจึงเผลอปล่อยของในมือร่วงลงสู่พื้น
“ใช่!! ผมอยากมากแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่มาร์คล่ะ!!” ความอดทนของมาร์คเหมือนจะสิ้นสุดลง นัยน์ตาของคนตัวสูงรุกโชนเต็มไปด้วยความโกรธ และความเกลียด แบมแบมที่เห็นอย่างนั้นก็เจ็บจี๊ดๆที่หน้าอกข้างซ้ายอย่างบอกไม่ถูก
เฮอะ เขาเกลียดเราจะตาย ยังจะโง่ไปรักเขาอีกทำไมว่ะแบม
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ผละหนีออกจากแขนแกร่งที่ขนาบข้างไว้ทั้งสองข้าง เปรียบเสมือนกับกรงขัง ร่างสูงก็เคลื่อนแขนข้างหนึ่งรั้งท้ายทอยคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ ก่อนจะโน้มตัวลงมาเพื่อให้ริมฝีปากหนานั้นกดลงที่ริมฝีปากสีหวานของผมได้
ริมฝีปากหนาที่ผมหลงใหลแต่กลับทำร้ายผมทุกครั้งที่ได้สัมผัส บดขยี้ลงมาที่ริมฝีปากบาง อย่างไร้ความอ่อนโยนและหยาบคาย ผมเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อป้องกันการจาบจ้วงจากคนตัวสูง แต่ก็ตามคาดเมื่อมาร์คเห็นว่าแบมแบมเม้มปากแน่นก็เลื่อนมือหนาอีกข้างที่เคยแนบกับบานประตู มาบีบแรงๆที่กรามของคนตัวเล็ก
“อ๊ะ...” ผมเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ และทำให้มาร์คสามารถรุกล้ำเข้ามาในโพลงปากของผมได้ไม่ยาก เขาแทรกปลายลิ้นเข้ามาก่อนที่จะกระหวัดลิ้นของผมอย่างช่ำชอง เมื่อมาร์คเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มจะตัวอ่อนปวกเปียกจนแทบจะล้มทั้งยืนจึงปล่อยมือที่บีบออกก่อนจะรั้งเอวเล็กให้บดเบียดเข้ามาใกล้ขึ้นอีก
“อืมม...”
เสียงครางทุ้มต่ำดังมาจากร่างสูง คนที่ขาดสติในตอนนี้ค่อยๆกดผมลงกับพื้น ผมพยายามที่จะผลักคนตัวสูงออกไปแต่ไม่เป็นผล จูบที่เนิ่นนานและหยาบคายยังคงดำเนินต่อไป ผมรู้สึกเหมือนว่ามาร์คต้องการที่จะพรากลมหายใจไปจากผมเสียให้ได้ ตอนนี้เหมือนว่าอากาศในปอดผมค่อยๆจะหมดไป และในที่สุดคนใจร้ายก็ละจากริมฝีปากเล็กที่บวมเจ่อจากพิษจูบ ก่อนจะลากริมฝีปากร้อนมาที่บริเวณซอกคอขาวเนียนของแบมแบม
ร่างบางพยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์เพื่อที่จะให้หลุดออกจากพันธนาการของมาร์ค และดูเหมือนว่ายิ่งผมขัดขืนมากเท่าไหร่คนตัวสูงก็ยิ่งดูโกรธเกรี้ยวมากขึ้นเท่านั้น ผมกลัวเขามากจริงๆตอนนี้ และดูเหมือนว่าเขาคงไม่มีทางหยุดง่ายๆแน่
“ฮึก...” หยดน้ำตาใสใสค่อยๆไหลรินจากดวงตากลมที่ปิดสนิท เสียงสะอื้นที่กล้ำกลืนเอาไว้แต่สุดท้ายก็เล็ดลอดออกมาอยู่ดี ทำให้มาร์คที่กำลังจะถอดเสื้อนักเรียนตัวบางของคนตัวเล็กออกก็ถึงกับนิ่งไปพักใหญ่
