คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Mistake 7
Mistake 7
ปัง!!
"ออกรถได้"
ร่างโปร่งของจุนมยอนเดินปึงปังขึ้นมาบนรถแล้วปิดประตูเสียงดัง ก่อนจะสั่งให้เทาที่นั่งประจำที่คนขับออกรถได้ ส่วนจงแดที่ถูกลากตัวออกมาจากห้องของอี้ชิงก่อนแล้วก็นั่งนิ่งหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างไม่ได้หันกลับมาสนใจจุนมยอนอีกแม้แต่น้อย
คิดจะงอนประชดกันรึไง?
รถสุดหรูเคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาลอย่างเงียบเชียบไม่มีใครเอ่ยปากแม้แต่นิด ทุกคนต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ถึงแม้ว่าความคิดของแต่ล่ะคนมันจะออกแนวคนล่ะแบบคนล่ะสไตล์สักหน่อยก็เหอะ
จงแดนั้นกำลังคิดวิธีที่จะหนีไปให้พ้นจากจุนมยอน ในใจก็นึกสงสัยว่าทั้งๆที่จุนมยอนนั้นก็ทำลายครอบครัวเขาจนย่อยยับไปแล้วเจ้าตัวยังจะต้องการอะไรอีก ครอบครัวของเขาไปทำอะไรไว้ให้นักหนาถึงต้องทำกันถึงขนาดนี้ คนที่สมควรจะแค้นมันต้องเป็นเขาไม่ใช่เหรอ? จุนมยอนน่ะเป็นคนทำลายครอบครัวเขานะ ไม่ใช่เขาที่ไปทำลายครอบครัวของจุนมยอนสักหน่อย ทำไมถึงต้องคอยตามจองล้างจองผลาญกันขนาดนี้ด้วย!?!
ทางด้านความคิดของจุนมยอน
ในตอนนี้สมองของจุนมยอนนั้นไม่ได้มีความคิดอื่นใดนอกจากเรื่องของ...คิม จงแด
ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องคิดถึงแต่เรื่องของเด็กนี่เหมือนกัน มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวาย ว้าวุ่นใจจนไม่เป็นอันทำอะไร สิ่งเดียวที่มันจุกอยู่ในใจของเขาตอนนี้มีแต่คำถามที่ว่า จะทำยังไงให้จงแดเป็นของเขาเพียงคนเดียว? เขาควรจะต้องทำยังไงดีล่ะ ในเมื่อหัวใจกับสมองนั้นมันสั่งงานไม่เหมือนกัน...
แล้วจื่อเทากับไคกำลังคิดอะไรอยู่ในใจลึกๆล่ะ?
ไค : ถ้ามันจะน่าอึดอัดขนาดนี้น่ะนะ -_-
เทา : เขาว่ากันว่าพวกที่ทะเลาะกันบ่อยๆแบบนี้น่ะ...ลูกดก -..-
กึก
รถคันหรูจอดลงภายในคฤหาสน์สุดหรู ไครีบวิ่งมาเปิดประตูให้กับเจ้านายทันที คงจะเพราะทนกับความอึดอัดภายในรถมาเนิ่นนานหรือไม่ก็กลัวว่าถ้าทำอะไรชักช้าระเบิดจะมาลงที่ตนเองได้
จุนมยอนก้าวลงมาจากรถเป็นคนแรกส่วนจงแดนั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ ใบหน้าหวานที่คงจะยังไม่เลิกงอง้ำนั้นก็หันหน้าไปอีกทางไม่ได้มีวี่แววว่าจะหันมาสนใจจุนมยอนที่ยืนรออยู่ข้างนอกเลยสักนิด และนั่นคงจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้จุนมยอนองค์ลง
"คิม จงแดลงมาได้แล้ว หรือจะให้เอาพรหมแดงมาวางให้เดินเลยดีไหมล่ะ" จุนมยอนเอ่ยประชดประชัน
"ถ้านายยังยืนอยู่ตรงนั้นฉันก็ไม่ลง" จงแดตอบทั้งที่ยังไม่หันหน้ากลับมามองอีกคน จุนมยอนหายใจฟึดฟัดเริ่มจะหมดความอดทนเข้าไปทุกที
"คิม จงแดฉันบอกให้นายลงมา!!"
