ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] deception love {MarkBam Ft.BNior}

    ลำดับตอนที่ #5 : Deception Love - 4 - เมา 100%

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 57








                ในห้องพยาบาลที่เงียบสงัด มีแต่เตียงคนไข้ที่ว่างเปล่าและโต๊ะของครูประจำห้องพยาบาลซึ่งเจ้าของโต๊ะนั่นหายไปไหนไม่รู้ ทำให้เด็ก 2 คนต้องมานั่งทำแผลกันเองอย่างในเวลานี้

     

                แบมแบมรีบถอดเสื้อสิ อย่างนี้ฉันจะรู้มั้ยว่าหลังนายเป็นอะไร? ยูคยอมขมวดคิ้วเล็กน้อย เนื่องจากคนตัวเล็กไม่ยอมถอดเสื้อสักที นี่มันก็เย็นมากแล้ว

     

                แบมแบมที่เหมือนจะรู้ว่าเพื่อนตัวโตของเขานั่นเริ่มดุ จึงพยักหน้าลงช้าๆ เขาไม่อยากให้เพื่อนของเขานั่นต้องมาลำบากมากกว่านี้แล้ว แบมแบมจึงค่อยๆเลิกเสื้อขึ้นเพื่อถอด ในขณะเดียวนั่นยูคยอมก็รู้สึกใจมันเต้นแรงขึ้นยังไงไม่รู้ จนคนตัวโตนั่นต้องสะบัดหัวแรงๆ เพื่อที่จะขับไล่ความคิดแปลกๆ ออกไป

     

                เป็นอะไรของนายน่ะยูค? แบมแบมที่ถอดเสื้อเสร็จแล้ว หันมาถามยูคยอมด้วยความสงสัย ที่เพื่อนของเขานั่นมัวแต่สะบัดหน้าไปมาราวกับคนบ้า

     

                ปะ... เปล่านี่ เดี๋ยวดูแผลให้นะ ยูคยอมที่เริ่มได้สติมาแล้ว พูดด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะขยับเข้าไปใกล้ๆตัวคนตัวเล็ก เพื่อจะดูว่าเป็นแผลอะไรหรือเปล่า แต่เมื่อสายตานั่นต้องเข้ากับผิวขาวเนียนก็เหมือนกับต้องมนต์สะกด ที่สะกดสายตาของร่างสูงนั่นไว้ ไม่ให้คลาดเคลื่อนไปไหน ยูคยอมกลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก คนที่บอกว่าไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้กลับคิดเตลิดไปไกลถึงไหนแล้วไม่รู้

     

                อยู่ๆมือเจ้ากรรมของยูคยอมก็เลื่อนไปลูบไล้เบาๆที่แผ่นหลังขาวเนียนของคนตัวเล็ก ถึงแม้ว่าจะมีรอยช้ำเขียวๆที่บริเวณกลางหลังนั่น ก็ไม่ได้ทำให้ยูคยอมอยากละสายตาไปจากแผ่นหลังเล็กนั่นได้เลย เขารู้สึกต้องการคนตัวเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ เร็วกว่าสมองจะสั่งการ คนตัวสูงก็เลื่อนใบหน้าไปบริเวณหลังของแบมแบม ก่อนที่จมูกโตๆนั่นจะค่อยๆเลื่อนขึ้น ขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงซอกคอของคนตัวเล็ก

     

                เหมือนว่าแบมแบมจะตั้งสติได้ก่อน และรู้สึกถึงความผิดปกติของยูคยอมจึงรีบหันหน้ามาหาเพื่อนสนิทที่ตอนนี้สติเหลือเพียงน้อยนิด และยากที่จะดึงสติน้อยๆนั่นกลับมา คนตัวเล็กที่หวังจะหันหน้ามาเพื่อห้ามเพื่อนตัวโตให้หยุดได้แล้ว แต่กลับเป็นว่าจมูกรั้นๆ ของแบมแบมกลับชนเข้ากับจมูกของยูคยอมเข้าอย่างจัง

     

                ท่ามกลางความตกใจของทั้งคู่ หารู้ไม่ว่าภายในห้องพยาบาลที่คิดว่ามีเพียง 2 ชีวิตอยู่ในนั่นยังคงมีใครคนหนึ่งที่อารมณ์เดือดพล่านกำลังแอบมองเข้ามาจากหน้าต่างด้านนอก นัยต์ตาเรียวคมนั่นเปรียบเหมือนดั่งเปลวเพลิงที่อยากจะฉีกร่างของใครสักคนใน 2 คนนั่นที่อยู่ในห้องพยาบาล ก่อนที่ร่างร่างนั่นจะเดินออกไปจากบริเวณห้องพยาบาลโดยที่คน 2 คนนั่นไม่รู้อะไรเลย

     

                ยะ... ยูค แบมแบมที่ตั้งสติได้อย่างครบถ้วนแล้วเอ่ยออกไปเพียงแค่นั้น ก่อนจะรีบหยิบเสื้อที่หล่นอยู่ข้างเตียงนั่นขึ้นมาใส่

     