“ร้องทำไม” มาร์คที่หยุดการกระทำทุกอย่างลงถามออกมาเสียงเรียบ ดวงตาคมที่ทอดสายตามองมาไม่มีแม้แต่ความรู้สึกใดๆ มาร์คถามออกมาได้ยังไงว่าร้องทำไม ทั้งๆที่การกระทำในตอนนี้มันก็เห็นๆกันอยู่
“...อึก” ผมกลืนก้อนสะอื้นรวมถึงปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ผมไม่อยากจะตอบอะไรมาร์คทั้งนั้นในตอนนี้ ถ้าเกิดตอบอะไรที่ไปทำให้เขาไม่พอใจ ผมอาจจะโดนทำร้ายเอาก็ได้ ร่างสูงที่เห็นว่าแบมแบมค่อยๆคลานไปบริเวณถุงกระดาษมากมายกับตุ๊กตาสีชมพูที่ร่วงล่นกระจัดกระจายกองอยู่ที่พื้น ทำให้แรงโทสะที่ครู่นี้อุตส่าห์เย็นลงแล้ว เมื่อเห็นหยดน้ำตานั่น
แต่ตอนนี้กลับวิโรจน์มากกว่าเดิม หวงของไอ้บ้ามันซื้อให้ขนาดนั้นเลยรึไง หึ...
“ไม่ได้ยินที่ฉันถามรึไง!!!” มาร์คตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนจะเดินมาหยิบถุงกระดาษที่ผมหวังจะหยิบมาได้ทัน คนตัวสูงเดินตรงเข้าไปในห้องนอนของแจบอม เมื่อผมเห็นอย่างนั้นจึงรีบลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปในห้องนอนโดยไม่ลืมที่จะหยิบตุ๊กตาสีชมพูติดมือไปด้วย แต่ก็ต้องตกใจที่เห็นว่าในมือหนานั้นกำลังถือกรรไกรกับเสื้อผ้าที่ยูคยอมอุตส่าห์ซื้อให้อยู่
“พ... พี่มาร์คจะทำอะไร” สายตาคมกริบมองลึกเข้ามาในดวงตากลมโตน่ารักที่ยังมีคราบน้ำตาอยู่ของคนตัวเล็กโดยไม่ได้ตอบคำถามอะไรซักคำ แต่กลับเผยรอยยิ้มดุจปีศาจบนใบหน้าเทพบุตรก่อนจะใช้กรรไกรที่ถืออยู่นั่นบรรจงตัดลงไปที่เนื้อผ้าผมรีบวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะยื้อแย่งสิ่งของในมือร่างสูงกลับมา แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด
“อยากได้มากเหรอ” มาร์คถามออกมาเสียงเรียบ ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ดีใจจึงรีบพยักหน้าออกไป
มาร์คเผยยิ้มร้ายกาจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะก้มหน้ามองเสื้อสีสันสดใสในมือที่ตอนนี้กลับแหว่งจนแทบไม่เป็นรูปเป็นร่าง เพราะฝีมือของคนตัวสูงเอง แต่ถึงอย่างนั้นแบมแบมก็ยังคงอยากได้มันกลับมาอยู่ดี ยูคยอมอุตส่าห์ซื้อให้ ยังไงผมก็ต้องเก็บรักษาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ร่างสูงที่เคยฉีกยิ้ม บัดนี้รอยยิ้มร้ายนั้นค่อยๆจางหายไป จนกลายเป็นใบหน้าที่เรียบเฉยดังเดิม
พรึ่บ...
แค่เพียงเสี้ยววินาทีวัตถุที่ดูแทบไม่ออกว่าเป็นเศษผ้าหรือเสื้อกันแน่ในตอนนี้ ถูกมาร์คขว้างมากระทบกับหน้าหวานของแบมแบมอย่างจังก่อนจะตกสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วง
เจ็บ...