"......"
"หึ ชอบให้ใช้กำลังสินะ" จุนมอนจัดการมุดตัวเข้าไปในรถอีกครั้ง มือหนาจับข้อมือบางแน่นก่อนจะดึงให้อีกคนลงมาจากรถสุดแรง
"อ่ะ! ปล่อยนะฉันเจ็บ"
แม้จงแดจะบอกว่าเจ็บแต่จุนมยอนก็หาได้สนใจ ร่างโปร่งยังคงลากตัวร่างบางลงมาจากรถโดยไร้ซึ่งความปราณี มืออีกข้างของจงแดพยายามแกะมือหนาของร่างโปร่งออกจากข้อมือตัวเองอย่างไม่ยอมแพ้ เล็บจิกเข้าที่มือของจุนมยอนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่จุนมยอนก็ยังคงนิ่งเฉยไม่ได้มีท่าทีว่าจะเจ็บเลยสักนิด
ร่างของจงแดโดนอีกคนลากผ่านสายตาของแม้บ้านและบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่รายลอบ สายตาที่แสดงออกถึงความสงสารร่างบางนั้นถูกส่งมาให้ตลอดทางแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาขัดร่างโปร่งเลยสักนิด คงเพราะกลัวว่าหัวอาจจะหลุดออกจากบ่าหรือไม่ก็กลัวจะตกงาน
"เป็นบ้าอะไรเนี่ย! ปล่อยฉันนะฉันเจ็บ ไอ้บ้าจุนมยอน!"
"เงียบ"
"ไม่โว้ยยย ฉันบอกให้ปล่อยยังไงล่ะไม่ได้ยินหรือไง ไอ้ป่าเถื่อน!!"
"......"
"เน้!!! ฉันบอกให้ปล่อยยยย!!!"
"ฉันบอกให้หุบปากไง!!"
สิ้นคำตะคอกของจุนมยอนจงแดก็ถึงกับหุบปากฉับ เพราะตอนที่คนตรงหน้าหันกลับมาตะคอกใส่เขานั้น จงแดรับรู้ได้ถึงสายตาที่โกรธจัดและดวงตาที่แดงก่ำด้วยไฟโทษะ
น่ากลัวชะมัด!!
ปัง!!
"โอ้ยย!"
ร่างของจงแดถูกเหวี่ยงลงกับเตียงอย่างไม่ออมแรง แม้ว่าเตียงมันจะนุ่มขนาดไหนแต่ถ้าลองโดนจับเหวี่ยงลงมาแรงขนาดนี้เป็นใครใครก็จุกอ่ะครับ
"นี่นาย! ฉันก็คนนะจะทำอะไรก็เห็นใจกันบ้างสิว่ะ!"
"แล้วทีนายทำอะไรน่ะเคยนึกถึงหน้าฉันบ้างไหม!!"
"ฉันทำอะไร"
จุนมยอนหลับตาลงอย่างต้องการระงับอารมณ์ เหอะ! คนที่ควรจะโกรธน่ะมันสมควรที่จะเป็นผมไม่ใช่เหรอ
"ฉันสั่งห้ามนายไม่ให้ไปเยี่ยมไอ้อี้ชิงแล้วนายไปทำไม!!!"
ดูเหมือนการที่เขาหลับตาผ่อนคลายอารมณ์เมื่อกี้มันคงจะไม่ได้ผล เพราะตอนนี้เขาดูโกรธมากกว่าตอนแรกอีก
หมอนี่เวลาโกรธแล้วน่ากลัวกว่าที่คิดแหะ
"......"
"ฉันถามว่านายไปหาไอ้อี้ชิงทำไม!!?"