                เอ่อ... ฉันขอโทษนะ ยูคยอมพูดออกไปจากความรู้สึกจริงๆ ทั้งที่คิดว่าจะไม่มีทางทำให้คนตัวเล็กนั้นบอบช้ำ แต่ที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว เขานั่นเกือบทำให้แบมแบมแปดเปื้อนไปแล้วจริงๆ

     

                อืม ไม่เป็นไรหรอก คิดมากน่า ฉันรู้ว่านายไม่คิดอะไร คนตัวเล็กพูดยิ้มๆ ไม่อยากให้ร่างสูงเป็นกังวล กลับบ้านเถอะ

     

     

    DECEPTION LOVE

     

     

                “แฮ่ก... บีเหนื่อย... แฮ่กๆ เสียงใสใสผสมปนเปกับเสียงหอบของจินยองขาดหายเป็นช่วงๆ เนื่องจากความเหนื่อยจนฟังไม่รู้เรื่องว่าคนตัวเล็กนั้นต้องการจะพูดหรือหอบกันแน่

     

                ก็ต้องเหนื่อยสินี้มัน 3 รอบแล้วนะ เสียงทุ้มของเจบีเอ่ยขึ้นอย่างตำหนิ แหงสิ ก็คนตัวเล็กวิ่งขึ้นๆลงๆ แบบนี้อยู่ 3 รอบแล้วเพื่อเอางานในแต่ละวิชาไปส่ง และยังไม่ให้เพื่อนตัวสูงช่วยอีกต่างหาก และห้องประจำวิชาของอาจารย์แต่ละคนเขาอยู่ใกล้กันที่ไหนละ

     

                จินยองเมื่อโดนคนตัวสูงบ่นอย่างกับปู่แก่ๆ ก็ได้แต่ทำหน้าบูดเบี้ยวด้วยความเซ็ง แต่ก็ขี้เกียจที่จะโต้ตอบกลับ ไม่งั้นคงต้องโดนบ่นถึงวันพรุ่งนี้เช้าไม่ได้กลับบ้านกลับช่องกันพอดี

     

                “พอจะช่วยก็ไม่ให้ช่วย สุดท้ายก็มาบ่นว่า...” เจบียังคงบ่นต่อด้วยความเพลิดเพลิน

     

                หยุดบ่นกู แล้วกลับบ้าน ยังไม่ทันที่เจบีจะพูดจบประโยค ก็โดนเสียงเล็กๆนั่นเอ่ยขัดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดเนื่องจากความอดทนในการฟังคนตัวสูงพูดได้สิ้นสุดลงแล้วพร้อมกับยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเจบีเป็นการเตือนครั้งสุดท้าย และมันได้ผลเจบีเงียบกริบไม่แม้แต่จะเอ่ยปากพูดขึ้นเลย

     

                และยังไม่ทันที่ขาจะก้าวพ้นประตูห้องก็เจอะกับใครคนหนึ่งเข้าก่อน ใครที่เจบีเกลียดขี้หน้ามากที่สุด เพราะมันเอาแต่ตามติดจินยองแจเลย ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ผมก็แค่รำคาญมันเท่านั้นแหละ ไม่มีอะรานอกเหนือจากนั้นหรอก

     

                อ้าว จงฮยอนยังไม่กลับอีกเหรอ? เย็นแล้วนะ จินยองพูดก่อนจะยิ้มให้คนที่ชื่อจงฮยอนซึ่งเป็นกรรมการนักเรียนของระดับชั้นเกรด10 เจบีได้แต่มองเงียบๆ อย่างไม่คิดจะสนใจอะไรก่อนจะเบือนสายตาไปทางอื่น

     

                ยังเลยน่ะ ฉันต้องมาตรวจห้องของเกรด 12 ทั้งหมดน่ะสิ เหนื่อยจะแย่แล้วจงฮยอนพูดยิ้มๆ ถึงแม้จะบ่นไปเรื่อย แต่ก็ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไร

     

                ฮ่ะๆๆ พยายามเข้าละกัน ฉันกลับก่อนนะเมื่อจินยองพูดจบจึงโบกมือลา ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้อง แต่ถ้าไม่ติดว่ามีมือของใครมาคว้าไว้ก่อน

     

                เจบีที่เห็นว่าจงฮยอนคว้ามือของจินยองไว้ ก็ได้แต่มองด้วยความไม่พอใจแต่ก็ทนเงียบไว้ ก่อนที่จะเลือกเดินออกไปรอนอกห้อง เพราะบทสนทนานั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเขาและไม่อยากจะเห็นหน้าของไอ้กรรมการนักเรียนเจ้าเล่ห์ที่ขี้หรี่ไปวันๆ ใสใสอย่างจินยองน่ะไม่ทันมันหรอก

     

                “คืนพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดฉัน ฉันอยากให้นายไปน่ะ ที่ผับ GOT 3ทุ่มนะ

     

                วันเกิดนายนี่ ได้อยู่แล้ว

     

                เจบีที่ยังไม่ทันได้เดินพ้นออกจากห้อง ได้ยินประโยคแรกว่าอารมณ์เสียแล้ว แต่เมื่อได้ยินประโยคตกลงถัดมาของจินยอง ยิ่งทำให้เจบีอารมณ์เสียเข้าไปอีก และยังไม่ทันที่สมองจะประมวลผลอะไรเสร็จเรียบร้อย ร่างกายของร่างสูงกลับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

     

                เจบีรีบจูงมือคนตัวเล็กเดินออกมาจากตรงนั้น ก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ไปตกลงมันได้ยังไง? ไปผับงั้นหรอ? เฮอะ คนอย่างจินยองเนี่ยนะจะไปที่แบบนั้น บ้าไปแล้ว จินยองไม่เคยไปเหยียบที่แบบนั้นเลยด้วยซ้ำ!!