ผมเจ็บเหลือเกิน ไม่ใช่เจ็บที่หน้า แต่มันเจ็บที่ใจของผม
ถ้าไม่รักแล้วทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย? ทำไมต้องทำร้ายจิตใจกัน ผมไม่เข้าใจว่าการที่มาร์คกระทำแบบนี้มันใช่การหวงของเล่นหรือสิ่งของที่ไม่มีใครสนใจ ทั้งยังไม่มีใครรัก หรือว่าครั้งหนึ่งในชีวิตผมเคยไปทำเรื่องร้ายแรงให้เขาหรือเปล่า ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยกันนะ...
“อยากได้ก็เอาไปสิ” คนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะใช้ปลายเท้าขยี้แรงๆลงบนเศษผ้าที่ตกสู่พื้น ขยี้จนแหลก แหลกจนแทบไม่เหลือชิ้นดี
คนตัวเล็กที่ตอนนี้ถึงกับนิ่งงันไป คนไม่มีหัวใจก็แสยะยิ้มออกมาก่อนจะเตรียมก้าวเท้าเพื่อเดินออกไปจากห้องๆนี้ ห้องที่รู้สึกว่าแค่ต้องหายใจร่วมกับเด็กตัวเล็กคนนั้นก็ขยะแขยงเต็มทน
“ทำไมทำแบบนี้กับผม”
“ฉันทำอะไร?” มาร์คที่ได้ยินคำถามนั้นก็หยุดเดินไม่พอยังแสร้งตอบกลับมาอย่างคนไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น พร้อมทั้งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ทำร้ายของของผมทำไม” ผมถามออกไปเสียงแผ่วอย่างเหนื่อยล้ากับเหตุการณ์ทั้งหมด
มาร์คไม่ตอบแต่เดินเข้ามาใกล้ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังผลักผมลงบนเตียงนุ่มที่แผ่นหลังของแบมแบมไม่เคยมีโอกาสได้แตะสักครั้ง
“โอ๊ย!!” ถึงแม้จะว่าเตียงจะเป็นลูกฟูกนุ่มก็ตามแต่แรงผลักจากแขนแกร่งนั้นก็ใช่จะเบาซะที่ไหน ทำให้แผ่นหลังที่กระแทกลงนั้นเจ็บใช่เล่นเหมือนกัน
ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้ตั้งตัวมาร์คก็ตามมาคร่อมทับไว้ ทำให้แบมแบมที่เหมือนกับเหยื่อตัวน้อยๆ ของปีศาจในคราบเทพบุตรอย่างมาร์คหมดหนทางหนี มาร์คขยับใบหน้าหล่อมาใกล้ก่อนจะกระซิบข้างๆหูของผม ซึ่งมันก็ทำให้ผมอึ้งกับคำพูดนั้นได้ไม่ยาก
“จำไว้นะ... ของทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามแต่เป็นของฉันทั้งหมด” มาร์คพูดด้วยท่าทางเรียบเฉย อย่างกลับเรื่องที่เขากำลังพูดอยู่เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อประโยคสุดท้ายถูกกล่าวออกมาก็เหมือนกับร่างกายของผมนั้นถูกสาปให้แข็งอยู่อย่างนั้น “...รวมถึงตัวนายด้วย”
พูดจบยังไม่ทันที่แบมแบมจะได้เข้าใจอะไรมากมายร่างสูงก็กดริมฝีปากมาที่ซอกคอของแบมแบมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ริมฝีปากซุกซนนั้นเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะปลดกระดุมชุดนักเรียนของผมออก เผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่ร่างสูงเห็นแล้วถึงกลับต้องกลื้นน้ำลาย
“ยะ อย่า!!”
ฉากไม่เหมาะสม #markbam
ติดตามได้ในไบโอทวิตจ้า
ไปฟิน(?)กันได้เล้ยยย
talk
มาแล้ว nc หวานๆ555555 แต่งครั้งแรกเลยยอย่าว่ากัน ตอนนี้มาร์คน่ารักจริงๆอ่ะ อาจแต่งมึนเบลอไปบ้างรีบมากเจรง55555 ช่วยเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์หน่อยเนาะ รีดเดอร์ผู้น่ารักของไรท์ อย่าลืม สกรีม #ฟิคฝังใจ น้า
ความคิดเห็น