"กะ ก ก็พี่อี้ชิงเป็นผู้มีพระคุณกับฉัน แล้วต้นเหตุที่ทำให้พี่อี้ชิงต้องเข้าโรงพยาบาลมันก็คือฉัน จะไปเยี่ยมมันผิดตรงไหน..."
"มันผิดตรงที่ฉันไม่อนุญาตยังไงเล่า!!"
"นายไม่ได้เป็นพ่อฉันซะหน่อยมีสิทธิ์อะไรมาห้ามนู่นห้ามนี่ อ๊ะ!"
ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ อยู่ดีๆไอ้บ้านี่ก็เกิดจะเลือดขึ้นหน้าตรงเข้ามาบีบไหล่ผมซะกระดูกแทบจะหัก
"ฉันเป็นมากกว่าพ่อนายซะอีก คิม จงแด..."
"....เจ็บ!"
"ถ้านายยังดื้อไม่ยอมฟังฉันนายจะเจ็บมากกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า!"
"ฉันเกลียดนาย! โอ้ย!! นี่นายจะบีบฉันแรงเกินไปแล้วนะ"
ดวงตาของเขานั้นแดงก่ำจนน่ากลัว แว่บนึงผมเห็นแววตาที่วูบไหวของเขาแต่ไม่นานมันก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่กราดเกรี้ยวเหมือนเดิม
"ฉันขอเตือนนายไว้เลยนะจงแดว่าอย่าทำให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้ เพราะคนที่เจ็บมันจะเป็นนายเอง"
"แล้วฉันทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!"
"ก็ตั้งแต่นายแอบหนีไปหาไอ้อี้ชิงจนถึงตอนนี้ที่นายเอาแต่เถียงฉันฉอดๆอยู่นี่ไง!"
จงแดทำท่าว่าจะเถียงต่อแต่ก็ต้องหุบปากฉับแทบจะทันทีที่จุนมยอนจ้องหน้าเขาเขม็ง
"......."
"นายต้องแต่งงานกับฉัน!"
จุนมยอนปล่อยมือออกจากไหล่ทั้งสองข้างของผมแล้วนำไปกอดอกพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบ แต่คนที่ได้ฟังอย่างผมมันคงจะเอ่ยตอบเสียงเรียบไม่ไหวเลยเผลอตะโกนออกไปเสียงดัง
"ห๊ะ!?! นายว่าไงนะ!"
ผมตะโกนเสียงดังดวงตาเบิกตากว้างตกใจกับประโยคที่อีกคนเอ่ยออกมาไม่หาย ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนหมอนี่บังคับแต่งงานหรอก แต่จะให้ทำใจยอมรับง่ายๆมันก็ยังไงอยู่ โดนผู้ชายด้วยกันขอแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องตลกนะ แล้วยิ่งคนที่ขอดันเป็นจอมวายร้ายแบบจุนมยอนแล้วด้วยจะต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่!
"ถ้านายยอมแต่งงานกับฉัน ฉันจะให้ทุกอย่างที่นายต้องการ"
"ไม่มีทาง! ยังไงฉันก็จะไม่ยอมแต่งงานกับนายเด็ดขาด!" ผมยืนยันเสียงหนักแน่น
"ฉันจะให้นายเรียนต่อเท่าที่นายต้องการ"
"....นาย ฉัน.."
ให้ตายสิ! เขาก็รู้ว่าผมอยากเรียนต่อขนาดไหน จะเอาเรื่องแบบนี้มาต่อรองมันก็ทำผมเขวสิ! ให้ตาย! จุนมยอนเป็นบุคคลที่อันตรายจริงๆ
"และฉันจะปล่อยเพื่อนนายไป"
เพื่อน? เท่าที่จำได้ผมแทบจะไม่มีใครคบเลยเพราะทุกคนต่างก็กลัวว่าจุนมยอนจะทำร้ายตนกับครอบครัวทั้งนั้น...แต่ก็คงจะมีอยู่แค่สองคนที่ใจกล้าบ้าบิ่นมาคบกับผม นั่นก็คือ พี่อี้ชิงและแบคฮยอน
"นายหมายถึงใคร"
"บยอน แบคฮยอน"
ผมชะงักไปนิดหน่อยตอนเขาเอ่ยชื่อของผู้มีพระคุณกับผมอีกคน
...จนได้สินะแบคฮยอน
"นายทำอะไรเขา!"