     

                นี่ มึงจะรีบอะไรขนาดนั้น กูก็บอกแล้วให้กลับไปก่อนๆ คนตัวเล็กที่เห็นว่าเจบีนั้นเอาแต่เดินๆๆ ไม่ได้รู้เลย ว่าเพื่อนตัวสูงของตัวเองนั้นอยู่ในโหมดไหนก็เอาแต่บ่นเพราะไม่คิดว่าเจบีนั้นจะอารมณ์เสียแต่อย่างใด

     

                นี่ กูบอกว่ายะ...”

     

                เงียบ!!”

     

                ร่างสูงหยุดเดินก่อนที่จะตวาดไปแบบนั้นก็ทำให้จินยองนิ่งสนิทด้วยความตกใจ เพราะจินยองเองก็ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ เพื่อนสนิทถึงโกรธได้

     

                เวลาผ่านไปนานนับนาทีแต่บริเวณนั้นก็ยังคงเงียบกริบไร้สิ่งเคลื่อนไหว จนสุดท้ายคนที่ต้องหลุดปากพูดออกมาก่อน คงไม่พ้นจินยอง

     

                มึงเป็นอะไร? คำถามเรียบๆ แต่มันเหมือนแทงใจดำคนตัวสูงอย่างบอกไม่ถูก

     

                “...”

     

                บอกกูมาสิบี คนตัวเล็กพูดก่อนจะมองลึกลงไปในนัยต์ตาของคนตัวสูง หวังที่จะเคร้นคำตอบจากเจบี

     

                “มึงไปทำไม?ถึงแม้จะเป็นประโยคคำถามสั้นๆ แต่ก็พอทำให้จินยองเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด ว่าทำไมคนตัวสูงถึงอารมณ์เสีย

     

                “ก็ไปงานวันเกิดไง จินยองตอบออกไปอย่างกวนๆ เมื่อเห็นว่าเจบีเริ่มอ่อนลงแล้ว

     

                “ผับเนี่ยนะ? มึงเคยไปเหรอ? กูไม่ให้มึงไป ร่างสูงตอบอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่เจบีกำลังไม่พอใจ แต่บนใบหน้าของจินยองกลับเปื้อนยิ้มซะได้ ยิ้มอะไรของมึง

     

                เปล่า คนตัวเล็กตอบอย่างลอยหน้าลอยตา งั้นมึงก็ไปกับกูสิ

     

     

    DECEPTION LOVE

     

     

                บางทีผมก็ไม่เข้าใจ ว่าครูจะสอนซ้ำไปซ้ำมาเรื่องที่เรารู้แล้วทำไม ไม่เข้าใจว่าเรื่องบางอย่างเรียนแล้วเอาไปใช้อะไรได้ ไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ใช้ชีวิตแบบผ่านไปวันๆ และวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผ่านไปแบบไม่ได้อะไร

     

                เฮ้อออ...

     

                เป็นอะไรอีกละแบม ยองแจที่กำลังเตรียมเก็บของกลับบ้าน หันมาถามแบมแบมที่วันนี้เอาแต่นั่งถอนหายใจทั้งวัน

     

                เปล่า... วันนี้ไปเดินเล่นกันเถอะ  ที่ผมพูดถึงคือห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แต่ต้องเดินไปไกลหน่อย เรามักจะไปที่นั่นกันบ่อยๆ เวลาที่ยังไม่อยากกลับบ้าน

     

                แล้วพี่นายจะไม่ด่าเอาหรือไง?ยูคยอมพูดขัดขึ้น เพราะรู้ดีว่าพี่ของคนตัวเล็กนั่นร้ายแค่ไหน แต่สิ่งที่ได้เป็นคำตอบกลับมานั่นคือรอยยิ้มของแบมแบม

     

                พี่ฉันไม่อยู่น่ะ แบมแบมพูดขึ้น ก่อนจะยิ้มอย่างร่าเริง ท่าทางแบบนั้นทำให้เพื่อนอีก 2 คนถึงกับยิ้มตามไปเลยทีเดียว ก็รอยยิ้มของคนตัวเล็กน่ะ ถ้าไม่มีอยู่โลกนี้คงเรียกว่าขาดสีสรรไปเลยก็ว่าได้

     

                งั้นก็ไปสิ

     

                เอ่อ... ฉันไปไม่ได้แล้วว่ะ พวกนายไปกัน 2 คนนะ พอยองแจนั่นพูดจบก็รีบวิ่งออกจากห้องไปซะงั้น ถ้าแบมแบมไม่ได้รู้สึกไปเอง เขารู้สึกเหมือนว่ายองแจกำลังจะจับคู่แบมแบมกับยูคยอมยังไงยังงั้นเลย

     

                อะไรของมัน ช่วงนี้นี่แปลกๆ และแบมแบมเอ่ยขึ้น และคิดว่ายูคยอมเองก็คงรู้สึกแบบเดียวกับเขาเช่นกัน

     

                ช่างยองแจเถอะ ไปกันดีกว่าแบมใช่ว่ายูคยอมจะไม่รู้ว่ายองแจนั่นจับคู่ให้เราทั้ง 2 คนอยู่ แต่มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับยูคยอมที่จะได้เตรียมรุกแบมแบมเต็มที่ เพราะเขาแน่ใจแล้วว่าเขานั่นชอบแบมแบมจริงๆ และจะไม่ปล่อยไปแน่ๆ

     

     

                @ห้างสรรพสินค้า

     

    นานๆทีแบมแบมจะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่าพี่ชายต่างสายเลือดของแบมแบม เพียงแค่คนตัวเล็กกลับบ้านช้านิดหน่อยก็โดนเล่นเข้าซะแล้ว และนี่ก็เป็นโอกาสดีที่เขาจะทำให้คนตัวเล็กของเขามีความสุข

     

                ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มครึ่งแล้ว แต่ยูคยอมกับแบมแบมยังคงอยู่ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยที่ในมือใหญ่ของยูคยอมนั่นเต็มไปด้วยถุงที่บรรจุเสื้อผ้าที่ยูคยอมซื้อให้แบมแบมอยู่ด้านใน

     

                ยูคยอม ดูตุ๊กตานี่นี่สิ น่ารักจัง แบมแบมชี้ไปทางตู้หยอดเหรียญที่ไว้หนีบตุ๊กตา ซึ่งในเครื่องนั่น บรรจุตุ๊กตา DOMO กับ โพนี่ ไว้ด้านใน

     

                แบมอยากได้ตัวไหนละ? ยูคยอมละสายตาจากตู้ตุ๊กตาหันมาถามแบมแบมที่เอาแต่จ้องไปที่ตุ๊กตา ตอนนี้ดวงตากลมโตของคนตัวเล็กนั้นเต็มไปด้วยประกาย

     

                “อยากได้ DOMO อ่ะยูค คนตัวเล็กตอบกลับมาทั้งที่ไม่ได้หันมามองคนถาม แต่ก็ต้องตกใจ เพราะว่าอยู่ๆยูคยอมก็เดินตรงไปที่ตู้ตุ๊กตานั่นทันที ก่อนจะหยอดเหรียญสิบจำนวน 2 เหรียญลงไปในตู้นั่น ตัวหนีบ 3 ขาค่อยๆ เลื่อนไปทางตุ๊กตาที่แบมแบมอยากได้ คนตัวเล็กมองอย่างหวังว่าเพื่อนของเขานั้นจะสามารถเอาตุ๊กตาขึ้นมาได้

     

                และสำเร็จ!! มันติดขึ้นมาแล้ว... ก่อนจะร่วงแผละลงไปใหม่

     

                ยูคยอมยอดเหรียญลงไปอีกครั้งก่อนที่ผลจะออกมาเป็นเหมือนเดิม เพื่อนตัวสูงทำแบบนั้นซ้ำๆอยู่หลายครั้งเพราะต้องการจะเอาตุ๊กตาตัวนั้นมาให้แบมแบมให้ได้ จนรู้สึกว่าเงินที่ยอดทีละ 20 เป็นจำนวนเกือบ 10 ครั้งนั้นอาจจะสามารถเอามาซื้อตุ๊กตาโดยที่ไม่ต้องมาเล่นแบบนี้ก็ได้

     

                “ยูคพอเถอะ จะ 2 ทุ่มแล้วนะ กลับบ้านกัน

     

                แปปดิ จะได้... จะได้แล้ว...ได้แล้วแบมแบม!!!” ยูคยอมที่อยู่ๆก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ทำให้คนในบริเวณนั้นหันมามองเป็นตาเดียวกัน

     

                ไหนๆ ได้แล้วเหรอ? แบมแบมรีบวิ่งไปหายูคยอมทันที แต่ก็อยากจะร้องไห้ออกมาทันที เพราะมันไม่ใช่ตุ๊กตา DOMO ที่เขาอยากได้ แต่มันเป็น โพนี่สีชมพูหวานแว๋วเลยล่ะ ยูคนี่มันโพนี่ไม่ใช่ DOMO นะ

     

                เพื่อนสนิทอย่างยูคอยมที่เห็นว่าเพื่อนตัวเล็กของเขานั้นทำหน้างอ สีหน้าแสดงชัดเจนมากว่าผิดหวัง คนตัวสูงจึงรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วยัดเจ้าตุ๊กตาสีชมพูใส่มือคนตัวเล็ก

     

                ทำอะไรน่ะยูค? แบมแบมถามเมื่อคนตัวโตทำเนียนเลื่อนมาจับมือ

     

                ไปส่งนายไงยูคยอมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ราวกับว่าไม่ได้ทำอะไร ทั้งๆที่ในใจก็รู้อยู่เต็มอกว่าแบมแบมหมายถึงอะไร

     

                “ฉันหมายถึงจะจับมือทำไม?