"หึ ฉันทำอะไรเขาไม่ได้หร๊อก" ตอบเสียงสูงอย่างจงใจ
"คิม จุนมยอน!" จงแดเรียกชื่ออีกคนเสียงเหี้ยม
"ฮ่าฮ่า! โกรธง่ายจังเลยนะครับ..."
"......."
ใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีของจุนมยอนที่แตกต่างจากตอนแรกๆโดยสิ้นเชิงนั้นยิ่งทำให้จงแดหงุดหงิดมากกว่าเดิม
"ฉันสั่งให้คนเฝ้าติดตามเด็กนั่นตลอดเวลา..."
"......."
"ถ้านายทำอะไรให้ฉันไม่พอใจฉันก็จะสั่งให้คน 'จัดการ' กับเด็กคนนั้นทันที!"
"เลว!!"
ผมพุ้งเข้าไปกระชากคอเสื้อของจุนมยอนอย่างแรงจนเขาที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวเซถลาไปด้านหลังเล็กน้อย มือของผมกำแน่นจนขึ้นข้อขาว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปเอาแรงมาจากไหน คงเพราะความโมโหมันกำลังกัดกินไปทั่วร่างกายของผมล่ะมั้ง
"ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำอะไรเพื่อนฉัน!!"
"ฉันก็บอกนายแล้วเหมือนกันว่าอย่าทำให้ฉันโมโหไม่งั้นคนที่จะเจ็บตัวมันก็คือนาย!!"
ผลั๊ก!!!
"อึก!!"
ร่างของผมถูกเหวี่ยงเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนรู้สึกจุกไปหมด แขนซ้ายของผมที่กระแทกกับผนังอย่างจังรู้สึกปวดจนชา ขาของผมแทบจะยืนไม่อยู่เลยจำต้องค่อยๆไถลตัวลงนั่งพิงกับกำแพง มือข้างขวาก็กุมแขนซ้ายไว้เพื่อหวังว่ามันจะบรรเทาอาการปวด...
แต่ไม่เลย...มันยังคงปวดตุบๆเหมือนเดิม
"ฮึก อึก!"
น้ำตาของผมไหลรินลงมาอย่างสุดที่จะกลั้น ผมไม่รู้ว่าตอนนี้จุนมยอนทำหน้ายังไง ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ได้แต่ปล่อยให้หยดน้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้มอย่างสิ้นปัญญา
"หึ! อย่ามาทำเป็นสำออยไปหน่อยเลยแค่นี้มันยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งที่ฉันต้องเจอหรอก!"
"..... ฮึก..."
ผมไม่ตอบอะไรเขาที่ทำได้ตอนนี้ก็แค่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นและหยดน้ำตาให้หยุดไหล...แม้ว่ามันจะยากไปสักหน่อยก็เถอะ
"คนที่คิดจะสู้กับฉันมันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ..."
"......"
"นายนี่มันน่าสมเพชจริงๆ"
"ฮึก...."
"เหมือนพ่อกับแม่นายไม่มีผิด!"
"อย่ามาว่าพ่อกับแม่ฉัน!!"
ผมที่เงียบฟังเขาอยู่สักพักก็เริ่มจะทนไม่ไหว เขาจะด่าจะว่าผมยังไงก็ได้แต่อย่ามายุ่งกับพ่อแม่ผม...ท่านมีค่ามากกว่าที่จะให้คนเลวๆอย่างจุนมยอนมาด่าเสียๆหายๆแบบนี้
"ทำไมจะว่าไม่ได้! พ่อกับแม่นายมันไอ้พวกหมาลอบกัด!"