     

                กลัวหายน่ะ ยูคยอมตอบยิ้มๆ ก่อนจะหันจ้องตากับคนตัวเล็กที่เขานั่นถนุถนอมและรักมาก

     

     

                ขอบคุณนะที่มาส่ง ดึกมากแล้วด้วย จริงๆฉันกลับเองก็ได้ แบมแบมพูดอย่างเกรงใจ แน่สิ ก็ยูคยอมทั้งซื้อเสื้อผ้าให้ ทั้งยังพาไปเดินเล่น แถมยังเสียเงินไปตั้งเยอะกว่าจะได้โพนี่สีชมพูนี่มาได้

     

                ไม่เป็นไรหรอก ฉันเต็มใจ คนตัวสูงพูดยิ้มๆ ก่อนที่จะเอือมมือมายีผมนุ่มๆของแบมแบม แต่ฉันขอรางวัลได้ป่ะ?

     

                ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะเข้าใจสิ่งที่เพื่อนสนิทพูด ยูคยอมก็ก้มลงมาบรรจงหอมแก้มของคนตัวเล็กเร็วๆ ก่อนจะผละออก การกระทำของยูคยอมทำให้แบมแบมช็อคเล็กน้อยก่อนที่จะตั้งสติได้แล้วฟาดเข้ากับต้นแขนของเพื่อนที่ชอบทำอะไรแปลกๆ

     

                กลับบ้านไปเลยยูคยอม!!” แบมแบมตะโกนออกไปเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง ก่อนจะโบกมือเป็นเชิงไล่ และวิ่งขึ้นคอนโดอย่างรวดเร็ว

     

                ยูคยอมมองคนตัวเล็กที่หายเข้าไปในคอนโดอย่างยิ้มๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีคนคนหนึ่งกำลังมองลงมาจากคอนโดจำนวนชั้นไม่สูงมากที่ไม่ได้กำลังยิ้มไปด้วยเลย ในมือของคนคนนั้นกำแน่นเต็มไปด้วยความแรงโทสะและความโกรธนั้นพร้อมที่จะลงกับใครก็ได้เสมอ ที่ผ่านเข้ามาในเวลานี้...

     

     

                วันนี้ผมมีความสุขมากจริงๆนะ นานๆทีจะได้ไปเที่ยวแบบนี้ พอนึกถึงเรื่องในวันนี้ผมก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ และไม่นานเกินรอ ลิฟต์ก็มาหยุดอยู่ที่ชั้น ขาเรียวเล็กก้าวมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องก่อนจะแตะคีย์การ์ดและเปิดเข้าไปอย่างที่ควรจะทำ

     

                และเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องแปลกใจว่าทำไมในห้องนั่น ไฟถึงเปิดอยู่ แจบอมลืมปิดอย่างนั้นเหรอ? ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรให้มากความ เสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น

     

                แรดเสร็จแล้วหรือไง? น้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงเต็มไปด้วยความโกรธ นั่นทำให้แบมแบมตกใจได้ไม่ยาก ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้!!

     

                “พี่มาร์ค!!!”








     

    60%








     

                เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มกับแสงสีนับสิบที่กำลังสาดส่องไปทั่วบริเวณภายในผับ ทำให้คนตัวเล็กที่นั่งหลบมุมอยู่นั่นปวดหัวตุ้บๆ เจบีพูดถูกว่าผมไม่ควรมาที่นี้เลยจริงๆ

     

                ไงล่ะ สนุกมั้ย? อยากมาดีนัก เสียงเรียบนิ่งแต่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าหงุดหงิดของเจบีเข้ามาในโสตประสาทของจินยอง

     

                สนุกสิ งานวันเกิดจงฮยอนนี่ ผมพูดออกไปตรงข้ามกับความรู้สึกทุกอย่าง ตามจริงแล้วตอนนี้จินยองอยากจะกลับบ้านมากเลยต่างหาก แต่ไม่อยากเสียหน้ากับเจบี และอุตส่าห์รับปากจงฮยอนไว้ว่าจะมาร่วมงานก็ต้องอยู่จนจบสิ

     

                งั้นก็สนุกต่อไปละกัน กูไปห้องน้ำก่อน เมื่อเจบีได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหงุดหงิดขึ้นมาทันที ทั้งที่ตอนแรกก็หงุดหงิดมากพออยู่แล้ว สนุกเพราะวันเกิดไอ้จงฮยอนอย่างนั้นเหรอ? เฮอะ นั้นเป็นเหตุผลที่ร่างสูงขอตัวมาเข้าห้องน้ำเพราะอยากจะสงบสติก่อน

     

                จินยอง... ไม่สนุกเหรอ? นั่งเงียบเชียว เจบีไปเข้าห้องน้ำไม่ถึงนาทีอยู่ๆกรรมการนักเรียนก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมกับถือแก้ว 2 แก้วที่บรรจุน้ำสีอัมพันเพียงครึ่งแก้วน่าดื่ม แต่ลองได้ดื่มเข้าไปสิไม่ขำแน่

     

                ไม่นะ ไม่ๆๆ สนุกสิ แต่ตอนนี้ฉันแค่ไม่มีอะไรทำน่ะ จินยองรีบโบกไม้โบกมือเพราะกลัวว่าเพื่อนของตนนั่นจะเข้าใจผิด

     

                จงฮยอนยกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะยกแก้วที่บรรจุน้ำสีอัมพันนั่นให้จินยองเป็นเชิงว่าให้ดื่มฉลองวันเกิด ทำให้จินยองเลี่ยงไม่ได้ นอกจากหยิบแก้วในมือของกรรมการนักเรียนเอาไว้ก่อนที่จะชนแก้ว

     

                “ไม่ดื่มละจินยอง วันเกิดฉันน้า จิบๆก็ได้ จงฮยอนที่ดื่มไปหมดแก้วแล้ว พูดอ้อนๆ ทำให้คนตัวเล็กที่กำลังจะปฏิเสธต้องกลืนคำพูดทั้งหมดไป

     

    จิบนิดนึงคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง คิดได้ดังนั้นก่อนจะค่อยๆ กระดกแก้วน้ำสีอัมพันนั่นลงคอที่ละนิด แต่เมื่อดื่มลงคอไปได้เพียงอึกเดียวก็แทบอยากจะคายทิ้งออกมา ทำไมขมงี้ว่ะ ดื่มกันไปได้ยังไง ทั้งที่ตอนแรกคิดไว้ว่าจะแค่จิบๆ แต่รู้ตัวอีกทีก็ซัดไปซะหมดแก้วแล้ว

     

                เพียงไม่กี่วินาที จินยองก็รู้สึกว่าภาพคนที่กำลังเต้นอยู่บนฟอร์กันอย่างเมามันกับแสงสีที่ชวนแสบตานั่นค่อยๆพล่าเลือนลงเรื่อยๆ เสียงเพลงที่เคยดังจนน่าหนวกหู บัดนี้กลับอื้อจนแทบไม่ได้ยิน

     

                จงฮยอน... ทำไมฉันมึนแบบนี้...” ผมหันหน้าไปมองจงฮยอน แต่ก็แทบจะมองอะไรไม่ออก ทำไมจงฮยอนมี 3 หน้านะ ทุกอย่างมันเลือนรางไปหมด

     

                ฮ่ะๆๆ นายเมาแล้วเหรอ? คออ่อนจังนะ จงฮยอนตอบออกมาด้วยความขบขัน ก่อนที่มือหนานั่นจะเริ่มซุกซนกับร่างกายของจินยอง

     

                อื้อ... ทำอะไรน่ะจงฮยอน? จินยองถามเสียงแผ่วเมื่อกรรมการนักเรียนจงฮยอนมือเริ่มอยู่ไม่สุข มือหนาลูบบริเวณต้นขาขาวของคนตัวเล็กเบาๆ จงฮยอนค่อยๆ โน้มคอของคนตัวเล็กลงมาเพื่อหวังจะประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากเรียวเล็กของจินยอง

     

                ไม่ใช่ว่าคนตัวเล็กจะไม่อยากผลักอีกคนต่อไป แต่ตอนนี้ในหัวของเขานั้นมันหมุนซะจนไม่รู้อะไรเป็นอะไร เรี่ยวแรงที่มีน้อยอยู่แล้วตอนนี้ก็แทบจะไม่มีเหลืออยู่เลย แต่ไม่ทันที่ริมฝีปากของทั้งสองคนจะประกบกันเสียงของใครคนนึงก็ดังขึ้นเสียก่อน

     

                เฮ้ย มึงทำอะไรว่ะ?เจบีพูดอย่างเอาเรื่องก่อนจะผลักร่างของจงฮยอน จนร่างนั้นกระเด็นออกไปล้มลงกับพื้น เตรียมที่จะลงไปปล่อยหมัดซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าเสียงคนตัวเล็กเรียกเขาไว้ซะก่อน

     

                เจบี... พาเนียร์กลับที เสียงหวานที่แหบพร่านั้นเรียกสติของร่างสูงกลับมาได้เป็นอย่างดี ถ้อยคำที่จินยองไม่เคยพูด ทำให้เจบีแปลกใจไม่น้อยที่จินยองแทนตัวเองว่าเนียร์ซึ่งน้อยครั้งที่จะได้ยิน

     

                ร่างสูงค่อยๆ พยุงคนตัวเล็กออกมาจากผับ บอกไว้ก่อนเลยว่าผมไม่มีทางให้จินยองกลับมาเหยียบที่นี้อีกเด็ดขาด ผมได้แต่โทษตัวเองนิดๆว่า ไม่น่าปล่อยให้เพื่อนของเขานั้นอยู่คนเดียวเลย ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าจินยองน่ะมั่นพวกเล่ห์เหลี่ยมเยอะอย่างจงฮยอนมันหรอก