"หยุดนะ!!"
"มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น..."
"ฉันบอกให้หยุด!!!"
คราวนี้ผมตะโกนเสียงดังลั่น ยังแอบตกใจว่าตัวเองไปเอาเสียงมาจากไหนถึงได้ตะโกนออกไปดังถึงขนาดนั้น
"นายไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน!!"
"นายก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าพ่อกับแม่ฉัน!!!"
"...!!!!"
"พวกท่านน่ะมีค่าเกินกว่าที่นายจะมากล่าวพาดพิงว่าร้าย..."
"...หึ! ตอแหลสิไม่ว่า..."
"คนอย่างนายมันไม่มีหัวใจ!! ทั้งที่นายเป็นคนทำลายครอบครัวฉันแท้ๆฉันยังไม่คิดที่จะแก้แค้นด้วยซ้ำ! แต่นาย..."
ผมหยุดแล้วใช้หลังมือข้างขวาปาดน้ำตาที่กำลังไหลรินออก ผมจ้องหน้าเขาเขม็งและเขาเองก็มองหน้าผมนิ่งๆ
"...นายทำลายครอบครัวของฉันแล้วยังจะมาทำร้ายฉันอีก! นายมันไม่ใช่คน!!"
"........!"
"นายมันเศษสวะ! ก็แค่พวกเหลือเดนอยากได้ความรักแต่ก็ไม่เคยได้จนต้องมาทำตัวเป็นพวกอันธพาลทำร้ายคนอื่นไปทั่ว!...อึก.."
มือของจุนมยอนกำเข้าที่ลำคอของผมอย่างแรงจนต้องยืนขึ้นตามที่เขาบังคับ มือทั้งสองข้างของผมทั้งจิกทั้งข่วนไปที่มือของเขาที่บีบคอผมแน่น แต่เขากลับทำเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด
ขาของผมเริ่มจะไม่ติดพื้นจนต้องเขย่งขึ้น ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ ลำคอตีบตันจนพูดอะไรไม่ออกอยากจะไอออกมาดังๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ดวงตาของจุนมยอนมองผมอย่างกราดเกรี้ยว แววตาของเขามันดูเหี้ยมโหดเหมือนพวกฆ่าตกรในหนังไม่มีผิด
"อย่ามาทำเป็นปากเก่งถ้ายังไม่รู้จักอะไรดีพอ!"
"อึก...อื้อ..."
"และอย่าคิดว่าตัวเองจะสู้อะไรฉันได้ เพราะเพียงแค่ฉันตวัดมือนายก็จะหมดลมหายใจลงในทันที!!"
ปึก!!!!
"อั๊ค!!"
เป็นอีกครั้งที่ร่างของผมกระแทกเข้ากับผนัง คราวนี้ความรู้สึกเจ็บปวดมันมีมากกว่าในคราวแรกจนผมได้แต่นอนนิ่งอยู่กับพื้น น้ำตาไหลรินลงสู่พื้นหยดแล้วหยดเล่า หูของผมอื้ออึงจนแทบจะไม่สามารถได้ยินเสียงอะไร ดวงตาพร่าเลือนจนแทบจะมองอะไรไม่เห็น
....ทรมานชะมัด
"จำไว้นะคิม จงแด ว่าชีวิตของนายมันอยู่ในกำมือของฉัน"
"......."
"ถ้าฉันบีบนายก็ตาย...แต่ถ้าฉันคลายนายก็รอด"
"......ฮึก"
ผมมองเห็นร่างของจุนมยอนที่ก้าวเข้ามาใกล้ แล้วนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าผม
"อึก!"
มือข้างขวาของเขาบีบเข้าที่สองข้างแก้มของผมอย่างแรงจนเจ็บแสบไปหมด จะขืนตัวหนีก็ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเลยจำต้องนอนนิ่งปล่อยให้เขาทำอะไรตามใจชอบต่อไป
"และตอนนี้ฉันเป็นเจ้าชีวิตของนาย...ไม่ว่าฉันจะสั่งอะไรนายก็ต้องทำตาม"
"......."