     

                เฮ้อ กูบอกแล้วว่ามึงไม่ทันมันหรอก ผมบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์เหล้า ถึงจะดื่มไปแค่แก้วเดียวแต่อย่างจินยองที่ไม่เคยดื่มน่ะ คงทำให้เมาได้ไม่ยากนักหรอก

     

                ผมจับคนตัวเล็กเข้าไปในรถ ดีนะที่วันนี้บอกคนขับรถว่าไม่ต้องมารับเลยยืมรถมาขับได้ ไม่งั้นแย่แน่ๆ เจบีปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับก่อนที่จะอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง และรีบออกรถด้วยความเร็ว

     

                และไม่นานรถก็มาจอดอยู่ในบ้านหลังไม่ใหญ่มาก แต่ตกแต่งอย่างหรูหรา ผมเคยมาที่นี้หลายครั้งแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะมาถูกทาง

     

                “เนียร์ตื่นได้แล้ว ร่างสูงเรียกปลุกอีกคน แต่ดูท่าแล้วคงจะไม่ตื่นง่ายๆ จึงค่อยๆอุ้มคนตัวเล็กออกมาจากในรถ เมื่ออุ้มจินยองมาอยู่ในอ้อมกอดแล้วคนตัวเล็กก็ซุกหน้าลงกับอกของคนตัวสูงเหมือนกับลูกแมวตัวเล็กๆที่โหยหาความอบอุ่น

     

                ไงล่ะ จะไปผับสุดท้ายก็หมดสภาพแบบนี้ ถ้าเขาไปไม่ทันตอนที่ไอ้จงฮยอนมันกำลังลวนลามจินยองอยู่ล่ะก็... รับรองคนตัวเล็กได้โดนมันลากไปกินแน่ๆ

     

                อ่าว ไปทำอะไรกันมาค่ะ ทำไมคุณหนูกลับมาสภาพนั่นค่ะ คนใช้คนเดียวภายในบ้านอย่าง แอ๋ม รีบกระตือรือร้นออกมาทันที ที่เห็นว่าคุณหนูหรือจินยองนั่นถูกผมอุ้มเข้ามาในบ้าน

     

                เอ่อคือ... จินยองเมาน่ะครับ ผมตอบไปตามความเป็นจริง แต่สาวใช้นั่นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน ก็อย่างที่รู้กันจินยองน่ะเคยดื่มที่ไหนกันละ

     

                คุณหนูจินยองเนี่ยนะค่ะ จะดื่มกับใครเขาด้วย!!!” แอ๋มถามออกมาอย่างตกใจ เจบีได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เพราะไม่รู้จะตอบยังไงดี ทำให้สาวใช้นั่นพอจะรู้ตัวว่าควรให้เพื่อนของจินยองนั่นพาคุณหนูขึ้นไปในห้องได้แล้ว คิดได้ดังนั้นจึงหลีกทางให้ร่างสูงและหลบไปทำงานอย่างอื่นแทน

     

                เมื่อเจบีพาคนตัวเล็กที่เมาจนหลับไม่รู้เรื่อง มาถึงห้องแล้วก็ค่อยๆวางลงบนเตียงหลายตุ๊กตาสีฟ้าอ่อนที่โคตรจะไม่เข้ากับผู้ชายอย่างแผวเบา เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผมไม่อยากทำให้คนตัวเล็กตื่นจากนิทรา แต่ทำไมตัวร้อนๆนะ เป็นไข้งั้นเหรอ? เจบีค่อยๆเอื้อมมือไปอังที่หน้าผากเบาๆ ก็รับรู้ถึงอุณหภูมิที่เกิน 37 องศาแน่นอน

     

                แอ๋ม เอาผ้าเช็ดหน้ากับยาลดไข้มาให้หน่อย!!” ผมตะโกนลงไปยังชั้นล่าง เพื่อหวังให้สาวใช้นั่น นำของที่ตัวเองต้องการขึ้นมาให้ และไม่นานสาวใช้ก็รีบวิ่งขึ้นมาพร้อมกับของที่เขานั่นเพิ่งสั่งให้ไปเอา

     

                ขอบคุณครับ ร่างสูงกล่าวขอบคุณก่อนที่จะหันกลับมาสนใจกับร่างบางต่อเมื่อสาวใช้ออกจากห้องไปแล้ว

     

                คนตัวสูงหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหยิบกะละมังที่บรรจุน้ำอยู่เกินครึ่งออกมา เจบีนำผ้าจุ่มลงไปในน้ำและบิดจนหมาด ก่อนจะนำผ้าไปเช็ดที่ดวงหน้าหวานนั่นอย่างแผ่วเบา  และเลื่อนลงมาที่ซอกคอ

     

                นี่กูต้องถอดเสื้อมึงด้วยสินะ

     

                พอคิดได้ดังนั้นเจบีก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตัวเล็กออกจนหมด แต่เมื่อคนตัวสูงถอดเสื้อออกก็ถึงกับต้องผงะ

     

                ทำไมขาวงี้ว่ะ ถ้ากูเมาแล้วปล้ำมึงจะทำยังไง

     

                อยู่ๆความคิดเลวๆก็เข้ามาในหัวของผม ทำให้ต้องสะบัดหัวแรงเพื่อไล่ความคิดพิเรนทร์นั้นออก ก่อนจะเริ่มลงมือเช็ดตัวจินยองอย่างจริงจัง เพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะไม่หายไข้กันพอดี

     

                มือหนาค่อยๆบรรจงทาบผ้าชุบน้ำนั้นลงบนแผงอกของคนตัวเล็กนั้นเบาๆ พลางคิดขึ้นขำๆว่า ทำไมเพื่อนตัวเล็กของเขาถึงร่างบางอย่างกับผู้หญิงอย่างนี้นะ ซิกแพ็คอะไรก็ไม่มีสักนิด สายตาซุกซนของเจบีตอนนี้เริ่มจะซุกซน เริ่มไล่สายตาตั้งแต่หน้าทองแบนราบที่ขาวนวลจนน่าสำผัสมองต่ำลงไปเรื่อยๆจน

     

                ไอ้บี!! มึงเช็ดตัวให้เนียร์อยู่ มึงมองห่าอะไร เช็ดตัวดิว่ะเช็ดตัว!!!

     

                หลังจากที่ผมตบหน้าตัวเอง 2-3 ครั้งเพื่อเรียกสติตัวเองกลับคืนสู่ร่างกายแล้วก็เริ่มลงมือเช็ดตัวจนเสร็จอย่างเร่งรีบ ก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อที่จะหาเสื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนให้จินยอง

     

                บี เนียร์หนาว...สรรพนามที่ไม่เคยใช้ ออกมาจากปากของคนตัวเล็กที่กำลังนอนอยู่ ทำให้ร่างสูงที่เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จถึงกับนิ่งไปเล็กน้อย ผมรู้สึกใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก เมื่อจินยองใช้สรรพนามแทนตัวเองอย่างนั้น

     

                หนาวอะไรของมึงว่ะ ตัวออกจะร้อนขนาดนั้นปากก็พูดไป แต่มือก็หยิบผ้าห่ม 2 ผืนขึ้นมาห่มให้คนตัวเล็กเสียอย่างนั้น ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืน ผมควรจะกลับบ้านได้แล้ว เมื่อคิอย่างนั้นเจบีก็เตรียมลุกขึ้นแต่ดันมีมือเล็กๆนั้นมารั้งข้อมือของผมไว้เสียก่อน

     

                บี อย่าเพิ่งไป...” ผมหันไปมองจินยองที่ปรือตาขึ้นมามองผม สายตาแบบนั้นมันทำให้ใจของเจบีสั่นได้ไม่ยากจริงๆ

     

                “...”

     

                “อยู่กับเนียร์...ก่อนนะเจบีไม่รู้ว่าตอนนี้จินยองนั้นเมาหรือว่าสติสัมปชัญญะนั้นครบถ้วนถึงได้พูดอย่างนั้นออกมา แต่มันก็ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดที่จะกลับลงทันทีที่ผมนั่งลงที่เดิม ร่างเล็กก็ค่อยๆหลับตาลง

     

                หนะ...หนาว จินยองพูดออกมาเสียงเบาทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ห่มผ้าให้ตั้ง 2 ผืนแล้วยังหนาวอีกเหรอว่ะ? จะให้กูทำยังไงเนี่ยเนียร์!!

     

                แต่แล้วอยู่ๆความคิดหนึ่งก็แทรกเข้ามา พอนึกได้ดังนั้นเจบีก็ไม่รอช้าเดินอ้อมไปทางเตียงอีกด้านค่อยๆสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มก่อนจะคว้าเอวบางจากทางด้านหลังเข้ามากอดไว้แน่น คนตัวสูงซุกใบหน้าคมคายนั่นไว้กับซอกคอของคนตัวเล็กก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนิทราตามจินยองไป

     

                กูกอดมึงแล้ว มึงคงไม่หนาวแล้วนะ...




















    TALK

     

    - น้านนน ยูคเขาจะรุกแล้ว พี่มาร์คเอาอะไรมาสู้ห๊า? แล้วไปอยู่ในห้องแบมได้ง้ายย พี่มาร์คอย่าเพิ่งกินแบมละ
    - 40% มาแล้วจ้า รีบมากจริงๆ มัวแต่โหวตให้กัซ พี่บีคิดอกุศลกับเนียร์เข้าแล้วว พี่บีตั้งสติไว้ๆ5555555555



    วันพุธไรท์เปิดเทอมแล้ว ปลี่ยนตารางการอัพเป็นอัพวันเสาร์น้า  
    ****เปล่ยนสกรีมน้าา อันเดิมมันซ้ำฮืออTT

     

    สกรีม #ฟิคฝังใจ


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×