"และฉันก็สั่งให้นายแต่งงานกับฉันซะ! ไม่เช่นนั้นไอ้เพื่อนรักกับพี่ชายแสนดีของนายจะต้อง 'ตาย' อย่างทรมานเป็นแน่ หึ!"
"โอ้ย!!"
เขาบีบแก้มผมแรงๆทีหนึ่งแล้วจึงสะบัดออกทำให้หัวของผมชนเข้ากับผนังอย่างแรงจนรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลออกมา...เลือด...
"แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาเอาคำตอบจากนาย"
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงเขาหายไปพร้อมกับเสียงฝ่าเท้าที่กระทบกับพื้นเสียงดังและค่อยๆผ่อนเสียงลงตามระยะห่างที่เพิ่มมากขึ้น...และสติของผมก็ดับวูบลงจนทุกอย่างมืดสนิท
ใครบอกว่าจุนมยอนเป็นคนใจร้าย....
ก็ใช่บางทีเขาก็อาจจะทำร้ายคนตัวเล็กไปบ้าง แต่คิดว่าเขาอยากจะทำมันนักรึไงกัน ถ้าเด็กนั่นฟังเขาสักนิดและเลิกดื้อรั้นลงสักหน่อยเรื่องเมื่อกี้คงไม่เกิดขึ้น
ตัวเขาเองก็ใช่ว่าจะมีความสุขที่เห็นอีกคนเจ็บ...ไม่รู้สิ แต่ก่อนแค่คิดว่าถ้าทำให้เด็กนั่นเจ็บอย่างที่เขาเจ็บได้มันก็คงจะมีความสุขไม่น้อย
แต่ตอนนี้ไม่เลย...เขาไม่มีความสุขเลยสักนิด ยิ่งตอนที่พลั้งลงไม้ลงมือกับอีกคนเขาแทบอยากจะถลาเข้าไปดู แต่ก็ได้แต่ยืนมองนิ่งๆเพราะสมองนั้นสั่งการให้เขาหยุดการเคลื่อนไหวในชั่วครู่
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยเหมือนเป็นน้ำกรดที่กัดกร่อนหัวใจของเขาจนมันเป็นแผลเหวอะหวะ เขาเพิ่งจะมั่นใจก็ในวันนี้ว่าคิม จงแดนั้นมีค่าและสำคัญกับเขามากแค่ไหน
แต่ความแค้นที่ยังฝังใจก็เป็นเหมือนกำแพงกีดกันให้เขาออกห่างจากความรู้สึกนั้น ทุกครั้งที่เห็นเด็กคนนั้นยิ้มภาพที่พ่อและแม่ของเขาโดนยิงมักจะลอยเข้ามาในหัว ทำไมกันนะ...
ทำไมคนที่ทำลายครอบครัวฉันต้องเป็นพ่อกับแม่นายด้วย...จงแด
ปัง!
ผมปิดประตูห้องที่ผมยกให้จงแดเสียงดัง ร่างสูงของลูกน้องคู่ใจยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าประตูคาดว่าคงจะได้ยินเสียงผมกับจงแดทะเลาะกันเลยจะขึ้นมาดู
"...เอ่อ...นายท่าน..."
"พาหมอมินซอกมาหานายหญิงด้วย"
"ครับนายท่าน"
ลูกน้องทั้งสองคนรับคำสั่งแล้วจึงโค้งให้ผม ผมเลยเดินออกมาจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุดก่อนจะเผลอแสดงความอ่อนแอให้ลูกน้องเห็น...
พี่ขอโทษนะจงแดของพี่...
พี่ขอโทษจริงๆที่ผิดสัญญากับนาย...
แมวน้อยของพี่...
อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นนะค่ะ
ความคิดเห็น